คณินที่เกิดลังเลว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องจริงๆหรือเปล่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกผิดแบบนี้ล่ะ สายตาที่เธอมองเขาก่อนหน้านี้มันดูบริสุทธิ์จนเขาเองเกิดหวั่นใจ
" มึงแน่ใจนะไอ้เสือว่ามึงจะเอาแบบนี้จริงๆ "
พยัคฆ์ถึงกับหันหน้ามามองเพื่อนสนิทของตนเพราะไม่คิดว่ามันจะพูดคำนี้ออกมาก่อนหน้านี้เขาวางแผนมาเกือบเดือนและสืบมาอย่างดีว่าเรื่องราวมันเป็นมาแบบไหนแล้วที่สำคัญเรื่องนี้ออกจากปากของเจ้าตัวไม่มีทางที่เขาจะไม่แก้แค้นให้แน่
" กูไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน "
เมื่อได้ฟังแบบนั้นคณินจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้ายอมรับแล้วก็ปล่อยให้พยัคฆ์อุ้มร่างบอบบางขึ้นพาดไหล่กว้าง แล้วเดินขึ้นรถตู้สีดำสนิทคันหรูไป
" มึงลังเลหรอวะคณิน ไม่ว่าไอ้เสือมันจะตัดสินใจยังไงพวกเรามีหน้าที่สนับสนุนมันก็พอ มึงก็รู้ว่าคนแบบมันห้ามได้ที่ไหน กูรู้นะว่าสิ่งที่มันทำอยู่มันไม่ถูกเพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป แต่ตลอดมาเราก็ใช้กฎหมู่ไม่ใช่กฎหมายมึงไม่ควรอ่อนไหวกับเรื่องนี้ "
คิมหันต์เอ่ยขึ้นเมื่อรถตู้ของพยัคฆ์ลับตาไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนได้กลิ่นไม่ค่อยดีหรือว่าไอ้พี่ชายตัวดีของเขามันจะมีใจให้กับศัตรูของเพื่อน
" กูรู้ กูแค่รู้สึกว่าเธออาจจะไม่ได้เป็นเหมือนที่พวกเราคิดก็ได้ "
" แค่ความรู้สึกของมึงมันเปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้หรอกนะคณิน มึงก็รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไงแล้วไอ้เสือมันโกรธผู้หญิงคนนั้นมากแค่ไหน มันไม่มีทางปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปหรอกเพราะฉะนั้นมึงทำใจเถอะ "
คิมหันต์พูดเพื่อให้คณินตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ด้วยความที่เป็นฝาแฝดกันจึงเดาใจกันได้ไม่ยาก และคณินเองก็รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสาวน้อยอย่างเธอ
" อืม "
พยัคฆ์พาคนที่หลับปุ๋ยมายังสถานที่ที่เขาจัดเตรียมเอาไว้เป็นพิเศษสำหรับเธอ ของขวัญที่เขาตั้งใจมอบให้ผู้หญิงที่ทำให้คนที่เขารักที่สุดต้องเป็นแบบนั้น เธอจะต้องชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง เขาจะไม่มีวันให้เธอได้มีความสุขนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป
เมื่อมาถึงในป่าลึกก็เจอเข้ากับกระท่อมเก่าๆหลังหนึ่งที่เตรียมไว้ ซึ่งเขาก็อุ้มเธอพาดบ่าลงมาจากรถโดยไม่ให้ลูกน้องช่วยเลยสักคน และเดินเข้าไปยังกระท่อมด้วยแรงกระแทกระหว่างเดินทำให้คนที่หลับไหลอยู่ตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่รู้ว่าคนที่จับเธอพาดบ่าอยู่ตอนนี้เป็นโจรมาจากไหน
" กรี๊ด!!! ปล่อยนะ นี่แกเป็นใครทำแบบนี้กับฉันทำไม ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย! "
หญิงสาวที่เริ่มสติแตกด้วยความกลัวรีบเอ่ยขอความช่วยเหลือแต่เหมือนว่าบริเวณรอบๆนี้จะน่ากลัวเกินไปมันมืดไปหมดจนเธอมองแทบไม่เห็นอะไรเลย เธอร้องขอความช่วยเหลือไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็โดนโยนลงมาอย่างไม่ใยดี
ตุ๊บ!
" โอ้ย! "
ร่างเล็กร้องอุทานออกมาหลังจากที่จะโดนจับโยนลงมายังแคร่ไม้เก่าๆ ด้วยความแรงทำเอาเธอเจ็บไปทั้งร่างกาย
" เลิกแหกปากสักทีน่ารำคาญ "
เสียงที่ได้ยินทำเอาร่างบอบบางถึงกับเงยหน้ามองเขาในทันที เขาคือผู้ชายที่อยู่ในงานคนที่หักหน้าเธอแล้วเขาจับตัวเธอมาทำไม แล้วที่นี่ที่ไหนคำถามที่เต็มไปหมดภายในหัวของเธอ
" คุณพยัคฆ์คุณจับฉันมาที่นี่ทำไม คุณต้องการอะไรกันแน่ "
อลิสาเลือกที่จะถามความต้องการของเขาไปตรงๆถ้าหากว่าจับเธอมาเรียกค่าไถ่ไม่น่าเป็นไปได้เพราะเขาออกจะรวยล้นฟ้าขนาดนั้นแล้วมีเหตุผลอะไรล่ะที่เขาจะจับเธอมาที่นี่
" หึ! ก็จับมึงมาทรมานไงล่ะ ผู้หญิงแพศยาน่ารังเกียจ คนแบบมึงไม่ควรมีความสุขลอยหน้าลอยตาบนความทุกข์ของคนอื่นหรอกนะ แม้ว่าคนอื่นจะทำอะไรมึงไม่ได้แต่กูเนี่ยแหละจะเป็นคนลงโทษมึงเอง "
ร่างเล็กได้แต่ขมวดคิ้วอย่างสงสัยในสิ่งที่เขาพูด เขาหมายถึงอะไรกันแน่ เธอมั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรให้ใครเสียหายตั้งแต่เกิดมาเธอก็เป็นเด็กดีมาโดยตลอดแล้วทำไมเขาถึงมากล่าวหาเธอแบบนี้ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ
" หยาบคาย นี่มันเรื่องอะไรกันนายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำน้ำใจนักหนาถึงทำขนาดนี้หรือว่าพาฉันมาที่นี่จะฆ่าฉันเลยหรอ "
ในตอนนี้เธอก็ไม่เรียกเขาว่าคุณแล้วเหมือนกัน
" มึงได้ตายแน่แต่ฆ่ามึงตอนนี้มันง่ายเกินไป คนหน้าเนื้อใจเสืออย่างมึงต้องทรมานอย่างถึงที่สุดก่อนจะตาย กูจะทำให้มึงอยากตายแต่ตายไม่ได้ ทรมานทั้งกายทั้งใจ "
" บ้า! นายมันบ้าไปแล้ว ฉันไม่เคยทำอะไรให้นายสักหน่อยแล้วเราก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันด้วยอย่ามาทำแบบนี้กับฉัน "
" อย่ามาทำเป็นใสซื่อ มึงบอกกูซิมึงชื่ออะไร "
พยัคฆ์ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และต้องการทบทวนเพื่อให้เธอได้คิดถึงเรื่องอะไรบางอย่างแต่นั่นเขาก็คงคิดผิดเพราะเธอทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
" อลิน ทัตเทพกาญ "
ร่างเล็กตอบออกไปเสียงเบาเพราะจะให้เธอบอกว่าเธอชื่ออลิสาก็คงไม่ได้ เพราะมันอาจกระทบไปถึงธุรกิจของคุณพ่อและเธอก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ตลอดเวลาเธอไม่เคยเป็นลูกรักเลยแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยนึกเกลียดพี่สาวในไส้ของตัวเองเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอหวังดีกับพี่สาวมาโดยตลอดซึ่งก็รู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่ได้คิดเช่นเดียวกันกับเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ร่างเล็กเริ่มฉุดคิดอะไรบางอย่าง หรือว่าพี่อลินพี่สาวฝาแฝดของเธอไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้ไม่พอใจอย่างนั้นหรือ
" ถ้ามึงชื่ออลิน ทัตเทพกาญ งั้นก็ไม่ผิดแน่ ลองนึกดูดีๆว่าไปทำอะไรกับใครไว้ถึงต้องมารับผลกรรมแบบนี้ "
" แล้วฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำน้ำใจนักหนาหรอ "
คราวนี้เป็นคนตัวเล็กที่เกรี้ยวกราดใส่เขาบ้างเพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอเจอมันคืออะไรแล้วพี่อลินไปทำอะไรให้เขาเขาถึงได้ถึงขั้นมาเอาชีวิตแบบนี้
" มึงรู้ดีอยู่แก่ใจทบทวนตัวเองดูซะหรือว่าทำมันจนเป็นนิสัยจนจำไม่ได้แล้วว่าทำนิสัยแย่ๆกับใครไว้บ้าง "
" ฉันไม่เคยทำอะไรแบบที่นายว่าทั้งนั้นน่ะ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจถ้าฉันหายไปคุณพ่อต้องตามหาฉันแน่ "
ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากคนแบบเขาน่ะหรือจะกลัวพ่อของเธอพ่อของเธอต่างหากที่ต้องกลัวเขา
" ในงานเลี้ยงมึงก็เห็นแล้วนี่ว่ากูจะต้องกลัวพ่อมึงหรือว่าพ่อมึงจะต้องกลัวกูกันแน่ นับจากวันนี้เป็นต้นไปมึงจะต้องชดใช้ให้คนของกู เริ่มจากอะไรดีล่ะ "
พยัคฆ์ไม่พูดเปล่าแต่ยังใช้สายตาโลมเลียคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างเปิดเผย เขาเพิ่งสังเกตว่าหุ่นเธอมันเซ็กซี่แค่ไหน เธอตัวเล็กมากสูงไม่น่าจะเกิน 160 เซ็นติเมตร ต่างจากเขาที่สูงไปถึง 185 เซ็นติเมตร เอวคอดกิ่วได้รูปบวกกับหน้าอกหน้าใจของเธอที่มันใหญ่จนล้นทะลักออกมานอกเดรสสายเดี่ยวที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ เธอคงยังไม่รู้ตัวว่าเธอนั่งอยู่ตอนนี้มันล่อตาล่อใจขนาดไหน และเมื่อเขามองไม่หยุดร่างบางเองจึงมองตามเขาแล้วก็ต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดดอกบัวคู่งามที่มันล้นทะลักออกมาเอาไว้
" อย่ามองนะ ทะลึ่ง!! "