เมื่อเดินเข้ามาใกล้ล็อบบี้แล้ว หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรงหนัก เห็นแผ่นหลังมั่นคงดั่งภูผา ของใครบางคนที่คุ้นเคยกำลังบดบังทุกสิ่งในความรู้สึกของเธอ คิดจะหลบไปอีกทาง แต่ก็ช้ากว่าดวงตาดุจเหยี่ยวคู่นั้นของเขา
“จะหนีไปไหน ลืมแล้วเหรอว่าเรามีนัดกัน” ปราณธรดักด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ พาตัวเองเข้ามาใกล้ ตาคมพิศมองสาวน้อยในเสื้อยืดกางเกงยีนขาด ๆ แล้วไหวหน้าเล็กน้อย ‘เด็กกะโปโล’ คำนี้ผุดขึ้นในหัว ถึงกระนั้นเขากลับชอบนะ ที่ผ่านมายอมรับเลยว่าผู้หญิงที่เขาควงหรือนอนด้วยมีแต่เซ็กซี่ และดูเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น แล้วทำไมเดี๋ยวนี้รสนิยมของเขาถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้ พีรดาดูผอมบาง รูปร่างเหมือนเด็กมัธยม ใบหน้าเรียวสวยหวาน น่ารักเหมือนเด็กไม่มีความเป็นสาวเลยสักนิด แต่ในความน้อย ๆ กลับลงตัว เพราะเขาสัมผัสมาหมดแล้วทุกซอกไม่เว้นว่างในเรือนร่างนี้
“คุณจะให้ฉันทำอะไรบอกมาได้เลยค่ะ” เสียงหวานใสของเด็กสาวตรงหน้าดึงให้ปราณธรหลุดจากความคิดเกี่ยวกับเธอ ปราณธรคิดว่าเวลานี้เขาควรจะหากิจกรรมอะไรที่เขาไม่ได้ทำมาเกือบเดือนครึ่งแล้วทำกับเธอดีกว่า เพราะหลังจากวันเกิดผ่านไปเป็นเดือนแล้ว ไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีก ทั้งที่เมื่อก่อนไม่มีคืนไหนที่ว่างเว้นเรื่องผู้หญิงเลย
“ไปกัน”
“ไปไหนคะ?” พีรดาเอ่ยถามภายใต้หัวใจเต้นกระหน่ำ
“ก็ไป…” ชายหนุ่มหยุดคำพูดก่อนจะยิ้มในหน้า เมื่อเห็นดวงตากลมใสประกายความวูบไหวราวกับหวั่นกลัว
“คุณคิดว่าไงล่ะ อย่าลืมสิว่าคืนนี้ผมซื้อรถที่คุณบอกเมื่อกี้หมดแล้วนี่”
พีรดาไม่เถียง หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มต้อย ๆ อย่างว่าง่าย ทว่าในใจกลับคิดหาวิธีเอาตัวรอดว่าจะทำยังไงไม่ให้เสียตัวให้ผู้ชายคนนี้อีก เมื่อเดินมาถึงรถยนต์สมรรถนะสูง พีรดารู้ว่าอันตรายคืบคลานใกล้เข้ามาแล้ว หนทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากเขาก็คือ…
“คุณปราณต์คะ กวางปวดท้อง ปวดมาก ปวดจนเดินไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอพูดพร้อมนิ่วหน้าคิ้วขมวด ย่อตัวลงนั่ง ขณะที่คนที่ยืนพิงรถอยู่เริ่มใจไม่ดี ที่เห็นวงหน้าเล็กแดงนิด ๆ ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาหมายจะอุ้มสาวน้อยนั่งงอเหมือนกุ้งโดนน้ำร้อนลวก แต่พีรดายกมือห้ามชายหนุ่ม
“อย่าเข้ามาค่ะคุณปราณต์ กวางขอนั่งพักสักครู่ได้ไหมคะ?”
“ไม่ได้! ปวดท้องหนักขนาดนี้อาจเป็นไส้ติ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ต้องไปหาหมอ” สีหน้าเคร่งเครียดพอ ๆ กับน้ำเสียง พีรดาที่แกล้งปวดท้องกลับส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว
“กวางเป็นโรคกระเพาะ อาจเป็นเพราะกวางยังไม่ได้กินมื้อเย็นอาการเลยกำเริบ กวางขอนั่งก่อนสักพักนะคะ” พีรดาแสร้งพูดเสียงอ่อย ปั้นหน้าเจ็บปวดสุด ๆ พร้อมกับคิดว่า เธอไม่สบายแบบนี้ชายหนุ่มคงไม่ทำอะไรเธอหรอก ถ้าเขาปล่อยเธอไป แล้วทิ้งเธอไว้ที่นี่ เธอจะรีบชิ่งหนีในทันทีที่เขาขับรถออกไป
“งั้นฉันจะพาเธอไปกินข้าวต้มแถว ๆ นี้” กล่าวจบ ปราณธรช้อนอุ้มเธอขึ้นมาไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ
พีรดาที่เข้ามานั่งในรถแล้วยังแสร้งขมวดคิ้วเป็นปม และยังคงเกาะกุมหน้าท้องราวกับปวดปางตาย ส่วนคนที่ขับรถมองเธอพลางขับรถไปพลาง ดวงหน้าคมเข้มปรากฏรอยยิ้ม… พอขับมาถึงร้านเจ้าประจำ ชายหนุ่มนำรถเข้าไปจอด ก่อนจะเอ่ยถามคนหน้านิ่วด้วยความเป็นห่วงว่า
“ไหวหรือเปล่า?”
“ไหวค่ะ” พีรดาผงกหัว ลงจากรถตามชายในชุดสูทเข้าไปในร้านด้วยรอยยิ้มพราย เธอไม่คิดว่าปราณธรจะหลอกง่ายเช่นนี้ ดีเหมือนกัน วันนี้ได้กินข้าวฟรีจะได้ประหยัดเงินไปอีกหนึ่งมื้อ
“เลือกเลยนะว่าอยากกินอะไร” เขาบอกพลางเลื่อนเมนูมาให้เธอดู พีรดารับมาเปิดดูเธอเลือกข้าวต้มกุ้ง ขณะที่ผู้ชายตรงหน้าไม่สั่งอะไร
“คุณไม่กินหรือคะ?” คิ้วสวยภายใต้ดวงตากลมโตเลิกขึ้น คล้ายสงสัย
“ผมไม่หิว อยากกินอะไรสั่งเลยนะ จะสั่งกลับบ้านเอาไปฝากแม่ด้วยก็ได้” ปกติปราณธรมักจะคิดเผื่อคนอื่นเสมอ ความใจดีมีเมตตานี้คงได้มาจากมารดาที่จากไปแล้วตั้งแต่เขายังเด็กมั้ง พีรดาที่ได้ยินคำว่าแม่ก็ใจแป้วขึ้นมาทันที ตอนนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้างนะ
ปราณธรมองสาวน้อยแสนเจ้าเล่ห์ รู้ทั้งรู้ว่าเธอแกล้ง แต่เขาก็ยอมเล่นด้วย เมื่อกี้ในลานจอดรถ สาวน้อยแค่แสร้งทำเท่านั้นเขาดูออก ตอนนี้ดูก็รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ทำไมจู่ ๆ ดวงหน้าหวานถึงหม่นเศร้าชัดขนาดนี้
“เป็นอะไรอีก ซึ้งจนจะร้องไห้เลยหรือ?” ปราณธรเลิกหน้าถามเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้ากะพริบตาถี่ ๆ ราวกับจะไล่น้ำตาให้ไหลย้อนกลับเข้าไปในหน่วยตา แล้วตอนนี้ดวงตาสีน้ำผึ้งคู่นั้นก็เริ่มมีน้ำใส ๆ คลอเบ้า
“เปล่าค่ะ กวางขอเอากลับไปกินที่บ้านได้ไหมคะ กวางอยากกลับบ้านแล้วค่ะ” พีรดาวอนเสียงเศร้า จนปราณธรที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ไปไม่เป็นเลยทีเดียว เขาเกลียดที่สุดคือผู้หญิงเสแสร้งบีบน้ำตา ทว่าแต่กับหญิงสาวตรงหน้าทำในตอนนี้ เขากลับไม่ขุ่นเคืองใจแต่อย่างใด ปราณธรรู้สึกว่าเธอไม่ได้แสดง เธอเศร้าจริง ๆ เพราะดวงตาสีน้ำผึ้งคู่นั้นฉายชัดความหม่นหมอง
“เป็นอะไรอีก กินก่อนเดี๋ยวค่อยกลับ” เขาสั่งเสียงดุ พีรดาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ในเมื่อเขาให้เธอนั่งกิน เธอก็จะทำตามที่เขาบอก แต่เมื่อนึกถึงตอนกินเสร็จเขาจะพาเธอไปไหนอีกล่ะ พีรดารู้สึกกลืนอาหารไม่ค่อยลง หวังว่าเขาคงไม่พาเธอไปต่อที่โรงแรมนะ พีรดานั่งกินข้าวอย่างไม่ค่อยเป็นสุขนัก ไม่กล้าเงยหน้ามองผู้ชายตรงหน้าที่เอาแต่จับจ้องเธอ
นั่งกินต่อสักพักเมื่ออิ่มแล้วเธอจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และถ้าเขาอนุญาต เธอจะใช้จังหวะนี้ชิ่งหนีเขา แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นสิ เพราะเหมือนชายหนุ่มจะรู้ทันเธอแล้ว เขาขอตามเธอไปด้วย และดักทางเธอทุกทางไม่ให้เธอชิ่งหนีได้ สุดท้ายจึงต้องขึ้นรถไปกับเขาอีกจนได้