ดูเหมือนว่าร่างกายซึ่งถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อทุกสิ่งอย่าง คงเดินทางมาถึงจุดที่เรียกว่า ‘ขีดจำกัด’ แล้ว “ตกลงนายไหวไหมคีธ...” เพราะคนตรงหน้าแทบไม่ไหวติง ยินยอมให้ลูบไล้ศีรษะโดยไม่ขัดขืน ซ้ำยังพ่นลมหายใจผะแผ่วรดไหปลาร้าเธอซ้ำไปซ้ำมา ไมอาจึงลดระดับสายตาลงต่ำกว่าเดิม เอียงศีรษะเล็กน้อยหมายตรวจเช็กให้แน่ใจอีกครั้งว่ายังโอเคอยู่ไหม กระทั่งพบว่าเปลือกตาเปิดปรือ จะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ ริมฝีปากสั่นเกร็ง ไหล่ทั้งสองข้างกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจอันพร่าแผ่ว “งั้นเดี๋ยวพาไปนอนบนเตียงนะ” กล่าวจบ ไมอารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ตัวเองมี พยุงคนตัวใหญ่ให้ค่อย ๆ ลุกขึ้น และอยู่ในท่วงท่าที่ใกล้เคียงกับการยืนมากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าด้วยสรีระที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดส่งผลให้ทุกย่างก้าวทุลักทุเลพอสมควร หนักหนาเทียบเท่าการเข็นหินขึ้นภูเขาเลยทีเดียว แต่โชคดีที่จุดหมายอยู่ห่างออกไปเพียงสามก้าวเท่านั้น ใช้เวล