(เล่มนี้มีสองเรื่อง ลูกเขยเทครัว และ เขยบำเรอกาม)
ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อนหน้า
“ถ้าเกดแต่งงานออกเรือนไปแล้ว... แม่นวลคงเหงาน่าดู... ถึงตอนนั้นแม่นวลจะอยู่ยังไงคะ”
ด้วยสีหน้าเศร้า ‘เกดสุดา’ เอ่ยกับ ‘นวลพรรณ’ หญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของหล่อน ในวันที่หญิงสาวได้ตัดสินใจดีแล้วว่าจะแต่งงานมีครอบครัวเสียที
“เกดไม่ต้องห่วงแม่หรอกจ้ะ... แม่นวลดีใจที่หนูจะออกเรือนไปมีความสุข ถึงวัยแล้วนะจ๊ะ... ที่หนูสมควรจะมีคู่ครองเสียที ไปใช้ชีวิตอยู่ที่สุพรรณฯ ให้สุขสบายเถอะนะ ไม่ต้องห่วงแม่”
แม้จะมีฐานะเป็นแค่แม่เลี้ยง แต่นวลพรรณก็บอกกับหญิงสาวซึ่งหล่อนรักเสมือนลูกสาวในไส้ด้วยความหวังดี แม่รู้ว่าการอยู่คนเดียวนั้นจะเหงามากก็ตาม
อันที่จริงนวลพรรณกับเกดสุดาก็อยู่กันสองคนมานาน ภายในบ้านไม้หลังน้อย นับตั้งแต่ตอนที่เกดสุดายังยังเล็กๆ นวลพรรณเข้ามาอยู่ร่วมบ้านในฐานะเมียใหม่ของบิดา หลังจากมารดาของเกดสุดามีอันต้องเสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย ทำให้นวลพรรณเข้ามารับหน้าที่เลี้ยงดูเกดสุดามาตั้งแต่เล็กๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หญิงสาวต่างวัยสองคนนี้จะมีความรักและความผูกพันให้กันมากมาย
นวลพรรณอยู่กินกับบิดาของเกดสุดาได้ไม่ถึงปีก็มีอันต้องตกพุ่มม่าย เพราะพ่อของเกดสุดาก็มีอันต้องมาจากไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่มีใครคาดฝันว่าจะเกิดขึ้น
ในระหว่างที่ครองตัวเป็นแม่ม่ายเนื้อหอม ก็มีผู้ชายหลายคนทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่วนเวียนเข้ามาแจกขนมจีบนวลพรรณ แต่ดูเหมือนหัวใจของหล่อนได้ปิดตายจากความรักเสียแล้ว เพราะนวลพรรณไม่รักผู้ชายคนไหนอีกเลย... ภายหลังจากบิดาของเกดสุดาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
หากถามถึงความต้องการทางเพศในระหว่างที่นวลพรรณต้องครองตัวเป็นม่าย หล่อนยอมรับว่าว้าเหว่และอ้างว้างในอารมณ์อยู่ไม่น้อย... กว่าจะเจอทางออกซึ่งไม่เคยคาดคิดมาก่อน หากมันก็เป็นไปเพราะความต้องการเติมเต็มให้กันและกันเท่านั้น... นวลพรรณรู้ดีว่าหล่อนไม่ใช่เลสเบี้ยน
“ยังไงเกดก็อยากให้แม่นวลมาอยู่ด้วยกันอยู่ดี... เราอยู่กันสองคนแม่ลูกมานานแล้วนะคะ เกดไม่สบายใจที่จะต้องทิ้งแม่นวลไปมีความสุขเพียงลำพัง”
เกดสุดามองหน้าสตรีผู้สูงวัยกว่า ระหว่างหล่อนกับผู้หญิงคนนี้เกดสุดารู้ดีว่าเคยมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งแนบแน่นเกินกว่าแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง เรียกได้ว่ากินนอนร่วมกันเลยทีเดียว
“แต่แม่เกรงใจแดเนียล”
นวลพรรณกล่าวไม่อ้อม ชื่อของ ‘แดเนียล’ หรือที่เกดสุดามักจะเรียกสั้นๆ จนติดปากว่า ‘พี่แดนน์’ ก็คือหนุ่มลูกครึ่งสเปนรูปร่างสูงใหญ่และหล่อเหลาสะดุดตา ผู้ชายที่เกดสุดาตัดสินใจแล้วว่าจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขา
“เกดกับพี่แดนน์คุยกันแล้วค่ะเกี่ยวกับเรื่องนี้... พี่แดนน์ใจดีค่ะแม่นวล”
เกดสุดาบอกให้มารดาสบายใจ หญิงสาวยังไม่ละความพยายามที่จะคะยั้นคะยอให้แม่เลี้ยงไปอยู่ด้วย
“จะดีหรือลูก”
นวลพรรณเริ่มลังเล ทั้งที่ใจจริงก็รู้สึกเศร้าที่จะต้องแยกจากลูกสาว
“ดีสิคะแม่นวล... พี่แดนน์ยังบอกอีกนะคะว่าถ้าถึงวันที่เกดตั้งท้องมีลูกเมื่อไร ตอนนั้นจะได้มีแม่นวลคอยเป็นที่ปรึกษาเวลาต้องเลี้ยงดูลูกอ่อน”
เกดสุดาคิดไปไกล เพราะรู้ว่าแดเนียลรักเด็ก เขาอยากมีลูกมากถึงขั้นเคยปรารภกับหล่อนทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน
“ขอเวลาให้แม่คิดดูก่อนได้ไหมจ๊ะ”
นวลพรรณกล่าว ใจจริงหล่อนก็อยากไป มีใครบ้างอยากถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในบ้านแสนเงียบเหงา
“แม่นวลไม่โกรธใช่ไหมคะที่ดาจะแต่งงานออกไปมีครอบครัว”
ความรู้สึกผิดในใจทำให้หญิงสาวเอ่ยออกมา เพราะว่าตั้งแต่นายบัญชาผู้เป็นบิดาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เกดสุดากับนวลพรรณผู้เป็นแม่เลี้ยงก็รักใคร่และดูแลเอาใจใส่กันมาตลอด รวมถึงการ ‘เติมเต็ม’ ให้กันและกันด้วยความผูกพันอันซับซ้อนอ่อนไหว ดำเนินไปอย่างเร้นลับเร่าร้อน ในครอบครัวเล็กๆ ที่มีเพียงผู้หญิงสองคนอาศัยอยู่ด้วยกัน
เกดสุดายังจดจำเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ดี เรื่องนี้นานมาแล้วก็จริง แต่หล่อนก็ไม่เคยลืม... และคงจะไม่ลืมไปชั่วชีวิต
มันเกิดขึ้นในกลางดึกของคืนหนึ่งที่เกดสุดานอนไม่หลับ หล่อนกระสับกระส่ายด้วยความปรารถนาเร้นลับบางอย่าง เป็นอาการทางอารมณ์ความรู้สึกที่หาทางออกไม่ได้... กระทั่งนวลพรรณซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของหล่อนเป็นคนช่วยปลดเปลื้องให้
“เกด... นอนไม่หลับหรือจ๊ะลูก”
นวลพรรณเอ่ยถามลูกสาว หล่อนเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองแล้วเห็นเกดสุดายังนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านทั้งที่เป็นเวลาควรจะหลับจะนอน
“เกดนอนไม่หลับค่ะแม่นวล”
“เป็นอะไร... ”
“บอกไม่ถูก... คืนนี้เกดขอนอนกับแม่นวลได้ไหมคะ”
“ได้สิจ๊ะ”
ครู่ต่อมาแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงก็พากันเข้ามานอนร่วมห้องเดียวกันภายในห้องนอนของนวลพรรณ
“หลับหรือยังจ๊ะ... สบายใจขึ้นไหม”
นวลพรรณถามร่างบางที่นอนตะแคงกอดหมอนอยู่บนเตียง
“ค่ะ... แต่มันก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี”
“ถ้านอนไม่หลับ... แม่นวลมีวิธีที่จะช่วยทำให้หนูผ่อนคลายสบายเนื้อสบายตัว... รับรองว่าจะโล่งสบายไปหลายวัน”
นวลพรรณบอกพลางตะแคงกายโอบกอดเกดสุดา มือเรียวลูบไล้หนั่นสะโพกกลมกลึงตึงเต็มอยู่ภายใต้ชุดนอนบางๆ
หญิงสาวตกใจเมื่อหันกลับมามองแล้วพบว่าเรือนร่างของแม่เลี้ยงตกอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน
“อุ๊ย... แม่นวล”
เกดสุดาจ้องมองเรือนร่างขาวผ่อง แสงจันทร์ที่สาดเข้ามาทางช่องหน้าต่างทำให้เห็นว่านวลพรรณเป็นหญิงทรงเสน่ห์ หล่อนมีรูปร่างซึ่งยังเอิบอิ่มและงดงามมาก สะโพกผายได้รูปรับกับเอวคอด เต้านมอวบใหญ่เย้ายวนเป็นทรงสวยสะดุดตา หัวนมยังเป็นสีแดงเรื่อไม่ดำคล้ำ
“แม่นวลจะทำอะไร”
เกดสุดารู้สึกตกใจ เมื่อนวลพรรณพยายามจะถอดชุดนอนของหล่อน
“ปลดปล่อยตัวเอง... อย่ากลัวอย่าเกร็ง”
เสียงปลุกปลอบอ่อนโยนทำให้ท่าทีขัดขืนของเกดสุดาอ่อนลง และด้วยสัมผัสนุ่มนวลแผ่วเบาของมือแม่