ท่ามกลางความมืดมิดไม่มีแม้แต่แสงไฟสักดวงเพราะเขาไม่ติดให้แต่แรกแล้ว ตั้งใจให้เธออยู่ที่นี่อย่างยากลำบาก มีเพียงแต่แสงจากดวงจันทร์สาดส่องเข้ามาเพียงเท่านั้น กระท่อมหลังน้อยนี่คือสถานที่ที่เขาจะใช้เชือดผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนี้ เสียงเอ่ยห้ามของเจ้าหล่อนเบามากจนเขาฟังไม่ออกว่าเธอพูดว่าอะไร จึงตอบกลับเธอด้วยการเอ่ยขู่เธอแทน
“ นับจากนี้ไปชีวิตของมึงขึ้นอยู่กับกูคนเดียวเท่านั้น ”
พยัคฆ์จับแพนตี้ตัวบางของเธอเอาไว้จากนั้นก็กระชากมันออกอย่างแรง ทำให้ตอนนี้ร่างเล็กเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา พยัคฆ์ถึงกับหายใจติดขัดเมื่อได้เห็นใจกลางความเป็นสาวของเธอผ่านม่านแสงจันทร์ชัดๆ มันสวยเสียจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าเธออาจจะไม่เคยผ่านชายใดมาก่อน แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อ....มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
“ โอ๊ย! เจ็บ ปล่อยนะ ไอ้คนบ้า ไอ้คนกักขฬะ ”
อลิสาก่นด่าคนใจร้าย เธอเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว อารมณ์ที่คล้อยตามเขาในคราแรก ตอนนี้มันเหือดหายไปหมดสิ้นเหลือไว้แต่ความเจ็บทั้งตัวและหัวใจ
“ เจ็บหรอ ดี! เจ็บให้มันเยอะๆกูสะใจดี นี่แค่เริ่มต้นมึงยังต้องเจ็บกว่านี้อีกเยอะ เตรียมตัวรับกรรมที่มึงก่อไว้ได้เลย ”
รอยยิ้มเหี้ยมปรากฎให้เห็นบนใบหน้าหล่อคมสันต์นั่น แววตาดุจเสือล่าเหยื่อของเขาช่างน่ากลัวเกินกว่าที่เธอจะกล้าสบตา
พยัคฆ์จับขาเรียวสวยทั้งสองข้างแยกออกจากกันกว้างและตัวเขาก็เข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างขาเรียวสวยนั่น ตอนนี้เขาได้ถอดปราการทุกชิ้นที่ขวางกั้นออกหมดแล้ว เขาและเธอต่างเปลือยเปล่ากันทั้งคู่ และคนตัวเล็กตรงหน้าก็ได้แต่กรีดร้องด้วยความตกใจ ไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งตัวเขารีบสาวอาวุธร้ายขนาดไซส์ 60 เพียงสองสามครั้งแล้วโจนจ้วงเข้าไปในใจกลางกายของคนตัวเล็กตรงหน้า จนอลิสาถึงกับกรีดร้องน้ำหูน้ำตาไหล
“ กรี๊ด!!! อร๊าย!! อื้อ.....ยะ...อย่าขยับนะ เจ็บ ”
ร่างเล็กได้แต่เอามือน้อยๆของเธอจับสะโพกหนาของเขาไว้แน่น แต่ยิ่งเธอจับมันเขายิ่งอยากกระทุ้งเข้าไปให้มิดลำ แต่ต้องข่มใจไว้เพราะร่องรักของเธอมันแคบจนเขาฝ่าเข้าไปไม่ได้ หากฝืนเธอได้ฉีกขาดแน่ๆ
“ เชี่ย!! แน่นจังวะ มึงหยุดตอดดิ๊ กูขยับไม่ได้ ”
พยัคฆ์ออกคำสั่งกับคนตรงหน้าแต่เธอก็เอาแต่ส่ายหน้าร้องไห้พร้อมกับจับเอวเขาไว้แน่นอยู่แบบนั้น
“ ผ่อนคลายหน่อย ”
เมื่อคนตัวโตไม่สามารถขยับท่อนเอ็นได้เลย เขาจึงใช้ไม้อ่อนกับเธอโดยการพูดดีดีแต่ดีของเขาก็เท่านี้และเหมือนจะไม่ได้ผลจึงถอดถอนตัวตนออกมาแล้วก้มลงไปเล็กน้อยยังช่องทางกระสันที่มันแห้งผากเมื่อครู่ จากนั้นก็ใช้น้ำลายของเขาป้ายไปตามเนินกระสันจนมันเริ่มเปียกชื้นจึงขยับขึ้นมาใหม่แล้วจ่อท่อนเอ็นและถูไถไปมาสักพักจนร่างเล็กครางออกมาเบาๆ เขาจึงใช้โอกาสที่เธอเผลอโจนจ้วงเข้าไปทีเดียวจนสุดลำ
“ กรี๊ด!! ”
(กรี๊ดสิครับรอไร!)
เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานดังออกมาจากเรียวปากสวย เธอรู้สึกเหมือนใจกลางความเป็นสาวมันกำลังแตกละเอียด มันเจ็บจนเธอสะท้านไปทั้งร่าง ร่างกายตอนนี้ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรง
“ เวรละ! ยังซิงอยู่หรอวะ ไอ้สิงมึงมันโง่ ”
พยัคฆ์สบถออกมาพร้อมกับความรู้สึกต่างๆก็แวบเข้ามาในหัว ทำไมเธอยังซิงอยู่อีก ไอ้สิงไม่เคยแตะต้องเธออย่างงั้นหรอ แม้จะฉุดคิดแต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้นเพราะอารมณ์ตอนนี้มันไปไกลเกินกว่าที่เขาจะหยุดเพียงเท่านี้ได้แล้ว
“ ปล่อยฉันนะ ไอ้คนเลว ชาติหมา! ”
อัญชันด่าเขาแบบที่เธอไม่เคยคิดจะพูดมาก่อน จบแล้วความเป็นสาวที่เธอหวงแหนนักหนา จะเก็บเอาไว้ให้ชายที่รักในวันแต่งงาน แต่เขาพรากมันไปอย่างป่าเถื่อนที่สุด ครั้งแรกของเธอมันช่างไม่ประทับใจเอาเสียเลย เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าครั้งแรกมันจะเจ็บมากๆแต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้ มันคับแน่นไปหมดจนเธอหายใจไม่ออก
“ เลวก็ผัวมึงนั่นแหละ กูไม่ได้ชาติหมาแต่ถ้าท่าหมากูก็พอได้ ”
พยัคฆ์ตวาดเธอกลับพร้อมกับกวนบาทาคืนไปอีกหนึ่งกรุบ เธอเป็นคนเดียวที่ด่าเขาเจ็บขนาดนี้แล้วเขายังทนได้
“ ไม่ใช่.....ปล่อย อึดอัด หายใจไม่ออก ”
อัญชันตอบกลับเสียงแข็งพร้อมกับมือที่เลื่อนมาดันหน้าท้องไว้ไม่ให้เขาขยับ แต่เธอหารู้ไม่ว่าจุดนี้แหละที่ทำเอาอารมณ์เขามันพลุ่งพล่าน
“ อ่าส์....กูปล่อยแน่ แต่ปล่อยในนะมึงเตรียมรับเลย ”
เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มปรับตัวกับตัวตนเขาได้แล้ว ร่างสูงจึงเริ่มขยับท่อนเอ็นแต่ไม่ได้มีความปราณีเธอแต่อย่างใด เขาตั้งใจกระแทกแรงๆตามอารมณ์ที่มันกำลังเสียวอยู่ตอนนี้ ไม่สนว่าเธอจะเจ็บแค่ไหน เจ็บมากๆสิดีการแก้แค้นของเขาเธอจะได้จำไปจนวันตาย
พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นกระท่อมโทรมๆโดยไม่ได้สนใจคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเลย การ์ดนับสิบที่ยืนรอเจ้านายอยู่เมื่อได้ยินเสียงข้างในก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็รู้งานเป็นอย่างดีรีบเดินห่างออกไปจากตรงนี้เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้เป็นเจ้านาย
ส่วนด้านในกระท่อมตอนนี้ดุเดือดมาก พยัคฆ์ตั้งใจกระแทกเธอแรงๆเพื่อให้เธอได้เจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ และมันก็ได้ผลเมื่อหญิงสาวเอาแต่ร้องครางด้วยความเจ็บปวด เธอทั้งเสียวทั้งเจ็บแผ่นหลังไปหมด เพราะเธอนอนราบไปกับแคร่ไม้เก่าๆ เศษไม้ไผ่มันก็บาดเนื้อเนียนสวยของเธอไปมาจนตอนนี้รู้สึกเปียกไปทั่วแผ่นหลังหมดแล้ว
“ อื้อ....อร๊าย!! ”
เสียงครางปนคราบน้ำตาทำเอาพยัคฆ์สะใจมาก แต่เมื่อมองชัดๆอีกทีก็เห็นเลือดที่ซึมตามไม้ไผ่เก่าๆ จึงรีบดึงตัวร่างเล็กให้ลุกขึ้นและตัวเขาก็นั่งลงให้เธอมานั่งคร่อมบนตักแกร่งอีกที
“ อื้อ...”
อัญชันสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับครางกระเส่า แท่งมหึมาของเขามันแทงทะลุเข้าไปจนสุดลำเมื่อเธอนั่งคร่อมบนตักใหญ่
“ อ่าส์..ซี๊ด! เสียวชะมัด ตอดอะไรขนาดนั้น แบบนี้ใครมันจะกลั้นไหว ”
พยัคฆ์ครางออกมาอย่างสุดกลั้น ร่องแคบเธอมันตอดรัดเขาจนแทบแตกเสียตั้งแต่ตอนนี้ แต่เขาจะไม่ยอมพ่ายแพ้เด็ดขาดจนกว่าจะกินเธอให้หนำใจ
มือหนากระชับอ้อมกอดให้เธอเข้ามาแนบชิดกับอกเขาทำให้ยอดปทุมถันแนบติดไปกับอกแกร่งในอ้อมกอด เขามองดูแผ่นหลังที่เคยเนียนสวยบัดนี้มันเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดซึมออกมาบ้างแล้ว ชั่ววูบหนึ่งเขากอดเธอไว้ด้วยความอบอุ่นเพราะสงสารที่เธอต้องเจ็บ แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้นเมื่อด้านมืดเข้าครอบงำอีกครั้ง เขาจึงเด้งสะโพกสวนคนที่ตาปรือกำลังจะหลับในอ้อมกอดให้กลับมาตื่นอีกครั้ง
ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!
“ อื้อ...โอ้ย.....แรงเกินไปแล้ว อ๊าสส์ ”
เสียงครางกระเส่าดังขึ้นเมื่อเขาตั้งใจให้เธอเจ็บ ร่างเล็กผละออกมาจากอ้อมกอดจึงเป็นโอกาสให้คนตัวโตก้มลงใช้ปลายลิ้นไล้เลียเม็ดทับทิมสีชมพูทั้งสองข้างสลับไปมาอย่างเอาแต่ใจ เสียงครางของคนตัวโตเริ่มดังขึ้นตามแรงอารมณ์แต่จู่ๆสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
“ อืม....หวานชะมัด อ่าส์......โอ้ย!!(ว๊าย!!!) ”