เวลาหนึ่งชั่วยามผ่านไปเสียงเกือกม้ายังคงย่ำกับพื้นดินเมื่อมันวิ่งเหยาะๆ ไปตามทาง เสียงล้อเลื่อนยังคงหมุนกระทบกระทั่งกับก้อนหินก้อนดินมาตามรายทาง
เหม่ยหลินยังคงนั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ภายในรถม้าในขณะที่บุรุษลึกลับตัวโตสูงใหญ่เพียงนั่งบังคับม้าอยู่นิ่งๆ เฉกเช่นดังเดิม
ระยะห่างของคนสองคนมีเพียงแค่ผ้าม่านของรถม้ากางกั้น ขณะรถม้าวิ่งไปตามทางมีสายลมพัดผ่านจนผ้าม่านของรถม้าเปิดออก เหม่ยหลินสังเกตเห็นแผ่นหลังกว้างใหญ่ตั้งตรงอย่างสง่างามของพี่หงของนางแค่เพียงรำไร
นางเห็นแค่เพียงรำไรเท่านั้นจริงๆ แต่ทว่ากลับทำให้นางอบอุ่นในหัวใจได้อย่างประหลาด
เขาเป็นใครมาจากไหนนางยังไม่รู้ กระทั่งตัวเขาก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนแท้จริงของเขาเองเช่นกัน
อันที่จริงนางไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า ขนาดนางกำนัลคนสนิทที่นางไว้ใจยังคิดจะฆ่านาง เหล่าบ่าวไพร่ที่ติดตามล้วนถูกซื้อตัวไปด้วยค่าหัวนาง
แต่ทว่ากับเขานางกลับไว้ใจ ทั้งยังรู้สึกอุ่นใจ ถึงแม้ว่านางจะมองเห็นแผ่นหลังของเขาแค่เพียงรำไร หาได้ชัดเจนถนัดตา
เหม่ยหลินเพียงนั่งนิ่งๆ อย่างสงบเสงี่ยม ทว่าเรียวคิ้วเหนือดวงตาคู่หวานขมวดพันกันน้อยๆ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้านวลเนียนเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่ออยู่ภายในรถม้าที่มิรู้ได้ว่าหยุดลงตั้งแต่เมื่อไหร่
หญิงสาวรู้ตัวอีกทีก็ยามเมื่อผ้าม่านของรถม้าถูกฝ่ามือใหญ่หนาเปิดออกแล้วค้างเอาไว้นิ่งนาน
เมื่อหญิงสาวเริ่มรู้แล้วว่าพี่หงของนางที่นางกำลังนึกถึงเปิดผ้าม่านออกแล้วกำลังมองนางอยู่ นางจึงยิ่งเม้มริมฝีปากแน่นขึ้น พวงแก้มยิ่งขึ้นสีแดงเปล่งปลั่ง ในขณะที่ดวงตาสวยหวานกะพริบขึ้นลงเบาๆ สองที
เขาจะรู้หรือไม่กันว่านางกำลังคิดถึงเขาอยู่ ด้วยหัวใจที่เต้นแรงแบบผิดจังหวะ
แต่เหมือนกับว่าบุรุษร่างสูงจะมิได้นำพาอะไรกับนางด้วย เพราะว่าเส้นเสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจของเขาเอ่ยออกมาแค่เพียงเบาๆ “นั่งอยู่ในนี้ ห้ามออกมา”
เขาเอ่ยแค่นั้นแล้วก็ปิดผ้าม่านลงก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบงัน
เหม่ยหลินถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ นางเป็นสตรีใจง่ายไปแล้วหรือไรกัน ไยถึงคิดเกินเลยกับเขาอย่างนี้
อา...ไม่ได้นะเหม่ยหลิน มันผิดนะ เจ้ารู้หรือไม่
หญิงสาวย้ำเตือนตนเองในใจอยู่อย่างนั้น
เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งเค่อ
แต่เหม่ยหลินกลับรู้สึกได้ว่าผ่านไปนานเป็นชั่วยาม เมื่อหญิงสาวเปิดผ้าม่านเพียงนิดเพื่อมองลอดช่องของผ้าออกไป
นางเห็นรอบด้านเป็นผืนป่ากว้างใหญ่ ทั้งยังรกทึบมากนัก มีต้นไม้สูงตระหง่านและต้นหญ้าเต็มไปหมด บรรยากาศโดยรอบช่างมืดสลัวดูอึมครึมน่ากลัว ด้วยเพราะยามเวลาคงใกล้ค่ำเต็มที
เหม่ยหลินถึงกับรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ นางกำลังนั่งอยู่ภายในรถม้าเพียงลำพังอย่างเดียวดายไร้บ่าวไพร่ติดตาม เมื่อมองไปทางซ้ายก็เจอกับต้นไม้รกครึ้ม
เมื่อมองไปทางขวาก็เจอกับใบหญ้าหนาทึบ เมื่อมองไปข้างหน้าก็เจอกับป่าใหญ่สุดลูกหูลูกตาในความมืดที่เริ่มโรยตัวไร้เส้นสายปลายทางให้มองเห็นอีกต่อไป
หญิงสาวถึงกับตัวสั่นขึ้นมา นางรีบปิดผ้าม่านลงในทันที ในยามนี้การเห็นรอบด้านเป็นเพียงผนังของรถม้ายังจะดีเสียกว่าความมืดมิดของต้นไม้ทั้งหลายนั่น
เหม่ยหลินทำได้เพียงนั่งเก็บข่มอาการหวาดกลัวเอาไว้อย่างถึงที่สุด เพื่อรอบุรุษหนึ่งเดียวที่นางคล้ายกับฝากชีวิตน้อยๆ ของนางเอาไว้ที่เขาเสียแล้ว