“เธอมันพวกเหยาะเหยะ ไม่สมที่คุณแม่คุยโวไว้กับฉัน งานง่ายแค่นั่งๆ ยืนๆ ถ่ายรูป เธอยังทำไม่ได้ แบบนี้ลาออกไปเลยไป๊” พูดจาดูถูกส่วนใหญ่คนมักฮึกเหิม ผมรอลุ้นว่าเลขาหน้าจืดจะเป็นอย่างที่ผมคาดไหม
“เอ่อ...” เอาไงดีวะวีท้าทายกันขนาดนี้ อีบอสหื่นสมควรได้รับการสั่งสอน จากวีรอรบ้างสักหน่อยถึงรู้สำนึก “ลองหานางแบบแล้วหรือยังล่ะ”
“หาแล้วค่ะ ไม่มีเลย” แมวเป็นคนตอบคำถาม
“Take it easy” ใจเย็น ค่อยๆ คิดนะ อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน “ว่าไง” ผมเร่งการตัดสินใจเลขาสาวหน้าจืด
“จะไหวหรือคะบอส” แมวเกรงไม่ไหว
“ไหว ผมบอกว่าไหวก็ต้องไหว” ผีห่าที่ไหนมาดลใจให้ผมพูดคำนี้ มันไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ กับอีสาวหน้าจืดคนนี้ ช่างแต่งหน้าต้องมีฝีมือระดับเทพ ถึงจะเอาแม่ชีอยู่
“เอาล่ะทุกคนยกกอง ปล่อยให้ผมเสียหายสักหมื่นล้านว่ากันไป มันก็แค่ทุกคนตกงาน ผมกลายเป็นขอทาน เท่านั้นเอง” ผมใส่เรื่องราวใหญ่โต ถึงวันนี้ยกกองผมเสียเงินแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น ที่แน่ๆ ผมต้องฟ้องเอากับบริษัทโมเดลลิงชัวร์ ผมมีวิธีแก้ไว้อยู่ จะทำไงได้ผมดื้อไม่ยอมเลือกทางนั้น ผมจะเลือกทางที่อยู่ตรงหน้านี้เท่านั้น
ถ้าผมยอมง่ายๆ จะใช่ผมหรือไง ถ้าผมยอมเสียเงินเหล่านั้น จะใช่ยักษ์ แห่งแอนเดอร์สันหรือ ผมต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมของผมซะก่อนถึงจะไปถึงจุดนั้น การแกล้งเลขาของผมคืออีกหนทางหนึ่ง คราวนี้พอเธอทำไม่ได้ ผมจะได้โบ้ยความผิดไปให้เธอเต็มๆ การไล่เธอออกแบบที่แม่ยินยอม เท่ากับเป็นชัยชนะของผมอย่างสมบูรณ์
เอาน่า Just for fun แค่ขำๆ วีรอรซะอย่างยากกว่านี้ยังทำได้ งานสิวๆ แค่นี้บ้าหรือจะทำไม่ได้
“ฉันจะถ่ายมันให้คุณ” Piece of cake เรื่องกล้วยๆ คิดมากทำไม แค่ถ่ายชุดชั้นใน ทีมงานคงเซฟให้ด้วยการใช้ผ้าปิด ไปทำรีทัชเอาล่ะน่า
“พาไปแต่งตัว” ไหงยอมล่ะ จะหาเรื่องแกล้งซะหน่อย ผู้หญิงคนนี้เป็นแบบไหนของเขานะ ผมแอบคิดไว้ว่าจะหาทางให้เธอยอมแพ้ลาออกไปเอง ดันยอมเฉยเลย เอาน่า One way or another ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแหละ ที่ผมจะหาทางเขี่ยเธอออกไปจากเส้นทางสว่างไสวของผมให้ได้
เวลาผ่านไปเท่าที่บอสดื่มกาแฟกินของว่างรอ อย่างไม่หงุดหงิด
“มาแล้วค่ะ” ใครคนหนึ่งตะโกนนำทาง
ผมหันไปตามเสียง ไม่รู้ด้วยซ้ำอะไรมา คาดเดาว่านางแบบที่ลากตัว แกมขู่บังคับเข้าไปแต่งหน้าทำผม เปลี่ยนชุดในการถ่ายแบบ คงเสร็จแล้วเท่านั้น หากแต่...ฉิบหาย สัส !! ผมอุทานในใจ นั่นใช่เลขาหน้าจืดของผมหรือเปล่า โคตรสวย OMG awesome พระเจ้าเจ๋งเป้ง ผมร้องในใจ ช่างแต่งหน้าขั้นเทพจริงๆ เปลี่ยนแม่ชีให้เป็นสาวสวยร้อนแรง ผมเรียบๆ จัดทรงเกล้ามวย เซ็ตให้ดูเซ็กซี่ชวนมอง ใบหน้าซีดขาวไร้สีสันแต่งอ่อนๆ ให้ดูพองามน่ารักน่าขย้ำ
รูปร่างผมไม่เคยสัมผัสทางสายตา ตอนนี้ยังไม่เห็นวีรอร ถูกปิดทับด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาว แต่เท่านี้กลับทำให้ผมจินตนาการไปไกล ผมมันจัดอยู่ในจำพวกเรดาร์ไวต่อสตรี แถมผมคาดเดาได้จากชุดชั้นในใส่ถ่ายโฆษณาในคอลเล็คชั่นนี้ทุกชุดผมเห็นมาทั้งหมด ผมเดาว่าเป็นชุดลูกไม้ออกแบบเป็นปีนกสีดำชุดนั้นแน่นอน
“ดีไหมคะบอส” แมวเอ่ยถาม เงียบ...เงียบ “บอสคะดีไหม” แมวถามย้ำมองเจ้านายนิ่ง นั่นเรียกท่านิ่งไม่พอใจ หรือตะลึง แมวไม่อยากเดาส่ง เนื่องจากบอสคนนี้ไม่สามารถเดาความรู้สึกล่วงหน้าได้ ต่อให้เห็นแบบนี้ก็เถอะ
“perfect จบนะ” ผมตอบง่ายๆ ไม่อยากพูดมาก เลขาของผม ในสายตาผมตอนนี้สมบูรณ์แบบมาก ผมไม่เคยเห็นเธอในมุมมองนี้มาก่อน โคตรสุดยอด
“แมวก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ” การที่เราประเมินค่าคนก่อนไม่ดีเลยนะ
“I think so” ฉันเห็นด้วย ผมรู้สึกหวงเลขาของตัวเองขึ้นมาตงิดๆ “แมว ไปบอกพวกช่างไฟ ทีมงานที่เป็นผู้ชายออกให้หมด” ผมสั่งค่อนข้างเอาแต่ใจ
“วะ...ว่าไงนะคะ” แมวสำลักน้ำลาย
“ตามนั้น จบนะ”
“แต่บอสคะ ช่างภาพก็เป็น...ผู้ชายนะคะ”
“ผมจะถ่ายเอง”
“ไหงงั้น” แมวและทีมงานงงเป็นไก่ตาแตก ใครจะคุมไฟ พวกทีมงานผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลนางแบบ แต่งหน้า ซับหน้า เปลี่ยนชุด คอยบอกท่าทางเท่านั้นเองนะ ที่เหลืองานผู้ชายทั้งนั้น
“ยังไม่ไปอีก” ผมเร่งด้วยคำพูดดุดัน สำหรับดวงตามีไว้จ้องมองนางแบบของผม
เลขาสาวหน้าจืดเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา มองไปยังบอสของเธอ รู้สึกถึงไอบางหวงบางอย่างพวยพุ่ง ส่งมาที่เธอ ทีมงานดูแปลกๆ จากที่ถือไฟ ถือเสลตเดินหนีกันหมด มีแต่พวกผู้หญิงก้าวเข้ามาแทน ไม่ครบทุกตำแหน่งในการทำงาน
“เกิดอะไรขึ้นคะ” วีเอียงหน้ากระซิบถามทีมงานผู้หญิงที่ก้าวเข้ามาดูแลเธอ หวีผมซับหน้ามือเป็นระวิง
“บอสสิคะสั่งทีมงานผู้ชายออกไปนอกห้องให้หมด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ในห้องถ่ายภาพกับโฆษณานี้ เป็นห้องที่ถูกเซตขึ้นมามีเตียงนอนอยู่ตรงกลาง พูดง่ายๆ เซ็ตเป็นห้องนอนนั่นเอง จัดแสงสีนวลเหมือนสาวสวยกับชุดชั้นในอยู่ในห้องนอนส่วนตัว เป็นโลกส่วนตัวที่พร้อมจะออกไปพบผู้คนด้วยความมั่นใจ กับชุดชั้นในปีกนางฟ้า ของแบรนด์เอนเดอร์สัน
ตากล้องที่แย่งงานคนอื่นมาทำ ผมไม่ต้องการให้ผู้ชายหน้าไหนก็ตาม ได้เห็นเลขาของผมในรูปแบบเกือบเปลือย ไม่เปลือยอีกนิดเดียวก็เปลือย รู้อยู่ว่าชุดชั้นในคืออะไร ผมมองดูเธอแทบจะอดใจเดินเข้าไปกระชากเสื้อคลุมขนนุ่มนิ่มนั้นไม่ไหว
สงบไว้ก่อนไอ้ยักษ์ น้องชายหัวดื้อด้วย อย่าเพิ่งแข็งตอนนี้ ทำงานให้จบค่อยกินจะมาหิวอะไรตอนนี้มันไม่ดี ผมร้องเตือนความหิวของตัวเอง รู้สึกว่ามันยาก ผมนี่นะคิดอะไรกับผู้หญิงแบบนางชี ฝีมือช่างแต่งหน้าขั้นเทพเท่านั้นน่า ทั้งหมดภาพลวงตา หากว่าลวงตาบ้าบออะไรสวยขนาดนี้ อย่าหลงละเมอไปกับเมคอัพ
ผมชี้นิ้วสั่งทีมงานผู้หญิงไปจัดการถอดเสื้อคลุมจากตัวนางแบบ เดี๋ยวก่อนคนผมสั้นผ่านตาไปนั่นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทอมสาวหล่อก็ไม่ได้นะ ตาผมกระตุกไหวเพ่งไปยังคนนั้น
“เดี๋ยว เธอ...คนนั้นน่ะ” ผมเรียกร่างนั้น
“คะ” คนที่โดนเรียกชี้นิ้วเข้าหาตัว นึกอยู่ว่าตัวเองทำอะไรผิด ไม่นะแค่ก้าวขาซ้ายออกจากบ้านเองไม่น่าซวย
“เป็นผู้หญิงหรือเปล่า ถ้าเป็นทอมเชิญ”
เอาไงวะกู บอสถามกูควรบอกว่ายังไง ทอม ดี้ สาวหล่อ หรือผู้หญิงปกติ
“หญิงค่ะ” ทีมงานสาวเท่ผมสั้นตอบ
“ทำไมตัดผมสั้นเหมือนทอม”
“มัน...อ่า...สบายดีค่ะ” มีปัญหากับผมกูอีก
“เอาล่ะไม่น่าไว้ใจ ไม่ต้องไปถอดเสื้อคลุมนางแบบ เรียกผู้หญิงมา” ผมไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น