ตอนที่5 อายขึ้นมาเลย

1897 Words
สองชั่วโมงต่อมาแพรชมพูที่รู้สึกตัวตื่นหลังจากหลับคาโซฟาไปเกือบสองชั่วโมง มือบางลูบท้องปรอยๆอย่างรู้สึกหิวก่อนที่จะลองเดินไปหาของกินง่ายๆในห้องครัว เธอยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงและตอนนี้ก็หิวมาก "บ้านอีตาสองพี่น้องนี่ไม่มีอะไรกินเอาซะเลย" ผู้กองสาวบ่นอย่างโมโหก่อนที่จะหันไปเห็นของสดในตู้เย็นแต่อนิจจาหญิงสาวกลับทำประโยชน์อะไรจากมันไม่ได้ ในขณะที่ร่างบางแต่ทะมัดทะแมงกำลังวนเวียนอยู่ในห้องครัวร่างสูงหุ่นล่ำในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวก็เดินลงจากบันไดมาอย่างงัวเงียเล็กน้อย เขาเพิ่งจะตื่นหลังจากหลับไปเกือบชั่วโมงครึ่งเพราะคิดได้ว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเพราะยกกับข้าวให้กับหลานชายของต้นกลประจำเรือไปแล้วรวมทั้งนึกห่วงมาถึงเพื่อนร่วมชายคาคนใหม่ว่าหญิงสาวจะกินอะไรมารึยัง "หาอะไรอยู่เหรอครับ ผมช่วยหามั้ย" เจ้าสมุทรเอ่ยถามเมื่อมองเห็นเพื่อนร่วมชายคากำลังรื้อค้นหาของอยู่ในครัว แพรชมพูสะดุ้งนิดๆก่อนที่จะเลิกตกใจแล้วหาต่อ "บ้านคุณไม่มีอะไรที่มันกินง่ายๆบ้างรึไง อย่างมาม่า อะไรแบบนั้นน่ะ" แพรชมพูเอ่ยถามแต่ยังคงหาของที่มันกินง่ายๆโดนไม่ได้สนใจเจ้าของบ้านสักนิด "นานๆผมถึงจะกลับเข้าฝั่งทีก็แบบนี้ล่ะครับ แต่ก็มีของสดที่นายหมอกซื้อมาไว้เมื่อเช้านะ" เจ้าสมุทรเอ่ยบอกก่อนที่จะมองหน้าสาวห้าวเล็กน้อยแล้วเอ่ยอย่างสงสัย "ทำกับข้าวเป็นรึเปล่า?" "นี่มันยุคไหนแล้ว ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือนหรอก ว่าแต่แถวนี้มีร้านอาหารหรือร้านขายของชำบ้างมั้ย" แพรชมพูเอ่ยโวยก่อนที่จะถามอย่างไม่สนใจว่าเขาจะคิดอย่างไรกับผู้หญิงทำอาหารไม่เป็น "มีของสดในครัวสามสี่อย่าง คุณพอจะรอได้มั้ย ผมขอเวลา20นาที" ชายหนุ่มเอ่ยบอกก่อนที่จะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินเข้าไปในครัวแล้วหยิบเนื้อหมูไปล้างน้ำแล้วหยิบจับวัตถุดิษมาทำอาหารอย่างคล่องแคล่วจนแพรชมพูใบหน้าร้อนผ่าวอย่างอับอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 'อิตานี่ทำอาหารคล่องซะอายขึ้นมาเลยไอ้พราวเอ้ย' "เอ่อ...คุณหุงข้าวเป็นมั้ยครับ ผมไม่ได้ดูถูกนะครับอย่าเข้าใจผิด" เจ้าสมุทรเอ่ยถามก่อนที่จะเอ่ยอธิบายเมื่อรู้สึกว่าสิ่งที่ถามไปเหมือนกับการดูถูกผู้หญิง "แค่หุงข้าวฉันทำเป็นแหละ ไหนล่ะหมอหุงข้าว" แพรชมพูเอ่ยบอกก่อนที่จะถามหาแต่สายตากลมก็มองไปเห็นจึงเดินไปหยิลสิ่งที่ต้องใช้ เจ้าสมุทรมองสักพักก่อนที่จะสับหมูอย่างคล่องแคล่ว หมูทอดกระเทียม ผัดกระเพรา ไข่ดาวทอดสองฟอง และผัดคะน้าหมูกรอบและข้าวสวยร้อนๆสองจานถูกวางอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างน่ากินจนแพรชมพูลูบท้องปรอยๆดวงตากลมมองอาหารที่ชายหนุ่มทำอย่างหิวโหย "ลงมือสิครับผู้กอง รออะไรอยู่" เจ้าสมุทรเอ่ยบอกก่อนที่จะเริ่มหยิบช้อนขึ้นมา แพรชมพูที่ตอนแรกดูจะเกรงใจก็หยิบช้อนขึ้นมาตักนั้นตักนี่หมายจะตักเข้าปาก แต่ในขณะที่ผู้กองสาวกำลังจะได้ลิ้มรสชาติอาหารฝีมือนายทหารเรือหนุ่มเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้นหญิงสาวหันไปมองอย่างสงสัยมือบางยังค้างชะงักอยู่บริเวณคาง เจ้าสมุทรวางช้อนลงก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู "อ้าวเจ๊ดา มีอะไรรึเปล่าครับ" เจ้าสมุทรเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นดารินทร์ยืนอยู่หน้าประตูก่อนที่จะเชิญหญิงวัยกลางคนเข้ามาในบ้าน "เชิญเข้าบ้านก่อนครับเจ๊ดา" "เจ๊เห็นเมื่อเที่ยงผู้การยกข้าวกับแกงให้หลานผู้กองต้อมเลยคิดว่าคงยังไม่ได้ทานอะไรเลยเอามาให้นะคะ...เอ่อ ขอโทษค่ะเจ๊นึกว่าผู้การอยู่คนเดียวเลยมีข้าวมาถุงเดียวเอง" ดารินทร์เอ่ยบอกก่อนที่จะตกใจเมื่อเห็นมีใครอีกคนนั่งอยู่ในบ้าน "นี่ผู้กองแพรชมพูครับเจ๊ พอดีแฟลตห้องเต็มนายหมอกเลยฝากให้มาอยู่ที่นี่สักพัก คุณนี่เจ๊ดารินทร์ เจ้าของร้านข้าวแกงหน้าปากซอย" เจ้าสมุทรเอ่ยแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันก่อนที่จะเชิญดารินทร์นั่งกินข้าวด้วยกัน "ยินดีที่ได้รู้จักนะคะผู้กอง เจ๊มีแกงเขียวหวานกับแกงพะแนงนะคะผู้การแหม่อาหารน่าทานจริงๆของเจ๊จะเป็นหมันมั้ยเนี้ย" ดารินทร์เอ่ยทักทายผู้กองสาวก่อนที่จะเอ่ยบอกผู้การหนุ่มก่อนจะมองอาหารบนโต๊ะ "ไม่ขนาดนั้นครับเจ๊ ขอบคุณเจ๊นะครับอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาให้ถึงบ้าน" เจ้าสมุทรเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินไปตักข้าวให้ดารินทร์ "ดีแล้วล่ะค่ะที่สารวัตรพาให้ผู้กองมาพักที่นี่ เป็นสาวเป็นนางเป็นเจ๊ก็เป็นห่วง อยู่กับผู้การเนี่ยดีที่สุดแล้วไม่มีใครกล้ามายุ่งกับผู้การเมฆหรอกค่ะ ผู้การเป็นคนดีใครๆก็เอ็นดู นี่ถ้าหนูจันทร์โตกว่านี้สักสิบปียี่สิบปีเจ๊นี่ยอมยกลูกสาวให้เลย" ดารินทร์เอ่ยเล่าให้ฟังแพรชมพูยิ้มอ่อนๆก่อนที่จะตักข้าวเข้าปากแล้วฟังหญิงวัยกลางคนเล่าความดีของเจ้าสมุทรไปด้วย "นี่เมื่อช่วงสายนี่ก็ยกข้าวของตัวเองให้เด็กหลงทาง ว่าไปก็เดชะบุญของตาหนูนั้นนะคะผู้การถ้าไม่รู้ความสักหน่อยจำชื่อลุงไม่ได้ จำงานลุงไม่ได้คงได้วุ่นกัน" ดารินทร์เอ่ยบอกก่อนที่จะหันมาพูดกับผู้การหนุ่ม "จริงครับ แต่จะว่าไปผมก็ไม่เคยรู้เลยว่าต้อมมีหลานชายโตขนาดนั้นแล้ว" เจ้าสมุทรเอ่ยก่อนที่จะวางช้อนเมื่อกินข้าวจนหมดจานและอิ่มแล้ว "อิจฉาผู้กองต้อมล่ะสิค่ะ รออีกนิดนะคะเจ๊เห็นสารวัตรหมอกเทียวรับเทียวส่งหมอจ๋าอยู่ อีกไม่นานผู้การก็คงมีน้องสะใภ้และหลานๆวิ่งให้ไล่จับให้วุ่นเชียวล่ะ" ดารินทร์เอ่ยทีเล่นทีจริงก่อนที่จะยกน้ำขึ้นมาดื่มแล้วพูดต่อ "หรือถ้ารอไม่ไหวก็หาเมียกับเขาสักคนสิค่ะผู้การ เจ๊มีหลานสาวอยู่กรุงเทพหน้าตาสะสวย นิสัยก็ใช้ได้เชียว เดี๋ยวเจ๊เป็นแม่สื่อให้ บ้านจะได้ไม่เงียบแบบนี้" "อย่าเลยครับ ปกติผมก็ไม่ค่อยได้เข้าฝั่งอยู่แล้ว คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเอาชีวิตมาทิ้งกับคนไม่มีเวลาแบบผมหรอก รอนายหมอกจีบหมอจ๋ามาเป็นน้องสะใภ้ดีกว่า" เจ้าสมุทรเอ่ยบอกก่อนที่จะลุกขึ้นเก็บจานไปล้าง ทำเอาคนที่นั่งเงียบฟังอยู่นานรู้สึกอับอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก 'ตกลงอีตาคนนี้เป็นเกย์ป่ะเนี้ย ทำกับข้าวกับปลาก็เป็น ล้างจงล้างจานก็คล่องเชียว' "อุ๊ยตายจริง! เจ๊ลืมไปซะสนิทเลยว่าต้องไปรับหนูจิน เ**กลับก่อนนะคะว่างๆไปกินข้าวร้านเจ๊นะคะผู้กอง ผู้การ" ดารินทร์เอ่ยบอกอย่างนึกขึ้นได้ก่อนที่จะขอตัวกลับเพื่อจะไปรับหนูจิน หรือเดือนเด่น พี่สาววัย17ปีของจันทร์เจ้า "จริงสิ ผมยังไม่ได้พาคุณไปดูห้องเลย เชิญทางนี้ครับ" เจ้าสมุทรเอ่ยขึ้นหลังจากที่ดารินทร์ออกไปได้ไม่นานก่อนที่จะนำหญิงสาวไปที่ห้องชั้นบน "ห้องข้างๆนี่คือห้องของผม ถัดจากห้องของผมไปทางนั้นเป็นของนายหมอก ส่วนห้องถัดไปเป็นห้องน้องชายอีกคน...ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาในประโยคสุดท้าย เดิมทีเขามีน้องชายสองคนน้องสาวหนึ่งคน และน้องสาวบุญธรรมอีกหนึ่งคน แต่เมื่อหกปีก่อนเขาต้องสูญเสียน้องชายที่เป็นนายทหารเรือเหมือนกันไปในท้องทะเลเพื่อปกป้องไว้ซึ่งกฏหมายทางทะเล และในอีกสามปีต่อมาเขายังต้องสูญเสียน้องสาวไปอีกจนขนาดที่เจ้าพระยายังไม่อยากกลับเข้ามาในบ้านเพราะกลัวจะต้องคิดถึงน้องๆส่วนน้องสาวบุญธรรมกับพ่อแม่เองก็ย้ายไปอยู่บ้านที่ภูเก็ตไปอยากกลับมาที่นี่เท่าไหร่นัก "นี่ห้องน้องมิน...น้องสาวผม คุณพักห้องนี้แล้วกัน ทุกๆห้องจะมีประตูเชื่อมต่อกันนี่กุญแจครับถ้าไม่ไว้ใจผมก็ล็อคไว้เลย" เจ้าสมุทรเอ่ยก่อนที่จะยื่นกุญแจให้ "ตามสบายนะครับ ผมขอไปข้างล่างก่อน" แพรชมพูฟังที่ชายหนุ่มบอกก่อนที่จะพยักหน้าแล้วเปิดประตูห้องเข้าไปไม่ได้ใส่ใจคนที่เดินลงไปสักนิด สายตาคมมองบรรยากาศในห้องก่อนที่สายตาจะไปปะทะเข้ากับกรอบรูปที่มีรูปถ่ายของหญิงสาวในเครื่องแบบตำรวจใบหน้าดูห้าวๆใบหน้าคล้ายๆสารวัตรหนุ่มและผู้เป็นพี่ "ร้อยตำรวจเอกหญิงจันทร์เจ้าขา สุทธิรักษ์ศิระภักดีน้องสาวอีตาสองคนนั้นสินะ" แพรชมพูอ่านชื่อก่อนที่จะหันไปมองอีกรูปนึงที่ถ่ายรวมกันสามคนหญิงสาวหนึ่งเดียวในรูปยืนอยู่ตรงกลางในชุดเครื่องแบบยศร้อยตำรวจตรีด้านขวาคือเจ้าพระยาที่อยู่ในชุดเครื่องแบบยศร้อยตำรวจเอกและด้านซ้ายคือเจ้าสมุทรที่กอดคอหญิงสาว เขาแต่งกายด้วยชุดขาวตำแหน่งตอนนั้นคงเป็นนาวาตรี ถัดจากรูปนั้นมีรูปของชายอีกคนในชุดทหารเรือยศเรือตรียืนกอดคออยู่กับหญิงสาวใบหน้าของชายในรูปทำให้แพรชมพูรู้สึกคุ้นๆชอบกล "เหมือนเคยเจออีตานี่ที่ไหนนะ คลับคล้ายคลับคลาแต่จำไม่ได้ คงเป็นพวกเลวๆที่เคยเจอล่ะมั้ง" แพรชมพูเอ่ยกับตัวเองก่อนที่จะเดินไปนั่งลงบนเตียง ห้องนี้ไม่ได้ดูเก่าหรือรกเลยสักนิดบ่งบอกได้อย่างดีว่าได้รับการปัดกวาดดูแลอยู่ตลอด "ชะตะ... มรณะ... ตายเมื่อสามปีก่อนเหรอ คงเป็นพี่น้องที่รักกันมากสินะ เฮ่อเราไปอยู่ที่ไหนนะพลอย" แพรชมพูเอ่ยรำพึงก่อนที่จะคิดไปถึงน้องสาวของตนที่หายไปเกือบเจ็ดปีอย่างคิดถึงก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนและหลับไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD