ตอนที่ 4

1490 Words
นิ้วยาวเรียวสีแทนยกขึ้นไล้แก้มนวลของหล่อนแผ่วเบา นาริกาตกอยู่ในมนต์ขลังทันที ไม่รู้สึกตัวใดๆ อีกจนกลีบปากอิ่มเย็นชืดของหล่อนถูกทาบประกบลงมาด้วยความร้อนผ่าวจากริมฝีปากบางเฉียบของเดนนิสนั่นแหละ หล่อนถึงได้รู้สึกตัว แต่หล่อนก็ไม่ขัดขืน... แถมยังให้ความร่วมมือกับจูบแรกในชีวิตสาวอย่างเต็มอกเต็มใจอีกต่างหาก เดนนิสแทบอยากจะเนรมิตสวนสวยตรงหน้าให้กลายเป็นห้องนอนเสียให้ได้ เมื่อแม่สาวน้อยที่ตัวเองมองเป็นแค่หมากในเกมเอาคืนคู่แค้นหวานกว่าที่คิดเอาไว้มากมายนัก หวานจนเขาแทบสติแตก ความหอมหวานที่เขาไม่ได้เตรียมตัวรับมาก่อน มันทำให้เขาเกิดความต้องการขึ้นมาอย่างรุนแรง เขาจูบจนเจ้าหล่อนร้องครางออกมานั่นแหละ ถึงได้สติผละออกห่าง ดวงตาคมกริบสีฟ้าจัดจับจ้องไปที่กลีบปากบวมช้ำเพราะจุมพิตเอาเป็นเอาตายของตัวเองด้วยความนิ่งอย่างใช้ความคิด ไม่เคยเลย... ให้ตายเถอะ ไม่เคยคิดว่าปากของผู้หญิงจะหวานหยดได้ถึงเพียงนี้ เขาจูบกับผู้หญิงมานับร้อยนับพันคน แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาต้องมานั่งร้องถามตัวเองว่าทำไมปากถึงหวานแบบนี้สักคน แถมลีลาการจูบตอบของเจ้าหล่อนยังเงอะงะราวกับนี่คือการเสียจูบครั้งแรกอีกต่างหาก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อแม่แองจี้นางฟ้าตัวน้อยที่นั่งหน้าแดงก่ำตรงหน้าของเขานี้ร่านร้อนยิ่งกว่าเพลิงกัลป์เสียอีก ใช่... หล่อนร้อนฉ่าเลยทีเดียว แค่ถูกจูบ... เจ้าหล่อนก็ร้องครางราวกับถูกอกถูกใจนักหนาแล้ว นี่ถ้าถูกเขาทำมากกว่านี้ล่ะ อย่างเช่น... เดนนิสเลื่อนตาคมกริบลงไปจ้องที่เนินอกขาวผ่อง เขาดูดอมปลายถันของหล่อนล่ะ เจ้าหล่อนจะร้องลั่นห้องแค่ไหน และแน่นอนว่าแม่แองจี้แสนหวานคนนี้จะต้องตอบสนองบนเตียงได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน เดนนิสสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อขับไล่ไอ้เจ้าความอยากจะกินแม่แองจี้ซะในสวนนี้ออกไปจากใจด้วยความยากลำบาก ขยับกายใหญ่โตเพื่อคลายความอึดอัดที่ซิปกางเกง ก่อนจะระบายยิ้มบางๆ ออกมา “ถ้าจะตบก็ตบได้นะครับแองจี้... แต่ผมอดใจไม่ได้จริงๆ คุณสวยมาก...” มือใหญ่คว้ามือบางขึ้นมาจูบหลังมือเบาๆ ทำเอานาริกาตัวสั่นสะท้านรุนแรง ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งก้มหน้าเล่นไปตามบทบาท ปล่อยให้ผู้ชายตรงหน้าล่วงเกินตามอำเภอใจ... “และก็หวานมากจนผม...” เขาหยุดพูดแค่นั้นขณะขยับตัวขึ้นมานั่งเกยข้างๆหล่อนบนม้านั่งตัวยาว ก่อนจะถือวิสาสะยกร่างอรชรของหล่อนนั่งซ้อนตักแกร่ง นาริกาตัวแข็งทื่อแต่ไม่ได้ปฏิเสธ เดนนิสเห็นสาวน้อยไม่ขัดขืนก็ยิ่งได้ใจนักจึงก้มลงจูบปากหวานอิ่มนั้นอีกครั้ง จูบแล้วจูบอีกจนพออกพอใจนั่นแหละถึงจะยอมปลดปล่อยสาวน้อยที่ระทดระทวยในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ “พอจะให้เกียรติผมด้วยการทานมื้อค่ำด้วยกันสักมื้อได้ไหมครับ” นาริการู้ดีว่าคนตัวโตไม่ได้คิดจะหยุดแค่มื้อค่ำในห้องอาหารหรูๆ เท่านั้นหรอก ผู้ชายคนนี้ร้อนแรง และอันตรายเหลือเกิน เขาพุ่งเข้าชนเป้าหมายทันทีหากถูกใจ และเขาคงไม่มีวันถอยหากยังไม่ได้ครอบครองหล่อนบนเตียง เมื่อคิดว่าค่ำคืนนี้จะต้องเจอะเจอกับอะไรสาวน้อยก็แก้มแดงระเรื่อ กายสาวอึดอัดจนปวดร้าว “เอ่อ...” “อย่าปฏิเสธผมเลยนะครับแองจี้... เราจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นยังไงครับ” “แต่ว่า...ฉัน... เอ่อ แองจี้...” “หรือว่าคุณไม่อยากให้ผมทำมากกว่าจูบล่ะ... อย่าบอกเชียวนะว่าคุณไม่ได้ต้องการผมเหมือนกับที่ผมกำลังจะเป็นบ้าเพราะไอ้ความอยากกินคุณ... อย่างรุนแรง...” คราวนี้พ่อคนตัวโตพูดออกมาตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเพื่อรักษาความเป็นสุภาพบุรุษใดๆ อีก นาริกาหน้าแดงจนแทบไหม้เพื่อนัยน์ตาสีฟ้าจัดของคู่สนทนามากเสน่ห์ก็บอกความหมายเดียวกันกับคำพูดออกมา เขากำลังต้องการหล่อน... อย่างมาก ร่างกายของเขาที่หล่อนบดเคล้าอยู่กับหล่อนบอกอย่างนั้น... “เอ่อ... แต่แองจี้ว่ามันเร็วไป...” “สำหรับผมมันนานเกินไปด้วยซ้ำ... ผมอยากจะกระโดดขึ้นไปจับดวงอาทิตย์เหวี่ยงลงน้ำทะเลซะเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำหากทำได้... เพื่อเราสองคนจะได้ทานมื้อค่ำด้วยกันเร็วขึ้น...” คนตัวโตหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็จับร่างบอบบางที่ตอนนี้เหมือนไร้กระดูกลงนั่งบนม้านั่งที่เดิม ก่อนที่เขาจะพาร่างกายที่แน่นหนั่นไปด้วยกล้ามเนื้อลุกขึ้นยืนค้ำศีรษะของหล่อน ดวงตาสีฟ้าจัดที่มองมานั้นอัดแน่นไปด้วยความหิวกระหายที่หล่อนเห็นแล้วก็วูบวาบไปทั้งช่องท้อง มาร์คอสคงจะพอใจที่แผนการทุกอย่างมันเดินทางมาถึงเร็วแบบนี้... แค่ครั้งแรกที่พบกันเดนนิสก็ตกหลุมที่ขุดล่อเอาไว้ซะแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยตั้งเป้าหมายเอาไว้หนึ่งอาทิตย์ แต่สำหรับหล่อนสิ... หล่อนกำลังรู้สึกคล้ายกับจะหายใจไม่ออก หากมีใครสักคนรู้ว่าหล่อนเกิดหลงรักผู้ชายที่ตัวเองรับหน้าที่มาหลอกลวงเข้าล่ะก็ คงจะน่าสมเพชน่าดูเชียวแหละ “เอาเป็นว่าทุกอย่างตกลงตามนี้ก็แล้วกันนะครับ แองจี้แสนสวย...” เขายิ้มมุมปาก เดินเข้ามาหา “ผมจะมารับคุณตอนหกโมงเย็น แต่งตัวสวยๆ นะครับ...” และริมฝีปากร้อนผ่าวก็ก้มลงจูบแผ่วเบาที่หน้าผากมนของหล่อนอย่างประกาศความเป็นเจ้าของทันทีเมื่อพ่อคุณโน้มตัวลงมาหาอีกครั้ง นาริกาตัวสั่นสะท้าน หน้าแดงแล้วแดงอีก จนคนมองอย่างเดนนิสอดแปลกใจกับความขี้อายที่แม่สาวน้อยตรงหน้าแสดงออกมาตลอดเวลาไม่ได้... หล่อนเสแสร้ง... ก็แค่การแสดงฉากหนึ่งเท่านั้น... แม้จะบอกตัวเองแบบนั้นแต่ความไร้เดียงสาที่ต่างไปจากสาวทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ทำให้เดนนิสอดรู้สึกดีอย่างประหลาดไม่ได้ ชายหนุ่มปล่อยตัวเองให้ดื่มด่ำกับความงดงามของแม่นางฟ้าตรงหน้าอยู่อีกหลายอึดใจ กว่าจะตัดใจเดินจากเจ้าหล่อนไปได้โดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับมามองอีก นาริกามองร่างสูงใหญ่ของผู้ชายที่พึ่งจะปล้นจูบแรกของตัวเองไปจนลับตา แล้วก็ต้องหน้าแดงแล้วแดงอีกด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนที่โจมตีที่เชิงกรานอย่างรุนแรง มือบางยกขึ้นลูบปากอิ่มที่ชอกช้ำเพราะรสจูบดุดันเอาแต่ใจของเดนนิสแผ่วเบาอย่างลืมตัว มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่วาเลนเดินเข้ามาหานั่นแหละ “ทุกอย่างเป็นไปตามแผน...” นาริกาหน้าแดงก่ำ เพราะมั่นใจว่าวาเลนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง “เดนนิส โอซิล ติดกับดักแล้ว” รอยยิ้มกว้างของคู่สนทนาที่พึ่งเดินเข้ามาเกิดขึ้นพร้อมๆ กับความวิตกกังวลบนใบหน้าของนาริกานั่นเอง หล่อน... จะทำยังไงดี? ตอนนี้หล่อนกลับรู้สึกไม่ต่างจากคนกำลังจมน้ำเลยแม้แต่นิดเดียว แม้หัวใจจะยอมรับว่าไม่ได้รังเกียจเดนนิส โอซิล แถมยังทำท่าจะตกหลุมรักเอาง่ายๆ อีกต่างหาก แต่... หล่อนกลัว... กลัวสายตาสีฟ้าคู่นั้น ยามที่มันพิโรธ... เดนนิสเป็นผู้ชายน่ากลัว เขาจะต้องขยี้หล่อนจนแหลกคามือแน่หากรู้ว่าหล่อนเป็นแค่สาวใช้ของผู้หญิงที่ตัวเองต้องการตัวเท่านั้น “คุณแองจี้แสดงได้ดีมากเลยค่ะ...” คำชมนั้นไม่ได้ทำให้แองเจลล่าตัวปลอมอย่างนาริการู้สึกดีขึ้นมาเลยแม้แต่สักนิด ตรงกันข้าม หล่อนยิ่งรู้สึกไร้ค่ามากเหลือเกิน ยิ่งเดนนิสหลงกลเร็วเท่าไหร่ หล่อนก็จะต้องถูกเขาเกลียดขึ้นเร็วเท่านั้น อีกไม่นาน... ใช่ไม่นานเลย... “ขอบคุณค่ะ...” นาริกาฝืนยิ้ม บังคับตัวเองให้ลุกขึ้นยืนจนได้ “งั้นเราไปเตรียมตัวกันดีกว่าค่ะ คุณแองจี้ยังมีสิ่งที่ต้องทำในคืนนี้อีกหลายอย่าง...” ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วสำหรับสาวใช้ต่ำต้อยอย่างนาริกา หญิงสาวทำได้แค่เพียงเดินตามหลังวาเลนกลับไปยังห้องสวีทของตนที่อยู่สูงขึ้นไปอีกสิบกว่าชั้นเท่านั้นเอง ทำได้แค่นี้จริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD