“หน้าตาก็ดีนะ ไม่น่าปากแบบนี้เลย” พวงชมพูเอ่ยออกมาพร้อมทั้งถอนหายใจ ใจจริงอยากจะด่าว่าปากหมาด้วยเถอะ แต่กลัวโดนตบเพราะว่าผู้ชายสมัยนี้ไม่ได้อ่อนโยนต่อผู้หญิงแล้ว เธอยังไม่อยากเบ้าตาช้ำหรือว่าปากแตกเพราะว่าไอ้ผู้ชายรูปหล่อแต่นิสัยเสียคนนี้
“ถ้าหน้าตาดีต้องปากแบบไหนล่ะ” ทิวเขาเอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้ม ป้าคนนี้เป็นอะไรก่อนจ้องแต่จะหาเรื่องเขา เขาไม่รู้เลยเถอะว่าไปทำอะไรให้เธอ
“ก็ปากไม่หมาไง เขาถึงจะเรียกว่าเพอร์เฟค แต่อย่างนายนี่ฉันบอกเลยว่ายังห่างกับคำว่าเพอร์เฟคอีกเยอะ” พวงชมพูตอบกลับไปด้วยความหมั่นไส้ นี่ถ้าเขารู้ว่าเขาเรียกเธอว่าป้าอยู่ในใจ ป่านนี้ไม่กรีดร้องเรียกหาความยุติธรรมแล้วเหรอ
“เอาเถอะป้า จะว่ายังไงก็ว่าไป ว่าแต่ป้ามาดักผมทำไม” คนที่โดนด่าว่าปากหมากรายๆ ก็ตอกกลับเธอทันทีด้วยการเรียกเธอว่าป้า แน่นอนว่าพวงชมพูไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไอ้หมอนี่มันน่าจะเป็นรุ่นน้องเธอไม่กี่ปี แต่มันบังอาจมาเรียกเธอว่าป้า มันบังอาจมากจริงๆ
“นี่นายมันเหลือขอจริงๆ ฉันควรจะพูดธุระของฉันให้จบสินะ จะได้ไม่ต้องเจอหน้าคนอย่างนายอีก” พวงชมพูเอ่ยออกมาด้วยความหมั่นไส้ เธอเสียเวลามากเกินไปแล้วกับผู้ชายอย่างไอ้เด็กเมื่อวานซืนนี่ เธอควรจะตำหนิเขาแล้วก็ไป เขาจะได้ไม่ไปทำแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นอีก
“งั้นก็พูดมาสิ ผมก็จะได้รีบไปเหมือนกัน ไม่ต้องมาอยู่ทนฟังมนุษย์ป้าอย่างป้าพล่ามอยู่แบบนี้” ยิ่งทิวเขาเห็นว่าเธอโกรธเขาก็ยิ่งสะใจ แล้วที่เขาเรียกเธอว่าป้าน่ะนะ มันไม่ใช่เพราะว่าเธอหน้าแก่มากหรอกนะ แต่การแต่งตัวของเธอต่างหากล่ะที่เป็นที่มาของคำว่าป้า คนอะไรสวยนะ แต่เต่งตัวไม่เป็นเลย
“นายขับเจ็ทสกีเมื่อกี้นายเกือบจะชนฉัน ไม่เห็นเหรอว่ามีคนยืนอยู่ นี่กะจะเป็นฆาตกรให้ได้ใช่มั้ย” พวงชมพูรีบต่อว่าเขา เพราะรู้สึกว่าการคุยกับเขา มันเสียพลังชีวิตไปมากเหลือเกิน เธอต้องรีบคุยกับเขาให้จบ เขาจะได้ไปจากที่นี่เสียที อุตส่าห์อยู่กับเสียงคลื่นอย่างมีความสุข อยู่ดีๆ ก็มีตัวมารมาขัดขวางความสุขซะอย่างนั้น สงสัยความซวยจะยังไม่หมดไปแน่ๆ เลย
“แล้วเมื่อกี้ป้ายืนอยู่ตรงไหนไม่ทราบ” พอชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวต่อว่าเขาด้วยเรื่องอะไร เขาก็ถามกลับไปทันที พร้อมกับรอยยิ้มที่มันออกไปทางเยาะๆ โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ