บทที่ 2 ปรับตัว

2263 Words
เพราะร่างกายไม่แข็งแรงกัวเหม่ยอิงจึงพักผ่อนเอาแรงมาตลอดห้าวันที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ในยามเช้าเธอจึงตื่นมาทำกับข้าวก่อนที่สะใภ้รองจะตื่น กิจวัตรยามเช้าของสะใภ้รองก็คือทำกับข้าวให้เธอกับแม่สามี และออกไปทำงานเก็บแต้มข้างนอก ถึงมื้อเที่ยงก็จะกลับมาดูแลแม่สามี แต่วันนี้ร่างกายของเธอดีขึ้นมากแล้ว และเสี่ยวลู่ก็พึ่งจะหลับไปในยามเช้า เธอจึงมีเวลาลุกขึ้นมาทำกับข้าวไว้ให้น้องสะใภ้ กัวเหม่ยอิงใช้น้ำล้างข้าวให้สะอาดก่อนจะนำมาต้มในเตาที่จุดไว้ ระหว่างที่ต้องรอข้าวสุกเธอจึงต้องเตรียมของไว้ทำกับข้าว แต่ในครัวนั้นเรียกได้ว่านอกจากข้าวและธัญพืชแห้งก็ไม่มีอะไรให้กินแล้ว กัวเหม่ยอิงถอนหายใจดังเฮือก “ถ้าไม่รีบหาเนื้อสัตว์มา ฉันตายแน่ ๆ ” ในชีวิตก่อนกัวเหม่ยอิงเป็นคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์มาก และยิ่งเป็นเนื้อหมูแล้วยิ่งชอบพิเศษ เรียกได้ว่าในอาหารแต่ละมื้อต้องมีเนื้อหมู แต่พอมาอยู่ที่นี่เธอไม่ได้กินเนื้อสัตว์สักชิ้น และข้าวก็เรียกว่าข้าวไม่ได้ด้วยซ้ำ ตะกร้าสานใบเล็กที่วางอยู่ในครัวถูกกัวเหม่ยอิงคว้าออกมาที่สวนหลังบ้าน ในครัวไมมีอะไรให้กินแล้ว หากไม่เอาผักไปประทั้งชีวิต เธอก็คงจะอดตายจริง ๆ ซึ่งเธอยอมไม่ได้ “เอ๊ะ! มีไก่ด้วย!” พอลองนึกถึงความทรงจำดูแล้ว ก็จำได้ว่าที่บ้านมีไก่ 3 ตัว ที่ถูกเลี้ยงเอาไว้กินไข่ ซึ่งยุคนี้ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ทุก ๆ บ้านจึงสามารถเลี้ยงไก่ได้ครึ่งจำนวนของคนในบ้าน หรือก็คือ 2 คนต่อไก่ 1 ตัว กัวเหม่ยอิงเข้าเล้าไก่ไปดูไข่ไก่ก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าจำไม่ผิดแม่ไก่พวกนี้ถูกเลี้ยงมาหลายปีแล้ว จึงออกไข่ให้วันละฟองหรือบางวันก็ไม่มีให้เก็บ แต่โชคดีที่วันนี้ไข่ในรังมีเกือบ ๆ สิบฟอง เธอจึงเก็บใส่ตะกร้าทั้งหมด นอกจากไข่ไก่แล้ว กัวเหม่ยอิงยังเก็บแตงกวากับมะเขือเทศที่เหลือไม่กี่ผลในสวนหลังบ้านด้วย วันนี้เธอจะทำผัดไข่ใส่แตงกวาและมะเขือเทศ กัวเหม่ยอิงเอาเครื่องปรุงในห้องออกมาใช้ เธอทำอาหารเป็นก็จริง แต่ถ้าไม่มีเครื่องปรุงต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่อร่อยอยู่ดี และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำมันที่มีอยู่เต็มไห ซึ่งเธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนซื้อมา แต่มันอยู่ในห้องของเธอก็แปลว่าเธอใช้ได้ “พี่สะใภ้ ให้ฉันทำเถอะค่ะ!” “ตื่นแล้วก็ไปเตรียมตัว ฉันทำเสร็จหมดแล้ว” เธอส่ายหัวปฎิเสธ เหลือแค่รอแตงกวานิ่มก็เสร็จแล้ว “พี่ตื่นนานหรือยังคะ” สะใภ้รองไม่ได้ออกไปเตรียมตัว แต่หล่อนข้ามาช่วยเก็บอุปกรณ์ที่เธอยังไม่ได้ล้าง กัวเหม่ยอิงพยักหน้า “ก็สักพักแล้วแหละ” จะให้ตอบว่าพึ่งจะตื่นก็ไม่ใช่ “งั้นเดี๋ยวฉันเอาพวกนี้ไปล้างเองค่ะ พี่เตรียมข้าวให้ฉันเอาไปให้คุณแม่ก็พอ” หล่อนว่า “อืม” คล้อยหลังสะใภ้รองเดินออกไปไม่นานกัวเหม่ยอิงก็ยกกระทะลง ตักกับข้าวใส่หม้อแกงเก็บไว้ครึ่งหนึ่งเอาไว้กินมื้อกลางวัน ส่วนที่เหลือกัวเหม่ยอิงแยกไว้เป็นสามชาม ชามแรกเป็นของเธอ ชามที่สองเป็นของสะใภ้รอง และชามสุดท้ายเป็นของแม่สามี ส่วนเสี่ยวลู่นั้นยังกินข้าวไม่ได้แต่กัวเหม่ยอิงก็เก็บน้ำต้มข้าวไว้ให้ลูกสาว เพราะน้ำนมของเธอไม่พอ หากจะไม่ให้กินน้ำต้มข้าวหล่อนก็แทบจะไม่มีอะไรตกถึงท้อง เอาไว้หากได้เข้าอำเภอกเธอจะไปหาซื้อนมผงให้ลูกสาว กัวเหม่ยอิงตักข้าวใส่จานพร้อมกับถือเอาชามกับข้าวออกมานั่งกินบนโต๊ะในห้องโถง ที่เธอไม่รอกินพร้อมกับสะใภ้รองก็เพราะกลัวว่าจะทำตัวเผยพิรุธออกไป ยังไงสะใภ้รองกับกัวเหม่ยอิงก็แต่งเข้าบ้านสกุลหานมาอยู่ในบ้านเดียวกัน หากใครเปลี่ยนไปจะไม่แคลงใจบ้างเลยหรือ ช่วงสาย ๆ สะใภ้รองก็แต่งตัวออกไปทำงานเก็บแต้มกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ส่วนเธอก็อยู่บ้านดูแลแม่สามีกับลูกสาว ที่จริงแล้วชาวบ้านจะออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดเพราะยิ่งทำงานมาก แต้มแรงงานก็จะมากตาม เพียงแต่สะใภ้รองได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของหมู่บ้านให้ไปทำงานสายได้ โดยที่แต้มแรงงานจะได้เพียง 5 แต้มเท่านั้น ต่างจากแต่ก่อนที่ได้7-8 แต้มต่อวัน พอร่างกายเริ่มจะดีขึ้นกัวเหม่ยอิงก็เริ่มจะเบื่อ ในตอนที่เป็นถิงถิงเธอต้องตื่นเช้าไปเรียนและนอนเกือบเช้าเพราะอ่านนิยาย แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ แม่สามีก็เดินไม่ได้ ลูกก็ยังเล็ก หากปล่อยไว้ด้วยกันก็คงจะไม่ดี “เฮ้อออออ” กัวเหม่ยอิงถอนหายใจ พลางใช้นิ้วจิ้มแก้มลูกสาวที่พึ่งจะหลับไปด้วยความเบื่อหน่าย ตกเย็นกัวเหม่ยอิงก็แทบจะกระโดดโลดเต้น เมื่อได้รับข่าวดีจากสะใภ้รองว่าชาวบ้านได้รับการหยุดงานสามวัน เพราะคณะกรรมการต้องเข้าไปประชุมในอำเภอ อีกส่วนก็ต้องเดินทางไปต่างมณฑลจึงไม่มีใครมาจ่ายแต้มค่าแรงงานให้ อันที่จริงก็เหลือคณะกรรมการไว้บ้างแต่จำนวนคนเยอะเกินไป จึงให้หยุดพักผ่อนกันดีกว่า พึ่งจะผ่านช่วงปีใหม่มาได้ไม่ถึงสามเดือน ธัญพืชที่พึ่งเอาลงดินหลังปีใหม่ที่ผ่านมาก็พึ่งจะงอก การหยุดงานครั้งนี้จึงไม่เป็นปัญหามาก ถึงแม้ไม่ได้แต้มงาน แต่คนในหมู่บ้านก็พากันไปแวะเวียนดูอยู่ตลอด เพราะถ้าเกิดธัญพืชเสียหายพวกเขาก็จะไม่ได้กิน เพราะแบบนี้มื้อเย็นของพวกเธอจึงได้กินซุปไข่ที่เหลืออยู่ 3 ฟองจากเมื่อเช้า แต่เธอก็ให้สะใภ้รองไปซื้อมาเพิ่มไว้ทำกินพรุ่งนี้ เช้าวันต่อมากัวเหม่ยอิงตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางมาหุงข้าว เช้า วันนี้เธอจะทำข้าวผัดไข่ และต้มโจ๊กให้เฉพาะแม่สามี เมื่อวานเธอก็ลืมไปว่าคนป่วยควรที่จะกินอาหารอ่อน ๆ เพราะที่นี่ก็กินตามมีตามเกิด สะใภ้รองจึงไม่ได้ทักเธอเรื่องอาหาร ส่วนเสี่ยวลู่ก็เป็นน้ำต้มข้าวที่ใช้ต้มโจ๊ก พรุ่งนี้คงต้องเข้าอำเภอไปหาซื้อนมผงสำหรับลูกสาววัยเดือนกว่า วันนี้เธอจะออกไปหาของป่าตามที่เคยอ่านในนิยายที่เคยอ่านมา อย่างน้อยได้หน่อไม้มาสักหน่อก็ยังดี “ฉันจะไปหาผักป่า ฝากเธอดูลูกให้ฉันด้วย” กัวเหม่ยอิงเอ่ยบอกกับสะใภ้รองที่ตื่นมาช่วยทำอาหารสำหรับพวกเธอ อันที่จริงการเข้าป่านั้นไม่สามารถเข้าไปได้เพราะถือว่าเป็นการลุกล้ำพื้นที่ของรัฐบาล แต่เพราะชาวบ้านต่างมีฐานะไม่ต่างกันนั้นก็คือยากจน คณะกรรมการของหมู่บ้านจึงพากันปิดตา ไม่รับรู้เพราะบางทีพวกเขาก็ทำเช่นเดียวกัน และหลาย ๆ หมู่บ้านรอบข้างต่างก็รับรู้ แต่ไม่มีใครพูด “พี่จะเข้าป่ากับพี่ใหญ่กัวหรือ” สะใภ้รองที่กำลังจุดเตาหันมาถามเธอที่กำลังเตรียมข้าว “ฉันจะไปเอง” กัวเหม่ยอิงตอบ พี่ใหญ่กัวที่ว่าก็คือพี่ชายคนโตของเธอ เขาเป็นคนที่เข้าป่าล่าสัตว์ทุกวัน แม้จะไม่ได้อะไรติดมือตลอดแต่ก็ยังเข้าไปเพราะที่บ้านไม่มีอะไรจะกิน และบ่อยครั้งกัวเหม่ยอิงก็จะติดตามเข้าไปหาของป่ามาไว้กินที่บ้าน แต่หลังจากที่ตั้งท้องได้ 5 เดือน เธอก็หยุดเข้าไปหาของป่าเพราะถูกห้าม และถ้าพี่ใหญ่ได้เนื้อกลับมาก็จะเอามาให้เธอ แต่พวกเธอก็ไม่ได้กินมันเพราะมันถูกบ้านใหญ่สกุลหานแย่งไป “พี่ควรจะให้พี่ใหญ่กัวไปด้วย” สะใภ้รองว่า พี่สะใภ้ของเธอในยามนี้ก็เป็นแม่ม่ายแล้ว และอายุก็ยังไม่มากไป ยิ่งมีการศึกษาดีแล้วแต่งเข้าบ้านใหม่ยังได้ ไม่รู้ว่าหากเจออัลธพาลพี่สะใภ้จะทำเช่นไร “เดี๋ยวก็คงจะเจอกันแหละ” กัวเหม่ยอิงส่ายหัว ตะกร้าสานใบใหญ่ถูกสะพายขึ้นบนหลังของกัวเหม่ยอิงที่เตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ข้างในยังมีน้ำและข้าวมื้อกลางวันหนึ่งห่อ นอกจากนั้นกัวเหม่ยอิงยังสะพายย่ามที่ใส่มีดเอาไว้ ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงจะเข้าป่าไปคนเดียงก็ต้องเตรียมตัวเอาไว้ให้ดี สั่งสะใภ้รอง 2-3 คำ กัวเหม่ยอิงก็ออกเดินทางโดยที่ฟ้ากำลังจะสาง เพราะหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ อีกทั้งหยุดงาน เธอยังไม่พร้อมที่สนทนากับใคร กัวเหม่ยอิงมุ่งหน้าเข้าป่าที่ชาวบ้านจะเข้าในตอนเช้ามืด ยิ่งใครไปก่อนผักป่าที่เกิดก็จะได้ก่อน ใครไปที่หลังก็ไม่ได้อะไร ซึ่งกัวเหม่ยอิงที่คิดว่าออกมาเช้าแล้ว ยังมาหลังชาวบ้านมากกว่าสิบคน “สะใภ้ใหญ่บ้านสามสกุลหานอาการดีแล้วหรือ” เพราะฟ้าสางกัวเหม่ยอิงจึงหาที่นั่งพักก่อน และบริเวณที่นั่งพักก็มีชาวบ้านคนอื่นเดินผ่าน ไม่ก็มานั่งพักบริเวณนี้ และเธอนั่งได้ไม่ถึงนาทีก็มีคนเดินเข้ามาทัก “?” “ก็เห็นสะใภ้รองบอกว่าเธอป่วย” หล่อนจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดเมื่อไม่ได้คำตอบที่อยากจะได้ “ฉันอาการดีขึ้นแล้วค่ะ” กัวเหม่ยอิงรีบนึกความทรงจำของกัวเหม่ยอิงคนเก่า เพื่อให้จำได้ว่าชาวบ้านตรงหน้าคือใคร แม้จะจำไม่ได้หลายอย่างแต่พอนึกถึงแล้วเธอกลับจำมันได้ “มากับพี่ใหญ่กัวหรือ ฉันเห็นเขาล่าไก่ฟ้าได้ตั้งหลายตัว!” หล่อนกระซิบถามเธอด้วยความอิจฉา ไก่พวกนั้นถูกยิงไปแล้ว มันจึงไม่สามารถเลี้ยงต่อได้ พี่ใหญ่กัวได้ไก่ฟ้าไปหลายตัวหนึ่งในนั้นย่อมต้องเป็นของสะใภ้ใหญ่บ้านสามสกุลหาน หรือบางทีอาจมากกว่าหนึ่งตัวด้วยซ้ำ กัวเหม่ยอิงไม่ได้ตอบคำถามของหล่อน แต่เธอกำลังนึกถึงพี่ชายคนโตของกัวเหม่ยอิง พี่ใหญ่กัวคนนี้เป็นคนที่รักน้องสาวและน้องชาย รักถึงขั้นยอมให้มารดาเอาเงินเก็บไว้แต่งภรรยาของเขาให้น้องสาวคนเล็กนำไปเรียน และเขาก็เป็นคนมีฝีมือในการล่าสัตว์คนหนึ่งของหมู่บ้าน พี่ใหญ่กัวจะเข้าป่าล่าสัตว์ในเวลาก่อนฟ้าสางและจะเข้าป่าอีกครั้งหลังเวลาเลิกงาน หรือหากว่างก็จะเข้าป่า จะว่าไปแล้วถึงกัวเหม่ยอิงจะเรียนจบได้หลายปีแต่ทำไมบ้านกัวยังไม่มีเงิน ก็เพราะทุกคนห่วงลูกสาวคนเล็กของบ้านยังไงล่ะ เวลากัวเหม่ยอิงไปที่บ้านก็จะได้เงินกลับบ้านสามีไม่ใช้น้อย ๆ และกัวเหม่ยอิงไม่ได้ใช้สิ้นเปลือง เพียงแต่บ้านใหญ่สกุลหานเอาไป “นี่ ๆ ฉันได้เห็ดป่ามาหลายชั่งเลย! สะใภ้ใหญ่หานพอจะพูดกับพี่ใหญ่กัวให้ฉันได้หรือไม่” ชาวบ้านคนเดิมหรือก็คือสะใภ้รองสกุลจางถามกัวเหม่ยอิงที่กำลังจะเดินจากไป ‘เหอะ! เห็ดป่ากับไก่ฟ้า หล่อนฝันกลางวันหรือยังไง’ เสียงด้านหลังทำให้กัวเหม่ยอิงหันไปมอง เธอเห็นผู้หญิงที่น่าจะอายุราว ๆ กับเธอเอ่ยค้านสะใภ้รองจาง ซึ่งมันเป็นคำที่กัวเหม่ยอิงถูกใจมาก ยุคนี้เป็นยุคที่ขาดแคลนอาหาร และเนื้อสัตว์ไม่ต้องพูดถึง คงจะมีใครอยากแลกเนื้อสัตว์กับผักที่เก็บได้ทุกวันอยู่หรอก “ฉันยังไม่เห็นพี่ใหญ่เลยค่ะ เอาไว้ถ้าเห็นก็จะถามให้ก็แล้วกัน” แม้อยากจะตอบว่าทำไมไม่ไปถามเองแต่เธอก็ยั้งมันเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าสะใภ้รองจางมีญาติมากน้อยเพียงใด หากมีปัญหาด้วยเธอจะซวย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD