#คุณภามคะขา 2

1742 Words
#คุณภามคะขา 2 รอจนเกือบสองทุ่มจู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้ามาเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ ไม่รีรอที่จะกดรับสายและทักทายคนที่โทรเข้ามาในตอนนี้ “ฮัลโหลค่ะ” (ครับ เอ่อ คุณณมลใช่ไหมครับ ผมเป็นเจ้าของรถ...) ปลายสายเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไร้ซึ่งความหงุดหงิดหรือไม่พอใจที่วันนี้ฉันสร้างวีรกรรมจนเขาได้รับความเดือดร้อนไปด้วย “ค่ะ คือค่าซ่อมรถเท่าไหร่คะ ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะที่ไม่ได้อยู่รอจนคุณเจ้าของรถกลับมา” (อืม ค่าซ่อมไม่เป็นไรครับ...) เจ้าของรถกลับเอ่ยปฏิเสธ ทั้งที่เขาคือผู้เสียหายและฉันก็พร้อมที่จะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อม “ไม่ได้หรอกค่ะ คือฉันรู้สึกไม่ดีจริง ๆ ค่ะ ให้จ่าย...” (งั้น เอาแบบนี้ได้ไหม ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมแต่ระหว่างที่รถเข้าศูนย์ ช่วยรับส่งตอนไปเรียนได้ไหมถ้าหากไม่สบายใจจริง ๆ) คุณเจ้าของรถเสนอทาง แต่ว่าอีกฝ่ายยังเรียนอยู่อย่างนั้นเหรอ “เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณเรียนอยู่เหรอ?” (ครับ เรียนอยู่ปีห้าแล้ว คุณล่ะสะดวกไหมถ้าผมจะให้ชดเชยด้วยการรับส่งผม) “ได้ค่ะ แบบนั้นได้ ไม่มีปัญหาอะไร” เพราะตารางเรียนของฉันเองก็ไม่ได้หนักมากขนาดนั้น เรียนวันละสามสี่ชั่วโมงในช่วงสายอยู่แล้ว รถคงซ่อมไม่เกินสองหรือสามเดือนหรอกระหว่างนี้ก็ถือว่าชดเชยความผิดตัวเองก็แล้วกัน (ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมเพิ่มเพื่อนในไลน์แล้วค่อยส่งตารางเวลาให้คุณ แล้วคุณก็ส่งของตัวเองมาด้วยผมจะได้ดูว่าวันไหนที่จะให้คุณมารับมาส่ง) “ค่ะ” แม้จะยังมึนงงอยู่บ้างแต่ก็ยอมทำตามที่อีกฝ่ายแจ้งความประสงค์ ระหว่างนี้ก็กดส่งข้อความเล่าเรื่องนี้ให้พี่ชายของตัวเองฟัง พี่คุณก็บอกให้ระวังตัวและดูแลตัวเองหากดูไม่น่าไว้วางใจให้หาเพื่อนนั่งไปด้วยหรือไม่ก็แจ้งความจำนงว่าจะเปลี่ยนเป็นจ่ายเป็นเงินค่าซ่อมรถแทนการทำแบบนั้น Parm add your from phone number Parm :: sent a photo Parm :: ตารางเรียนผม ฉันเปิดดูรูปภาพที่ถูกส่งเข้ามาไม่ลืมบันทึกรูปภาพนั้นไว้ก่อนจะดูเวลาที่อีกฝ่ายเริ่มเรียน แต่ว่า บางวันมีเรียนบางวันลงตัวหนังสือสีแดงไว้ซึ่งฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงอะไรเช่นเดียวกัน Ka-Kha :: sent a photo Parm :: ไม่มีเรียนตอนแปดโมงเลย Ka-Kha :: แต่ไปรับแล้วส่งได้นะคะ ไม่เป็นไร หนูเองก็รู้สึกไม่สบายใจที่คุณไม่ยอมให้จ่ายค่าซ่อมรถ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ฉันจึงต้องเปลี่ยนสรรพนามเพราะจะได้ดูไม่ห้วนหรือเสียมารยาทจนเกินไป ซึ่งอีกฝ่ายใช้รูปประจำตัวเป็นแมวขาสั้นสีขาวตัวหนึ่งเท่านั้นแต่ฉันมั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่แต่ก็ยังไม่กล้าเรียกพี่เลยถือโอกาสว่าคุณแทนแล้วกัน Parm :: พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียนตอนเช้าแต่มาขึ้นวอร์ดเลิกตอนหกโมงเย็น ตอนนั้นมารับได้ไหมครับ Parm :: ที่โรงพยาบาลเครือมหาลัย Ka-Kha :: ได้ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทักบอกก่อนออกจากห้องนะคะ Parm :: ครับ รบกวนด้วย เป็นนักศึกษาแพทย์สินะ มิน่าล่ะอีกฝ่ายถึงได้บอกว่าเรียนปีห้าไหนจะน้ำเสียงนุ่ม ๆ ฟังดูใจดีนั่นอีก ตอนนี้ภาพรุ่นพี่ใส่แว่นหนาเตอะผุดขึ้นมาในหัวฉันแล้วเรียบร้อย ดีใจเหมือนกันนะที่เจ้าของรถดูใจดีไม่ได้ด่ากราดที่จู่ ๆ ฉันก็ไปทำรถเขาเป็นรอย แล้วรถน่ะแพงขนาดนั้นค่าซ่อมก็คงไม่ต่างมากนัก วันถัดมาฉันเข้าเรียนปกติตอนเที่ยงยังคงไปกินข้าวที่โรงอาหารสองพร้อมกับเพื่อนตัวเอง จากนั้นก็เข้าแล็บจนถึงสี่โมงเย็น เรื่องราวที่ตกลงกับคุณเจ้าของรถฉันเองได้เล่าให้เพื่อนฟังแล้วเผื่อมีเรื่องอะไรคนที่อยู่ใกล้ฉันที่สุดในตอนนี้คือเพื่อนของฉันอย่างน้อยให้เพื่อนรู้ด้วยก็คงไม่เป็นไร Parm :: วันนี้เสร็จเร็วถ้าถึงแล้วโทรเข้ามาก็ได้นะครับ จังหวะที่กำลังเก็บของในห้องแล็บก็ได้รับข้อความจากคุณเจ้าของรถ ยังดีที่โรงพยาบาลเป็นทางผ่านกลับคอนโดอยู่แล้ว เลยไม่ต้องวกวนกลับไปมา แต่ที่อยู่เขานี่สิไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน Ka-Kha :: อยู่ไม่ไกล สักสิบห้านาทีคงถึงค่ะ ข้อความขึ้นอ่านแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับมา ฉันไม่คิดอะไรมากแค่ไปรับและส่งอีกฝ่ายเท่านั้น น่าแปลกทั้งที่ฉันเองก็ไม่เคยรู้จักเขาแต่กลับกล้าที่จะไปรับส่งเขาแบบนี้ เดินแยกจากเพื่อนนัดแนะสถานที่ทำงานกันพรุ่งนี้ก่อนจะเดินกลับมาขึ้นรถที่จอดอยู่ห่างจากเพื่อนเล็กน้อย กระเป๋าและหนังสือถูกวางไว้ที่เบาะด้านหน้า ตั้งใจจะให้คุณเจ้าของรถนั่งที่เบาะด้านหลังสบาย ๆ ลานจอดรถของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยในตอนนี้มีคนเดินบ้างประปราย ส่วนมากเป็นนักศึกษาแพทย์ที่จับกลุ่มกันเดินออกจากอาคารหลังหนึ่งของโรงพยาบาล ถ้าให้พูดตามตรงคือฉันไม่รู้ว่าคุณเจ้าของรถคือใครคงทำได้แค่ส่งข้อความและบอกพิกัดจอดรถรวมถึงทะเบียนรถตัวเองเท่านั้น Ka-Kha :: จอดที่โรงจอดรถหนึ่งนะคะ ทะเบียนรถ บบ 9397 ค่ะ Parm :: ครับ เห็นแล้ว ไม่กี่นาทีกระจกรถอีกด้านก็ถูกเคาะพร้อมกับร่างสูงที่ฉันเห็นเพียงช่วงหน้าอกเท่านั้น ร่างสูงสวมเสื้อกาวน์สีขาวเป็นการยืนยันได้อย่างดีว่าคุณเจ้าของรถเป็นรุ่นพี่แพทย์ปีห้าจริง ๆ มือซีดขาวที่ยกเคาะกระจกเบา ๆ นั้นชะงักค้างไปหลังเคาะได้เพียงสองสามที คล้ายกับเจ้าของมือจัดนั้นกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ แต่ให้ตายสิแค่มือและแขนที่โผล่พ้นจากเสื้อกาวน์แขนสั้นนั้นฉันก็พร้อมจะตายแล้วค่ะ เส้นเลือดพวกนั้นคือไม่ไหว ใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมดแล้วให้ตายสิ แต่เดี๋ยวนะเขาจะนั่งเบาะด้านหน้าเหรอ คิดได้ดังนั้นก็รีบโน้มเข้าไปเก็บกระเป๋าและชีทเรียนของตัวเองอย่างทุลักทุเล จังหวะที่คุณเจ้าของรถเปิดประตูออก ฉันเผลอเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย คล้ายทุกอย่างพลันนิ่ง คุณเจ้าของรถคือคนเดียวกับคนที่ช่วยพยุงฉันเมื่อวานฉันจำดวงตาคมนั้นได้ “นั่งด้านหลังได้นะคะ” รีบบอกอีกฝ่าย แม้จะยังรู้สึกตกใจแต่ก็ต้องบอกเขาไปเพราะชีทเรียนฉันกระจายเต็มเบาะรถด้านหน้าเลย “ไม่เป็นไรครับ อยากนั่งข้างหน้าน่ะ” อีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เมื่ออีกฝ่ายยืนยันฉันจึงรีบเก็บชีทและผลแล็บที่กระจายอยู่อย่างรวดเร็วโดยมีคุณเจ้าของรถคันนั้นคอยช่วยอย่างใจเย็น “ขอโทษด้วยค่ะ คือนึกว่าคุณจะนั่งด้านหลังเลยไม่ได้เก็บข้างหน้า” รีบบอกอีกฝ่ายจังหวะที่เอี้ยวตัวกลับไปด้านหลังวางกระเป๋าและชีทเรียนเรียนไว้บนเบาะ ถามว่าทำไมไม่ลงจากรถแล้วเอาไปวางดี ๆ เพราะรู้สึกไม่สบายใจกับสายตาของเหล่าว่าที่คุณหมอที่อยู่รอบ ๆ และกำลังมองมาทางนี้อย่างชัดเจนยังไงล่ะ “ไม่เป็นไรครับ เรียกพี่ว่าพี่ก็ได้ เรียกคุณแล้วรู้สึกแก่ยังไงไม่รู้” คุณเจ้าของรถหัวเราะเบา ๆ ระหว่างที่นั่งลงบนเบาะหน้ารถมือก็ยื่นไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยขึ้นคาดตัวเองไว้ทันที “ตกใจหรือเปล่าที่เป็นพี่” จู่ ๆ อีกฝ่ายก็ถามฉันกลับมาเสียงเบา “ก็...ค่ะ ทำไมไม่บอกละคะว่าคุณ...ว่าพี่เป็นเจ้าของรถ” ทั้งที่เมื่อวานเขาน่าจะเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นแต่ก็ยังไม่ยอมบอกให้ฉันรู้ตัว “เมื่อวานพี่เห็นเราตกใจน่ะเลยไม่อยากบอก อีกอย่างพี่ก็รีบด้วย ลืมแนะนำตัว พี่ชื่อภามเราชื่ออะไร?” คุณหมอนี่เก่งจัง พูดคุยกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอครั้งแรกอย่างเป็นธรรมชาติจนน่าอิจฉา แต่ฉันนี่สิแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเองก็คนที่นั่งข้าง ๆ หน้าตาดีน้อยเสียเมื่อไหร่ ผู้ชายหล่ออะนึกออกไหม น้ำเสียงนุ่มนวลบวกกับใบหน้าของอีกฝ่ายสามารถทำลายล้างสติฉันได้เลยจริง ๆ นะไม่ได้ล้อเล่น “ชื่อคะขาค่ะ แต่มันเรียกยากคุณ...เอ่อ พี่เรียกหนูว่าณมลก็ได้ค่ะ” มันคงดูแปลกหากเขาจะเรียกหรือแทนตัวฉันว่าคะขา ขนาดเพื่อนฉันยังไม่เรียกคะขาเท่าไหร่เลยมันบอกไม่ใช่ ชื่อมันหวานเกินไปเรียกไม่ลง แต่บางทีเพื่อนก็เรียกไอ้ขาแทนณมล ส่วนมากคะขาจะเป็นพ่อแม่พี่ชายใช้เรียกฉัน “เรียกคะขาดีกว่า ว่าแต่กินข้าวหรือยัง พี่หิวแล้วอะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยงช่วยพาพี่ไปกินข้าวด้วยได้ไหม คะขามีธุระที่ไหนหรือเปล่า” ทำไม ทำไมฉันต้องมารู้สึกแปลก ๆ เวลาอีกฝ่ายเรียกชื่อฉันด้วย! ใจเย็นคะขา ใจเย็น ๆ เพิ่งเคยเจอเขาใจเย็น ๆ อย่าไปคิดอะไรมาก “ไม่มีธุระค่ะ พี่อยากกินอะไรคะ” “อยากกินบะหมี่ มีร้านแนะนำไหม?” “มีค่ะเดี๋ยวพาไป แล้วพี่พักที่ไหนหนูจะได้ไปส่งถูก” รีบถามเมื่อนึกขึ้นได้พอดี ถามว่าถามช้าเกินไปหรือเปล่าบอกเลยว่าไม่ค่ะเพราะตอนนี้ฉันยังไม่ได้ออกจากเขตโรงพยาบาลเลยด้วยซ้ำ รถติดจนแทบไม่ขยับเลย “คอนโดxxครับ รู้จักไหม?” “ค่ะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จหนูจะไปส่งพี่นะคะ” “ครับ รบกวนด้วย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD