วันหยุดของมนต์มีนาวันนี้เธอพาลูกชายมาเยี่ยมพี่สาวกับหลานสาวที่บ้านพร้อมทั้งทำอาหารรับประทานกัน ล่าสุดที่คุยกันทางโทรศัพท์เปียบอกกับน้าสาวว่าอยากรับประทานขนมจีนแกงเขียวหวาน มนต์มีนาจึงพาลูกชายแวะซื้อวัตถุดิบที่ตลาดพร้อมทั้งขนมอีกหลายอย่างเพื่อมาฝากเปีย
อรรณพสามีของปิยะนุชไม่อยู่บ้านในวันนี้ เพราะต้องแบ่งเวลากลับไปอยู่ที่บ้านใหญ่ด้วยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาหากตกลงระหว่างทั้งสองบ้านไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้มนต์มีนาไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายมากนักเพราะเป็นปัญหาส่วนตัวของพี่สาว ที่เธอยังติดต่อกับอีกฝ่ายอยู่ก็เพราะสงสารหลานและคำนึงถึงความรู้สึกของเด็กน้อยที่ยังอยู่ในวัยประถม
“เปียน้าทำแกงเขียวหวานเสร็จแล้วพาน้องมากินเร็วลูก พี่ปลามากินได้แล้วค่ะ”
มนต์มีนาจัดการทำอาหารคนเดียวจนเสร็จเรียบร้อย ยกหม้อใส่แกงออกมาตั้งที่โต๊ะอาหาร จัดจานวางแต่ละที่ก่อนจะเรียกทุกคนที่แยกกันอยู่ตามมุมต่าง ๆ มารวมกันที่โต๊ะ
เปียกับมันเดย์แข่งกันวิ่งเข้ามาอย่างสนุกสนานจนหญิงสาวต้องรีบห้ามปรามเพราะกลัวสะดุดล้ม เด็ก ๆ จึงหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ไม่นานปิยะนุชจึงเดินออกมา สภาพของพี่สาวตอนนี้ทำให้มนต์มีนาอ่อนใจ ทำไมถึงได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นขนาดนี้ งานที่ปิยะนุชทำก็เป็นงานที่ต้องออกไปพบปะผู้คนมากมาย ทำไมถึงไม่หัดดูแลตัวเองบ้าง แบบนี้ผู้ชายที่ไหนจะอยากกลับมาสนใจ
มนต์มีนาทำอาชีพเสริมขายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้คุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐานหลายตัวก็แบ่งมาให้ปิยะนุชใช้อยู่เสมอแต่สภาพของอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หนำซ้ำตัวยังหนาขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ที่มนต์มีนาเป็นห่วงเพราะเกรงว่าหากปิยะนุชยังไม่ใส่ใจตัวเองอยู่แบบนี้ เบาหวานและอีกสารพัดโรคจะถามหาแล้วจะอยู่กับลูกไม่ได้นานน่ะสิ
ผู้หญิงหลายคนถึงจะผ่านการมีลูกมาแล้วแต่หากหันกลับมาใส่ใจดูแลตัวเองจะยิ่งดูสวยขึ้นกว่าเดิม มนต์มีนาเองก็เช่นกัน เธอในตอนนี้ดูดียิ่งกว่าตอนยังไม่มีลูกเสียด้วยซ้ำ เพราะขนาดของหน้าอกและสะโพกที่ใหญ่ขึ้นแต่เอวเล็กเท่าเดิมทำให้รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผิวพรรณที่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอขาวเนียนละเอียดเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลกว่าเดิม เพราะหน้าที่การงานที่ใช้เลี้ยงชีพในขณะนี้ต้องพบปะผู้คนตลอดเวลา รูปลักษณ์และบุคลิกต้องดูดีเพื่อสร้างความประทับใจแรกให้แก่ลูกค้า หญิงสาวจึงต้องใส่ใจดูแลตัวเอง
ปิยะนุชลากเก้าอี้ครูดไปกับพื้นบ้านออกมานั่ง ผมเผ้าที่รวบไว้กลางศีรษะหลุดลุ่ยลงมาโดยที่เจ้าตัวไม่คิดจะใส่ใจ ยกฝ่าเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาเหยียบบนเก้าอี้ในท่านั่งชันเข่า ก่อนจะบอกกับลูกสาวว่า
“เปียยื่นตะกร้าขนมจีนมาให้แม่ดิ”
เด็กหญิงยื่นตะกร้าขนมจีนสีแดงที่อยู่ใกล้มือส่งให้ผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้กำลังนั่งอ้าปากหาวหวอด โชคดีที่เรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างของลูกสาวอรรณพเป็นผู้ดูแลทั้งหมด ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนปรารถนาคือให้ปิยะนุชทำงานดูแลตัวเองได้ก็พอแล้ว
“นี่ค่ะแม่ แม่อย่ากินเยอะนะ เดี๋ยวอ้วน”
เปียพูดออกไปตามประสาเพราะแกไม่อยากเห็นแม่อ้วนขึ้นกว่านี้ แต่นั่นทำให้คนเป็นแม่นึกฉุน
“เอ๊ะนังนี่ ยิ่งโตยิ่งพูดมาก รู้งี้เอาขี้เถ้ากรอกปากแต่เด็กก็ดี”
เด็กหญิงถึงกับหน้าเสียเมื่อโดนผู้เป็นแม่ดุเสียงดัง มนต์มีนาจึงรีบปรามพี่สาวให้ใจเย็นลงก่อน
“พี่ปลาใจเย็น ๆ ลูกก็แค่เป็นห่วง สภาพพี่เองตอนนี้ก็ดูได้ที่ไหน หันกลับมาดูแลตัวเองบ้างเถอะ ออกกำลังกายบ้างพี่”
ปิยะนุชมองน้องสาวตาขวาง “ก็ออกแล้วแต่มันเหนื่อย”
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นชะโงกตัวไปตักแกงเขียวหวานในหม้อ เลือกตักแต่ชิ้นไก่ ไม่ตักมะเขือและผักอื่น ๆ ที่ใส่มาในนั้นเลย แต่จะตักมากแค่ไหนก็ตามใจเถอะ มนต์มีนาที่เป็นคนทำรู้นิสัยคนเป็นพี่ดีอยู่แล้วเธอจึงซื้อเนื้อไก่มาเยอะเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นคนอื่น ๆ คงได้กินแต่มะเขือกับน้ำแกงเท่านั้น
หากไม่ติดที่ปิยะนุชพูดพากระโชกโฮกฮากบรรยากาศภายในบ้านก็ดูสนุกสนานดี ตอนอารมณ์ดีปิยะนุชก็พูดจาดีกับลูกเหมือนคู่แม่ลูกทั่วไป หลังจากพี่สาวกินขนมจีนไปได้สองจานจึงพูดเรื่องที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากมนต์มีนา
“มี่ มะรืนพี่ขอยืมรถไปใช้ก่อนได้มั้ย พอดีรถที่ใช้อยู่มันเสีย พ่อเจ้าเปียยังไม่ส่งเงินมาให้ซ่อมเลย จะออกไปพบลูกค้า”
มนต์มีนาไม่คิดอะไรมาก ถ้าไม่ติดเรื่องขับรถไปทำงานเธอก็ไม่ได้ไปที่ไหนอยู่แล้ว ส่วนลูกก็มีรถโรงเรียนรับส่งและมีป้าเล็กมาช่วยดูแลต่อหลังเลิกเรียน
“ได้พี่ แต่รถมี่มันก็เก่าแล้วนะ ขับไปไหนไกล ๆ ก็กลัวจะมีปัญหาเหมือนกัน”
“เออน่า รู้แล้ว ขับอยู่แถว ๆ นนท์นี่แหละ ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก”
“งั้นก็ได้ ใกล้ถึงวันพี่เตือนมี่อีกทีนะ จะได้หาที่ฝากกุญแจรถไว้ให้”
“อืม”
ตกลงเรื่องรถกับพี่สาวได้มนต์มีนาก็หันมาพูดคุยกับเด็ก ๆ ที่กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยทั้งของหวานของคาว
ประมาณทุ่มเศษมนต์มีนาก็พาลูกชายขับรถกลับบ้าน ก่อนจากเธอก็ไถ่ถามกับเปียว่าปิยะนุชดุบ่อยไหม หากเด็กหญิงที่เติบโตขึ้นมาเป็นคนละคนกับตอนเด็กก็บอกผู้เป็นน้าอย่างน่าเอ็นดูว่า
“แม่ไม่ค่อยดุหรอกค่ะน้ามี่ ดุบ้างบางเวลา แม่กลัวพ่อ เพราะพ่อบอกว่าถ้าแม่ดุหนู พ่อจะไม่มาหาอีก น้ามี่ไม่ต้องห่วงหนูอยู่กับแม่ได้ค่ะ”
“เก่งมากลูก เปียเป็นเด็กดีนะ ไว้วันหลังน้าจะมารับไปเที่ยวกับน้อง วันนี้น้ากลับก่อนนะ”
“บ๊าย บายค่ะน้ามี่ บ๊าย บายนะมันเดย์”
“บ๊าย บาย คับพี่เปีย”
เด็กชายโบกมือหย็อย ๆ อยู่ตรงเบาะหลังรถ จากนั้นมนต์มีนาก็ขับรถพาลูกกลับบ้าน เมื่อขับรถออกมาได้สักพักสมองก็เริ่มครุ่นคิดกังวลกับเรื่องที่ต้องเผชิญในวันรุ่งขึ้น
^
^
^
***มาแล้วค่า อดใจรอไม่ไหว เปย์ที่ Ebook ได้เลยน้า
เข้าไปพูดคุย ติดตามผลงานที่เฟสบุ๊ค : มนสิกานต์ นักเขียน ได้นะคะ