บุรุษลึกลับแซ่หงยังคงยืนตระหง่านนิ่งขึงอยู่กับที่ เยื้องไปเพียงนิดกับร่างระหงของเหม่ยหลิน
เขายืนด้วยท่วงท่างามสง่าไม่ต่างจากบุรุษสูงศักดิ์ แต่ทว่ากลับให้ความรู้สึกเสมือนเขาเป็นมัจจุราชจากขุมนรกกระนั้น ภายใต้รูปโฉมหล่อเหลาแผ่อำนาจและกลิ่นอายสังหารเข้มข้นฉายชัด สายตาคมเฉี่ยวคล้ายดวงตาพญาราชสีห์มองไปยังร่างไร้วิญญาณของบ่าวไพร่ทั้งหลายที่นอนแน่นิ่งแนบพื้น เขามองด้วยท่าทางเรียบเฉย แววตาของเขาเย็นเยียบ
เขาเพียงแค่ตวัดฝ่ามือชั่วอึดใจ ไยถึงได้คร่าชีวิตของเหล่าผู้คนได้ง่ายดายคล้ายผักปลา มิได้ยินกระทั่งเสียงกรีดร้องด้วยซ้ำ
เหม่ยหลินยังคงนิ่งอึ้งเงียบงันไร้เส้นเสียงไร้กระทั่งลืมหายใจ พลางเงยหน้าสวยหวานขึ้นมองบุรุษลึกลับด้านข้างอย่างตระหนกตกใจเนื้อตัวสั่นเทา
นางเห็นเขาแค่ยืนอยู่นิ่งๆ ด้วยท่าทางเคร่งขรึมเย็นชา เสี้ยวใบหน้าหล่อเหลาคมคายของเขาคล้ายดังรูปสลักงดงามแต่ทว่าน่าเกรงขามถึงสิบส่วน
หญิงสาวแหงนใบหน้ามองชายหนุ่มด้านข้างอยู่อย่างนั้น นางไม่กล้าขยับเรือนกายแม้แต่ลมหายใจยังไม่กล้าปล่อยออกมา
บุรุษแซ่หงปรายสายตาคมเฉี่ยวมองสตรีด้านข้างเพียงปราดเดียวอย่างไม่สนใจนำพาอันใดกับอาการสั่นไหวรุนแรงของนาง เขามองสำรวจพื้นที่โดยรอบเรือนกายอย่างใจเย็น พลางก้าวเท้าย่างเดินไปตามพื้นเบื้องล่างที่กำลังเจิ่งนองไปด้วยสายโลหิตคล้ายสายธาราอย่างไม่สะทกสะท้าน
คราบเลือดยังคงติดตามรองเท้าหุ้มด้วยหนังของเขาไปตามทาง ทิ้งร่องรอยสีแดงฉานเอาไว้ยามเขาเหยียบย่ำฝ่าเท้าขณะก้าวเดิน
บุรุษแซ่หงปรายสายตาคมนิ่งลึกดุดันกวาดมองไปโดยรอบพื้นที่อย่างใจเย็น เขาพยายามนึกและลำดับเหตุการณ์เกี่ยวกับตัวตนของเขาอยู่อย่างครุ่นคิดเงียบงัน แต่ทว่า...เขานึกอย่างไรก็นึกไม่ออก
เขาเป็นใคร มาจากไหน ไยถึงมาอยู่ที่นี่ และห้องข้างล่างภายในวัดแห่งนี้คืออะไร ทำไมเขาถึงจำสิ่งใดไม่ได้เลย
ร่างสูงโปร่งสง่างามของบุรุษลึกลับเดินไปด้วยท่าทางเรียบนิ่ง ปรายสายคาคมเฉี่ยวมองไปโดยรอบทิศทาง พลางระลึกถึงเรื่องราวของตนอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ร่างบางระหงยังคงนั่งมองเขาอยู่อย่างไม่วางตาสลับกับมองมาทางร่างไร้วิญญาณของบ่าวไพร่ที่นอนจมกองเลือดอยู่อย่างพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งพลันดังเข้ามาจากทางด้านนอกของวัดแห่งนี้
“ข้าเห็นมีสตรีงดงามนางหนึ่งเข้ามาในนี้” เสียงทุ้มต่ำของบุรุษเพศดังขึ้นที่ด้านหน้าของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่เหม่ยหลินกำลังนั่งอยู่อย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ใบหน้างดงามเริ่มอิดโรย ดวงตาสวยหวานเริ่มอ่อนแสง
“ข้าขอยลโฉมนางก่อน”
“ได้อย่างไร”
“เช่นนั้นใครดีใครได้”
“ย่อมได้”
และเสียงถกเถียงกันไปมาอย่างนั้นทำเอาเหม่ยหลินถึงกับตัวเกร็งแข็งทื่อนั่งนิ่งงันไม่กล้าไหวติง หญิงสาวเงยใบหน้าสวยหวานขึ้นมองไปทางต้นเสียงอย่างตระหนกเนื้อตัวเริ่มสั่นเทารุนแรงมากยิ่งขึ้น นางถึงกับต้องมองไปทางบุรุษลึกลับที่กำลังเดินและหยุดยืนอยู่ตรงมุมห้องด้านในอีกด้านหนึ่ง
บุรุษลึกลับแซ่หงเพียงยืนนิ่งงันด้วยท่าทางเรียบเฉย เขาหรี่ตามองไปทางต้นเสียงอย่างใจเย็น แต่ทว่าเรือนกายสูงใหญ่ของเขากำลังแผ่กลิ่นอายบางอย่างออกมาได้อย่างน่ากลัว
เสียงพูดคุยเมื่อครู่ขาดหายไปเหลือเพียงเสียงฝีเท้าของบุรุษไม่ต่ำกว่าสามคนกำลังเดินย่ำเข้ามาภายในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และเพียงไม่นานบุรุษพวกนั้นก็เดินพ้นธรณีประตูเข้ามาจนเจอเข้ากับเหม่ยหลินที่นั่งตัวสั่นอยู่กับพื้น
บุรุษพวกนั้นเป็นบรรดาโจรป่าอย่างไม่ต้องสงสัย เหม่ยหลินจำได้ บุรุษพวกนี้เข้าปล้นรถม้าของนางเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา
“อยู่ที่นี่นั่นเอง โอ...นางช่างงดงาม ท่าทางน่าจะหวานล้ำ” บุรุษผู้หนึ่งเอ่ยคำขึ้นมาทันทีเมื่อมองมาเห็นเหม่ยหลิน เขาทำท่าทางเจ้าชู้กรุ้มกริ่มเปิดเผยฉายแววล่วงเกินอย่างหยาบคาย
“อา...ศพพวกนี้คือ...” บุรุษอีกคนหนึ่งที่เดินตามมาอุทานขึ้นเมื่อมองเห็นศพปริศนานอนตายอนาจอยู่บนพื้น
“เจ้าจะสนใจอันใด สนใจแค่แม่นางหน้าตาน่าขย้ำนางนั้นดีกว่า ข้าจะให้ส่วนแบ่งที่ขโมยมาแก่เจ้า ขอเพียงได้เชยชมนางก่อน” บุรุษอีกคนเอ่ยคำพลางย่างสามขุมเข้าหาเรือนร่างระหงอ่อนแรงของเหม่ยหลิน
หญิงสาวถึงกับจ้องมองอย่างตระหนกตกใจ แต่ทว่า...นางไม่สามารถขยับเรือนกายของตนได้แต่อย่างใด นางไม่มีแรงแม้แต่จะเอ่ยคำอันใดออกมาเสียด้วยซ้ำ
โจรป่าพวกนั้นยังคงก้าวย่างเข้าหาเหม่ยหลินอย่างย่ามใจ พวกมันทำท่าทางหยาบคายหมายล่วงล้ำล่วงเกินนางอย่างหมายมาดฉายชัด สายตาของพวกมันจ้องมองเหม่ยหลินอย่างจาบจ้วง ปลายลิ้นเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหายยามย่างกรายเข้าหา
ทันใดนั้นเรือนร่างของบุรุษสูงใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปพลันปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าของเหม่ยหลินได้อย่างรวดเร็วชนิดตายังไม่ทันได้กะพริบก่อนที่พวกโจรป่าจะเข้าถึงร่างบางของนางในอีกอึดใจ
บุรุษผู้นั้นคือบุรุษลึกลับแซ่หงนั่นเอง
เขาพรางตัววูบไหวเพียงเสี้ยวเวลาก็มายืนตระหง่านอยู่ตรงด้านหน้าของเหม่ยหลิน
หญิงสาวยิ่งตาโตตกใจเนื้อตัวสั่นเทาเพิ่มขึ้นมามากกว่าเดิม
“ฆ่าชายผู้นั้นแล้วนำสตรีมา” เสียงเข้มข้นของบุรุษอีกคนหนึ่งเอ่ยสั่งการเมื่อมองมาเห็นบุรุษในอาภรณ์สีดำรัตติกาลท่าทางทมิฬมายืนขวางทางสตรีที่พวกมันกำลังต้องการปลดปล่อยอารมณ์บุรุษเพศ
บุรุษอีกสองคนจึงไม่รอช้ารีบเดินย่างสามขุมเข้ามาทางสตรีงดงามและชายหนุ่มสูงสง่า
ชายแซ่หงยืนอยู่นิ่งๆ จ้องมองพวกมันอย่างเยือกเย็น
และสิ่งที่เหม่ยหลินไม่คาดคิดพลันเกิดขึ้นอีกครา เมื่อบุรุษลึกลับแซ่หงหรี่ตาคมเฉี่ยวมองปราดเดียวไปทางพวกโจรป่าเหล่านั้น
ฝ่ามือของเขาตวัดขึ้นมาเพียงเบาๆ พวกโจรป่าพวกนั้นถึงกับล้มตึงลงกับพื้นเสียงดังสนั่น
สภาพของพวกมันพลันระเนระนาดกระจัดกระจายชักกระตุกตัวเกร็ง ดวงตาเถลือกถลนเลือดกบปาก และตายไปต่อหน้าต่อตาของเหม่ยหลินในทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วรวบรัด และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เหม่ยหลินได้เห็นการสังหารอย่างโหดเหี้ยมแบบไร้เสียง
บุรุษลึกลับแซ่หงผู้นี้
เขาฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น ดวงตาคมนิ่งลึกดุดันของเขาเพียงมองไปยังคนพวกนั้นอย่างเย็นชา ในขณะที่ใบหน้าได้รูปคมคายของเขายังคงสงบเยือกเย็น
เขาแค่เพียงยกฝ่ามือขึ้นสะบัดเบาๆ แค่เพียงเท่านั้น กลุ่มคนพวกนั้นก็ปลิดปลิวกระจัดกระจายคล้ายกับเศษกระดาษลอยละล่องไปคนละทิศคนละทาง
เหม่ยหลินถึงกับทรงตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ สายตาของนางเอ่อคลอไปด้วยม่านน้ำตา นางไม่สามารถเปล่งเสียงอันใดออกมา นางทำได้แค่จับขยุ้มชายผ้าของตนเองไว้ได้เพียงเท่านั้น
บุรุษลึกลับผู้นี้น่ากลัวจับใจ นางไม่เคยเจอใครน่ากลัวเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต เขาน่ากลัวน่าหวาดหวั่นจนนางขวัญผวามิรู้ได้ว่าควรทำตัวอย่างไร
เขาฆ่าคนได้ง่ายๆ แค่เพียงพลิกฝ่ามือเท่านั้น
เหม่ยหลินได้แต่พยายามพยุงร่างอ่อนแรงของตนเองเอาไว้จนสุดกำลัง นางเพียงเงยหน้าขึ้นมองบุรุษลึกลับที่บัดนี้กำลังยืนมองนางนิ่งงัน สายตาคมเฉี่ยวของเขากำลังมองมาทางนางอย่างเยือกเย็น
เหม่ยหลินไม่สามารถทำสิ่งใดได้มากไปกว่านี้ นางทำได้เพียงเงยหน้ามองตอบสบสายตาของเขานิ่งงันไม่ต่างกัน
นางมองเขาด้วยสายตาพร่ามัว ดวงตาของนางกำลังเต็มไปด้วยม่านน้ำสีใสที่นางพยายามแล้วที่จะเก็บข่มมันเอาไว้
เพียงครู่ภาพของบุรุษตรงหน้าที่เหม่ยหลินได้เห็นผ่านน้ำตาพลันนั่งลงอยู่ใกล้ๆ กันกับนาง
เขายกฝ่ามือขึ้นจับหน้าอกของเขาก่อนจะค่อยๆ นั่งลงพร้อมกับอาการไอออกมาเป็นโลหิตสีแดงฉานปนดำจากริมฝีปากได้รูปของเขา
เหม่ยหลินได้เห็นยิ่งตาโตตกใจพลันถลาร่างงามเข้าหาแล้วรีบเอื้อมมือสั่นเทาของนางขึ้นจับประคองช่วงไหล่กว้างใหญ่ของเขาด้วยสัญชาตญาณอย่างลืมตัวลืมความกลัวเกรงของตนไป
นางลูบแผ่นหลังกว้างใหญ่ของเขาด้วยสัญชาตญาณของนางที่มีเช่นเดียวกัน
หญิงสาวยังคงไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดในขณะที่ชายหนุ่มก็ยังคงไว้ซึ่งท่าทางน่ากลัวน่าหวาดหวั่นน่ายำเกรง
เขาเพียงปรายสายตาคมเฉี่ยวมองใบหน้าของเหม่ยหลินนิ่งงันและปล่อยให้นางลูบแผ่นหลังกว้างใหญ่ให้เขาไปมิได้ปฏิเสธอันใดออกมา
เหม่ยหลินลูบแผ่นหลังให้บุรุษลึกลับไปพลางเอื้อมฝ่ามือของตนอีกข้างหนึ่งขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองให้ออกจากดวงตาไป
หญิงสาวทำได้แค่นั้น นางทำอย่างนั้นโดยมิรู้ได้ว่าควรทำตัวอย่างไรดี
นางทำได้แค่เพียงปาดน้ำตาของตนให้ออกจากวงหน้าไปพร้อมๆ กับลูบแผ่นหลังให้กับบุรุษลึกลับน่ากลัวผู้นี้ทั้งอย่างนั้น
บุรุษลึกลับแซ่หงจึงหรี่สายตาคมจ้องมองหญิงสาวนิ่งงัน เขาเห็นนางยังคงเนื้อตัวสั่นเทาไม่เบา ใบหน้าสวยหวานของนางยังคงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ริมฝีปากของนางยังคงเม้มเข้าหากันน้อยๆ อาการหวาดกลัวของนางยังคงฉายชัด ในขณะที่ฝ่ามือเรียวเล็กของนางก็ยังคงลูบแผ่นหลังให้เขา ส่วนมืออีกข้างก็ยังคงยกขึ้นมาปาดน้ำตาของตัวเองออกเป็นระยะๆ
กิริยาอย่างนั้นของสตรีตรงหน้าทำเขายิ่งนั่งนิ่งจ้องมอง
“ข้าไม่เป็นไร” เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจของบุรุษลึกลับแซ่หงกล่าวออกมาเพียงเบาๆ
“ข้าก็ไม่เป็นไร” เหม่ยหลินจึงเปล่งเสียงแว่วหวานส่งผ่านลำคอระหงออกไปอย่างมิรู้ได้ว่าควรเอ่ยสิ่งใดมากไปกว่านี้ นางค่อยๆ ลดฝ่ามือของตัวเองออกจากแผ่นหลังของเขาแล้วถอยหลังออกมาก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขาอย่างหมดเรี่ยวแรง
นางยังคงเค้นเสียงออกมาแผ่วเบา “ท่านบาดเจ็บ”
บุรุษแซ่หงก้มมองใบหน้างามก่อนตอบเสียงแหบเบาผ่านลำคอแห้งผาก “งูพิษตัวนั้นไม่ธรรมดา”
“หากผู้ที่ถูกกัดเป็นข้า” เหม่ยหลินยังคงเอ่ยคำออกมาแผ่วเบา “ข้าคงตายไปแล้วกระมัง”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น” เขาตอบกลับเบาๆ
“ข้า...” หญิงสาวช้อนตามองเขา “ขอบคุณท่าน” นางกล่าวออกมาจากใจจริง เห็นได้ชัดว่าเขาช่วยนาง
กลัวก็กลัว แต่ทว่า...เขาช่วยชีวิตนาง
ทั้งๆ ที่เขาเป็นบุรุษน่ากลัว มองมุมไหนก็อันตราย แต่เขากลับมีน้ำใจช่วยเหลือนาง...
บุรุษลึกลับผู้นี้ช่วยนางจากงูพิษ ช่วยนางจากบุคคลอันตรายทั้งหลายที่นอนตายอยู่บนพื้นนั่น
หากเขาไม่ฆ่าคนพวกนั้น คนที่จะถูกฆ่าเสียเองแน่นอนว่าย่อมจะต้องเป็นนาง
“ข้า...ขอบคุณท่าน” เหม่ยหลินยังคงเอ่ยย้ำคำเดิม นางเงยหน้าจ้องมองบุรุษลึกลับแบบตรงๆ สายตาสวยหวานของนางแสดงออกถึงความอ่อนโยนจริงใจ
ในขณะที่บุรุษลึกลับแซ่หงเพียงก้มมองตอบกลับนางด้วยสายตาเยียบเย็น เขามิได้ว่ากล่าวสิ่งใดแม้ครึ่งคำ ใบหน้าได้รูปคมคายของเขายังคงฉายแววดุดันแลเย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง ทว่ากลิ่นอายแผ่รังสีสังหารรุนแรงกลับลดทอนความเข้มข้นลงเหลือแค่บางเบา
ทั้งสองเพียงจ้องมองใบหน้ากันและกันอยู่อย่างนั้นนิ่งนาน...