หลังจากที่พยัคฆ์เดินออกไปแล้ว อัญชันก็พยายามเก็บเศษผ้าที่เหลืออยู่ของเธอมาสวมใส่ที่ต้องเรียกเศษผ้าเพราะมันขาดหลุดลุ่ยจนเป็นชุดไม่ได้แล้ว และด้วยชุดเดรสมันสั้นมากอยู่แล้วอีกทั้งยังขาดเลยไม่แม้แต่จะห่อหุ้มตัวได้ ซ้ำตอนนี้เธอใส่เพียงเสื้อสูทของเขามันแหวกจนโชว์หน้าอกต้องคอยเอามือน้อยๆปิดเอาไว้ตลอดดีหน่อยที่เขาตัวสูงและเธอตัวเล็กความยาวของมันจึงเท่ากับเดรสสั้นดีๆนี่เอง ก็ยังพอใส่ไปก่อนได้ดีกว่าไม่มีอะไรใส่เลย
" ไอ้คนบ้าเอ้ย! ฉันไม่ใช่นักโทษของนายสักหน่อย อย่าให้หนีไปได้นะ จะแจ้งตำรวจมาจับพวกนายให้หมดเลย "
ร่างเล็กนั่งบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวด้วยความโมโหบนพื้นหญ้าแข็งๆในกระท่อมที่ก่อนหน้านี้เป็นสนามรบระหว่างเธอกับเขา
พยัคฆ์เมื่อเดินออกมาข้างนอกกระท่อมก็มองเห็นลูกน้องนับสิบที่ออกไปยืนอยู่ห่างออกไปคงจะเพราะได้ยินเสียงเขาและเธอเมื่อครู่ ดีที่ลูกน้องของเขาไม่มีใครเสียมารยาท
" ไอ้ชัย มึงมานี่ "
พยัคฆ์กวักมือเรียกลูกน้องคนสนิทให้มาหาตัวเองเพื่อสั่งอะไรบางอย่าง
" ครับนาย "
ชัยรีบเดินเข้ามาหาอย่างรู้งานมองดูสภาพเจ้านายที่เหมือนกับไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดคงจะยังไม่รู้ตัวเพราะในกระท่อมก็ไม่ได้มีกระจกให้สำรวจตัวเองแต่อย่างใด เขาจึงลอบอมยิ้มจนคนเป็นเจ้านายส่งสายตาดุๆมาให้เขาถึงกับต้องหุบยิ้มทันที
“ ไปบอกคนงานที่บ้านที่ไว้ใจได้คนนึงหาเสื้อผ้ามาให้เธอใส่แล้วก็ผ้าห่มกับหมอน เอาแบบที่โทรมที่สุดมาให้เธอ แล้วพวกมึงก็จัดเวรเฝ้าเธอไว้ทั้งวันทั้งคืนอย่าให้เธอหนีไปได้ "
พยัคฆ์กำชับลูกน้องแม้จะรู้ว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้นอกจากติดปีกออกไป แต่ก็ยังให้ลูกน้องเฝ้าอย่างดีจากนั้นตัวเขาก็เดินไปยังบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก แต่เธอจะไม่มีทางได้รู้เด็ดขาด เขาจะให้เธอเข้าใจว่าอยู่กลางป่าคนเดียวจะได้รู้รสชาติของความเจ็บปวดและหวาดกลัวซะบ้าง
อลิสานั่งพิงกับเสาไม้แข็งๆดวงตาหลับลงแต่ไม่สนิท อาจเพราะยังแปลกที่แปลกทางแม้จะเหนื่อยล้าเพียงใดก็ยังข่มตาให้หลับสนิทไม่ได้เลย เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามานั่นทำให้เธอลืมตาขึ้นโดยอัตโนมัติ กลัวว่าคนใจร้ายจะเข้ามาทำร้ายเธออีกแต่แล้วก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงอยู่ที่นี่ด้วย
" คุณเป็นใครแล้วที่นี่ที่ไหน "
อัญชันถามหญิงสาวที่อายุไล่เลี่ยกันมองเธอกลับมาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก และทันใดนั้นเสื้อผ้าก็ถูกปาใส่หน้าเธอเข้าอย่างจังเหมือนคนเกลียดกันแต่ชาติปางก่อน อัญชันจึงหยิบมันขึ้นมาอย่างยอมจำนน
" เสื้อผ้าของแก ใส่ซะ มันคือเสื้อผ้าที่ฉันทิ้งแล้วใส่ได้ก็ใส่ใส่ไม่ได้แกก็ไม่ต้องใส่ "
" ขอบใจนะ เธอชื่อะไรหรอ "
อัญชันลอบถอนหายใจเบาๆแม้จะไม่ค่อยชอบใจกับการกระทำของคนตรงหน้าเท่าไหร่นัก แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเธอเคยเจอแบบนี้มานักต่อนักจากคนที่บ้านแล้ว
" นิ่ม "
" ขอบใจมากนะ นิ่มคนสวย "
อัญชันยิ้มให้อย่างเป็นมิตรคงจะดีไม่น้อยหากเธอผูกมิตรเอาไว้เพื่อหาทางหนีทีไล่จะได้สะดวก ส่วนนิ่มเมื่อถูกชมว่าสวยจากที่มีความไม่พอใจผู้หญิงตรงหน้าที่มีความสวยมากกว่าเธอและนายใหญ่พยัคฆ์ก็ดูเป็นห่วงมันจนทำให้คนที่แอบชอบอย่างเธอไม่ชอบใจ เมื่อได้ฟังคำหวานทิฐิที่มีก็ลดลงไปบ้าง(บ้ายอแหละ)
" ฉันไม่มีทางหลงกลกับคำพูดหวานๆของแกหรอกนะ "
นิ่มบอกหากแต่ยังยืนเขินบิดตัวงออยู่ อัญชันที่เห็นแบบนั้นก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเธอแล้ว
" แล้วนั่นคือผ้าห่มที่ให้ฉันหรือเปล่า ขอได้ไหม "
อัญชันมองเห็นผ้าห่มและหมอนใบเก่าๆที่หญิงสาวคนนี้ถือติดมือมาด้วยจึงเอ่ยถามและขอออกไปเพราะอากาศตอนนี้เริ่มเย็นมากๆแล้วอาจจะด้วยรอบๆเป็นป่ากลางคืนเลยหนาวเย็นผิดปกติจากที่เธอเคยเจอ
" อือ นายใหญ่ให้เอามาให้ "
" นายใหญ่? "
อัญชันถามซ้ำอีกรอบ
" ก็นายใหญ่พยัคฆ์ไง มาบ้านคนอื่นยังไงไม่รู้จักเจ้าของบ้าน เธอนี่นอกจากไม่สวยแล้วยังโง่อีกนะ "
คำตอบของนิ่มทำเอาอัญชันเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าที่ที่เธออยู่เป็นบริเวณบ้านของเขา แต่ที่บอกไม่สวยแถมโง่นี่สิเจ็บนะฝากไว้ก่อนเถอะนิ่ม! อัญชันได้แค่คิดในใจเท่านั้น
" แล้วที่นี่จังหวัดอะไรหรอ "
" ก็เกาะเล็กๆในภูเก็ตไง เป็นเกาะส่วนตัวของนายใหญ่มาที่นี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรอเนี่ย "
นิ่มตอบไปเพราะเธอไม่รู้ว่าอัญชันถูกจับตัวมา
" ภูเก็ต? "
อัญชันกำลังนั่งคิดหาวิธีเอาตัวรอดแต่อยู่ๆบอดี้การ์ดตัวใหญ่ของเขาก็เข้ามา
" นิ่มเสร็จหรือยังหมดธุระของเธอแล้วก็ออกไป นายใหญ่สั่งแค่ไหนก็ทำแค่นั้นอย่าทำเกินหน้าที่ ไม่อย่างนั้นก็จะตกงานไม่รู้ตัว "
ชัยลูกน้องคนสนิทของพยัคฆ์เอ่ยเตือนนิ่มเสียงดุ เขาเข้ามาตามเพราะเห็นอยู่ในนี้นานเกินไปกลัวจะหลุดพูดอะไรที่ไม่ควรพูด
" รู้แล้วน่า "
นิ่มสะบัดหน้าอย่างไม่พอใจพร้อมกับเดินออกไปจากกระท่อมส่วนชัยหันมามองเธอเพียงหางตาแล้วก็เดินออกไป ถ้าเธอเดาไม่ผิดคนพวกนี้ต้องเฝ้าเธอหน้ากระท่อมแน่ๆ ยังไงซะพรุ่งนี้เธอจะต้องหนีให้ได้ เป็นตายร้ายดียังไงเธอจะไม่ยอมตายที่นี่แล้วจะไม่ยอมให้เขากดขี่อีกเด็ดขาด เมื่อคิดได้แบบนั้นก็รีบเอาเสื้อผ้าที่ได้มาสวมใส่เสื้อคอกระเช้าบวกกับผ้าซิ่นผืนเก่าๆที่เก่ามากจริงๆ จนเธออดลอบถอนหายใจออกมาไม่ได้ กรรมจริงๆ
" เฮ้อ! ก่อนหน้านี้ว่าลำบากมากแล้วมาเจอแบบนี้รู้สึกว่าชีวิตก่อนหน้าช่างเป็นคุณหนูที่สุขสบายเหลือเกิน แม้จะทุกข์ใจที่คนเป็นพ่อไม่ยอมพาไปออกหน้าออกตาในสังคมแต่คนเป็นพ่อก็ไม่เคยกักขังหรือให้เธอนอนในที่แบบนี้ ในตอนนี้มีแค่หมอนหนึ่งใบกับผ้าห่มหนึ่งผืน เธอจึงจำเป็นต้องเอาผ้าห่มมาปูเป็นที่นอนแล้วนอนขดตัวอยู่แบบนั้นเพราะพื้นหญ้ามันคันเธอคงไม่สามารถนอนไปแบบนั้นได้ ท้ายที่สุดแล้วจึงต้องทนหนาวนอนขดอยู่ในกระท่อมหลังโทรมๆนี้
ตอนนี้เป็นเวลา 9 โมงเช้านิ่มคนเดิมเดินมาหาเธอเพื่อเอาข้าวมาให้กิน ซึ่งข้าวที่ให้กินก็เป็นข้าวไข่เจียวพร้อมกับน้ำ 1 ขวดเพียงเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจเพราะเห็นผู้หญิงคนเมื่อคืนนอนตัวสั่นอยู่ตรงมุมหนึ่งของกระท่อม เธอจึงรีบเข้าไปไกล้ๆแล้วยื่นหลังมือไปที่หน้าผากของอีกคน
" ตายแล้ว! ตัวร้อนจี๋เลย จะตายหรือเปล่าวะ พี่ชัย! พี่ชัย! ไอ้พี่ชัย! "
นิ่มตะโกนลั่นกระท่อมชัยก็รีบเข้ามาข้างในทันที
" มีอะไรนิ่ม ตะโกนโหวกเหวกโวยวายแต่เช้า "
" ก็ฉันตกใจนี่น่า นังคนสวยนี่มันไม่สบาย จะตายหรือเปล่าก็ไม่รู้พี่ชัยมาดูมันหน่อยสิ "
ชัยได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินเข้ามาดูและเอามือสัมผัสไปที่หน้าผากพบว่าตัวร้อนจี๋จึงต่อสายหานายใหญ่ทันที
" นายครับ "
" มีอะไรชัย กูไม่ว่างติดธุระกับลูกค้าอยู่ "
วันนี้เขาออกมาคนเดียวแล้วให้ลูกน้องอยู่เฝ้าเธอแทน
" คุณอลินเธอไม่สบายครับตัวร้อนจี๋เลย ให้พาส่งโรงพยาบาลเลยไหมครับ "
ชัยถามแม้นายเขาจะจับมาทรมานแต่คงไม่ให้ถึงตายหรอก แต่ก็ได้เพียงคำตอบกลับมาที่ดูเหมือนจะใจจืดใจดำไปหน่อย
" ไม่ต้องเดี๋ยวกูกลับไป "