แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ณ ภัตตาคารอาหารชื่อร้าน ‘เรือนไทย’ ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองแคลิฟอร์เนีย
“รษามีแขกวีไอพีเข้าไปอีกห้องแล้วนะฝากดูด้วย วันนี้คนเยอะชะมัด”
“ได้ เดี๋ยวฉันดูเอง”
“อืม ขอบใจนะ”
กล่าวจบหญิงสาวร่างบางคนนั้นจึงเดินกลับไปทำหน้าที่ต้อนรับแขกที่เห็นว่ากำลังเดินเข้ามาในร้านอีกกลุ่มใหญ่ สีหน้าเจ้าหล่อนนิ่วมุ่นเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากงาน หากพอเผชิญหน้ากับแขกก็ปรับสีหน้าให้มีรอยยิ้มได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เช้ายังไม่มีใครได้หย่อนก้นพักเลยสักคนเพราะแขกวันนี้มักจะเยอะกว่าวันปกติ
ร่างบางอ้อนแอ้นของหญิงสาวอีกนางที่รับคำบอกแต่งกายด้วยชุดพนักงานของร้าน เสื้อแขนยาวทรงกระบอกใส่กับกระโปรงยาวสีส้มเข้ารูป มีลวดลายไทยที่เป็นเอกลักษณ์ปักอยู่ที่ชายกระโปรงและชายแขนเสื้อ ตรงหน้าอกข้างซ้ายติดป้ายชื่อของพนักงานแต่ละคนด้วยอักษรภาษาอังกฤษชัดเจน หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องรับรองพิเศษ ใบหน้าเรียวมนสวยหวานแบบสาวเอเชียระบายยิ้มพิมพ์ใจอยู่เนืองนิตย์ เสียงหวาน ๆ กล่าวต้อนรับแขกผู้มาใหม่อย่างคล่องแคล่ว ทั้งแนะนำเมนูอาหารขึ้นชื่อของร้านด้วยภาษาอังกฤษในสำเนียงไพเราะลื่นหู
รษา สวัสดิกุล... เดินทางมาจากบ้านเกิดที่ประเทศไทยเข้ามาทำงานในภัตตาคารอาหารแห่งนี้ได้ปีกว่าแล้ว จากคำชักชวนของ ‘สิรี’ เพื่อนสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัย รษา...เป็นทั้งชื่อเล่นและชื่อจริงของหญิงสาว รูปร่างหน้าตาสวยหวาน อายุยี่สิบหกปี จัดได้ว่าเธอกำลังอยู่ในช่วงความสวยที่เปรียบกับดอกไม้ก็คงกำลังบานสะพรั่งเต็มที่ ด้วยเสน่ห์อันเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวทำให้แขกที่มารับประทานอาหารชื่นชอบเธอเป็นอย่างมาก หลายคนไม่อาจปฏิเสธว่าเธอเป็นตัวเรียกแขกของร้าน มีลูกค้าหลายคนที่ยอมสมัครเป็นลูกค้าวีไอพี เพื่อจะให้หญิงสาวมาบริการในห้องรับรองพิเศษ สาวสวยผู้มีผิวพรรณสีเหลืองนวลดูผุดผ่องเฉกเช่นผิวคนไทยแท้ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ยามที่เธอใส่ชุดพนักงานที่ค่อนข้างเข้ารูปเน้นสัดส่วนยิ่งทำให้น่ามอง รอยยิ้มพิมพ์ใจที่แจกจ่ายให้กับทุกคนโดยที่เจ้าตัวไม่คิดอะไรมากเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ชวนให้อยากเข้าหา ดวงตาสีนิลกลมโตยามจดจ้องมองใครน้อยคนนักที่จะไม่หลงในเสน่ห์ นี่กระมังที่เป็นเหตุทำให้ผู้มาเยือนหลายคนเจรจาอยากที่จะพาเธอออกไปดินเนอร์นอกเวลาด้วยมากมาย แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ต้องผิดหวังไปตาม ๆ กัน เพราะนโยบายของร้านคือบริการด้านอาหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีบริการอย่างอื่นเป็นอ็อปชันเสริมแน่นอน เว้นแต่ว่าตัวของพนักงานเองจะยินยอม ซึ่งทางร้านก็ไม่เคยไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวแต่อย่างใด สำหรับตัวรษาเองก็ไม่ได้มีความประสงค์เช่นนั้นเหมือนกัน การเดินทางมาทำงานในอีกซีกโลกหนึ่งของเธอ เป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือต้องการแค่เงินเก็บสักก้อน ส่วนเป้าหมายอื่นเธอไม่เคยนึกถึงมัน หญิงสาวมีความตั้งใจว่าจะมาทำงานในต่างประเทศเพียงแค่สองปีเท่านั้น พอเก็บเงินได้ในจำนวนที่เธอคิดว่าเพียงพอแล้วก็จะกลับเมืองไทยบ้านเกิดของตัวเองทันที ไม่คิดจะอยู่นานกว่านี้เพราะที่บ้านมีคนสองคนกำลังรอคอยเธออยู่ทุกลมหายใจของพวกท่าน
จังหวัดนนทบุรี
บ้านหลังเล็กกึ่งปูนกึ่งไม้สองชั้นรูปทรงน่ารักเหมือนบ้านในสมัยก่อนดูแล้วมีความคลาสสิก อาณาบริเวณล้อมรอบไปด้วยสวนมะพร้าวและต้นไม้น้อยใหญ่ บ้างก็ปลูกไว้กินผล บ้างก็เป็นไม้ประดับ รายล้อมรอบบริเวณบ้าน หน้าบ้านมีคลองเล็ก ๆ ไหลผ่านเป็นทางสัญจรทางน้ำและแหล่งหากินสำหรับคนในละแวกนั้น ทำให้บ้านหลังเล็กหลังนี้ดูร่มรื่นน่าอยู่ ใครที่นั่งเรือสัญจรผ่านไปมาในคลองนั้นต่างมองและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“เจ้าของบ้านคิดจะขายบ้างไหมนะ ถ้าขายจะจ่ายไม่อั้น”
มีนายทุนหลายคนเสนอราคาอยากจะซื้อที่แถวบริเวณบ้านของเธอแต่ก็ถูกเจ้าของปฏิเสธกลับไปเสียทุกราย
“จะไปจริง ๆ หรือลูก”
คุณระริน หญิงวัยกลางสี่สิบมารดาของรษาเอ่ยถามหลังจากที่ลูกสาวมาบอกว่า ตัดสินใจจะไปทำงานในร้านอาหารไทยที่เมืองนอกตามคำชวนของเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน
“ค่ะแม่ หนูจะไปจริง ๆ ค่ะ”
ใบหน้างามเงยขึ้นมาตอบมารดาขณะที่กำลังเตรียมเอกสารสำหรับการเดินทางในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ผู้เป็นแม่ได้แต่ยืนมองลูกสาวพลางถอนหายใจออกด้วยหลากหลายความรู้สึก ไม่มีคำพูดใดจะมาทักท้วงไม่ให้ไปได้อีกแล้ว เพราะคุณระรินรู้ว่าถึงอย่างไรก็ห้ามลูกสาวหัวรั้นของตัวเองไม่ได้ คนเป็นแม่รู้ดีว่าลูกสาวคนนี้ตั้งแต่เด็กจนโตถึงจะหัวรั้นไปบ้างแต่ก็ไม่เคยทำเรื่องให้แม่กับยายไม่สบายใจเลยสักครั้ง ลูกสาวของเธอเอาตัวรอดได้เสมอ และไม่ว่าลูกจะทำอะไรคนเป็นแม่ก็ไม่ห้ามหรอก ถ้าสิ่งที่ลูกทำเป็นสิ่งที่ดีไม่ทำให้ใครต้องมาเดือนร้อน แต่คราวนี้ลูกสาวคนเดียวต้องมาห่างอกไปอยู่ไกลตั้งสองปีแบบไม่ได้กลับมาเลยนึกแล้วก็อดใจหายไม่ได้... รษารับรู้ถึงความผิดปกติในอาการเงียบของมารดาก็รู้ว่าท่านเป็นห่วงมาก แต่ที่เธอไปเพราะต้องการหาเงินมาดูแลท่านทั้งสองเหมือนกันไม่ได้ไปเที่ยวเล่นสักหน่อย หญิงสาวลุกขึ้นเดินเข้าไปด้านหลังมารดาพร้อมสวมกอดและหอมแก้มท่านด้วยความรักและเป็นห่วงคนทางนี้เช่นกัน
“หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วงหนู หนูก็เป็นห่วงแม่กับคุณยายมากเหมือนกัน แม่ก็รู้นี่ ที่หนูไปเพราะหนูอยากได้ตังค์เยอะ ๆ เอามาดูแลแม่กับคุณยาย แม่จะได้ไม่ต้องทำงานอีกไงคะ”
“แต่ที่บ้านเราก็ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดที่ลูกต้องไปทำงานไกลบ้านขนาดนั้น”
“ตอนนี้อาจจะยังมีใช้อยู่ แต่ต่อไปมันก็คงร่อยหรอลงเรื่อย ๆ หนูอยากหามาเพิ่มไว้เยอะ ๆ นี่ค่ะ”
“แม่ห้ามลูกได้ที่ไหนกัน” คุณระรินเอียงหน้ามามองลูกสาวหัวรั้นอย่างอดที่จะคิดมากไม่ได้เพราะคราวนี้ต้องจากลูกสาวนานเหลือเกิน
“แม่อย่าทำให้หนูเป็นห่วงสิคะ เห็นแม่เศร้าแบบนี้ หนูจะทำงานอย่างมีความสุขได้ยังไงล่ะ สองปีเองไวจะตาย หนูจะโทร.มาหาบ่อย ๆ เอ๊ย! ไม่สิ จะไลน์หาบ่อย ๆ ดีกว่า จะได้เห็นหน้ากัน หนูจะได้รู้ว่าแม่กับคุณยายสบายดีไหมด้วยไง เห็นไหมคะแม่ เทคโนโลยีสมัยนี้มันไปไกลแค่ไหน อยู่ไกลคนละประเทศก็เหมือนอยู่ใกล้กันแค่นี้ นะคะแม่ อย่าเศร้าไปเลยนะ หนูรับปากเลย หนูจะกลับมาคนเดียวแน่ไม่มีใครพ่วงกลับมาด้วยหรอกค่ะ สัญญาเลย”
เสียงหวานฉอเลาะจำนรรจาหยอกเย้ามารดาให้คลายกังวล แม้ประโยคสุดท้ายที่เธอพูดยังติดสำเนียงเย้าแหย่...
“หืม พามาก็ดีสิแม่ก็อยากจะได้หลานเป็นลูกครึ่งเหมือนกัน คงจะน่ารักมาก หาพ่อมันหล่อ ๆ นะ”
“โธ่! แม่อะ”
คำตอบแกมล้อแกมจริงของมารดาพลอยให้หญิงสาวหน้ามุ่ยงอนไม่จริงจังนัก ‘เธอเป็นผู้หญิงไทยไม่ชอบคนต่างชาติหรอก’ แต่หากจะได้กลับมาจริง ๆ คุณระรินก็คงไม่โกรธ หรือตัดแม่ตัดลูกกันหรอก เพราะลูกสาวของเธอก็โตพอที่จะมีใครเป็นตัวเป็นตนได้แล้ว แต่นี่ก็ยังไม่มีสักคน เคยถามลูกสาวไปอยู่หลายครั้งว่าไม่มีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้างเลยเหรอ มองจากหน้าตาลูกสาวก็จัดได้ว่าสวยทีเดียว แล้วก็ได้รับคำตอบมาว่า... “มีค่ะ แต่หนูยังไม่ชอบใครเลยนี่คะ มันยังไม่ตรงสเป็ก”
“แม่พูดจริงนะ ลูกโตจนเลยวัยสาวแรกแย้มมาแล้วยังไม่มีแฟนกับเขาเสียที แม่ก็กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าหลานน่ะสิ”
“ก็หนูยังไม่ชอบใครนี่คะแม่ แม่หยุดพูดเรื่องนี้เลย”
“ไม่พูดหนูก็ไม่มีใครสักคน”
“ถ้าเจอแล้วมันใช่หนูก็พามาหาแม่เองแหละน่า หนูเป็นผู้หญิงก็อยากจะมีครอบครัว อยากแต่งงานเหมือนคนอื่น ๆ เขานั่นแหละ”
“นี่ไง ไปคราวนี้ก็พากลับมาด้วย เอาหน้าตาเหมือนกับพระเอกหนังฮอลลีวูดเลยนะลูก”
“แม่!”
คนถูกแม่แกล้งนิ่วหน้าค้อนหนัก มองใบหน้ามารดาที่หัวเราะตน
“เอา ๆ แม่ไม่พูดแล้วก็ได้ ไป ๆ ออกไปหาคุณยายกัน”
สองแม่ลูกหัวเราะกันยกใหญ่ก่อนจะเดินออกไปหน้าบ้านหาคุณยายที่นั่งสานตะกร้าอยู่ระเบียงหน้าบ้าน