พยัคฆ์พูดพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นโดยไม่ได้สนใจคู่สนทนาเลยด้วยซ้ำ
" วันนี้ผมเชิญแบล็คฟีนิกซ์มาทุกคนเลยนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าจะได้รับเกียรตินั้นหรือเปล่า "
เกรียงไกรพูดเปรยเอ่ยถามกรายๆ เพราะถ้าหากว่าทั้งสี่คนนี้รวมตัวกันเมื่อไหร่รับรองได้ว่าต้องเป็นข่าวใหญ่และแน่นอนว่าผลพลอยได้ก็คือโรงแรมของเขาต้องเป็นที่รู้จัก แบล็คฟีนิกซ์รวมตัวกันหนึ่งปีไม่ถึงสิบครั้งแต่ละครั้งก็ต้องมีเรื่องใหญ่ๆเกิดขึ้นเสมอ
" ครับ "
พยัคฆ์ตอบออกไปเพียงเท่านั้นก็เบือนหน้าไปทางประตูอย่างเบื่อหน่ายแล้วหันไปเจอไอ้เพื่อนตัวดีของเขาที่เข้ามาในงานพอดี
" สวัสดีครับคุณเกรียงไกรขอโทษที่พวกเรามาสาย "
ลมเหนือชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์หนึ่งในแก๊งค์แบล็คฟีนิกซ์เอ่ยทักทายเจ้าของงานแล้วก็เจ้าของเหยื่อของวันนี้ด้วย
" โอ้ ไม่เป็นไรเลยครับขอแค่โรงแรมของเราได้รับเกียรติจากแบล็คฟีนิกซ์ผมก็รู้สึกยินดีมากแล้วครับ "
เกรียงไกรบอกออกไป แม้เขาจะอายุมากกว่าหลายปีแต่บารมีของทั้งสี่คนนี้ก็ทำเอาเขาเกรงกลัวอยู่ไม่น้อย เพราะแต่ละคนนอกจากจะรวยล้นฟ้าแล้วยังมีอำนาจสามารถทำให้บริษัทเล็กๆของเขาเติบโตได้อย่างยิ่งใหญ่หรือไม่ก็ล้มละลายได้เพียงพริบตาเดียวเลยล่ะ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทั้งเมืองต้องเกรงใจแก๊งนี้
" ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหมวะไอ้คิมหันต์ "
พยัคฆ์เอ่ยถามเพื่อนที่ขึ้นชื่อว่าใจร้อนและโหดเหี้ยมที่สุดภายในกลุ่มพอๆกับเขา แล้วก็ได้รับรอยยิ้มมุมปากกลับมา
" หึ! ระดับนี้ไม่เคยทำให้มึงผิดหวังหรอกไอ้เสือ "
พยัคฆ์เพียงแต่ยิ้มมุมปากกลับไปเท่านั้นเพราะสิ่งที่เขาให้เพื่อนช่วยตอนนี้มันพร้อมหมดแล้ว เขายอมรับว่าสิ่งที่กำลังจะทำมันอาจดูใจร้ายไปเสียหน่อย แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอมากระตุกหนวดเสือก่อนเองทำไม
" เห็นว่าวันนี้คุณเกรียงไกรเปิดตัวลูกสาวไม่แนะนำให้พวกผมรู้จักหน่อยหรอครับ "
คณินแฝดผู้พี่ของคิมหันต์เอ่ยถามเกรียงไกรเพื่อไม่ให้เจ้าตัวสงสัยกับสิ่งที่เพื่อนและน้องชายฝาแฝดของเขาพูดเมื่อสักครู่ ไอ้พวกนี้มันถามเรื่องเหยื่อต่อหน้าต่อตาแบบนี้ได้ยังไง เดี๋ยวแผนก็ได้พังกันพอดี
" ได้สิครับ เดี๋ยวรอสักครู่นะครับ "
เกรียงไกรพูดออกมาด้วยความดีใจหากว่าหนึ่งในสี่คนนี้พอใจในตัวของลูกสาวเขาต่อจากนี้ไปเขาคงสบายไปทั้งชาติ จึงรีบเดินไปหาอลิสาแล้วจูงมือของเธอมาอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มทั้งสี่คน
แบล็คฟีนิกซ์มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกตะลึง ไม่แปลกใจเลยสักนิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเธอคนนี้สวยมาก เธอดูสวยหวาน ใบหน้ารูปไข่รับกับทรงผมตรงยาวดำสลวย บวกกับชุดที่แสนเซ็กซี่ของเธอทำเอาเธอกลายเป็นสาวหวานซ่อนเปรี้ยวไปเลย บวกกับหน้าอกหน้าใจที่มันอวบอัดจนล้นทะลักออกมานอกชุดเดรสสายเดี่ยวตัวสั้นสีน้ำเงินขับผิวนั้นอีก เกรียงไกรเมื่อเห็นสายตาที่มองมาอย่างโลมเลียของทั้งสามหนุ่มก็ทำเอาเกรียงไกรนึกดีใจอยู่ไม่น้อย แม้จะมีเพียงคนเดียวที่มองด้วยสายตาเย็นชาแต่เกรียงไกรก็หาได้สนใจ
" นี่คือ อลิน ทัตเทพกาญ ครับ ผู้บริหารคนใหม่ของโรงแรมเรา ผมมันก็แก่แล้วก็เลยจะปล่อยให้เด็กรุ่นใหม่เขาได้เข้ามาบริหาร ยังไงผมฝากลูกสาวด้วยนะครับถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือบอกยัยอลินได้เลย "
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มมาให้กับอลิสา เพราะเกรียงไกรแนะนำจึงทำให้พวกเขามั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้าชื่ออลินไม่ผิดแน่ อลิสารู้สึกอึดอัดไม่น้อยกับสถานการณ์ตรงหน้าโดยเฉพาะกับชายหนุ่มคนนึงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมกับจ้องมองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอเสียให้ได้ จนเธอนึกขนลุกซู่ขึ้นมาดื้อๆ
" สวัสดีครับคุณอลินผมลมเหนือนะครับ "
ลมเหนือเบิกฤกษ์ก่อนพูดพร้อมกับยื่นมือออกมาเพื่อทักทายแล้วก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากหญิงสาวตรงหน้า
" สวัสดีค่ะคุณลมเหนือยินดีที่ได้รู้จักนะคะ "
" ครับ ส่วนเจ้านี่คิมหันต์ คณิน แล้วก็นั่นไอ้เสือ "
เป็นลมเหนือคนที่ช่างพูดช่างเจรจาที่สุดในกลุ่มเป็นคนเอ่ยแนะนำชื่อของแต่ละคนให้กับหญิงสาวตรงหน้าได้รู้จัก เธอจึงยกมือไหว้คิมหันต์เป็นคนแรกเพราะเขาไม่แม้แต่จะยื่นมือออกมาทักทายเธอเลยด้วยซ้ำ แล้วก็คนที่สองคณินที่ยื่นมือมาทักทายเธอเธอจึงยื่นมือทักทายกลับพร้อมกับได้สบตากันเพียงครู่อลิสาจึงยิ้มกลับเพื่อทักทายพร้อมกับคณินที่รู้สึกว่าทำไมเธอคนนี้ถึงดูไม่ได้ร้ายเหมือนที่เขาเคยได้ยินมา การกระทำของหญิงสาวทำให้พยัคฆ์รู้สึกไม่พอใจอยู่ไม่น้อยเพราะเขามองว่าเธอกำลังอ่อยเพื่อนของเขาอยู่ผู้หญิงแพศยาคนนี้ไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ
" เอ่อ...คุณคณินกับคุณคิมหันต์? "
ร่างเล็กเอ่ยถามอย่างสงสัยด้วยหน้าตาที่คล้ายกันมาก
" ครับผมกับไอ้คิมหันต์เป็นแฝดกัน ผมเป็นพี่ส่วนมันเป็นน้อง "
" หยุดเลยนะไอ้คณินเกิดก่อนกูแค่ไม่กี่นาทีก็เรียกตัวเองว่าพี่ซะแล้ว "
คิมหันต์ผู้ไม่เคยยอมรับคณินเป็นพี่ชาย ก็เขาถือว่าเกิดมาเวลาใกล้ๆกันก็ต้องเป็นเพื่อนกันสิ
" ทำไงได้วะก็กูเกิดก่อน "
คิมหันต์ทำหน้าตาไม่พอใจพี่ชายแต่ก็ไม่จริงจังนัก จนทำให้ร่างบางถึงกับอมยิ้มน้อยๆออกมา
" ดูคุณสองคนรักกันมากเลยนะคะ น่าอิจฉาจัง "
เธอพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มแต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอมันเศร้าแค่ไหน ฝาแฝดที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้ช่างโชคดีที่เกิดมาก็รักกันดี
" ไม่มีพี่น้องที่ไหนไม่รักกันหรอกคุณ บางคนตายแทนกันยังได้บางคนแก้แค้นแทนกันก็ได้อีกเหมือนกัน "
คราวนี้เป็นพยัคฆ์ที่พูดขึ้นมานั่นจึงทำให้หญิงสาวต้องหันหน้าไปหาเขาพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้เพราะเธอมัวแต่สนใจเรื่องของสองแฝดนี้จนลืมเอ่ยทักทายผู้ชายอีกคน
" สวัสดีค่ะคุณเสือ ขอโทษที่เสียมารยาททักทายช้าค่ะ "
ร่างบางยกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มให้แต่ได้รับการตอบกลับมาชนิดที่ว่าเธอเองต้องเสียหลัก
" ผมไม่อนุญาตให้คุณเรียกชื่อนี้ เรียกผมว่าพยัคฆ์เหมือนที่คนทั่วไปเรียกเถอะ เพราะชื่อเล่นของผมมีแค่คนสนิทเท่านั้นที่เรียกได้ส่วนคุณ... "
เขาจงใจเว้นวรรคไว้แค่นั้นเพื่อให้เธอได้คิดต่อเอง ซึ่งอริสาเองก็รู้ดีว่าเขาต้องการจะสื่อว่าอะไร จึงตัดปัญหาด้วยการยิ้มตอบ เพราะไม่อยากทำให้แขกคนสำคัญของคุณพ่อไม่พอใจ
" ค่ะ อลินขอโทษนะคะ คุณพยัคฆ์ "
พยัคฆ์ไม่แม้แต่จะมองหน้าของเธอด้วยซ้ำ เขาเกลียดผู้หญิงตรงหน้าที่สุด ถ้าไม่เพราะเขาต้องแสดงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการเขาไม่มีทางพูดดีกับผู้หญิงเลวๆแบบนี้แน่
เกรียงไกรเมื่อเห็นว่าลูกสาวไม่เป็นที่พอใจกับคุณพยัคฆ์จึงหาทางเลี่ยงเพื่อไม่ให้คนที่ตนเองหมายปองจะร่วมทำธุรกิจด้วยไม่พอใจ
" ยัยอลินแกจะไปไหนก็ไปไปพ่อจะคุยธุระกันสักหน่อย "
" ค่ะ คุณพ่อ "
หญิงสาวรีบหันหลังแล้วเดินออกมาจากวงสนทนาทันที เธอรู้สึกโล่งใจเพราะพูดตามตรงว่าผู้ชายคนนั้นคนที่ชื่อพยัคฆ์ทำให้เธออึดอัดจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอรีบเดินออกมาหน้าโรงแรมเพื่อมานั่งสูดอากาศเย็นๆยามดึกสงัดคนเดียว
" ผมนั่งด้วยคนได้ไหมครับ "