กชนิภาสะดุดลมหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเขาเลื่อนมือขึ้นมากอบกุมเนินเนื้อหนักอึ้งที่ถูกบราเซียหุ้มไว้อย่างหมิ่นเหม่ ขณะที่ริมฝีปากร้อนผะผ่าวจูบไล่ไปตามลำคอระหงจนถึงแอ่งชีพจรที่เต้นระรัวด้วยความกลัวจับใจ เธอพยายามสะบัดเท้าใส่เขา แต่ร่างใหญ่หนาก็ทับขาเธอเอาไว้อย่างรู้ทัน ร่างงามกระตุกเฮือกเมื่อริมฝีปากร้อนฉ่าเลื่อนไล่ลงมาถึงเนินอกที่เบียดชิด ก่อนฝังปลายจมูกลงและสูดหายใจเข้าเนิ่นนาน เขาเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าเหมือนจะหลอกให้เธอตายใจ
เพราะในอีกวินาทีถัดมา มือนั้นก็กระตุกบราเซียของเธอจนขาดแควกติดมือ!
กชนิภาหวีดร้องในลำคอก่อนตามด้วยอาการสะอื้นจนตัวโยน เธอพยายามดึงมือออกจากผ้าที่พันธนาการไว้กับหัวเตียงอย่างสุดความสามารถจนข้อมือบอบบางแดงเป็นปื้นห้อเลือดและผ้าบาดข้อมือจนเลือดไหลซิบ
ในขณะที่จักรธนเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ยังคงแสดงให้เห็นว่าอีกฝั่งยังคงอดทนถือสายเงียบอยู่แบบนั้น
ดี! ความอดทนสูงกันนักก็ดี!
พ่อเลวๆ ที่ฟังอยู่ จะได้รู้ว่าความรู้สึกของคนที่ได้เห็นว่าคนที่ตนรักสุดหัวใจถูกทำร้ายจนปางตายต่อหน้าต่อตาแต่ช่วยเหลือไม่ได้มันเป็นยังไง!
“อย่า... ได้โปรด...” เธอกระซิบร้องขอเสียงเบายิ่ง พยายามไม่ให้ดังไปถึงโทรศัพท์ที่เปิดลำโพงทิ้งไว้ สติสัมปชัญญะหวิดจะวิดดับอยู่รอมร่อ “อย่าทำฉันเลย...”
จักรธนชะงักมือที่กำลังฟอนเฟ้นร่างอรชรเต็มไม้เต็มมืออย่างรุนแรงดิบเถื่อน เขามองสบสายตาเว้าวอนที่มองมาอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรงกำลัง หากแต่เปี่ยมด้วยความหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากเขาอย่างที่จักรธนไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็น
ชายหนุ่มเลื่อนมือไปแตะใบหน้าหวานละมุนอย่างเผลอไผล เลือดในกายร้อนฉ่าจนบ้านทั้งหลังแทบจะลุกไหม้
เขาแทบจะลืมไปเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ในขณะที่โน้มลงไปบดจูบริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เย็นชืดแต่หวานล้ำอย่างเหลือเชื่อ มือทั้งสองเลื่อนลูบไปตามส่วนโค้งส่วนเว้าของวัยสาวอย่างหลงใหล เนื้อตัวเธอเหมือนขนมหวาน เหมือนมาร์ชเมลโล่นุ่มเนียนที่หวานหอมนวลเนียนไปทั่วทั้งเนื้อทั้งตัว
ยิ่งร่างบอบบางระทดระทวยอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรงขัดขืน เขาก็ยิ่งจมดิ่งลงกับตัณหามืดดำที่กำลังเผาผลาญจนแทบหลงลืมตัวตน
“บัว...”
เอ่ยเรียกชื่อเธอตามที่ได้ยินมาจากกสิณอย่างไม่ได้สติขณะขยับปลายนิ้วโป้งหยอกล้อปลายยอดของบัวงามทั้งสองและพรมจูบไปทั่วเนินอกจนคนใต้ร่างยิ่งตัวสั่น กชนิภาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากกลัวและเกลียด
เขากำลังจะข่มขืนเธอ!
เขาเป็นคนเลวที่บีบบังคับโดยที่เธอไม่เต็มใจ!
ร้องบอกตัวเองอยู่ในใจเท่าไรก็กลับขับไล่ความรู้สึกวาวหวิวที่ถูกจุดขึ้นมานั้นไม่ได้เลยจนเธอละอายและโกรธเกลียดตัวเอง ยิ่งกว่าเกลียดคนที่กำลังบดจูบลูบคลึงเนื้อตัวเธอเสียอีก
“ไม่นะ...”
รวบรวมสติร้องบอกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนรีบกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางไว้เมื่อเขารับเนินเนื้ออวบหยุ่นไว้ในปากข้างหนึ่ง ความร้อนและเรียวลิ้นที่ดูดดึงไล้คลึงทำให้เธอกำมือแน่นด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด กชนิภาพยายามหนีบขาแน่นเมื่อเขาพยายามสอดมือเข้าไปใต้ซับในตัวจิ๋ว แต่จักรธนกลับสอดขาเข้ามากันไว้ และเลื่อนไล้ปลายนิ้วเข้าไปในความฉ่ำชื้นนั้นอย่างง่ายดาย
“อย่า...”
“อย่าอะไร” เขาเลื่อนใบหน้าขึ้นมากระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างแก้ม “อย่าหยุดใช่มั้ย”
หญิงสาวหวีดร้องอื้ออึงในลำคอเมื่อริมฝีปากกระด้างบดจูบลงมาอย่างเร่าร้อนรุนแรง และหิวกระหายจะครอบครองเธอทั้งตัว ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาเมื่อหลอกล่อจนเธอเผยอริมฝีปากรับ ขณะปลายนิ้วแข็งแกร่งไล่คลึงกลางกายสาวผะแผ่วก่อนกอบกุมเต็มไม้เต็มมือและกำลังจะสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปสำรวจภายใต้พุ่มไหมอ่อนนุ่ม
หากไม่ใช่ว่าโทรศัพท์นั้นส่งสัญญาณอะไรบางอย่างมาเสียก่อน
ตู๊ด...
สายหลุด!
จักรธนครางในคอชิดริมฝีปากอวบนุ่มอย่างโกรธตัวเองนักที่ปล่อยให้ความปรารถนามืดดำครอบครองความคิดจนลืมไปแล้วจริงๆ ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่!
ชายหนุ่มผละออกจากร่างที่แดงเป็นปื้นไปทั่วเพราะฝีมือเขา เธอหอบหายใจรวยริน ปิดเปลือกตาลงอย่างหมดสิ้นกำลัง
ก่อนที่ใบหน้างามจะซวนเซพับลงไปพร้อมกับสติสัมชัญญะของกชนิภา