เสียงหวานกระซิบถาม
พ่อหม้ายหนุ่มเสียงสั่น “พี่ก็อยู่ในสวนไง...” เพราะถูกสาวเจ้าปลุกอารมณ์ จนหูลั่นวิ้งๆ
“เชอะ!!” นุชสุดาสะบัดหน้าใส่ “เดี๋ยวนี้พี่พุทธไม่มีเวลาว่างเลยนะ บอกก่อน... ยังไงก็ห้ามลืมนุช” นุชสุดาเปรยเหมือนรู้อะไรมา พุทธมองสบนัยน์ตาหล่อน เขากระซิบถามเสียงปร่า “หมายความว่าไง?”
หญิงสาวยิ้มหวาน “พี่พุทธกำลังเนื้อหอม ใครๆ ก็อยากลองเจ้านี่ทั้งนั้น ยังไงก็เก็บแรงเหลือไว้ให้นุชบ้างนะคะ”
หนุ่มบ้านทุ่งผงะ!! มีของรักใหญ่ก็ใช่ว่าจะดี เขาถูกสาวๆ หลอกล่อ กลายเป็นที่บำบัดอารมณ์หงี่ของพวกหล่อน
“พี่น่ะลีลาดี แถมยังเร้าใจ นุชเองยังติดใจลืมไม่ลง นับประสาอะไรกับคนอื่นๆ”
ปากหล่อนพูด มือนุชสุดาสาวรูดไม่หยุด หล่อนรั้งเอวกางเกงของพุทธร่นลงต่ำ จนท่อนเอ็นดีดผึ่ง!! แข็งโด่อยู่ตรงหน้าเธอ นุชสุดาสูดปาก ครางเบาๆ ไม่ว่ากี่ครั้ง เธอก็ยังทึ่งในความใหญ่ของยาวของพุทธทุกที
หล่อนแลบลิ้นเลียกลีบปากสีระเรื่อ เอามือมาจับของรักของพุทธ นวดเล่นเบาๆ จากนั้นก็อ้าปาก สวมครอบความใหญ่ยาว ดูดกลืนเข้าไปในอุ้งปากของหล่อนเลย
พ่อหม้ายหนุ่มถึงกับตัวอ่อน เอนแผ่นหลังแนบโคนต้นไม้ สูดปากครางเสียงห้าวๆ เมื่อสาวเจ้าดูดดึงท่อนเนื้อแรงๆ จนเสียวแปลบไปทั้งตัว
หล่อนดูดท่อนลำเสียงดัง บ๊วบๆ จ๊วบๆ พุทธเสียวจนไม่รู้จะพูดยังไง
มือแข็งแรงเลยกดศีรษะเจ้าหล่อนไว้ กระดกเอวใหญ่สวนใส่ จนหล่อนอ้าปากตาเหลือก
“พี่พุทธ ปากนุชจะฉีกแล้ว” หล่อนประท้วง ถอนปากออกมาจากความอวบใหญ่ด้วยความเสียดาย แต่หากเธอยังฝืนดื้อดึง พุทธอาจจะลืมตัว และปากของเธอคงฉีกไปถึงรูหู
นุชสุดารูดกางเกงชั้นในออกไปจากเรียวขา หล่อนกระโจนขึ้นคร่อม ไม่เปิดโอกาสให้พุทธได้ปฏิเสธ สะโพกผายทิ้งตัวใส่ท่อนลำที่ตั้งชันแข็งโด่อย่างพอดิบพอดี หล่อนสูดปาก ส่ายใบหน้า กระดกเอวร่อนเป็นระวิง โยกขย่มแรงๆ ทั้งบดทั้งหมุน อย่างกับผู้ชำนาญ แล้วหล่อนก็ครางดังลั่น
“อูยยยย พี่พุทธ แรงๆ เลยจ้ะ” นุชสุดาร้องเร่ง แดนสวรรค์อยู่แค่เอื้อม หล่อนขมิบร่องสาว ดูดรัดแก่นกายของพุทธ เกร็งกระตุกหายใจหอบๆ พุทธเสียวจี๊ดๆ เขาเองก็จวนเจียน พุทธจึงดันลูกสาวกำนัน นอนราบไปบนพื้น เขาเปลี่ยนเป็นคนรุกเอง รีบกระแทกบั้นเอวเข้าๆ ออกๆ จนถึงวาระสุดท้าย!!
พ่อหม้ายหนุ่ม เร่งกระแทกเอวถี่ยิบ!! ตอกอัดแรงๆ กับโหนกเนื้ออวบอูม ฉีดพ่นน้ำรักเข้าใส่ร่องสาวอย่างฉุ่มฉ่ำ ก่อนจะพลิกตัวนอนแผ่ นอนหอบหายใจแรงๆ จนซี่โครงยุบวาบ
นุชสุดาหลับตาพลิ้ม เรือนกายยังไม่หยุดกระตุก ร่องสาวขมิบตอด นอนอ้าขาหุบไม่ลง!!
พุทธหิวข้าวจนตาลาย...เขาเปลืองแรงไปกับเกมรักเผ็ดมัน แทบไม่ได้กินไม่ได้นอน ต้องออกแรงสาวบั้นเอวไม่ได้หยุดหย่อน หลังบำเรอลูกสาวกำนันจนอิ่มแปล้ หล่อนโผเผกลับบ้าน ด้วยสีหน้าอิ่มสุข แต่พุทธหิวจัด จนตายลาย หนุ่มบ้านทุ่งรีบอาบน้ำ เสียงท้องร้องดังโครกคราก...หากยังมัวชักช้า น้ำย่อยอาจจะกัดพนังกระเพาะของเขาจนขาดก็เป็นได้
หลังผัดแป้งหวีผม แต่งตัวเรียบร้อย พุทธเดินเข้าครัว เพื่อหาอะไรในตู้กับข้าวมากินกันตาย
พ่อหม้ายหนุ่มยืนอึ้ง...กับข้าวอร่อยๆ เต็มตู้ เขาจับจานขึ้นมายกดม กลิ่นหอมเตะจมูกจนน้ำลายสอ พุทธเหลียวมองรอบตัว เขาเจอกับคำเฉลย มีกระดาษแผ่นน้อยวางอยู่บนโต๊ะกินข้าว มีคำสั้นๆ เขียนกำกับไว้
‘กินให้อร่อยนะพี่พุทธ ชบาทำมาให้’
พุทธคดข้าวใส่จาน หยิบจานกับข้าวออกมาจากตู้จนหมด ก่อนจะตักกินอย่างหิวโหย เขาใช้เวลาไม่ถึง10 นาที ก็จัดการกับข้าวทั้งหมดจนเกลี้ยง
มือแข็งแรงยกขึ้นลูบพุงป้อยๆ
เอนตัวพิงพนักเก้าอี้...อ้าปากเรอดัก ‘เอิ้ก!!’
แล้วจึงนั่งรอเวลาให้ข้าวในกระเพาะเรียงเม็ด อิ่มจัดจนแน่นไปหมดทั้งท้อง
พ่อหม้ายหนุ่มคิดใคร่ครวญในใจ จากคำพูดของบรรดาสาวๆ ตอนที่หล่อนกำลังใกล้แตะปลายทางฉิมพลี นุชสุดาพูดเป็นนัยๆ หล่อนคงไปโอ้อวดให้เพื่อนๆ ฟัง จนเป็นที่มา...มีสาวๆ มาอ่อยเขามากหน้าหลายตา
พุทธโครงศีรษะเขาคงเป็นหนุ่มจอมพลัง มีอาวุธหนักพกติดกาย พวกหล่อนเลยอยากที่จะทดลอง
หนุ่มบ้านทุ่งตัดใจเดินเข้าไปในอนในห้อง เขายกมือขึ้นวางบนหน้าผาก ถอนใจแรงๆ เมื่อความเงียบรอบตัวทำให้อดคิดถึงมะเฟืองเมียรักไม่ได้ มะเฟืองจากไปก่อนเวลาอันควร ทิ้งให้คนที่รักหล่อนประหนึ่งลมหายใจ อยู่กับความเศร้าซึม
“เฟือง...พี่เหงาจัง”
พุทธเปรยลอยๆ แม้จะมีผู้หญิงผลัดเปลี่ยนเข้ามาในชีวิตมากหน้าหลายตา แต่ไม่มีสักคนที่มาแทนที่มะเฟืองได้
พ่อหม้ายหนุ่มนอนฟังเสียงแมลงกลางคืนขยับปีกบิน ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงความว่างเปล่าโอบล้อมอยู่รอบตัว...พุทธเหนื่อยและท้อ...เขานึกอยากจะหลับตา และติดตามมะเฟืองไป เมื่อชีวิตนี้ เขามองไม่เห็นอนาคต...หนทางที่ต้องย่ำเท้าเดิน มืดมนไร้แสงสว่าง
บทที่๗.
พุทธตื่นแต่เช้า เขาลุกจากที่นอน ทำกิจวัตรประจำวันจนเสร็จ ชาหนุ่มคว้ามอเตอร์ไซค์คู่ชีพที่จอดไว้ใต้ชายคา สตาร์ทเครื่องเสียงดังขรม ก่อนจะบึ่งรถคู่ใจ บ่ายหน้าไปตลาดสด บรรยากาศยามเช้าแถบชนบท มีแต่ความบริสุทธิ์ กลิ่นไอดินผสมกลิ่นหญ้าแห้งลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ มีแสงแดดเล็กน้อย จึงยังไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่
ตลาดขนาดย่อม มีแม่ค้าตั้งร้านขายมากพอดู กลิ่นอาหาร เสียงพูดคุย ดังเหมือนนกแตกรัง เมื่อบรรดาแม่บ้าน หรือพ่อบ้านที่มาจับจ่าย ถือโอกาสระหว่างการรอสนทนากันไปด้วย รอยยิ้มแต้มอยู่บนใบหน้า เป็นความสุขที่ไม่ต้องเอื้อมมือคว้า เมื่อมันอยู่ตรงหน้า และสามารถสัมผัสได้
“พ่อพุทธ...ลมอะไรหอบมาแต่เช้า”
แม่ค้าแกงถุงเอ่ยทัก พุทธมักจะเดินตามหลังมะเฟือง คอยหิ้วตะกร้าให้เมียรักจับจ่ายอาหารสด และขนมที่พุทธชอบกิน
“คิดถึงป้ามีครับ เลยแหกตาตื่นมาแต่เช้า”
พ่อหม้ายหนุ่มตอบผสมเสียงหัวเราะ
“อย่ามาปากหวานกับป้าเลย ถึงจะแก่ แต่ป้าก็มีหัวใจนะ” แม่ค้าสาวใหญ่สะบัดค้อนให้
“คิดถึงฝีมือผัดเผ็ดปลาไหลของป้าน่ะครับ ทำเองก็อร่อยสู้ป้ามีทำไม่ได้”
หากฝีมือไม่ดีพอ ผู้คนคงไม่มารุมล้อม ป้ามีรสมือดี เป็นที่ติดอกติดใจ นางจึงขายได้มานานเกือบ10ปี
“อ้อ...ก็ยังดี เอามั้ยล่ะป้าจะได้ตักให้”
นางถามกลับ ตั้งท่าเตรียมจะลัดคิวให้ลูกค้าหนุ่ม
“แหมยายมี พอหนุ่มๆ มาซื้อนี่ แกลัดคิวให้เลยนะ”
มีเสียงกระเซ้าดังรอบตัว
“ไม่ต้องหรอกป้า ผมไปดูขนมทางนู้นก่อน เดี๋ยวขากลับแวะมาเอา”
พุทธเลยต้องรีบถอย หากอยู่นาน เกรงว่าแม่ค้าสาวใหญ่จะพลอยเสียลูกค้าเพราะความลำเอียง
หนุ่มบ้านทุ่ง เดินแวะร้านนั้นที ร้านนี้ที จนตอนกลับเขามีถุงหิ้วเต็มมือ ได้ทั้งความเสน่หาและซื้อมาด้วยคนเอง ส่วนมากจะเป็นขนมสดที่เขาชอบทานเสียด้วย
แดดไม่ร้อน ลมเย็นๆ พุทธเลยขับรถคู่ใจเอื่อยเฉื่อย เขาไม่ต้องรีบเร่งเหมือนคนในเมือง งานที่ทำก็แค่การดูแลสวน มีรายได้เลี้ยงตัวได้ แต่ไม่ได้ร่ำรวย มีความสุขล้นเหลือ และหากภรรยาของเขาไม่รีบจากลา ชีวิตนี้ของพุทธ คงมีแต่คนอิจฉา
หลังจัดการกับของที่ซื้อมาจากตลาด พุทธแบ่งใส่ปิ่นโต เขาขี้เกียจย้อนกลับมาบ้านตอนกลางวัน เวลาเกือบทั้งวัน พุทธหมกตัวอยู่ในสวน ตัดหญ้า เล็มกิ่ง ลอกท้องร่อง เก็บใบไม้แห้ง จัดสวนให้ดูสบายตา
บ่ายแก่ๆ พุทธละมือจากงานที่ทำ เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งโคนต้นไม้ ถอดหมวกปีกกว้างมาพัดโบกตรงหน้า เงยหน้ามองฟ้า ก่อนจะเอนตัวลงนอน
เสียงท้องร้องประท้วง เพราะเลยเวลาอาหารมื้อกลางวันมากว่าชั่วโมง...
พุทธถอนใจ ผุดลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยืดตัวยืนขึ้น เดินไปวักน้ำในท้องร่องล้างหน้า ล้างตา เขาเช็ดมือเปียกๆ กับชายผ้าที่คาดไว้ตรงเอว หยิบปิ่นโตมาตั้งตรงหน้า และเริ่มรับประทานอาหารมื้อกลางวัน คนเดียวเงียบๆ