"เอล ช่วยไปส่งถ่านพวกนี้ที่โรงอาบน้ำหน่อยสิ!!"
นี่คือชีวิตที่เรียกได้ว่าไม่ต่างจากการตกนรกสักเท่าไหร่ ฉันตายและเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กหญิงอายุสิบขวบที่วันๆถูกใช้แรงงานอย่างหนักจากพ่อที่ขี้เมา
อาชีพของเราคือการขายถ่าน เงินที่ได้นอกจากจะน้อยนิดแล้วมันยังถูกเอาไปซื้อเหล้าจนเกือบหมด แทบไม่ได้เอามาซื้อขนมปังหรืออะไรที่มันพอจะประทังชีวิตได้เลย
ฉันก้มมองมือทั้งสองข้างที่แตกเพราะอากาศที่หนาวเย็นและการทำงานอย่างหนักพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ ถ้าชีวิตมันจะเฮงซวยขนาดนี้
หนีไปเลยดีกว่าไหม?
นั่นเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ฉันทำอะไรโง่ๆ เพราะหลังจากวิ่งออกจากบ้านไปไม่นาน ฉันก็ต้องรีบวิ่งกลับมาในบ้านโทรมๆหลังนี้
ด้านนอกมีบุรุษมากมายที่เดินหาซื้อทาส แน่นอนหากพวกเขาพบเจอสตรีที่ไม่มีบ้านหรือว่าไม่มีสามีพวกเขาก็จะจับสตรีผู้นั้นไปขาย เป็นทาสบ้างโสเภณีบ้าง
เพราะสตรีไม่สามารถทำการค้า เป็นเจ้าของกิจการหรือแม้แต่การออกจากบ้านผู้เดียวได้ ถ้าหากจะออกไปด้านนอกจะต้องมีผู้ติดตาม หรือถ้าเป็นคนแรงงานต้องมีป้ายชื่อของพ่อหรือว่าสามีห้อยที่คอ...
ฉันมองป้ายชื่อท่านพ่อที่วางเอาไว้พร้อมกับถ่านที่บรรจุเต็มกระสอบ ก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินไปแบกถ่านขึ้นมาบนหลัง ในมือกำป้ายชื่อของท่านพ่อเอาไว้แน่น พร้อมกับริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันอย่างโกรธเคือง
บนถนนก็ไม่ต่างจากในบ้านของฉันมานักเพราะมีบุรุษที่กำลังทุบตีสตรี และมีสตรีที่แขวนป้ายชื่อออกมาใช้แรงงานกันมากมาย
การเกิดเป็นสามัญชนก็ลำบากลำบนอยู่แล้ว ยิ่งเกิดเป็นสตรียิ่งลำบากหนักขึ้นไปอีก
ที่นี่มันคือนรกดีๆนี่เอง...
แต่พอเดินเข้ามาที่ในเมือง บรรยากาศจะแตกต่างออกไป เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่ชนชั้นสูงอาศัยอยู่ แน่นอนว่าไม่มีใครกล้ามาทะเลาะวิวาทหรือการแสดงท่าทีที่ไม่ดี
"นี่คือเงินค่าถ่าน เอาถ่านพวกนี้ไปเทไว้ด้านหลังได้เลย"
เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้าเพื่อแสดงความขอบคุณ ที่นี่คือโรงอาบน้ำและบาร์ของเมดี้ เป็นร้านที่มีสตรีงดงามเอาไว้บริการเหล่าบุรุษที่กระเป๋าหนัก โชคดีที่วันนี้เธอทาถ่านเอาไว้บนใบหน้านี้แล้ว
ถึงจะไม่อยากเชื่อสายตาแต่เอลิซ่านั้นเป็นสตรีที่งดงามมากทีเดียว ขนาดอายุเพียงสิบขวบที่ยังโตไม่เต็มที่ความงดงามของนางยังทำให้ฉันที่เข้ามาอยู่ในร่างตกตะลึง
สิ่งที่ตกตะลึงอีกอย่างคือนางไม่มีส่วนไหนเลยที่เหมือนพ่อขี้เมาผู้นั้น
หลังจากกลับมาจากส่งถ่าน งานของเอลิซ่าคือการไปหาฟืนมาเพื่อเตรียมใส่เตาเผา ฉันลูบขนเคนลี่เจ้าหมาป่าตัวใหญ่นั่นเบาๆ ก่อนจะจูงเชือกเพื่อให้มันเดินตามฉันขึ้นเขาไป มันคือเพื่อนที่แสนดีเพียงคนเดียวของฉัน
วันนี้รึเปล่านะ...วันที่เรื่องราวจะเดินไปตามเนื้อเรื่องในนิยาย
ฉันคือตัวร้ายที่มาสร้างอุปสรรคเล็กๆน้อยๆให้กับนางเอกและพระเอกของเรื่อง เพราะว่านี่คือนิยายเรื่อง เหมันต์ลาลับ
และถ้าฉันจำไม่ผิด วันนี้ฉันจะต้องได้พบเจอกับท่านแกรนด์ดยุคที่ได้รับบาดเจ็บอยู่...ในขณะที่ออกเดินทางไปหาฟืน
"!!!"
เคนลี่เห่าเสียงดังพร้อมกับวิ่งไปยังโคนต้นไม่ใหญ่...
แสงแดดอ่อนๆส่องกระทบเรือนผมสีทองที่สว่าง ถึงแม้ว่าจะเคยอ่านในนิยายมาแล้วแต่สภาพของชายเบื้องหน้านั้นน่าเป็นห่วงมากทีเดียว เพราะเขาถูกแทงอีกทั้งยังเสียเลือดมาก
เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดให้เขาก่อนจะหยิบสร้อยคอของเขาออกมา
"...หัวขโมยตัวน้อยอย่างนั้นหรือ?"
"มะ..ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ หนูแค่เห็นว่ามันส่งแสงราวกับว่าเป็นเครื่องมือเวทอะไรพวกนั้น หนูแค่อยากจะตามคนมาช่วยท่าน"
เด็กน้อยเบื้องหน้านั้นสภาพน่าสงสารมากกว่าเขาที่กำลังบาดเจ็บเสียอีก ที่ใบหน้าของนางเปื้อนไปด้วยผงถ่าน ผมสีชมพูราวกับลูกกวาดนั้นยุ่งเหยิงและพันกัน แขนของนางเล็กราวกับว่ากำลังขาดสารอาหารอย่างรุนแรง
นัยน์ตาสีฟ้า...นี่คือสิ่งเดียวที่สะกดหัวใจของเขา
มันราวกับว่าเขานั้นเห็นภาพทับซ้อนของสตรีที่อยู่ในหัวใจอย่างยาวนาน ทับซ้อนกับภาพของเด็กน้อยผู้นี้
"ไม่เป็นไร อย่างน้อยคงต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยปลุกข้า"
เขาหยิบเหรียญทองมากมายในกระเป๋ามาใส่มือของเอลิซ่าจนเต็มทั้งสองมือน้อยๆนั่น ก่อนจะร่ายเวทเพื่อทำการรักษาตัวเอง
"ไปเถิดเด็กน้อย ข้าตอบความดีของเจ้าไปเต็มมือทั้งสองแล้ว เอาเงินพวกนี้ไปซื้อของอร่อยๆกินก็แล้วกัน"
เอลิซ่ารีบเอาเหรียญทองพวกนั้นเทใส่เสื้อ เธอใช้มือข้างหนึ่งถือชายเสื้อที่ห่อเหรียญทองเอาไว้ และใช้มืออีกข้างจับแขนของชายเบื้องหน้า
"พาหนูไปด้วยได้ไหมคะ หนูสามารถทำงานบ้านได้ทุกอย่างเลย หากนำเงินนี่กลับบ้าน ท่านพ่อจะนำมันไปซื้อเหล้าจนหมด หนูจะไม่ได้กินอะไรเหมือนเดิม ท่านช่วย...พาหนูไป.."
จากที่นี่
เอลิซ่ารู้ เธอรู้ดีว่าท่านแกรนด์ดยุคจะต้องปฏิเสธ ตามเนื้อเรื่องเดิมเขาจะไม่ได้พาเอลิซ่ากลับไป เพราะกว่าเขาจะรับเอลิซ่าเป็นลูกบุญธรรมก็อีกสองปีถัดไป วันที่นางช่วยเหลือเขาอีกครั้งในงานล่าสัตว์ เพราะการช่วยเหลือถึงสองครั้งนั่นทำให้เขารับเด็กน้อยผู้นี้เป็นลูกบุญธรรม
แต่ทว่าเธอไม่อาจรั้งรอได้นานขนาดนั้น เพราะในใจไม่อยากจะอยู่ที่นรกนั่นแม้แต่อีกวันเดียว...เธอจะหลีกหนีในทุกโชคชะตาที่นำพาความเลวร้ายเข้ามา
ได้โปรดตอบรับคำขอร้องของเธอด้วยเถอะนะ
"...นี่เด็กน้อย ถึงแม้ว่าเจ้าจะช่วยชีวิตของข้าแต่การพาเด็กไปที่คฤหาสน์คามิล...ไม่ได้หรอกนะ"
มือของเอลิซ่ากำชายเสื้อแน่น
"หนูเป็นคนรับใช้ก็ได้ค่ะ ได้โปรดพาหนูออกไปจากที่นี่"
ฮาซานถอนหายใจเบาๆ เขาอุ้มเด็กน้อยผู้นั้นขึ้นมาจากพื้นหิมะที่หนาวเย็น ดูจากสภาพของนางในยามนี้มันก็ดู..น่าสงสารจับใจ
"ข้าไม่อาจพาเจ้าไปได้ แต่จะพาเจ้าไปส่งที่บ้านของเจ้าก็แล้วกัน"
เธอไม่ยอมรามือเพียงแค่นี้แน่ ในใจจึงคิดวางแผนการเอาไว้...
เขาโบกมือลาเมื่อส่งเธอถึงหน้าบ้าน เอลิซ่ารีบเดินเข้าไปด้านใน
"เอล!! เหตุใดเงินค่าถ่านถึงได้แค่นี้ มันจะไปพอซื้อเหล้าของข้าได้ยังไง นังเด็กเวร!!"
เธอรู้ว่าต้องทำเช่นไรท่านพ่อถึงจะโกรธ เธอจึงวางเหรียญเงินเอาไว้เพียงแค่เหรียญเดียวแต่เก็บเหรียญทองเอาไว้ไม่ยอมให้เขา
เธอเดินเข้ามาพร้อมกับถูกด่าทอและแน่นอนความโกรธของท่านพ่อมีมากกว่าทุกวัน วันนี้เขาจึงลงมือกับเธอ...
ไม้ฟืนขนาดเท่าข้อมือถูกฟาดลงมาที่เอลิซ่าอย่างแรง เธอมองไปที่ประตูด้วยความหวัง...
ได้โปรดถ้าหากว่าท่านได้ยิน ได้โปรดมาช่วยหนูไปจากนรกแห่งนี้ด้วย...
"นี่แกกล้าเก็บเงินเอาไว้เองอย่างนั้นเรอะ นังลูกไม่รักดี!!"
เหรียญทองมากมายร่วงลงพื้นเมื่อท่านพ่อยกตัวของเธอขึ้นมา เขาฟาดไม้มาที่ร่างกายของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย
สุดท้ายการเดิมพันของเธอมันก็ไม่เป็นผลสินะ... ต้องทนอยู่ในนรกนี่ไปอีกสองปีอย่างนั้นหรือ เธอค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับสติที่เลือนหายไป หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทางยาวพร้อมกับความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและ..จิตใจ