“ใครใช้ให้ลงมา!” ผมเอ่ยถามด้วยโทนเสียงกดต่ำ เมื่อมองเห็นร่างบอบช้ำนั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าว
“จิวเองค่ะ แต่จิวไม่ได้ใช้นะ จิวขอร้องให้น้องมานั่งเป็นเพื่อน จิวเหงาหลานเหงาทานข้าวลำพังมันไม่อร่อย คุณภพไม่เห็นแก่หลานเหรอคะ” น้องสะใภ้รีบออกตัว นี่คงจะกลัวเด็กนั่นโดนลงโทษล่ะสิ
ออกตัวโดยเอาหลานในท้องมาอ้างอีกต่างหาก
แล้วที่น้องสะใภ้ของผมต้องมาอยู่ที่นี่ ก็เพราะไอ้น้องชายตัวดีของผมมันสั่งทำห้องนอนลูก ห้องนั่งเล่นเด็กและอะไรอีกสารพัด
แล้วปัญหาคือมันกลัวเมียพักผ่อนไม่เพียงพอเพราะเสียงช่างที่ทำงานดัง ซ้ำยังกลัวเมีนรักสูดดมกลิ่นสีเข้าร่างกาย มันก็เลยมานอนบ้านผม และคงจะนอนเกือบเดือน
ซึ่งต่อจากนี้ผมต้องกลับบ้านมาทานข้าวกับน้องสะใภ้ทุกวัน
เพราะเธออ้างว่าเหงา!
เอาจริง ๆ ผมว่าจิวมันอาการหนักขึ้นทุกวัน เผลอ ๆ จะหนักกว่าไอ้ฮอลล์ด้วยมั้ง
“แล้วไปเจอได้ไง?” ผมหลุบตามองป้าแม่บ้านที่กำชับนักกำชับหนาว่าให้ปิดประตูและระวังดี ๆ อย่าให้ใครได้รู้ว่ามีผู้หญิงอยู่ในบ้านผม
“อ๊ะ! อย่าค่ะ คุณภพไม่ต้องโทษคนอื่นเลยนะคะ โทษจิวนี่ เพราะจิวเดินตามหาป้าจนเจอป้าแกเอง และป้าก็ห้ามแล้ว แต่หลานคุณภพบอกว่า เข้าไปเลยแม่ลุงภพไม่ว่าหรอก จิวก็เลยเข้า” น้องสะใภ้ของผมฉีกยิ้มกว้าง โดยที่ไอ้น้องชายของผมมันอมยิ้มกับคำพูดของเมียมัน
ผมล่ะอยากจะโวยวาย แต่ก็ต้องฮึบไว้!
หลานคนแรกป๊าบอก ‘อย่าขัดใจน้องจิว น้องจิวจะทำอะไรก็ปล่อยน้องทำ’
ผมก็เลยต้องยอมทุกอย่างเวลาที่น้องสะใภ้เอาหลานมาอ้าง
“นี่จิวว่าจะโทรบอกคุณป๊าด้วยนะคะว่าเจอเด็กผู้หญิงโดนทำร้ายในบ้านคุณภพ จิวว่าคุณป๊าต้องสงสัยแน่ ๆ ว่าเป็นใคร และคุณป๊าก็คงไม่ชอบใจด้วยที่เห็นผู้หญิงโดนทำร้าย” น้องสะใภ้ของผมทำท่าคิดเล็กคิดน้อย
นี่คงกำลังคิดจะต่อรองอะไรแน่ ๆ
ร้ายกว่าไอ้ฮอลล์ก็เมียไอ้ฮอลล์นั่นแหละ!
ลูกสะใภ้คนแรกแถมมีหลานให้ป๊าด้วย ผมไม่ควรเอาชีวิตอิสระเสรีของผมไปเสี่ยง เพราะตอนนี้ป๊าหมายหัวผมไว้อยู่
“มึงไม่ควรทำห้องลูกเวลานี้” ผมหันไปกัดฟันพูดกับไอ้น้องชายตัวดี ที่มันบังเอิญทำห้องให้ลูก แล้วพาเมียหนีกลิ่นสีทาบ้านมาค้างบ้านผม
ก่อนหน้าที่ยัยเด็กนี่จะมาอยู่ทำไมมันไม่ทา มาทาอะไรตอนเด็กนี่ย้ายมา
“กูจะรู้ไหมว่ามึงเปลี่ยนที่ซุก” ไอ้น้องชายตัวดีมันหันมาจิกกัดผม
“จิวหิวแล้วค่ะ คุณภพทานด้วยกันสิคะ” เสียงใส ๆ ของว่าที่คุณแม่ดังแทรกเข้ามา
“ตักข้าวเลยค่ะป้า” น้องสะใภ้ของผมรีบหันไปสั่งแม่บ้าน
ผมก็เลยได้นั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกับยัยเด็กดื้อ ซึ่งตอนนี้เธอนั่งก้มหน้านิ่ง ๆ
ไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาผม...
“คืนนี้จิวว่าจะนอนกับน้องพีชนะคะ แผลน้องระบมขนาดนี้คืนนี้คงไข้ขึ้น จิวคงต้องไปดูแล จะให้น้องอยู่คนเดียวคงจะไม่ได้” จู่ ๆ น้องสะใภ้ตัวแสบของผมก็เอื้อนเอ่ยออกมา หลังจากที่เราทานข้าวกันไปได้สักพัก
“ถึกจะตาย ไม่เป็นไรหรอก” ผมรีบท้วงก่อนที่น้องสะใภ้จะทำอย่างที่พูดจริง ๆ
“เอาอวัยวะส่วนไหนมองคะคุณภพ น้องเจ็บขนาดนี้ ตอนทำนี่คงจะเดือดมากแน่ ๆ” แล้วผมก็โดนคนท้องสวนกลับทันควัน
ซึ่งโต้แย้งอะไรมากก็ไม่ได้
‘ลูกสะใภ้ป๊’ ถ้าขัดใจเกิดบ้าฟ้องป๊าขึ้นมา ผมคงได้ทิ้งชีวิตโสดก่อนเวลาอันควร
“ถามผัวรึยังจะไปนอนกับคนอื่น” เป็นเสียงของไอ้น้องชายที่โต้แย้งขึ้น
“มึงไม่สงสารน้องเหรอฮอลล์ ทีตอนมึงทำกูมึงยังดูแล นี่น้องไม่มีคนคอยดูแล คนทำก็ใจหมาจริง ๆ” แล้วคำเหน็บก็หลุดออกจากปากของคนท้อง
“อุ๊ย! ลืมไปว่าคุณภพเป็นคนทำ ขอโทษทีนะคะที่จิวพูดเรื่องจริงออกไป” น้องสะใภ้ตัวแสบยิ้มตาหยี
ไอ้คำขอโทษไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย
แล้วที่สำคัญยัยเด็กนี่ชอบผู้หญิงด้วยกัน
ไม่ได้! ผมจะปล่อยให้อยู่ใกล้คนเฟรนลี่แบบน้องสะใภ้ผมไม่ได้เด็ดขาด
“เดี๋ยวฉันไปนอนด้วย ไม่ต้องลำบากคนท้องหรอก เผื่อเรื่องเข้าหูป๊าฉันจะโดนดุ” แล้วผมก็รีบเสนอตัว ซึ่งผมก็พูดไปงั้น ๆ แหละ จิวมันไม่มาดักหน้าห้องผมหรอก แล้วอีกอย่างห้องผมมีประตูเชื่อม
“ไม่เอาหรอกค่ะ คุณภพเจ้าเล่ห์ นี่คงจะหลอกคนท้องสินะ... โถ่ ลูกแม่ ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก ก็เจอคำโกหกจากคนที่เป็นลุงซะละ หลานคนแรกแท้ ๆ ลุงก็บอกรักหลานอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ก็ยังจะคิดหลอกกัน โตไปหลานคงมีนิสัยขี้โกหก เฮ้อ...คนท้องเริ่มเครียด เราไปนอนบ้านคุณป๊ากันไหมฮอลล์”
“โอเค ฉันจะดูแลให้ดี รับรองว่ายัยเด็กนี่ตื่นมาไม่มีทางป่วย” ผมรีบตกปากรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ
น้องสะใภ้ของผมติดนิสัยเพ้อเจ้อจากผัวหนักขึ้นทุกวัน เผลอๆหนักกว่าไอ้ฮอลล์
เอะอะเอาป๊ามาอ้าง รู้ไงว่าผมกลัวก็เลยเอาใหญ่
“โอเคค่ะ แต่ถ้าจิวรู้ว่าคุณภพเจ้าเล่ห์ จิวอาจจะเผลอลั่นวาจาให้คุณป๊าได้รับรู้นะคะ” แล้วเธอก็ย้ำผมซ้ำ ๆ
ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น...
“กินยาแล้วใช่ไหม” ผมคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างบางที่บอบช้ำ
ช้ำเพราะน้ำมือผมนั่นแหละ
“ค่ะ” พีชตอบสั้น ๆ และไม่เหลียวมองหน้าผมสักนิด
“หมายถึงยาคุม”
“กินแล้วค่ะ อีกเม็ดรอถึงเวลาก่อน” เธอตอบแล้วหลับตาลง จากที่ว่าดื้อจนหัวชนฝา จู่ ๆ ก็นิ่งเงียบจนผมใจหาย
“ก็ดี เพราะเฮียไม่อยากมีพันธะ” ผมย้ำถึงความคิดเห็นส่วนตัวที่มีมาตั้งแต่เห็นป๊าเสียใจกับการที่มี้คาริสาจากไป
“ค่ะ หนูก็ไม่คิดอยากมีเหมือนกัน ถ้าหนูอยากมีหนูคงชอบผู้ชายไปแล้ว” เธอบอกในขณะที่ตายังหลับ
“แต่ตอนนี้พีชต้องเริ่มรักเฮียละล่ะ เพราะเฮียไม่ต้องการให้พีชรักใคร” ผมนั่งลงข้างเตียงแล้ววางมือลงที่ผ้าห่ม
“เฮียไม่เห็นมีตรงไหนน่ารักเลยค่ะ ปากก็ร้าย เซ็กส์ก็เถื่อน มั่วผู้หญิง และคงเสพยาด้วย เฮียมีแต่สิ่งที่พีชไม่ชอบ พีชคิดว่าพีชรักคนอื่นง่ายกว่ารักเฮียนะคะ” เธอลืมตาขึ้นมาสบตาผม จากนั้นเธอก็พูดในสิ่งที่เธอคิด
“แต่ท่ายากเฮียเยอะนะ” ผมยักคิ้วกวน ๆ ให้เด็กผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้า
“เอาจริง ๆ นะคะ ถ้าหนูพูดเฮียจะโมโหไหม” พีชมองหน้าผมนิ่ง ๆ
“ว่ามาสิ" ผมไม่รู้หรอกว่าจะโกรธไหม แต่ต่อมอยากรู้ของผมมันทำงานแล้ว ผมอยากรู้ว่าเธอจะพูดอะไร
“ตอนเสียบเข้าไม่ฟินเลยค่ะ แถมกัดคอจนเจ็บเป็นแผลเลือดซิบ หัวนมมีไว้ดูดก็ดันกัด มันก็เลยไม่รู้สึกถึงความสุข จะดีก็แค่ลงลิ้น... แต่ฟิล์มก็ทำได้เหมือนเฮียนั่นแหละค่ะ หนูไม่เห็นมีอะไรที่พิเศษมากกว่าความเจ็บปวดเลย แล้วแบบนี้จำเป็นอะไรที่หนูต้องรักเฮีย... มีดีแค่ใหญ่ แต่ไม่ใส่ใจด้านการเล้าโลม ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะเฮียขา” เหมือนผมโดนตบเข้าที่หน้าไปหลายตลบ
กล้าลูบคมคนอย่างผมได้ยังไง
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเอาผมไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงสักครั้ง
พีชญาเธอไม่ตายดีแน่!
ครืด ครืด...
“ว่า!” ขอบคุณสายที่โทรเข้ามาเพื่อดึงให้ผมได้ตั้งสติ
(คุณเฟลมถามถึงนายครับ) บอดี้การ์ดที่เฝ้าบ่อนนอกรายงานผม
“มากี่คน” ผมรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนผมมันมาทำไม ไอ้พวกนี้ไม่พ้นเรื่องจังไรและเรื่องใต้สะดือ
(คุณเฟลม คุณวายและผู้หญิงอีก3คนครับ)
“บอกมันว่าเดี๋ยวฉันเข้าไป แต่คงอยู่ได้ไม่นาน บอกพวกมันล่วงหน้าไปก่อน” ผมสั่งลูกน้องคนสนิท
ซึ่งลูกน้องของผมรู้ดีว่าผมหมายความว่าอย่างไร
(รับทราบครับนาย) ว่าจบผมก็กดวางสาย
แล้วหันมองเด็กผู้หญิงหน้านิ่งที่กล้าเอาเซ็กส์ของผมไปเปรียบกับผู้หญิง
“หนูแค่ยังไม่ชิน เดี๋ยวชินก็ฟินเอง นอนซะเฮียไปเคลียร์งานสักพัก เดี๋ยวกลับ” ผมไม่มีเวลามาชวนทะเลาะ เลยจำใจต้องตัดบทเธอไปก่อน
เดี๋ยวค่อยทบต้นทบดอกเธอทีหลัง รอเธอหายดีก่อนเถอะ พ่อจะทำให้ฟินจนขาดใจตายเลยคอยดู
ตอนนี้ผมมีเวลาไม่มากในการเสพสุข เพราะผมจะต้องรีบไปรีบกลับ ก่อนที่คนท้องจะกลายเป็นคนขี้ฟ้อง
ถ้าถึงหูป๊าเมื่อไหร่ความบรรลัยมาเยือนผมแน่!