“คนแก่ก็อย่างนี้แหล่ะนะ ตกใจง่าย ขวัญอ่อน มาเด้อขวัญมา มาอยู่กับเนื้อกับตัวเจ้เม่ย” รุ่นร้องคนสนิทไม่ได้สลด แถวทำพิธีเรียกขวัญเหมือนอย่างที่คนอีสานเขาทำกัน แต่ไม่ได้จริงจังเลยสักนิด มันเต็มไปด้วยความขบขันเสียมากกว่า
“อย่ามาย้ำปมสิ ทุกวันนี้หน้าไปเยอะมากแล้ว ถ้าใครเห็นคงว่าสามสิบขึ้นแหล่ะ” พวงชมพูเอ่ยออกมาด้วยความเศร้าใจ ยังไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัยทำงานเลย นี่กลับจะแก่แล้วเหรอ มันไม่ยุติธรรมจริงๆ เรื่องเศร้าของคนวัยใกล้สามสิบสินะ
“เจ้ไม่ต้องคิดมากหรอก อีกไม่นานน้องก็จะตามเจ้ไปติดๆ น่ะแหล่ะ งานแบบนี้นะ ระดับความเครียดเกินสิบ รับรองแก่ก่อนวัยแน่ๆ” ปาวรีเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ามุ่ย เพราะว่างานของรุ่นน้องอย่างเธอก็เครียดไม่เบา ดีแค่ว่าหัวหน้าไม่ได้เกลียดเธอแล้วก็แกล้งเธอเหมือนอย่างที่ทำกับพวงชมพูเท่านั้นแหล่ะ เธอก็เลยพอจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสงบก็เท่านั้นเอง
“เริ่มอยากออกจริงๆ จังๆ แล้วสิ ติดอยู่แค่เรื่องเงินอย่างเดียวสินะ” พวงชมพูเอ่ยออกมาด้วยท่าทางเซ็งๆ บรรยากาศการทำงานที่มันย่ำแย่ขนาดนี้ อยู่ได้มาหลายเดือนก็นับว่าเก่งแล้วล่ะ แต่พอจะออกก็ติดที่ว่าออกไปแล้วจะไปทำอะไร มันนึกไม่ออกจริงๆ ชีวิตนี้มีแต่งานประจำ อยู่ในเซฟโซนของตัวเองตลอด พอจะต้องคิดหาอะไรทำหากว่าจะต้องออกจากงาน มันกลายเป็นว่าเธอเห็นตนเองเป็นคนไร้สมรรถภาพไปหมด ไม่ว่าจะคิดทำอะไรก็ทำไม่เป็น หนทางข้างหน้ามันช่างมืดมนเสียจริง
“ออกไปเลยเจ้ ออกไปหาสามีรวยๆ ถ้าเรามีสามีรวยๆ เราก็ไม่ต้องทำงาน” ปาวรีเอ่ยออกมาเพราะว่านี่มันคือความฝันของเธอ เผื่อว่าสาวรุ่นพี่จะเคลิ้มตาม
“ไม่ล่ะ เจ้มีศักดิ์ศรีพอ เจ้ไม่มีทางไปเกาะใครกินหรอก ลูกผู้หญิงเราต้องเดินด้วยตัวเองสิ ถึงเดินหน้าต่อด้วยความภูมิใจ” พวงชมพูเอ่ยออกมากด้วยความมุ่งมั่น
“โถ่!! สมัยนี้เขาไปถึงไหนแล้วเจ้เม่ย มีเงินเท่ากับมีความสุข ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก แล้วยิ่งได้กินเด็กยิ่งอมตะ มีแต่จะสวยวันสวยคืน” ปาวรีเอ่ยด้วยท่าทางเพ้อฝัน สาวรุ่นพี่ถึงกับส่ายหน้าน้อยๆ เพราะว่าแนวคิดของเธอและปาวรีต่างกันลิบลับเลย เธอไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องหาสามีรวยๆ เธอมีความสุขกับเงินที่เธอหาได้ ถ้าเธอไม่มีปัญหากับหัวหน้า คนที่ไม่กล้าเสี่ยงอย่างเธอก็คงไม่คิดเรื่องที่จะลาออกหรอกนะ เพราะมันหมายถึงว่าเธอเอาอนาคตที่เหลือของตนเองไปเสี่ยง โดยไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเลย