เพื่อนใหม่...9

1829 Words
เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า...ความเจ็บปวดเมื่อยล้าทางร่างกายที่เขามอบให้เมื่อคืน ทำให้เธอแทบไม่อยากจะขยับลุกจากเตียงตื่นขึ้นมาเลย เขาทำเธอปวดระบมไปทั้งตัว แต่จะทำอย่างไรได้เธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเธอก็ต้องลุกขึ้นไปทำงานสิ จะมานอนเป็นคุณนายตื่นสายอยู่ได้อย่างไรกัน ร่างบางยันกายขึ้นมานั่งนิ่งอยู่สักครู่ ลมหายใจถูกระบายออกมาอย่างทดท้อ สองแขนเรียวลูบไล้ไปตามเนื้อตัวที่พบว่าเป็นรอยแดงจ้ำ ก่อนสองขาจะค่อย ๆ หยั่งลงจากเตียง พาตัวเองเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำจนเรียบร้อยพร้อมออกไปเผชิญกับซาตานจอมโหดอีกวัน “ตื่นซะทีนะ นึกว่าฉันจ้างเธอมาเป็นคุณนายรึไง” เขาพูดเมื่อรู้สึกถึงฝีเท้าเบากริบของใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ ตัวเขานั้นตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่เธอเห็นเขามานั่งจิบกาแฟและขนมปังที่โต๊ะอาหารแล้ว หญิงสาวไม่ตอบคำใด ก็จะให้เธอตอบว่าอย่างไรล่ะ ฟังจากกระแสเสียงที่ออกมาก็รู้ว่าประชดประชันเหลือเกิน ใบหน้างามจึงก้มต่ำลอบถอนหายใจเบา ๆ เพราะไม่อยากจะต่อความ แต่เมื่อเห็นว่าเธอเงียบชายหนุ่มจึงหันหน้ามามอง “ทำไมตื่นสายแบบนี้ รู้ตัวรึเปล่าว่ามันกี่โมงแล้ว เธอต้องมาเตรียมอาหารเช้าให้ฉัน ไม่ใช่ให้ฉันมาทำกินเองแบบนี้” ...พูดน้ำเสียงแข็ง สายตาก็จ้องมองอย่างต่อว่า “ค่ะ ฉันขอโทษ แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรอีกคะ สั่งงานมาสิ” ...ยังมีหน้ามาถามอีกว่าทำไมเพิ่งตื่น ก็เมื่อคืนตัวเองทำคนอื่นแทบจะลุกไม่ไหวรู้ตัวบ้างรึเปล่า ใครจะไป อึด ถึก ทน เหมือนเขากันเล่า “ก็ไม่มีอะไร เธออยากไปทำอะไรก็ไปทำ รอฉันต้องการเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะเรียกเอง อยากกินอะไรก็ทำกิน” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ กล้ำกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น แล้วเร้นตัวออกไปจากตรงที่มีรังสีอำมหิตแผ่อยู่ เลี่ยงหลบมานั่งอยู่ม้าหินอ่อนอีกฝั่งของบ้าน สายตาเหม่อมองไปที่ท้องทะเลกว้างใหญ่อย่างไร้จุดหมาย ปล่อยใจเลื่อนลอย ‘บ้าน คิดถึงบ้านจังเลย อยากกลับไปหาแม่หายาย ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว อยากไปให้พ้นจากคนใจร้าย’... ในขณะที่สายตาและหัวใจเธอกำลังล่องลอยไปในอากาศรษาก็รู้สึกว่าที่ขามีอะไรนุ่ม ๆ มาคลอเคลียอยู่ ก้มหน้าลงไปมองก็พบ... “ร็อกกี้!” ชื่อของสุนัขพันธุ์โกลเดินรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) สีทองตัวใหญ่ มันมานั่งอยู่ใกล้ ๆ ใช้ขาหน้ายกขึ้นมาวางบนตักเธอเหมือนกำลังสะกิดราวกับจะถามว่า ‘เป็นอะไรเหรอครับ ทำไมดูเศร้าจัง’ “กินข้าวรึยังเนี่ย เจ้านายแกหาข้าวให้แกกินรึยัง ฮึ?” เธอถามมันอย่างเอื้อเอ็นดู สองมือจับหน้าเจ้าหมาตัวใหญ่ลูบที่หัวกับที่ลำตัวอ้วนของมันแรง ๆ อย่างมันเขี้ยว เพราะเธอนั้นก็ชอบสุนัขพันธุ์นี้อยู่แล้ว ก็มันน่ารักขนาดนี้ ทั้งตัวใหญ่ ขนนุ่มน่ากอด แม็กเพิ่งเอาเจ้าร็อกกี้มาส่งให้เมื่อคืนหลังจากที่ราฟาเอลฝากให้แม็กเอามันไปดูแล เพราะเขาไม่ค่อยอยู่บ้าน รษาเห็นมันเมื่อคืนแวบ ๆ แต่ก็ยังไม่ได้เล่นกับมันเพราะแม็กรีบเอามันไปขังไว้หลังบ้านเสียก่อน ราฟาเอลเลี้ยงร็อกกี้ไว้เมื่อสองปีก่อน ที่จริงเขาก็ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงมันหรอก แต่เขาเจอเจ้าร็อกกี้โดยบังเอิญระหว่างทางที่เขาขับรถกลับบ้านกับเดนนิส สายตาคมก็เหลือบไปเห็นเจ้าหมาน้อยตัวนี้ถูกทิ้งไว้ที่ข้างทาง เขาจึงให้เดนนิสจอดรถแล้วลงไปดูมัน คาดคะเนดูแล้วมันน่าจะมีคนนำมาทิ้ง สายตาของเจ้าหมาน้อยจ้องมองเขาอย่างมีความหวัง มันส่งเสียงครางงื้ด ๆ เหมือนเด็กอ้อนอยากกลับบ้านตอนที่เขาอุ้มมันขึ้นมา ราฟาเอลนึกสงสารจับใจที่ชีวิตของมันก็ไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่คือ ‘ถูกคนใจร้ายทิ้ง’ เขาจึงได้นำมันกลับมาเลี้ยงที่บ้านพร้อมดูแล ให้ชีวิตใหม่กับมัน แต่ระยะหลังธุรกิจของราฟาเอลรุ่งเรืองมากเขาจึงไม่ค่อยมีเวลาเล่นกับมันเหมือนเมื่อก่อน เขาจะให้แม่บ้านที่มาทำความสะอาดบ้านให้อาหารมัน หรือไม่ก็แม็กกับเดนนิสที่ผลัดเปลี่ยนกันมาให้อาหาร ทำให้เจ้าร็อกกี้เหงามากขึ้น “ปะ เราไปกินข้าวพร้อมกัน” เธอชวนให้มันเดินตามเธอมา เจ้าหมาตัวโตวิ่งตามเธออย่างรู้ความ หญิงสาวพามันเข้ามาในครัวเทอาหารเม็ดชั้นดีสำหรับสุนัขพันธุ์นี้โดยเฉพาะใส่ในชามของมันในปริมาณที่พอเหมาะแล้วยื่นให้มันกิน เจ้าหมาตัวโตกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และคนที่ให้ก็ไปหยิบขนมปังพร้อมน้ำส้มมานั่งกินพร้อมกันบนโต๊ะ ดวงตาสีนิลดำขลับมองเจ้าสุนัขตัวใหญ่กินแล้วยิ้มพูดกับมันว่า... “เดี๋ยวแกกินอิ่ม เราจะไปเดินเล่นที่ชายหาดกันนะ” เหมือนเจ้าร็อกกี้จะรู้ภาษาดีแท้มันเห่าเสียงดัง ‘โฮ่ง’ ขึ้นมาหนึ่งครั้งเป็นการตอบรับ ...รษาพาเจ้าหมาตัวโตไปเดินเล่นที่ชายหาดอย่างสนุกสนานทั้งคนและหมา สักพักเธอเห็นมันเหนื่อยลิ้นห้อยน้ำลายเยอะก็พามันกลับมาบ้าน ...การกระทำของเธอไม่รอดพ้นสายตาที่จับจ้องจากเขาไปได้ “หึ! ทีอยู่กับหมาล่ะหน้าระรื่นเชียวนะ” เขาพูดไปถึงคนที่กำลังวิ่งเล่นกับเจ้าหมาที่เขาเลี้ยงไว้อย่างสนุกสนาน ก็ดีให้อยู่กับหมาดีกว่าเธอไปหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายคนอื่นที่เขาไม่ชอบ “ทีกับหมาหาข้าวให้มันกินได้ แต่กับฉันนี่ต้องให้บอก” เสียงเปรยประชดดังขึ้นเมื่อหญิงสาวพาร็อกกี้กลับเข้ามาในบ้านและเดินผ่านหน้าเขาไปแบบไม่หันมามอง แต่เมื่อได้ยินเสียงนั้นแล้วทั้งคนและหมาก็ต้องหยุดชะงัก หันไปมองทางคนหน้าตึง “ก็หมามันหากินเองไม่ได้นี่คะ ส่วนคนมีมือมีเท้าอยากกินอะไรก็ทำกินเองได้” เธอตอบแบบยอมซะที่ไหนกันล่ะ ทำเอาคนฟังแทบหงาย “ก็ดี งั้นก็พ่วงตำแหน่งรับผิดชอบดูแลหมาไปอีกละกัน ให้คุ้มกับที่ฉันจ่ายเธอมาแพงหน่อย” “ยินดีค่ะ” เธอตอบรับหน้าแป้น พาเจ้าหมาตัวโตเดินไปกินน้ำ แล้วทิ้งให้คนตัวใหญ่ยืนหัวโด่กัดฟันกรอดอยู่คนเดียว ...หญิงสาวเทน้ำใส่ชามอาหารให้เจ้าหมาตัวโตกินแก้กระหายพลางย่อตัวนั่งลงใกล้ ๆ ยกมือลูบหัวมันเบา ๆ “นี่แกอยู่กับคนใจร้ายมากี่ปีแล้วเนี่ย” “สองปี” เขาตอบเสียงหนัก ๆ เดินตามเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จู่ ๆ ก็โผล่มาตอบแทนร็อกกี้ซะงั้น “เธอไม่ต้องห่วงมันหรอกนะ ร็อกกี้มันได้รับการดูแลอย่างดี” ร่างสูงยืนตระหง่านค้ำหัวทั้งคนทั้งสุนัข สองแขนใหญ่สอดประสานกันไว้เหนือแผงอก ดวงตาคมกริบจ้องมอง หากยังไม่ทันที่หญิงสาวจะว่าอย่างไรต่อ เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเขาก็ดังขึ้นขัด จำเป็นที่เจ้าของต้องกดรับมัน ...ปลายสายที่โทร.มาไม่ใช่ใครที่ไหน เดนนิส “ว่าไง” วางเสียงเข้ม ปรายสายตามองร่างบางที่นั่งอยู่ แต่รษาก็ไม่ได้สนใจนักเพราะเธอให้ความสนใจกับสุนัขตรงหน้ามากกว่า “นายครับวันนี้มีเอกสารสำคัญที่นายต้องมาเซ็นครับ” เดนนิสรายงาน “นายเอามาให้ฉันเซ็นที่บ้าน ฉันขี้เกียจเข้าบริษัท” เขาบอก พร้อมกดวางสายลงทันที ทำให้คนปลายสายงงไปตาม ๆ กัน “นายว่าไงบ้างเดนนิส” แม็กถามขึ้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำปากขมุบขมิบ สีหน้างงงัน “นายไม่มาวะ บอกให้เอาเอกสารไปให้เซ็นที่บ้าน” “ฮะ! อะไรนะ! ให้เอาไปให้เซ็นที่บ้านงั้นเหรอวะ” แม็กอุทานอย่างตกใจ เพราะปกติถ้าบอกเรื่องงานนายเขาไม่เคยบ่ายเบี่ยงต้องมาจัดการด้วยตัวเองเสมอ เพราะเขาคิดว่างานนี่แหละที่สำคัญที่สุดในชีวิต “อือ นายได้ยินไม่ผิดหรอก ให้เอาไปเซ็นที่บ้าน” เดนนิสทวนคำ “ฉันว่ามันชักจะยังไง ๆ แล้วนะ” แม็กพูดอย่างสงสัยกับเดนนิส แต่อีกฝ่ายทำหน้าอย่างรู้ไม่ทัน “ยังไง ๆ คือยังไงของนายวะ แม็ก” เดนนิสยังซื่อ “นี่นายไม่สังเกตอะไรเกี่ยวกับตัวเจ้านายเราบ้างเหรอวะ” แม็กพูด คิ้วหนาขมวดใส่ เพราะเดนนิสช่างรู้สึกตัวช้าเหลือเกิน “ปกตินะเว้ย นายเห็นเรื่องงานมาเป็นที่หนึ่ง ไม่ว่านายเราจะทำอะไร อยู่กับผู้หญิงคนไหน ถ้าเราบอกว่ามีงานด่วน นายต้องมาจัดการด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ ตั้งแต่พาคุณรษาออกไปซื้อของละ เคยมีที่ไหนที่นายจะพาผู้หญิงคนไหนไปซื้อของ” แม็กพูดเป็นชุด “อือ...ฉันว่าก็น่าแปลกอยู่นะ นี่นายกำลังจะบอกว่าเจ้านายของเราเจอผู้หญิงที่ถูกใจแล้วงั้นเหรอ” เดนนิสพูดขึ้นราวกับคนคิดอะไรได้ “ก็ไม่รู้โว้ย อันนี้ก็ต้องดูต่อไป” “ใช่ ๆ ฉันคิดออกแล้ว ตั้งแต่นายให้ฉันไปจัดการเรื่องคุณรษาที่ห้องอาหารนั้นแล้ว นายต้องการที่จะให้คุณรษามาอยู่ด้วยมากเลยยอมเสียเงินตั้งหนึ่งล้านดอลลาร์เพื่อให้ได้เธอมาอยู่ที่บ้านด้วย ปกตินายเคยให้ผู้หญิงคนไหนมาเหยียบบ้านนี้ที่ไหนกันล่ะ” เดนนิสบอกเรื่องที่แม็กยังไม่รู้ “ฮะ! นายว่าไงนะ นี่นายจ่ายเงินให้คุณรษาขนาดนั้นเลยเหรอวะ”แม็ก เซอร์ไพรส์อีกรอบ “ก็ใช่น่ะสิ” เดนนิสตอบ ใช่ มันชักจะไม่ธรรมดาแล้วที่นายเขายอมลงทุนเพื่อให้ได้ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ด้วย และขนาดพามาอยู่ในบ้านตามลำพัง มันต้องมีอะไรที่มากกว่าผู้หญิงคนอื่นแน่แล้ว “ไป รีบเอาเอกสารไปให้นายที่บ้านกัน” ว่าแล้วทั้งสองคนก็หยิบแฟ้มงานสำคัญไปให้คนที่บอกพวกเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD