"ได้สิเธอสามารถทำตามความต้องการของเธอได้ในที่แห่งนี้" จียองยิ้มอย่างพอใจเมื่อปลากำลังจะกินเหยื่อ
"มาแล้วเจ้าค่ะคุณหนู" ฮานึลเปิดประตูและพาชายหนุ่มทั้งสองเข้ามา
"อ๊ะ..มากันพอดีเลยมาสิเข้าไปนั่งข้างๆ คุณหนูมีโซ" จียองกวักมือเรียก
"สะ สองเลยหรือเจ้าคะ" มีโซถามเสียงสั่น
"ไม่ๆ กงยูคือคนของข้าส่วนเจ้าคนนั้น"
ได้ยินแบบนั้นจากที่ตอนแรกแววตาเศร้าโศกก็เป็นประกายขึ้นมาทันที พร้อมกับมองคุณหนูที่ตนรักหมดหัวใจน้ำตาคลอ เพียงแค่คุณหนูไม่ยกเขาให้ใครก็ดีใจแล้ว
ตอนแรกมีโซก็มีเกร็งอยู่บ้างแต่พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจนางก็ปล่อยตัวตามสบายให้ชายหนุ่มที่ถูกใจเธออยู่ไม่น้อยค่อยปรนนิบัติ
จียองมองภาพนั้นด้วยความพอใจ จะโทษเธอไม่ได้นะก็อยากมาวิ่งตามสามีของเธอทำไม อีกอย่างเธอก็แค่ดึงด้านมืดในจิตใจของเธอออกมาแค่นั้น
"ฉันไปทำธุระหน่อยนะเธอตามสบายเลยเดี๋ยวถึงเวลากลับมารับ ป่ะกงยูฉันจะไปตรวจร้านสักหน่อย"
จียองเปิดโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันแล้วตนและกงยูไปอีกห้องแต่ห้องนี้สามารถมองเห็นห้องที่มีโซอยู่อย่างแจ่มชัดแต่คนที่อยู่อีกห้องมองไม่เห็นพวกเธอแน่นอน สมัยนี้มีห้องแบบนี้แล้วดีจัง
"คุณหนูจะรับอะไรเพิ่มไหมขอรับ"
กงยูถามเมื่อผู้เป็นนายสาวดูจะสนุกและเพลิดเพลินกับการดูอีกห้องที่ร้องครางเสียงดังอยู่เป็นระยะ
"ไม่ล่ะ ได้ยินข่าวว่าแม่นายไม่สบายเหรอ"
จียองรู้จากฮานึลที่มากมาเธอเมื่อวันก่อนที่เธอจะแอบมาแต่ไม่มีโอกาส
"ดีขึ้นแล้วขอรับ เป็นโรคชราทั่วไปขอบคุณ คุณหนูขอรับที่ใส่ใจ"
กงยูทราบซึ่งในน้ำใจคุณหนูของเขาที่ไม่เคยลืมที่จะหยิบยื่นความใส่ใจให้กับครอบครัวเขาเลยตลอดมา คิดถึงตรงนี้น้ำตาก็พานจะไหลคุณหนูของเขาดีจริงๆ
"ก็ต้องใส่ใจสินายเป็นคนของฉันนะ ถ้ามีอะไรขาดเหลือบอกได้เลยหรือจะให้คนไปบอกฮานึลก็ได้นะ"
เงียบ! เป็นสิ่งที่จียองได้รับกลับมา เธอจึงหันไปกลับไปมองก็เห็นกงยูนั่งก้มหน้าแต่มีน้ำตาไหลกระทบพื้น เดี๋ยวนะ!
"นี่! ร้องไห้ทำไม" จียองเข้าไปถามด้วยความตกใจ
"ขะ ข้าไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจคุณหนูอย่างไร ชั่วชีวิตนี้ของข้ามีเพียงคุณหนูที่ดีต่อข้าตลอดมา "
กงยูพูดด้วยน้ำตาที่อาบสองข้างแก้มเล่นเอาจียองไปไม่เป็นเลย แต่เข้าใจชายคนนี้เขาคงรักและเคารพนาบีมากจริงๆ
"โอ้ๆ ไม่เป็นไรๆ อย่าร้องเลยนี่ฉันไม่ได้พูดให้นายร้องไห้นะ ฮ่าๆ "
"ขออภัยข้าห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ ทั้งที่คุณหนูเคยพูดแล้วว่าไม่ชอบ"
หญิงสาวไม่รู้จะพูดอะไรสงสารก็สงสารเอ็นดูด้วยคนอะไรขนาดร้องไห้ยังหล่อน่ารักจริงเชียว ได้แต่กอดเขาเบาๆเพื่อปลอบโยน สักพักกงยูก็หยุดร้องไห้พร้อมกับหน้าแดงคงจะอาย จียองอิจฉาผิวเขาจริงๆ มันนุ่มนิ่มขาวอมชมพูขนาดผู้หญิงอย่างเธอยังอาย
"อ่าวห้องนั้นเขาเสร็จกันแล้วเหรอ ไปเถอะเราเข้าไปหาพวกเขากันเดี๋ยวสงสัย"
เมื่อเดินเข้ามาในห้องมีโซก็นั่งน่าแดงอยู่ด้วยความเขินอาย ไม่กล้าสบตาใครถามคำตอบคำ จียองได้แต่มองภาพนั้นอย่างพอใจต่อไปเธอคงไม่ต้องพามาแล้ว เพราะหญิงสาวคงจะมาเองบ่อยๆแน่
"เอาล่ะเรากลับกันเถอะใกล้ค่ำแล้ว เธอออกไปก่อนเลย"
จียองหันไปบอกมีโซและชายอีกคนที่เรียกมาปรนนิบัติ
"ถ้าผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่อีกบอกฉันนะ ไม่ต้องทำอะไรแอบดูเงียบๆ เธอต้องการอะไรก็จัดให้ยกเว้นอยากได้นายเข้าใจนะ" หญิงสาวสั่งกงยู
"ขอรับคุณหนู"
"ดีมากฉันไปล่ะ ไม่ต้องส่ง จุ๊บ!"
พูดจบจียองก็เขย่งตัวขึ้นไปจูบปากแดงๆนั้นเร็วๆ แล้วผละออกเดินจากไป ทิ้งให้กงยูยืนลูบริมฝีปากตัวเองยิ้มด้วยความเขินอายและสุขใจ
"ตามที่ตกลงกันไว้นะ ห้ามบอกใครว่าวันนี้เราไปไหนกันมา ถ้าคนถามก็บอกไปเที่ยวนอกเมืองมา" จียองย้ำกับมีโซอีกรอบเดี๋ยวเสียแผน
"เจ้าค่ะ ข้าจะไม่บอกใคร"
มีโซตอบรับคำอย่างว่าง่าย แบบนี้สิคุยกันง่ายขึ้น จียองยิ้มอย่างพอใจ
"กลับมาแล้วงั้นหรือ"
จียองกำลังเดินลั้นลาเข้าจวนไปก็ต้องสะดุ้งกับเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคย
"ใช่ ท่านมีอะไรรึเปล่า"
"วันนี้ไปไหนมา" วุนซาตามจ้องจับผิด
"ไปเที่ยวนอกเมืองมา ทำไมเหรอ" จียองทำหน้าตาใสซื่อไม่แสดงพิรุธ
"หลังมื้อเย็นไปหาข้าที่ห้องหนังสือด้วย ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า"
"เจ้าค่ะคุณชาย ฉันขอตัวนะ"
หลังจากเดินพ้นมุมห้องมาจียองก็แทบเข่าทรุดดีที่ฮานึลช่วยพยุงเอาไว้ สายตาเขาน่ากลัวจัง มันคมจนคิดว่ามองทะลุตัวเธอจนเห็นทุกอย่างแล้ว
"คุณหนูไหวไหมเจ้าคะ " ฮานึลถามด้วยความเป็นห่วง
"ไหวๆ พาฉันไปที่ห้องที่"
ไม่รู้ว่าจียองจะกลัวเขาทำไมนักหนาร่างกายของเธอมันมีปฏิกิริยาของมันไปเอง เธอเดาว่านาบีก็คงกลัวชายคนนี้เช่นกัน แปลก!
หลังกินข้าวเย็นเสร็จจียองก็เดินย่อยอาหารเล็กน้อยเพื่อทำใจด้วยก่อนที่จะเข้าไปหาวุนซาที่ห้องหนังสือ
"ท่านมีอะไรกับฉันรึเปล่า"
"นั่งก่อนสิ" วุนซาผายมือให้เธอนั่งเก้าอี้ตรงข้าม
"เจ้ายังอยากมีสามีเพิ่มอีกไหม"
ดะ เดี๋ยวนะเอาแบบนี้เลยเหรอ ถามกันโต้งๆนี้เนี่ยนะ ใครมันจะกล้าตอบล่ะทีนี้
"ทำไมท่านถามแบบนี้"
"ข้ามีข้อเสนอ หากเจ้าต้องการมีสามีเพิ่มข้าและวุนซาจะไม่ขัดเจ้า แต่เจ้าต้องห้ามแต่งงานกับชายผู้นั้นทำให้เหมือนชายคนนั้นไม่มีตัวตน หากแอบไปพบกันข้าจะทำเป็นมองไม่เห็น " วุนซายื่นข้อเสนอที่จียองมองว่ามันก็หอมหวานคุ้มค่าสำหรับเธอดีแต่ต้องคิดดีๆก่อนตอบ
"แค่นี้เองเหรอ ทำไมง่ายจัง" จียองถามด้วยความสงสัย
" กับหญิงมักมากเช่นเจ้ามันอาจง่าย แต่กับชายตระกูลสูงศักดิ์เช่นข้าและยองวอนมองว่ามันคือการหยามศักดิ์ศรี พวกข้ายอมลงให้กับเจ้าขนาดนี้หวังว่าเจ้าจะเอาแต่พอดีนะไม่งั้นข้าจะฆ่าทั้งมันและเจ้าโดยไม่สนว่าพ่อของเจ้าจะเป็นใคร"
รัวมาเป็นชุดเสร็จพ่อสามีประเสริฐของจียองก็เดินกระแทกเท้าออกไปด้วยความไม่พอใจ ทำไมโมโหง่ายตลอดจียองคิด
จียองคิดตามคำพูดเขาหรือว่าที่เธอเห็นตอนมาที่นี่จะเป็นอนาคตไม่ใช่อดีตที่ผ่านมาแล้ว หรือเวลามันหมุนเปลี่ยนดึงเธอเข้ามาในอดีตที่ยังไม่เกิดการสังหารเกิดขึ้นนะ
ยิ่งคิดจียองก็มองว่ามันมีเค้าโครงความเป็นไปได้สูงมาก ทุกคนไม่รู้เรื่องการลอบสังหาร งานแต่งของนาบีและวุนซาไม่ได้มีปัญหา ต้องใช่แน่ๆ
"แล้วเรื่องที่ทุกคนเหมือนมีอะไรปิดบังพูดไม่ได้ตอนนั้นล่ะมันคืออะไรนะ โอ๊ย! ปวดหัวชะมัดไม่คิดแล้ว"