บทที่4. กรงสวาทแดนเถื่อน

1608 Words
“เท่าไหร่ล่ะที่เธอต้องการ?” ชายหนุ่มถามเหมือนมันเป็นปัญหาขี้ผงสำหรับคนมีเงินอย่างเขา “คุณหมายถึงอะไรคะ!!!” “หมายถึงเงินที่เธอจะนำไปไถ่ที่ดินคืนมาไง ว่าเธอต้องการเท่าไหร่” “รสไม่มีอะไรค้ำประกันให้คุณนะคะ ถ้าคุณให้รสยืม รสมีแค่ตัวกับแรงงานที่ตอบแทนคุณได้” “แค่เธอไม่หนีก็พอ อีกอย่างเด็กสาวแบบเธอมาหลอกฉัน แล้วจะหนีพ้นก็ลองดูสิ” “รสไม่หนีคุณหรอกค่ะ เอกสารติดตัวซักชิ้นยังไม่มี รสจะหนีไปรอดได้ไงคะ” จรสจันทร์ยิ้มสดใส ความทุกข์ในใจกำลังถูกขจัด คลายความหวาดระแวงชายหนุ่มเบื้องหน้า เมื่อมีเจตนาดี อุตส่าห์ยืนมือให้ความช่วยเหลือ “หึๆ” เกอร์เตสหัวเราะแผ่วๆ ในลำคอ เขาหลุบเปลือกตาลงปิดบังแววตาเริงโลดของตัวเอง เมื่อใกล้จะได้ชิมเนื้อกวางแสนหอมหวานจนชุ่มฉ่ำใจ ที่สามไร่กับเงิน1ล้านบาทไทย เมื่อเทียบกับเงินเปโซของเม็กซิโกมันน้อยนิดจนเกอร์เตสเต็มใจยื่นมือเข้าช่วย เพื่อให้ได้เด็กสาวมาครอบครอง “ได้ซิ…เธอต้องการตอนไหนก็บอกมา แต่แน่ใจนะว่าเธอไม่มีข้อแม้ หากฉันมีข้อแลกเปลี่ยน” “แน่ใจค่ะ คุรอยากได้อะไรจากรส รสยอมให้คุณบงการทุกอย่างจะให้บุกน้ำลุยไฟที่ไหนก็ได้ ตามแต่คุณจะต้องการเลยค่ะ” เด็กก็ยังเป็นเด็ก ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนมีประสบการณ์สูง “ไม่ถึงบุกน้ำลุยไฟหรอกนะ งานสบายกว่านั้นเยอะ หึๆ” เกอร์เตสหัวเราะร่า เขาขันกริยาท่าทางของเด็กสาวที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมมายา หล่อนใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนดอกไม้แรกแย้ม “เงินเยอะขนาดนั้นรสไม่มีเอกสารรับนะคะ รบกวนคุณโอนให้พ่อกับแม่รสเลยได้ไหมคะ พ่อจะได้เอาไปไถ่ที่สวนคืนมาเลย รสจะเขียนจดหมายไปบอกพ่อเองค่ะ” “ได้ซิ เดี๋ยวฉันจะให้คนของฉันจัดการให้ เธอเตรียมหมายเลขบัญชีมาให้ฉันเถอะ เร็วที่สุดวันไหนล่ะ ไวไวก็ดีนะ ฉันไม่ได้ว่างทุกวันหรอก” “คุณรออยู่นี่อีกแปบได้ไหมคะ รสจะกลับไปเอาหมายเลขบัญชีธนาคารของพ่อที่ห้องรสมาให้” “ฉันขึ้นไปรอบนบ้านดีกว่า ไม่ไหวแล้วร้อนเกือบตาย เธอตามขึ้นไปแล้วกัน” เกอร์เตสกล่าวแบบสบายใจ ก่อนที่จรสจันทร์จะขยับตัว เธอชะงักนิดๆ ก่อนจะรีบปัดความกังวลออกไป เมื่อมันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยพ่อกับแม่ได้ “ค่ะ…” จรสจันทร์รับคำ แล้วจึงหมุนกายเดินจากไป เพื่อนำเอกสารสำคัญมาให้ชายหนุ่ม เธอจึงไม่ทันเห็นรอยยิ้มสมใจของเกอร์เตสที่ปรากฏขึ้นที่มุมปาก ชายหนุ่มเจ้าของบ้านนั่งเอนกายรอกวางน้อยก้าวมาติดกับอย่างกระหยิ่มใจ ใบหน้าคร้านคมมีแววตากรุ่มกริ่ม เขาครึ้มอกครึ้มใจจนต้องลุกขึ้นไปเปิดขวดบรั่นดี เทน้ำสีอำพันใส่แก้วใสๆ มานั่งละเลียดชิมอย่างสบายอารมณ์ กึกๆ เสียงประตูด้านหน้าบ้านเปิดออกดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบสงัด เกอร์เตสเหลือบมองก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันลงไปในลำคอรวดเดียวหมดแก้ว เอื้อมมือวางแก้วเปล่าไว้บนโต๊ะ แล้วจึงหยัดกายลุกขึ้นยืน ก้าวเดินตรงไปรอจรสจันทร์ที่หน้าประตู “อุ้ย!!!” จรสจันทร์อุทานอย่างตกใจ เมื่อโผล่พ้นประตูบ้านเข้ามาก็พบเจอเกอร์เตสแบบไม่ทันตั้งตัว เอวบางถูกฝ่ามือหนารั้งเข้ามาสู่อ้อมแขนที่กางรออยู่ อกอวบอิ่มกระแทกอัดแผ่นอกหนาหนั่นของชายหนุ่มอย่างแรงจนเจ็บจุก เกอร์เตสกระแทกริมฝีปากหนาหยัก บนเรียวปากอิ่มเมื่อหมดความยับยั้งชั่งใจ ทันทีที่ได้สูดกลิ่นหอมหวานจากเรือนกายของจรสจันทร์เขาบดเบียดกลีบปากหวานฉ่ำอย่างลุกลน และร้อนแรง สอดแทรกปลายลิ้นฉ่ำชื้นเข้าไปภายในโพรงปาก ซอกซอนเลาะเล็มกลีบปากหวานละไม จรสจันทร์ดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย มือเรียวพยายามดันลำตัวใหญ่โตออกไปสุดแรง แต่...แรงหญิงหรือจะสู้แรงชายได้ ในที่สุดร่างกายเจ้ากรรมก็หลงเพลิดไปกับความแปลกใหม่ที่ทำให้หัวใจเต้นเตลิด ดวงตากลมโตพลิ้มหลับ ไม่อยากทนมองความอดสูใจที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อความมึนมัวเข้าครอบงำจนหลงลืมตัวไปไฟพิศวาสอันร้อนแรงนั่นเสียแล้ว ปลายจมูกโด่งคมซอกซอนไปตามผิวกายเนียนละเอียด ฉกปลายลิ้นชิมผิวกายที่เฝ้ามองมานานอย่างกระหายหิว มือใหญ่กอบกุมเรียวแขนไว้จนแน่นค่อยๆ ดันลำตัวอ่อนบางไปจนสุดที่โซฟากลางห้อง มือหนากระชากเสื้อตัวหลวมโพลกของจรสจันทร์สุดแรง เมื่อมันช่างเกะกะสิ้นดี ...แคว๊ก... เสียงเสื้อเก่าๆ ปอนๆ ฉีกขาด จรสจันทร์จึงหลุดออกมาจากภวังค์หวาม เธอดิ้นรนอย่างอ่อนแรงอีกครั้ง “คุณ!!!. คุณปล่อยรสนะคะ ได้โปรด”เสียงหวานอ้อนวอนแผ่วเครือ เสียงสั่นพร่าเจือเสียงสะอื้นไห้ มือเรียวยกกุมอกเสื้อที่ขาดแล่งไว้จนแน่น เมื่อภายในไร้อาภรณ์อื่นใด เธอมีเสื้อผ้าน้อยชิ้น จึงไม่ได้สวมใส่ซับในตอนที่จะนอน มันจึงเป็นโอกาสอันดีที่เกอร์เตสได้ชื่นชมความงดงาม เมื่อเขากระชากเสื้อตัวใหญ่จนหลุดออกจากกัน ประทุมถันงดงามของวัยแรกแย้มก็เผยโฉม หน้าอกอวบอิ่มขาวเนียนกลมกลึง จนเกอร์เตสตะลึง!! เขามัวแต่จดจ้องจนลืมตัว จรสจันทร์จึงสามารถสลัดร่างกายหลุดออกมาจากวงแขนใหญ่ เธอวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไปแอบอยู่ข้างโซฟากว้าง เนื้อตัวสั่นเทา น้ำตาทะลักทะลายกลบใบหน้า “คุณจะทำอะไรรสคะ? ถ้าคุณยังจะเข้ามาใกล้รสอีกรสจะร้องให้พีลาช่วย” จรสจันทร์ขู่เสียงพร่า เมื่อชายหนุ่มก้าวท้าวตามมาติดๆ “เธอไม่ชอบสิ่งที่ฉันหรือไง เมื่อกี้เห็นกำลังเคลิ้ม ฉันพอใจเธอธรรมดาจะตาย ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปทำไมล่ะ พีลาไม่เกี่ยวกับเรื่องระหว่างเธอกับฉันนะ ถ้าเธอโวยวาย ที่คุยกันไว้ยกเลิก ฉันไม่ชอบคนเรื่องมาก” “คุณหมายความว่ายังไงกันคะ อธิบายให้รสเข้าใจหน่อย รสงงไปหมดแล้ว อยู่ๆ คุณก็เข้ามาทำแบบนี้กับรส คุณต้องการอะไรกันคะ” จรสจันทร์ถามกลับ เธอไม่รู้เจตนาของเขา “อย่ามาทำเป็นใสซื่อ ตัวเธอ… ทุกสิ่งบนร่างกายของเธอ นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ เธอไม่ใช่เด็กนะจรสจันทร์ น่าจะรู้ความต้องการของผู้ชายดีสิ” “ไม่!!…รสไม่ได้ตกลงกับคุณแบบนั้นค่ะ รสไม่เอาเงินคุณแล้วก็ได้ รสไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว” “ตามใจเธอสิ ฉันก็ไม่ได้ขาดแคลนอะไร ผู้หญิงในเหมืองพร้อมที่จะคลานขึ้นเตียงฉันอยู่แล้ว แค่ฉันพยักหน้าเรียกแค่นั้น” เกอร์เตสกล่าวเสียงขุ่นใจ เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากว้าง วาดแขนกำยำวางไว้เหนือพนักโซฟา ผ่อนลมหายใจร้อนแรงให้เบาบางลง “รสจะกลับไปที่เรือนพีลา คุณหลบออกไปซิคะ” “ก็ไปซิ ฉันไม่เคยปล้ำใคร” เกอร์เตสกล่าวเสียงเย่อหยิ่ง เขาหลุบเปลือกตาลงท่าทางไม่ยี่หระเหมือนที่ตนเองกล่าวออกไป จรสจันทร์เถียงในใจ ‘ชิ…ไม่เคยปล้ำแล้วที่ฉีกเสื้อรสขาดนี่เขาเรียกทักทายแบบเม็กซิโกล่ะมั้งคะ’ มือเรียวกุมสาบเสื้อไว้จนแน่น “เธอแน่ใจนะจรสจันทร์ การที่เธอหันหลังไปจากฉันมันคือวิธีที่ถูก เธอมีวิธีช่วยเหลือครอบครัวของเธอได้แล้วสินะ” เสียงทุ้มกังวานดังตามหลังมา จนเธอหยุดชะงัก!! สีหน้าบ่งบอกความสับสน แต่ก็จนใจ เมื่อข้อเรียกร้องของเกอร์เตส มันมากเกินกว่าที่เธอจะแบกรับไหว เด็กสาววัย20ปีคิดทบทวนในใจ เธอละล้าละลังตัดสินใจไม่ถูก เมื่อมีเหตุการณ์บีบบังคับ และนี่เป็นหนทางเดียว...ก่อนที่จะสายเกินแก้ “เอ่อ…” “ว่าไงล่ะ จรสจันทร์?” เกอร์เตสถามย้ำ เขาลืมตาขึ้น แววตาคมดุจ้องมองแผ่นหลังบอบบาง เขากระหยิ่มใจ เมื่อท่าทางของคนตรงหน้ากำลังละล้าละลัง “รส…รส” “1ล้านกับค่ำคืนฉ่ำหวานกับฉัน จะไม่มีใครรู้ นอกจากเธอกับฉัน ฉันจะขึ้นไปรอข้างบน ตัดสินใจได้ก็ตามขึ้นไปล่ะ” ชายหนุ่มหยัดกายขึ้นยืน ทอดตามองจรสจันทร์ ก่อนจะหมุนกายเดินจากไป เมื่อหล่อนไม่มีทางเลือกอื่น ความหวานฉ่ำที่เขาต้องการ คงได้สมใจในคืนนี้ “พ่อจ๋า…แม่จ๋า…รสขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเครือเอ่ยขึ้นอย่างละห้อยละเหี่ย เธอไม่มีทางเลือก นี่เป็นทางเดียวที่จะช่วยบิดา มารดาได้ หยดน้ำตาเม็ดเล็กๆ หลั่งริน เมื่อตัดสินใจทำเรื่องน่าละอาย เธอจำเป็นต้องใช้ร่างกายแลกเงิน ทำตัวไม่ต่างกับโสเภณี เท้าสั่นๆ ขยับเดินขึ้นบันไดที่ทอดยาวขึ้นไปชั้นบน เสียงฝีเท้าแผ่วๆ ท่ามกลางความเงียบ ทำให้ชายหนุ่มที่นอนรอบนเตียงกว้างยิ้มมุมปาก “เงินซื้อได้ทุกสิ่งจริงๆ” ริมฝีปากหนาหยักรำพึงออกมา ...กึก…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD