มนต์มีนานั่งกินข้าวกับหลานสาวพร้อมดูลูกชายไปด้วย จากนั้นอันนพก็ทำทีมาเรียกลูกสาวขึ้นไปนอนโดยไม่วายส่งสายตาชวนอาเจียนให้เธออยู่เรื่อย เห็นว่าดึกแล้วหญิงสาวก็อุ้มลูกชายเข้าห้องนอนไปเหมือนกัน แต่ทว่าไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังติด ๆ กัน มนต์มีนารีบมาเปิดประตูเพราะเกรงว่าเสียงที่ดังจะทำให้ลูกชายของเธอตื่นแล้วก็พบกับปิยะนุชยืนอยู่ข้างนอกพร้อมกับลูกสาว
คำแรกที่ลูกพี่ลูกน้องพูดกับเธอคือ
“คืนนี้ให้เปียนอนด้วยนะ พรุ่งนี้ฉันกับผัวต้องออกไปทำงานแต่เช้า และเตรียมชุดให้เปียไปโรงเรียนด้วย”
มนต์มีนารับร่างหลานสาวที่ถูกดันตัวเข้ามาในห้องเธอไว้ พยักหน้า เมื่อปิยะนุชหันหลังเดินจากไปหญิงสาวก็รีบปิดประตูลงกลอน
“มาเปีย มานอนกัน”
พูดกับหลานด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่ให้แกตื่นตระหนกและหวาดกลัวอย่างที่ผู้เป็นแม่ทำ
บ่ายวันหนึ่งขณะที่ทุกคนออกจากบ้านกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงมนต์มีนาซึ่งอยู่กับลูกชายวัยหกเดือนตามลำพังในช่วงกลางวัน หญิงสาวที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันนำลูกมาอาบน้ำในกะละมังใบเล็ก ระหว่างควักน้ำลูบตัวให้ลูกหญิงสาวก็เกิดอาการหน้ามืดร่างกายโงนเงนจนเริ่มจนทรงตัวไม่อยู่ สมองตีบตื้อแล้วก็พลันวูบดับไป มือที่คอยประคองร่างเล็กค่อย ๆ อ่อนแรงลง พร้อมกับตัวเธอที่กำลังจะทรุดเอียงไปด้านข้าง มีเพียงเด็กน้อยวัยหกเดือนที่นั่งส่งเสียงอ้อแอ้ ยกมือตีน้ำอยู่คนเดียวโดยที่ไม่สามารถรับรู้เลยว่าในอีกวินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีแม่
ร่างเล็กที่เพิ่งหัดนั่งได้ไม่นานค่อย ๆ เอนลงเรื่อย ๆ ตามแรงโน้มถ่วงของโลกเพราะมือที่ประคองอยู่ไม่มีแรงมากพอที่จะรั้งให้ร่างน้อย ๆ นั้นนั่งอยู่ในท่าที่เหมาะสมได้ ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ทำให้มือของมนต์มีนายังจับอยู่ที่ตัวของลูกไม่ยอมปล่อย
มือเล็ก ๆ ชูขึ้นมาเหนือน้ำโบกไปมาให้เห็นเพียงลิบ ๆ
ในเวลาเดียวกันปิยะนุชก็ขับรถกลับมาที่บ้านเพื่อดักจับสามีที่เธอดูท่าแล้วว่าคิดไม่ซื่อกับน้องสาวเธออยู่ เมื่อเดินเข้ามาก็ไม่พบใครอยู่ในบ้านจึงเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาดื่ม ก่อนหูจะได้ยินเสียงอ้อแอ้ดังอยู่ไม่ไกล เมื่อหันไปที่ประตูหลังบ้านก็เห็นร่างเล็กในกะละมังกำลังเอียงลงไปในน้ำโดยที่ไม่มีคนคอยประคอง ภาพที่เห็นทำให้ปิยะนุชถึงกับร้องเสียงหลง
“ว้าย มันเดย์”
แม้จะมีเรื่องผิดใจกับน้องสาวอยู่แต่เมื่อเห็นอย่างนั้นปิยะนุชก็พุ่งตัวเข้าไปคว้าร่างหลานชายขึ้นมาจากน้ำได้เพียงชั่ววินาทีก่อนที่ศีรษะของเด็กน้อยจะจมลงไปในน้ำ ดีที่เด็กชายเอียงตัวลงไปในท่านอนหงายทำให้ใบหน้าไม่ได้จุ่มลงไปในน้ำจนน้ำเข้าปากและจมูก เด็กชายมนตรธรที่โดนคว้าตัวขึ้นมาจากน้ำได้ทันส่งเสียงร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ
ปิยะนุชอุ้มหลานเอาไว้แล้วจึงหันไปดูน้องสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น
“มี่! ตื่น มี่ มี่”
ปิยะนุชส่งเสียงเรียกมนต์มีนาพร้อมกับเขย่าตัวเธออย่างแรง
“มี่ มี่ ตื่น มี่ ลูกจะตายแล้ว ตื่นเร็ว”
เสียงเรียกซ้ำ ๆ พร้อมกับเสียงร้องไห้ของลูกชายทำให้สติที่หลุดลอยไปไกลถูกดึงกลับมาอยู่กับตัวจนร่างของมนต์มีนาสะดุ้งขึ้นมา
“ลูก ลูกของฉัน”
“อยู่นี่ ลูกแกเกือบจมน้ำตายแล้วรู้มั้ย”
“ลูก มันเดย์”
มนต์มีนาตกใจผวารีบรับตัวลูกชายที่ร้องไห้จ้าจนหน้าตาแดงก่ำมาอุ้มกอดไว้กับอก วินาทีนั้นพี่สาวที่มือว่างแล้วจึงรีบโทรตามรถพยาบาลให้มารับตัวสองแม่ลูก
ขณะเดียวกันคนที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งกำลังนอนแช่ตัวในอ่างจากุซซีสุดหรูภายในอพาร์ตเมนต์ส่วนตัวในบอสตันพลันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจในอ่างก็โผล่หน้าขึ้นมาสูดเอาอากาศเข้าปอด ทั้งที่เพิ่งเอาหัวกดลงไปในอ่างไม่ถึงสิบวินาทีเพื่อฝึกกลั้นหายใจอย่างปกติที่เขาเคยทำ แพขนตาเปียกชุ่มกะพริบตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมองหันไปรอบกายด้วยความรู้สึกใจวูบโหวงแปลก ๆ จนต้องนั่งหลับตานิ่งไปครู่หนึ่ง พอลืมตาขึ้นแล้วปรับลมหายใจทุกอย่างก็เป็นปกติ
จวินลุกออกจากอ่างน้ำ หยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินออกมาที่ด้านนอก ตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพที่มนต์มีนากระโดดลงมาในอ่างจากุซซี่ที่คอนโดซึ่งเคยอยู่ด้วยกันและพยายามดึงตัวเขาขึ้นจากน้ำแวบเข้ามาในหัว วันนั้นเขากลับมาถึงคอนโดก่อนและเข้าไปอาบน้ำ ขณะแช่น้ำในอ่างก็เกิดนึกสนุกเลื่อนตัวลงไปนอนใต้น้ำและฝึกกลั้นหายใจไปด้วย มนต์มีนาที่กลับมาถึงห้องแล้วไม่เห็นเขาจึงเรียกหา แต่ไม่มีเสียงตอบเธอจึงเดินหาจนมาถึงห้องน้ำ เห็นน้ำเต็มอ่างแต่ไม่เห็นคน จึงเดินมาชะโงกดูและเมื่อเห็นเขาอยู่ใต้น้ำเธอกระโจนลงมาในอ่างทันทีพร้อมกับพยายามดึงตัวเขาขึ้นมาให้พ้นน้ำอย่างสุดชีวิตหน้าตาตื่นตกใจจนน่าสงสาร พอลากเขาขึ้นมาได้และเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร เธอโผเข้ากอดเขาแน่นร้องไห้โฮ เขาต้องกอดปลอบเธออยู่นานกว่าเธอจะหยุดร้องไห้ได้
“คุณจินอย่าเล่นแบบนี้อีก มี่ตกใจกลัวคุณเป็นอะไรไป” เธอพูดไปสะอึกสะอื้นไป
จวินสะบัดศีรษะแรง ๆ พยายามสลัดภาพของเธอที่ติดอยู่ในใจให้ออกไป
จังหวะนั้นเสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น จวินจึงเดินมาเปิดประตู และทันทีที่ประตูเปิดออก ‘ลินดา’ นางแบบสาวฮ็อตสุดเซ็กซี่คู่ขาคนใหม่ของจวินที่นัดหมายมาทำกิจกรรมพิเศษด้วยกันก็โผเข้ากอดเจ้าของห้องพร้อมประกบริมฝีปากที่เคลือบสีแดงสดเข้ากับริมฝีปากหยักหนาของชายหนุ่มตรงหน้าโดยไม่ยอมให้เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว แต่จวินกลับดันตัวลินดาออกแล้วพูดว่า
“ขอโทษนะ วันนี้ผมไม่ว่างแล้ว คุณกลับไปก่อน เดี๋ยวผมโอนเงินค่ากระเป๋าใบใหม่ที่คุณอยากได้ไปให้”
“แต่จินคะ...” ชื่อของจินเรียกไม่ยากเพราะไปพ้องกับชื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง
“ผมบอกแล้วไงว่าวันนี้ผมไม่ว่าง ขอโทษอีกครั้งนะ” พูดพลางดันตัวสาวสวยผมบลอนด์ออกจากห้องไป
^
^
^
***ตอนนี้ไม่รู้ใครจะถูกฉาป...มี่...อิจิน...ไรท์....แต่ไรท์ไปก่อนแล้วนะ ฟิ้ววว
บีบมือไปด้วยกัน หนทางข้างหน้าอีกยาวไกลค่า