ขวัญข้าวไม่รู้ว่าตัวเองทนยืนอยู่ตรงนั้นแล้วมองเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนจบได้อย่างไร แต่เสียงคุยกันที่ใกล้เข้ามาของชายหญิงตรงหน้าเรียกสติของเธอกลับมาทันที เธอจึงรีบหันหลังกลับเข้าห้องตัวเองอย่างรวดเร็วโดยลืมความหิวเสียสนิท
ขวัญข้าวล้มตัวลงนอนบนเตียงแต่เธอไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ ภาพกิจกรรมเข้าจังหวะเมื่อสักครู่ของบิดาเพื่อนกับผู้หญิงคนนั้นยังคงติดตาของเธออยู่ ทุกความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะบั้นท้ายอันแสนเซ็กซี่ที่ตอกลงบนร่างกายหญิงคนนั้น เสียงครางกระเส่าตอนที่สองร่างกำลังสอดประสาน รวมถึงเสียงครางแห่งความสุขสม ชัดเจนในหัวของเธอ มันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงง่าย ๆ
เธอไม่ใช่ผู้หญิงไร้เดียงสา ยามเธอมีอารมณ์เรื่องอย่างว่าเธอมักเปิดหนังโป๊ดูบ่อย ๆ บางครั้งทนไม่ไหวเธอถึงกับช่วยตัวเอง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเธอที่เห็นคนร่วมรักกันจริง ๆ มันไม่ใช่การแสดงหรือเพียงแค่ภาพเคลื่อนไหวแบบที่เคยดูอีกแล้ว
ขวัญข้าวพยายามข่มตาให้หลับแต่เธอก็ทำไม่ได้ ดังนั้นในคืนนี้เธอต้องทนนอนกับความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอก เรือนร่างงามนอนกระสับกระส่ายไปมาจนต้องลูบไล้เนื้อตัวของตัวเองเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นอยู่นี้
อาจเป็นเพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับตาลงได้ก็เกือบเช้า ทำให้วันนี้ขวัญข้าวจึงตื่นสายกว่าปกติ เธอลงมาด้านล่างแล้วตรงเข้าไปในห้องครัวกะว่าจะหาอะไรทำมื้อเช้าง่าย ๆ เมื่อเธอไปถึงเธอก็ผงะอยู่ที่ประตูห้องครัว
ยังไม่ทันที่เธอจะได้เดินหนีคนร่างสูงก็หันมาเสียก่อน
“อ้าวข้าวเธอไม่ได้ไปกับยัยแนทหรือ” พอลถามเมื่อเห็นเพื่อน
ลูกสาวไม่ได้ออกไปพร้อมกับลูกสาวที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า
เมื่อหันหลังหนีไม่ได้ขวัญข้าวจึงทำเป็นทักทายเขาออกไป
“กู้ดมอร์นิ่งค่ะแด๊ด”
“กู้ดมอร์นิ่งข้าว” เขาทักเธอกลับ
“แนทออกไปไหนหรือคะ” เธอติดใจกับคำถามของเขาเมื่อสักครู่นี้
“เธอไม่รู้หรือข้าว ฉันยังนึกว่าเธอออกไปกับยัยแนทเสียอีก” เขายังไม่ตอบแต่ถามเธอกลับ
ขวัญข้าวขมวดคิ้วแล้วพยายามขบคิดว่าเพื่อนของเธอออกไปไหนแต่เช้า เมื่อวานนาตาลีก็ไม่ได้บอกอะไรเธอ ดังนั้นเธอเกรงว่าถ้าเธอตอบอะไรออกไปจะทำให้บิดาของเพื่อนสงสัยได้ เธอจึงคิดว่าเธอเงียบเสียดีกว่า
“พอดีข้าวอ่านหนังสือดึกเลยตื่นสายน่ะค่ะ” เธอพยายามตอบเลี่ยง ๆ ไป
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นมากินมื้อเช้ากันก่อน ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันไปส่งเธอทีหลังก็ได้ วันนี้ฉันหยุด” พอลเสนออย่างใจดี
“ค่ะ” เธอคิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีที่บิดาของเพื่อนไม่ถามอะไรมาก
ขณะที่นั่งรอขวัญข้าวก็กวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาอะไรบางอย่าง สีหน้าของเธอแสดงความสงสัยออกมาโดยไม่รู้ตัว และพอลก็ยกอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะพอดี
“มองหาอะไรอยู่หรือข้าว” เขาเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเพื่อนลูกสาวจึงถามขึ้น
“เปล่าค่ะ” ขวัญข้าวสะดุ้ง รีบปฏิเสธ จะให้เธอบอกได้อย่างไรว่ากำลังมองหาผู้หญิงที่เล่นจ้ำจี้กับเขาเมื่อคืน ขืนเธอพูดออกไปมีหวังความลับที่เธอแอบดูพวกเขาได้แตกกันพอดี
“โอเค” ในเมื่อเพื่อนลูกสาวไม่ยอมพูดพอลก็ไม่ซักต่อ
อาหารมื้อเช้าที่พอลทำเป็นอเมริกันเบร็กฟาสต์ง่าย ๆ ประกอบไปด้วย ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก และขนมปัง ของเขาเองเป็นแบบทอด แต่สำหรับขวัญข้าวเขารู้ว่าเธอกินแบบไหนจึงจัดแบบนึ่งให้แทน
ขวัญข้าวเริ่มรับประทานอาหารตรงหน้า แม้ว่าจะเคยร่วมโต๊ะกับพอลมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งไม่เหมือนกับครั้งนี้ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนใช่ว่าจะสลัดทิ้งไปง่าย ๆ มันติดหัวเธอไปแล้ว ทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกอึดอัดกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูกจึงเลี่ยงการสบสายตากับหนุ่มใหญ่ที่นั่งฝั่งตรงข้าม แล้วทำทีว่าเธอตั้งใจกินอาหารตรงหน้าของเธอเสียเต็มประดา
ฝ่ายพอลเมื่อเห็นเพื่อนลูกสาวไม่พูดอะไรจึงนั่งกินอาหารของตนเองไปเงียบ ๆ แล้วลอบสังเกตเธอไปพลาง ๆ แต่ยังไม่ทันไรความคิดอกุศลเริ่มก่อเกิดขึ้นในหัวของเขาอีกแล้ว เขาไม่รู้ว่าพักนี้เขาเป็นอะไร
กันแน่ หรือว่าเขาจะแก่แล้วจริง ๆ
ท่าทางยามที่ขวัญข้าวจิ้มไส้กรอกเข้าปากนั้นทำให้เขาจินตนาการอะไรได้ไปไกลโข เขาจ้องมองเธอกินอย่างลืมตัวพลางลอบกลืนน้ำลายไปด้วยยามที่ไส้กรอกนั้นค่อย ๆ ถูกละเลียดอยู่ในปากน้อยๆ ของเธอ
อา... เขาชักเริ่มร้อนเสียแล้ว และรู้สึกว่าอะไร ๆ ก็เริ่มที่จะตื่นแล้วด้วยเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเขาเพิ่งจะใช้งานมันไปอย่างหนักหน่วง
เขาปัดความคิดบ้าบอนี่ทิ้งไป แล้วจดจ่ออยู่กับอาหารในจานของตัวเองบ้าง
หลังจากมื้อเช้าจบลงขวัญข้าวจึงเก็บจานชามต่าง ๆ ไปล้าง แล้วรีบออกไปโทรศัพท์หาเพื่อนทันที รอสายเพียงไม่นานคนปลายสายก็กดรับ เธอจึงเอ่ยเข้าประเด็นทันที
“ยัยแนทเธออยู่ที่ไหน รู้มั้ยว่าแด๊ดถามใหญ่เลย”
“แล้วเธอบอกแด๊ดว่าไง” นาตาลีถามกลับ
“ฉันก็บอกปัดไปว่าฉันตื่นสาย แต่ฉันก็ตื่นสายจริง ๆ เลยพอจะอ้างได้”
“ฉันมีธุระนิดหน่อย อาจจะกลับค่ำ ๆ ถ้าแด๊ดถามเธอก็บอกแด๊ดว่าฉันออกมาทำงานกลุ่มกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง พอดีงานมีปัญหานิดหน่อยแล้วต้องส่งวันจันทร์นี้แล้ว” นาตาลีหาทางออกให้เพื่อน
“โอเค ก็ได้ฉันจะบอกแด๊ดไปอย่างนี้” ขวัญข้าวตอบรับ
ในเมื่อเพื่อนสาวไม่ยอมบอกความจริงเธอก็ขี้คร้านจะซัก ถ้ามีเรื่องอะไรเดี๋ยวนาตาลีก็เล่าให้เธอฟังเอง ดังนั้นทั้งคู่จึงตัดสายไป
ขวัญข้าวเดินผ่านห้องนั่งเล่นเข้ามา เมื่อสายตาไปปะทะกับโซฟาที่เจ้าของบ้านกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เธอพยายามเดินผ่านตรงนั้นเพื่อที่จะขึ้นห้องของเธอไปให้เร็วที่สุด แต่เสียงทุ้มของพอลเรียกเธอไว้ก่อน
“ข้าวคุยกับยัยแนทแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ แนทออกไปทำรายงานด่วนที่มหาลัยค่ะ พอดีมีจุดต้องแก้แล้วต้องรีบส่งวันจันทร์นี้แล้ว” เธอตอบตามที่นัดแนะไว้กับนาตาลี
“แล้วข้าวล่ะ ไม่ต้องไปหรือ ให้ฉันไปส่งเธอดีมั้ย” พอลเสนอตัวอย่างใจดี
“ไม่ค่ะ ข้าวอยู่คนละกลุ่มกับแนท” เธอปฏิเสธและแอบคิดว่าถ้าเธอต้องออกไปจริงเธอขอไปเองดีกว่าที่จะต้องเห็นหน้าเขาตอนนี้ ในหัวเธอมันยังจำภาพเรือนกายแสนเซ็กซี่และอาวุธร้ายอันใหญ่โตของเขาอยู่เลย มันทำให้หัวใจของเธอสั่นระรัวไม่หยุด มันทำให้เธอรู้สึกอ่อนระทวยไปหมด และมันทำให้เธอเข้าหน้าเขาไม่ติดอย่างในตอนนี้ ถ้าเขารู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขาต้องแย่แน่
“โอเค” พอลตอบรับแล้วอ่านหนังสือพิมพ์ในมือต่อ
แม้จะเป็นประโยคพูดคุยปกติธรรมดา แต่ขวัญข้าวรู้สึกว่ามันต่างไปจากทุกครั้ง เธอไม่สามารถมองพอลได้อย่างเต็มตาอีกแล้ว ภาพแผ่นหลังแกร่งกับบั้นท้ายงอนงามที่กำลังขยับเคลื่อนไหวตอกลงไปในกายหญิงสาวคนเมื่อคืนจู่โจมเข้ามาในหัวเธออีกครั้ง
และอยู่ ๆ ความคิดแปลก ๆ ได้แทรกเข้ามาในหัวว่า ถ้าหากเขากำลังขับเคลื่อนเข้ามาในตัวเธอบ้างเธอจะรู้สึกอย่างไร ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นทันที และเลือดลมในกายเธอเหมือนกำลังจะตีกลับ ความครั่นเนื้อครั่นตัวจู่โจมเธออีกครั้ง และดูเหมือนว่าพอลเองก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ของเธอเขาจึงถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรไปข้าว ไม่สบายหรือเปล่า สีหน้าเธอไม่ค่อยดีเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ สงสัยเมื่อคืนจะอ่านหนังสือดึกไปหน่อย ข้าวขอตัวก่อนนะคะ” เธอรีบบอกปัดเพราะเธอไม่สามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป เธอกลัวว่าเธอจะหลุดกิริยาน่าอายต่อหน้าเขา
ขวัญข้าวรีบกลับขึ้นห้องอย่างรวดเร็วโดยมีพอลมองตามด้วยความเป็นห่วง พอถึงห้องปุ๊บเพื่อที่จะขจัดความคิดฟุ้งซ่าน เธอจึงคว้าหนังสือเรียนที่อ่านค้างไว้มาอ่าน แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเธอเลย ความร้อนรุ่มในกายของเธอไม่ได้ลดลงเลย ดังนั้นเธอตัดสินในว่าจะไปอาบน้ำอีกรอบเผื่อว่ามันจะช่วยดับอารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอในขณะนี้ได้