ตอนที่ 4 : คุยกันถูกคอ
"ผมว่าเราพักเบรคกันสักสิบนาทีดีไหมครับ อีกอย่างผมได้ให้วิรุธเตรียมของว่างไว้ให้คุณเอวาด้วย จะได้คลายเครียดเรื่องงานสักสิบนาที" อาทิตย์เอ่ยปากชวนเพราะเห็นว่านั่งคุยงานมาชั่วโมงกว่าแล้ว
"อ่อ...แล้วแต่คุณอาทิตย์เลยค่ะ" อันที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากหยุดคุยเรื่องงาน ส่วนใหญ่มักจะลากยาวรวดเดียว แต่การที่ลูกค้ายื่นข้อเสนอและไม่ได้เสียหายอะไรกับตัวเอง ฉันก็ไม่อยากปฏิเสธความใส่ใจของเขา
เพียงแค่อาทิตย์เอ่ยปากชวนเอวาให้หยุดคุยเรื่องงาน วิรุธได้เดินออกไปเอาของว่างมาเสิร์ฟให้กับเจ้านายทั้งสองคนทันที
ไม่นานของว่างสำหรับแขกได้มาเสิร์ฟตรงหน้าของทั้งคู่ เอวามองขนมตรงหน้าก่อนจะเงยมองคนที่มาเสิร์ฟสลับกับเจ้าของใบหน้าคมคายที่ตอนนี้กำลังมองมา
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าของว่างแบบนี้คุณเอวาทานไม่ได้ เดี๋ยวผมเปลี่ยนให้ใหม่ครับ..."
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ" เอวารีบห้ามทันทีเมื่อเจ้าของเสียงเข้มนั้นกำลังจะสั่งให้เลขาของตัวเองมาหยิบจานขนมนี้ออกไป
"พอดีเป็นขนมที่เอวาชอบค่ะ เลยแปลกใจว่าทำไมทุกอย่างถึงเป็นของที่เอวาชอบ เอวาชอบขนมไทยมากค่ะ แล้วยังเสิร์ฟคู่กับชามะลิร้อนด้วย ความหวานของขนมไทยจะถูกตัดเลี่ยนด้วยรสฟาดและขมที่ปลายลิ้นของชามะลิ คนส่วนใหญ่จะชอบชารสชาติอื่นมากกว่าเพราะว่าชามะลิกลิ่นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์"
รอยยิ้มบางๆฉายขึ้นบนใบหน้าหวานโดยไม่รู้ตัวเมื่อพูดถึงขนมที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคนตรงหน้ายิ้มตอบกลับ
"เอวาเผลอพูดเรื่องไร้สาระให้คุณอาทิตย์ฟังอีกแล้ว"
"ไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลยครับ ดีซะอีกผมจะได้รู้จักคุณเอวามากขึ้น"
"คะ?"
"เราต้องคุยงานกับอีกนานเราควรรู้ใจกันจะได้คุยกันถูกคอครับ"
เอวาพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจและส่งยิ้มบางๆให้คนตรงหน้าก่อนที่จะหยิบขนมหวานมานั่งกินเงียบๆ โดยมีอีกคนนั่งกินอยู่ข้างๆ
"ผมไม่คิดว่าสาวสมัยใหม่อย่างคุณเอวาจะชอบขนมไทยนะครับ บังเอิญเหลือเกินที่ผมชอบอาหารไทยและขนมไทย ไปอยู่ต่างประเทศหลายเดือนคิดถึงความเป็นไทย"
"อาหารไทยและขนมไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครทำเลียนแบบความอร่อยไม่ได้ค่ะ"
"เอาไว้ว่างๆเราไปทานอาหารไทยกันไหมครับ ผมมีร้านหนึ่งอยากให้คุณเอวาได้ลองทาน แต่ไม่แน่อาจเป็นร้านที่คุณเอวาเคยทานแล้ว ถ้าคุณเอวารู้สึกไม่สบายใจที่จะไปทานข้าวกับผมถือว่าเราเปลี่ยนสถานที่คุยงานหรือเซ็นสัญญาก็ได้"
มือเรียวสวยรีบโบกมือประหนึ่งว่าอย่าคิดแบบนั้น
"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ"
"งั้นแสดงว่าถ้าเราเจอกันรอบหน้าผมก็สามารถนัดคุณเอวานอกสถานที่ได้ใช่ไหมครับ"
"ได้ค่ะ เอวาไม่มีปัญหาถ้าคุยเรื่องงาน ยิ่งเรื่องเซ็นสัญญาด้วยยิ่งไม่มีปัญหาค่ะ" ริมฝีปากบางอมยิ้มไม่ได้รู้สึกดีกับคำชวนของเขา แต่เมื่อเขาคือลูกค้าฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องงานของบริษัทเกี่ยวกับผลประโยชน์ของบริษัทฉันจะเต็มที่เสมอ แต่เกินเลยเรื่องอื่นคงต้องศึกษากันอีกที
ต่อให้เอวาเหมือนหญิงสาวที่เข้าถึงง่ายแต่บางเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเอวามักปิดกั้นไว้สูง
'ยังไม่เคยมีใครทำลายกำแพงนั้นได้เสียที'
2 ชั่วโมงต่อมา...
การพูดคุยระหว่างคู่ค้าผ่านไปได้ด้วยดี ยอมรับว่าการคุยงานกับอาทิตย์ทำให้ฉันไม่เกร็งและลึกๆแล้วรู้สึกสบายใจ เหมือนความคิดของเขาไปในทิศทางเดียวกับฉัน ไม่ว่าฉันจะพูดรายละเอียดงานเยอะแค่ไหนเขาก็ฟังตามที่พูดไม่มีขัดกลางคัน อาทิตย์มักเสนอความคิดเห็นของตัวเองมากกว่าขัดคำพูดที่ฉันนำเสนอให้เขาฟัง ทำให้เราร่วมกันคิดและวิเคราะห์เพื่อหาทางออกให้เหมาะสม
ร่างสูงเดินออกจากลิฟต์ผู้บริหารตามด้วยหญิงสาวร่างอรชรที่เดินเคียงข้าง ตามหลังด้วยเลขาคนสนิทของอาทิตย์ ท่ามกลางสายของพนักงานในช่วงเลิกงานพอดี ทุกคนต่างหยุดยืนมองหญิงสาวตัวเล็กที่เดินเคียงข้างประธานหนุ่ม
"นั่นเจ้าของบริษัทที่จะส่งเครื่องจักรรุ่นใหม่ให้บริษัทเราผลิตสินค้าใช่ไหม"
"ใช่ๆ คุณเอวา"
"สวยด้วย เก่งด้วย ดูเหมาะสมกันยังไงไม่รู้"
"โสดทั้งคู่แบบนี้จะมีโอกาสพลิกล็อกจากลูกค้าเป็นคู่รักไหมนะ แอบเชียร์ ดูเคมีเข้ากันยังไงไม่รู้"
"ถ้าได้คู่กันจริงคงเป็นเรื่องดีเลยล่ะ บริษัทสองบริษัทบริหารด้วยคนเก่งทั้งสองคน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของคุณเอวานำเข้าและส่งออกสินค้า ส่วนของท่านประธานก็ผลิตสินค้า เรียกว่าเงินทองหมุนเวียนอยู่ในครอบครัวเลยไม่ต้องพึ่งบริษัทอื่น"
พนักงานที่เห็นเหตุการณ์ต่างพูดไปตามภาพที่เห็น ทั้งคู่พูดคุยกันด้วยรอยยิ้มไม่ได้เคอะเขินในตอนที่เดินผ่านหน้าพนักงาน ทุกอย่างดูลงตัวจนพนักงานแอบเชียร์
ลานจอดรถของบริษัทเดอะซันด์
"ผมพึ่งรู้ว่าคุณไปไหนมาไหนไม่มีคนขับรถ" อาทิตย์พูดด้วยความแปลกใจเพราะเขาเดินมาส่งเธอถึงลานจอดรถ ทุกทีถ้าผู้บริหารใหญ่จะมีรถประจำตำแหน่งมารอรับอยู่หน้าประตูทางเข้า แต่กับเอวาไม่ได้เป็นแบบนั้นทั้งที่เธอมีตำแหน่งสูงสุดของบริษัท
"บางโอกาสค่ะ แต่เวลาไปไหนมาไหนเอวาชอบขับรถเองมากกว่า จะแวะไหนก็สะดวกดี"
"แบบนี้พ่อของคุณเอวายอมให้ลูกสาวคนเดียวของตระกูลไปไหนมาไหนคนเดียวได้ยังไงครับ" ริมฝีปากหนาเผยรอยยิ้มบางๆขณะที่พูด
"คะ? รู้ด้วยเหรอคะว่าเอวาเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูล" ใบหน้าหวานเอียงคอเล็กน้อยเพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้พูดเรื่องส่วนตัวให้เขารับรู้
"ใครๆก็รู้ครับ คุณเอวามีน้องชายชื่อคุณเอลิกซ์ แถมพ่อของคุณเอวาในสมัยก่อนเป็นผู้มีอิทธิพล ผมก็รู้จักพ่อของคุณเอวาจากพ่อของผมเหมือนกันครับ"
"แบบนี้นี่เอง แสดงว่าพ่อของคุณอาทิตย์คงอยู่ในวงการธุรกิจมาตั้งแต่แรกแล้ว งั้นเอวาขอตัวกลับก่อนนะคะ เอาไว้เจอกันอาทิตย์คุยเรื่องสัญญากัน"
"ได้ครับ ผมจะให้วิรุธแจ้งสถานที่ที่เราจะเจอกันครั้งหน้าอีกทีนะครับ"
สายตาคมมองหญิงสาวร่างเล็กเข้าไปในรถสปอร์ตคันหรูของตัวเองและไม่นานรถสปอร์ตคันหรูได้ขับออกจนลับสายตาไป ริมฝีปากหนายังคงยิ้มอยู่แบบนั้นแม้ว่าจะไม่มีอีกคนอยู่แล้ว