ฉึก!
ทว่าขณะที่ซามูร์ได้เริ่มหันหลังออกตัววิ่ง กลับถูกธนูอีกดอกพุ่งใส่เข้าที่น่องขาด้านหลังเข้าอย่างจัง
เมื่อซามูร์รู้สึกว่าตนเองได้พลาดท่าเข้าซะแล้ว ที่ไม่ได้ปลิดชีพไอ้พวกโจรด้วยดาบเดียวไปเสียด้วยความย่ามใจ เป็นเพราะความรีบร้อนกลัวว่าน้ำค้างที่วิ่งตรงไปทางข้างหน้าเพียงลำพังอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้
ซามูร์จึงรีบจ้วงแทงฝังดาบ แต่กลับไม่ได้ตัดหัวไอ้สามโจรชั่วนั่นทิ้งซะก่อน เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่เข้าให้แล้ว
น่องขาที่เริ่มเดินลำบาก ยามเมื่อต้องทิ้งน้ำหนักตัวลงไปมันก็เกิดอาการปวดตุบขึ้นมาทันควัน จนต้องกลั้นใจเดินกะโผลกกะเผลกกลับไปทางซากร่างที่ยังมีลมหายใจเฮือกสุดท้ายของไอ้โจรชั่ว มันริอ่านกล้าลอบยิงลูกดอกใส่ด้านหลังกันเยี่ยงนี้
ซามูร์จับดาบให้มั่นแล้วบั่นหัวมันทิ้งไปในทันทีอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป แล้วจึงรีบหันหลังออกเดินมุ่งไปตามทางที่ได้ตะโกนบอกให้น้ำค้างออกวิ่งต่อไปห้ามหยุดเช่นกัน
เมื่อขายาวที่เคยมั่นคงแข็งแกร่ง ทว่าบัดนี้กลับเริ่มเจิ่งนองไปด้วยหยาดโลหิตสีแดงฉานที่มันผุดออกมา ราวกับไม่มีท่าทีว่าจะหลุดไหลเสียที
น้ำค้างที่วิ่งกระหืดกระหอบนำหน้ามาก่อนตั้งแต่แรก ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกเป็นห่วงซามูร์ขึ้นมาอย่างจับใจ จนต้องขอผิดคำสั่งและเลือกที่จะวกเดินกลับไปทางเดิม เพื่อไปดูซามูร์ให้เห็นกับตาสักหน่อยว่ายังมีชีวิตรอดอยู่
เมื่อแววตาระแวดระวังคอยมองสิ่งรอบข้างตลอดทาง จนได้สบเห็นเข้ากับร่างสูงก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาทันที แต่เมื่อยืนเพ่งดูดีๆ แล้วท่าทางการเดินของซามูร์มันแปลกตาไปมาก
น้ำค้างจึงต้องรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางนี้เช่นกัน แล้วรีบเข้าช่วยประคองพยุงตัวซามูร์ให้เดินได้สะดวกกว่าเดิม
"ซามูร์ นี่เจ้า ทำไมเจ้าโดนยิงมาละ" นัยน์ตาสลดส่อแววความสงสารแลดูเจ็บปวดแทนคนที่มีลูกธนูติดอยู่ที่บริเวณน่องขาจนเดินลำบาก
"ข้าพลาดน่ะ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย" ฝ่ามือเปื้อนเลือดเผลอยกขึ้นมาลูบเข้าที่ใบหน้าหวาดระแวงจนติดคราบสีเลือดไปด้วย
"ข้าไม่เป็นไร เจ้ามากกว่าที่เป็นเถอะ ยังจะมาห่วงข้าอีก" น้ำค้างย่นจมูกบ่นกลับคืนใส่คนที่เอาแต่เป็นห่วงคนอื่น ทั้งที่ตัวเองนั่นแหละเจ็บตัวอยู่แท้ๆ
"ซามูร์ เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ" น้ำเสียงสั่นเครือถามออกมาด้วยแววตาสั่นระริก อย่างรู้สึกไม่มั่นใจกับคนที่ถูกลูกธนูปักอยู่บนน่องขาเลยสักนิด
"อื้อ ข้าไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า แผลแค่นี่เอง" ซามูร์มองจ้องใบหน้าที่แหงนเงยขึ้นมาสบตามองกันเป็นระยะ
ทั้งคู่บุกฝ่าดงต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่ถูกรายล้อมเรียงกันเป็นแถวเป็นแนว ก่อนที่จะถึงที่หมายตรงด้านหน้า
หนึ่งคนช่วยพยุงกับหนึ่งคนที่บาดเจ็บ ทั้งคู่พากันเดินตรงไปยังเชิงผา ถ้าหากเดินทะลุไปด้านใต้แล้วละก็ จะเป็นถ้ำที่สามารถเดินลึกเข้าไปใช้เป็นที่พักอาศัยหลบแดดหลบฝนหลบลมได้ดี
"ข้างหน้านี้เหรอ" น้ำค้างพยุงร่างสูงที่เริ่มจะทิ้งน้ำหนักตัวมาทางน้ำค้างจนเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วเช่นกัน
"อืม ใช่ เดินทะลุป่าต้นไม้เล็กๆ นั่นเข้าไปก็ถึงแล้วล่ะ" ซามูร์เริ่มมีอาการปวดชาบริเวณแผลที่ถูกลูกดอกปักคาไว้ หากถึงที่พักสามารถนั่งลงได้แล้วจะต้องรีบดึงดอกธนูที่ปักอยู่ออกไปในทันที
น้ำค้างพยุงตัวพาซามูร์ให้เดินทะลุดงป่าต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่ขึ้นระเกะระกะตามรายทาง จนมาถึงบริเวณปากถ้ำได้แล้ว อีกเพียงไม่กี่ก้าว คนเจ็บก็จะได้นั่งพักสักที
น้ำค้างจึงให้ซามูร์กัดฟันแข็งใจก้าวขาออกเดินต่ออีกนิด พร้อมกับช่วยพยุงคนเจ็บให้เดินเข้าไปนอนพักในถ้ำให้ได้
"ขอโทษนะ ที่ทำให้เจ้าต้องมาแบกข้าแบบนี้" ซามูร์เห็นใบหน้าชื้นเหงื่อของคนที่พยายามออกแรงพยุงละพาตนเองเดินแต่ละก้าวอย่างหนักอึ้ง จนอดที่จะกล่าวขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิดไม่ได้
"อื้อ ไม่เป็นไร เจ้าแบกข้าตั้งหลายครั้ง" ใบหน้าเล็กเงยขึ้นมามองพร้อมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เมื่อทั้งคู่ต่างพากันเดินอย่างทุลักทุเลไปด้วยกันเพราะน้ำค้างก็เริ่มอ่อนแรงด้วยแล้วเช่นกัน แต่โชคดีที่ว่าได้เดินทางมาจนถึงด้านในของตัวถ้ำแล้วจนได้
อันดับแรกซามูร์บอกให้น้ำค้างก่อไฟรอไว้ก่อนเลย เพราะจะได้ไล่พวกสัตว์เลื้อยคลานอันตรายด้วยในตัว ครั้งนี้น้ำค้างเชื่อฟังคนเจ็บเป็นอย่างดี ไม่มีงอแงหรืออิดออดเช่นทุกที
ซามูร์พยายามดูบาดแผลของตนเอง แต่ทว่าไม่ถนัดสักนิด ทว่าเมื่อหยาดเลือดข้นสีแดงยังพุ่งออกมาไม่ยอมหยุดหย่อน ฝ่ามือใหญ่ใจเด็ดก็บิดน่องขาเข้าหาตัวเพื่อจะได้ง่ายต่อการทำแผล
น้ำค้างผู้ที่เห็นเข้า จึงขยับตัวเข้ามาช่วยจับตัวซามูร์ให้นั่งพิงกับโขดหินจนนั่งตัวตรงได้
"น้ำค้าง.." คนถูกเรียกชื่อหันไปมองใบหน้าของผู้ที่เรียกชื่อตนอย่างตั้งใจฟัง
"เจ้าดึงลูกดอกธนูออกให้ข้าหน่อยสิ"
คนได้ยินตาโตเท่าไข่ห่านทันที พลางรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวันด้วยความขลาดเขลาชัดเจน
"มะ..ไม่ได้ ซามูร์ ข้าทำไม่ได้ ข้ากลัว" ดวงตากลมโตเริ่มสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น ทั้งกลัวว่าซามูร์จะเจ็บ และกลัวว่าตนเองจะทำให้แผลซามูร์แย่ยิ่งกว่าเดิมอีก
"ขอโทษนะ ซามูร์ ข้าไม่กล้า ข้ากลัวทำให้เจ้าเจ็บกว่าเดิมอีก" น้ำตารื้นขึ้นมากระบอกตาสั่นไหวของคนตรงหน้ายุ่งบ่งบอกได้ว่าไม่กล้าทำให้แน่นอน
ซามูร์ไม่ฝืนบังคับกันอีกต่อไป ฝ่ามือใหญ่ติดอาการสั่นยื่นดาบให้กับน้ำค้างเอาไปรนตรงเปลวไฟให้แทน
"เจ้าเผาดาบให้ข้าหน่อย"
น้ำค้างรับดาบจากมือซามูร์ไปเรียบร้อยแล้ว ทว่าเพียงแค่หันหลังไปนั่งยองลนดาบใส่เปลวไฟได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ก็ได้ยินเสียงหอบหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะกลายเป็นเสียงแหกปากลั่น อ๊ากกกก!!!! กึกก้องไปทั่วอาณาเขตบริเวณถ้ำหินนี้เลย
น้ำค้างสะดุ้งตามจนแทบจะหงายท้องนั่งลงไปกับพื้น จนต้องรีบหันกลับไปมองคนที่ลั่นปากร้องเสียงดังสนั่นออกมา ทำเอาน้ำค้างละล้าละลังไปหมด
ยิ่งต้องได้เห็นหยาดเลือดสีแดงฉานพวยพุ่งออกมาไม่หยุด จึงต้องรับถือดาบกลับไปคืนให้คนที่เอนตัว จนแทบจะล้มตัวนอนกุมบาดแผลอยู่อย่างร้าวราน
"ซามูร์ ซามูร์ นะ..นี่ดาบเจ้า" มือสั่นเทายืนดาบที่ถูกเผาเปลวไฟจนร้อนแล้วส่งให้ฝ่ามือใหญ่
ใบหน้าเหยเกเต็มไปด้วยความทรมานมีเหงื่อเม็ดโตผุดซึมออกมาทั่วทุกอณู จนทำให้คนที่เห็นรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วยเลย
ฝ่ามือใหญ่สั่นเทาพยายามเอื้อมจะมารับดาบ ทว่าเมื่อปล่อยมือออกจากรอยบาดแผลเลือดก็ยิ่งพุ่งทะลักออกมา จนต้องยกกลับไปปิดอุดไว้ตามเดิม
"จะ..เจ้าเอามันมาวางลงบนแผลข้าเลย น้ำค้าง" น้ำเสียงที่เคยดุดัน บัดนี้กลับสั่นเครือราวกับเสือบาดเจ็บ จนต้องครวญครางออกมาอย่างบอบช้ำทรมาน
"ตะ..แต่ ข้า ข้า" น้ำค้างมือสั่นเทิ้มหนักขึ้นกว่าเดิม เมื่อถูกไหว้วานให้ทำอะไรที่น่าหนักใจและน่าหวาดกลัวเช่นนี้
"เจ้าทำได้ น้ำค้าง เจ้าเท่านั้นที่ช่วยข้าได้" ซามูร์พยายามฝืนยิ้มอันจืดเจื่อนปนเจ็บปวดทรมานออกมา แต่ราวกับฝืนทำเพื่อให้กำลังใจมาให้คนมือไม้สั่น ซึ่งมันสั่นเทาจนไปถึงจิตใจอย่างหวั่นวิตกเลยด้วยซ้ำ
ซามูร์พยายามพยักพเยิด จนน้ำค้างยอบตัวนั่งลงด้านข้างคนเจ็บ น้ำค้างพรูลมหายใจออกมาก่อนจะวางนาบดาบเล่มยาวลงบนบสดแผลที่มีหยาดเลือดสีข้นพวยพุ่งออกมา
ฮึก..! อึก..!!
ซามูร์กัดฟันกรอด อีกทั้งพยายามกลั้นเสียงร้องไม่ให้ดังออกมา เพราะเดียวน้ำค้างจะยิ่งกลัวแล้วทำไม่ได้
เมื่อท่อนขาที่มีบาดแผลถูกความร้อนจากแผ่นเหล็กกล้านาบลงบนเนื้อสดๆ จนสามารถทำให้เนื้อสุกได้นั้นมันจะเจ็บแสบแสนทรมานขนาดไหน
น้ำค้างหลับตาปี๋ในตอนที่ต้องกดนาบดาบลงบนเนื้อหนังของซามูร์ หากว่าสลับกันคนที่โดนเป็นตัวน้ำค้างเองคงจะดิ้นพล่านทนต่อความร้อนและเจ็บปวดแบบนี้ไม่ไหวแน่นอน
มือเรียวยกดาบออกทันที เมื่อคิดว่าแผลน่าจะสมานกันดีแล้ว เพราะหยาดโลหิตที่เคยพวยพุ่งออกมาจำนวนมาก ก็ไม่มีไหลซึมออกมาเช่นก่อนหน้านี้แล้วด้วย
น้ำค้างยังมือสั่นระริกยังไม่หาย รีบขยับตัวเข้าไปหาคนบาดเจ็บที่นอนลงไปบนพื้น จนเนื้อตัวเลอะเทอะไปหมด มือเล็กยกหัวคนเจ็บขึ้นมาวางบนตักของตน ก่อนที่จะใช้ปลายเสื้อเช็ดหยาดเหงื่อตามกรอบหน้าให้คนที่มีสีหน้าย่ำแย่มากเลย
หลังจากที่ซามูร์ได้หลับลึกลงไปแล้วด้วยความเจ็บปวด น้ำค้างคิดว่าบาดแผลเช่นนี้จะต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ ไหนจะอยู่กลางป่ากลางเขาแบบนี้ หยูกยาก็ไม่มี หมอเอยโรงพยาบาลเอยก็ไม่มีสักสิ่งอย่าง ช่างดูยากลำบากไปหมด
ในตอนนี้น้ำค้างจึงจำต้องพยายามออกไปหาพวกท่อนฟืนกิ่งไม้แห้งๆ บริเวณหน้าปากถ้ำ เตรียมพร้อมเอาไว้ก่อน แล้วได้หอบติดมือกลับมาโยนใส่กองไฟเพิ่มด้วย เพื่อไม่ให้มันมอดดับไปแบบที่ซามูร์เคยสอนสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้กองไฟดับเป็นอันขาด
นัยน์ตาสีนิลสั่นไหวเกิดความหวั่นวิตก หากว่าอาการของซามูร์แย่ลงจะทำเช่นไรดี น้ำค้างจึงต้องคอยป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กับคนเจ็บแทบจะตลอดเวลา
"ซามูร์เจ้าอย่าเป็นอะไรนะ" ฝ่ามือเล็กๆ ยกมือใหญ่เข้ามากอบกุมเอาไว้มั่น ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไล้แผ่วเบาราวกับร่ายเวทมนตร์คาถาขอให้หายไวๆ ฝากฝังลงไปด้วย
น้ำค้างเดินไปโผล่ดูสีของท้องฟ้าอีกครั้ง เขาเริ่มจะต้องเดินออกไปหาน้ำหรือพวกอาหารง่ายๆ มาไว้กิน รวมถึงต้องให้ซามูร์กินด้วย
เสียงถอนหายใจของน้ำค้างไม่ใช่ความเบื่อหน่าย แต่เป็นการถอนหายใจออกมาเพราะความกลัว และสร้างกำลังใจให้คนเองเกิดความฮึกเหิมขึ้นมาทดแทนความหวาดกลัวในสิ่งที่มันยังไม่เกิดขึ้น
น้ำค้างดึงสติกลับมาแล้วจึงต้องรีบก้าวขาออกจากปากถ้ำหินในเวลานี้ เพราะหากไม่รีบไปรีบกลับมา มีหวังต้องรู้สึกเป็นห่วงคนที่ได้รับบาดเจ็บนอนซมรออยู่อยู่ด้านในอย่างแน่นอน
คนต่างแดนที่ต้องเริ่มคุ้นชินกับการหาของป่า เพื่อเอาตัวรอดให้ได้กับการต้องใช้ชีวิตในป่าแห่งนี้ได้เองโดยปริยาย จากการเรียนรู้และถูกซามูร์เคี่ยวกรำสอนมาอยู่หลายวัน จึงทำให้น้ำค้างพอจะหาอาหารซึ่งปัจจัยแรกเลยคือน้ำสะอาด
น้ำค้างเดินไปจนเจอแอ่งน้ำแล้ว จึงหาใบไม้ใบใหญ่มารองและนำกลับไปที่ถ้ำให้ได้มากที่สุด ทว่ามันกลับค่อยๆ ซึมไหลออกจนเหลือกลับมาถึงถ้ำได้เพียงไม่กี่หยด ดังนั้นการออกหาอาหารด้วยตัวเองครั้งแรกจึงล้มเหลว
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อนึกอะไรออก น้ำค้างคลานเข่าไปหาซามูร์ที่ยังคงหลับสนิทอยู่ แล้วเปล่งเสียงพูดด้วยเบาๆ อย่างขออนุญาตยืมสิ่งของสำคัญที่ติดตัวไว้ของซามูร์
"ข้ายืมมีดเล่มสั้นหน่อยนะซามูร์" มือเล็กค่อยๆ แกะเชือกที่ถูกมัดแน่นอยู่บริเวณข้อเท้าของคนที่ชอบพกอาวุธไว้จนเกือบจะทั่วทั้งตัว
น้ำค้างได้มืดพกเล่มสั้นคมกริบติดมือมาด้วยแล้ว ทีนี้เขาจึงเดินไปทางต้นไผ่แล้วฟันมันอยู่หลายหน จนมือเริ่มเกิดรอยถลอกแดง ลอกแตกเป็นขุยออกมาจนเจ็บแสบไปหมด
ใช่ว่าน้ำค้างจะไม่รู้สึกหรือไม่สนใจกับบาดแผลแบบนี้ แต่มันหยุดมือให้ไม่ทำไม่ได้ต่างหาก
น้ำหนักแรงการตัดฟันมีดลงกับต้นไม้ ที่เจ้าตัวไม่ได้เคยชินกับการต้องใช้แรงงานแบบนี้มาก่อน แต่ก็ยังพยายามทำจนสำเร็จจนได้ น้ำค้างได้ท่อนไม้ที่นำมาทำกระบอกสำหรับไว้ใส่น้ำมาแล้ว
เจ้าตัวยกยิ้มด้วยความพึงใจ แล้วรีบเดินหาผลไม้ป่ากับพืชป่า หากโชคดีคงได้เจอสมุนไพรยาแก้ปวดเอาไปต้มให้กับซามูร์กินจะยิงดีมากเลย
สองขาที่ไม่เคยเหยียบย่ำผืนป่ามาก่อนในชีวิต บัดนี้กลับดูกลมกลืนจนเหมือนคนที่ใช้ชีวิตในป่ามาได้เป็นอย่างดี น้ำค้างได้เจอเข้ากับผลไม้ป่าที่ดูๆ ไปทั้งผลทั้งรสชาติคลับคล้ายคลับคลากับลูกพุทราที่บ้านเกิดตนเองยังไงยังงั้น จนคนเก็บดีอกดีใจกวาดเก็บมาเป็นกอบเป็นกำมาด้วย
น้ำค้างเดินลึกเข้าไปในป่า จนมันห่างไกลปากถ้ำออกไปเรื่อยๆ จึงได้พบเจอเข้ากับใบไม้ที่เคยเห็นว่าถูกแปะลงบนบาดแผลของตนเอง เป็นตอนที่หกล้มแล้วหัวเข่ากระแทกพื้นจนเลือดซิบก็ได้ใบอันนี้ที่ซามูร์เอามาขยำขยี้ใส่บริเวณแผลให้ มือเล็กจึงเด็ดใบมันติดมือกลับมาด้วยความดีใจ
และความโชคดีก็บังเกิดขึ้น เมื่อได้พบเจอเข้ากับกอกล้วยป่าแล้วมีลูกสุกคาเครือติดอยู่ด้วย แม้นจะมีรอยจิกแทะจากร่องฟันนกไปบ้าง น้ำค้างก็ไม่ถือ มือเล็กรีบตัดมันลงมาแล้วลากกลับไปยังถ้ำทันที
น้ำค้างปลาบปลื้มที่รู้สึกว่าตนเองนั้นใช้ชีวิตตามที่ซามูร์สอนมาได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นที่พึ่งให้กับซามูร์ได้อย่างภาคภูมิใจแล้ว
คนเก่งที่เดินกลับเข้ามาถึงภายในถ้ำแล้ว จึงเริ่มทำนั่นนี่ให้ตนเองและซามูร์อย่างมืออาชีพ น้ำค้างปลุกซามูร์ให้ตื่นขึ้นมากินกล้วยผลสุก พร้อมนำใบยาสมุนไพรที่ได้เก็บมาขยี้วางโปะลงบริเวณบาดแผลให้คนเจ็บด้วย ก่อนจะป้อนน้ำให้ซามูร์ก่อนจะล้มตัวกลับลงไปนอนพักอีกครั้ง
ซามูร์ออกแรงบีบส่งไปยังฝ่ามือเล็ก ก่อนจะต้องมองกันมาสักพัก คนเจ็บก็ได้ผล็อยหลับลึกลงไปโดยปริยาย
น้ำค้างฉีกปลายเสื้อขาดวิ่นออกมาอีกครั้ง เพื่อนำชิ้นผ้ามาไว้ชุบน้ำเช็ดให้กับคนเจ็บตรงหน้า จนเสื้อตัวนี้มันได้ขาดวิ่นกลายเป็นเอวลอยไปซะแล้ว แต่น้ำค้างก็ได้หาสนใจมันไม่
มือเล็กค่อยๆ บรรจงเช็ดใบหน้าซีดเซียวของคนเจ็บ จนน้ำค้างรู้สึกอยากให้กำลังใจขอให้ซามูร์ได้หายเจ็บปวดโดยเร็ววัน
ผ่านการอวยพรจากริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่ทาบประทับลงบนหน้าผากคมเข้ม ก่อนจะเคลื่อนขยับไปทาบทับลงบนริมฝีปากหนักสีซีดอยู่นานสองนาน ราวกับถ่ายทอดพลังชีวิตให้กันและกัน
“ซามูร์ หายเร็วๆ นะ”