ปัง! ปัง!
ฟิ้ว~~
ปั๊ก! ปั๊ก!
บรรดานักวิจัยที่เดินเข้ามาสะกินน้ำค้าง พร้อมกับว่าได้เวลาต้องออกเดินทางมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองต่อแล้ว เพราะเดี๋ยวต้องไปทำเรื่องแสดงตัวตรงชายแดนด้วย ทว่าขณะที่ทุกคนยังไม่ทันจะได้เจรจากันจบดี
จู่ๆ กลับมีการกราดยิงจนเกิดเสียงปืนที่ดังลั่น ราวกับถูกรัวสาดกระสุนใส่ จนมันพุ่งไปฝังลงบนพื้นทรายตามแนวชายหาดสีขาว ซ้ำยังมีลูกดอกที่ลอยฟิ้วมาเหนือหัวแบบที่ยิงหวิดเฉียดหัวไปมาบนอากาศด้วย
ตอนนี้อาวุธทั้งสองอย่างสุ่มยิงพุ่งส่งกันมาอย่างอุตลุดก็ได้เริ่มขึ้นจนได้ จึงทำให้ทุกคนต่างตกใจพากันวิ่งหนีอย่างแตกตื่น จ้าละหวั่นและกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางเพื่อหาทางเอาตัวรอดด้วยการไปหาที่หลบซ่อนตัวเป็นอันดับแรก
น้ำค้างที่ถูกซามูร์ดึงข้อมือออกให้วิ่งตามมาด้วยกันติดๆ อาร์ลที่เข้ามาช่วยประกบระวังทางด้านหลังให้ ก็พากันหาที่หลบซ่อนจากลูกกระสุนและลูกดอกจากกลุ่มกองโจรกันอย่างจ้าละหวั่นเช่นกัน
อาร์ลแจ้งให้ซามูร์รีบพาน้ำค้างหาทางหลบเลี่ยงหนีไปหาพื้นที่ซ่อนตัวในที่ปลอดภัยต่อชีวิตก่อน ส่วนทางนี้จะเป็นฝ่ายจัดการและรับมือกับกองโจรพอกโคลนต่อให้เอง
อย่างไรเสีย ก็ค่อยหาทางติดต่อกันอีกครั้ง เพื่อจะได้ทำการส่งตัวน้ำค้าง ให้กลับไปยังประเทศของตัวเองได้แน่นอน
กลุ่มของอาร์ลและพลทหารหลายนายรวมไปถึงชาวบ้านที่พอจะมีฝีมืออยู่บ้าง ได้พยายามช่วยกันยิงสกัดกั้นพวกกองโจร ที่ชักจะทำตัวเหิมเกริมหนักเกินไปแล้ว
บริเวณหลังกล่องสินค้าสูงท่วมหัว อาร์ลส่งซิกให้ลูกน้องรีบวิ่งไปทางบ้านโพลิส เพื่อให้ส่งกำลังเสริมเข้ามาสมทบโดยด่วน ผ่านไปเพียงชั่วอึดใจเดียว บ้านโพลิสจึงได้รีบส่งกองกำลังมาช่วยสกัดกั้นกองโจรไว้ได้
จนพวกกลุ่มโจรต้องแตกแยกพากันวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดจากการถูกจับกุม เพราะการพกอาวุธต้องห้ามเข้ามาในเกาะแห่งนี้ จะต้องมีบทลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตเลย
ซึ่งโจรบางกลุ่มพากันวิ่งหนีเข้าป่าไปบ้าง บางส่วนถูกจับกุมตัวได้ทันบ้าง บางส่วนวิ่งหนีลงทะเลไป จนถูกเจ้าหน้าที่ออกเรือตามไล่ล้ากันอย่างชลมุน
ส่วนทางซามูร์และน้ำค้างที่พากันวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในเส้นทางที่เป็นป่าสนรกทึบ ซึ่งทั้งคู่พากันโกยแน่บชนิดที่เรียกได้ว่าวิ่งแทบจะไม่คิดชีวิต
น้ำค้างถูกดันหลังให้วิ่งไปหาที่หลบซ่อนตัวอยู่หลังต้นสนต้นใหญ่มหึมาสักต้นเพื่อความปลอดภัย มันน่าจะสามารถใช้บังร่างของน้ำค้างเอาไว้ได้จนมิดตามที่ซามูร์คาดคิดไว้
ส่วนซามูร์ที่รับรู้ได้ถึงว่ามีกลุ่มโจรวิ่งตามไล่หลังมาจำนวนหนึ่ง จึงเลือกที่จะหันหน้าสู้ปะทะฝีดาบกับมันให้สิ้นซากเสียเลย
กลุ่มสามโจรที่หลุดรอดจากการถูกจับกุมได้ จึงเลือกที่จะวิ่งตามซามูร์มาทันได้ หลังได้สบเห็นเป้าหมายที่ตามหาจึงหยุดขาแล้วเริ่มหยิบอาวุธขึ้นมาพร้อมสู้รบทันที
แม้ซามูร์จะเป็นเพียงหน่วยของทีมสำรวจ ซึ่งไม่ได้ยึดเรื่องของการต่อสู้จับอาวุธเป็นหลัก แต่ซามูร์ก็ได้ร่ำเรียนวิชาการต่อสู้มาจากอาจารย์ที่ต้องสอนการสู้รบเฉกเช่นเดียวกับกองพลทหารของเผ่ากรีนเคิร์กเช่นกัน
ดังนั้นฝีมือกับกระบวนท่าการต่อสู้ของซามูร์จึงไม่เป็นรองใคร ทว่าที่ไม่ได้เป็นกองพลทหารของเผากรีนเคิร์กเพราะเก็งเคอร์บอกว่าซามูร์เหมาะกับทีมสำรวจมากกว่า
เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจเรื่องยศหรือตำแหน่งอยู่แล้ว หากคนเป็นลุงสะดวกใจอย่างไร ซามูร์ก็ยอมทำให้ได้ทั้งนั้นแหละ เขาจึงเลือกเข้าทีมสำรวจพื้นที่แทนนั่นเอง
หนึ่งในสามกลุ่มโจรโคลนพอกหน้ายิ้มกริ่ม เมื่อสบเห็นในมือของคู่ต่อสู้มีเพียงดาบเล่มยาวเท่านั้น ไม่เหมือนกับทางฝั่งของตนเอง ที่มีอาวุธครบมือ ทั้งดาบและปืน โจรชั่วหย่ามใจคิดว่างานนี้หวานหมูเสร็จโจรแน่นอน
ทันทีที่โจรพอกโคนร่างสูงเลือกพุ่งตัวเข้าใส่ซามูร์ก่อนคนแรก หวังจะหลอกล่อให้โจรอีกคนลั่นไกปืนพุ่งเป้าใส่ไปที่ซามูร์ แต่เมื่อได้เข้าไปปะทะตัวต่อตัวกันจริงๆ แล้ว ยังไม่ทันที่จะประดาบเข้าถึงตัวซามูร์ได้เลย โจรกระจอกที่ยิ้มกริ่มเมื่อครู่ กลับต้องเป็นฝ่ายที่กระอักเลือดออกมาซะเอง
เนื่องจากได้ถูกซามูร์ประชิดตัวเพียงในเสียงวินาที พร้อมกับลงดาบไปเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น โจรร่างสูงถึงกับต้องทรุดตัวล้มคว่ำหน้านอนแน่นิ่งลงไปสู่พื้นดิน
ทางด้านโจรตัวเล็กที่ยังถือปืนจ่อเล็งคู่ต่อสู้ตรงหน้า เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น มือที่จับปืนยาวไว้มั่นแล้วเกิดสั่นระริกขึ้นมาทันควัน ใบหน้าตื่นตระหนกหวั่นใจ แต่ก็ยังพยายามเหนี่ยวไกแล้วยิงออกไปทันที
ปัง!
นัดแรกซามูร์สามารถตีลังกาหลบกระสุนได้ทัน จึงทำให้โจรตัวเล็กขบกรามกรอดที่ยิงพลาดเป้าจนลูกกระสุนไปฝังลงที่ต้นไม้ใหญ่แทน มือสั่นเทาจับปืนไว้ให้มั่นอีกครั้งแล้วรีบเล็งเป้าหมายก่อนที่จะยิงจนกระสุนลูกที่สองตามออกไปทันที
ปัง!!
กระสุนลูกที่สองพุ่งทะลุเข้าที่ตัวเป้าหมายอย่างพอเหมาะพอเจาะ จนมือปืนกระหยิ่มยิ้มเยาะเมื่อเห็นคนถูกเล็งไว้มีอาการเซถลาหลังถูกยิง
ทว่าเมื่อโจรย่ามใจว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว เพียงแค่ดึงสายตาออกจากลำกล้องของกระบอกปืน จึงรู้สึกได้ถึงว่าเนื้อตรงส่วนลำคอของตนเองนั้นถูกใบมีดเย็นเฉียบกดลึกลงมาจนได้กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งตีจมูกขึ้นมาเสียแล้ว
ใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อครูเปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันควัน มือสั่นเทิ่มขยับปลายกระบอกปืนได้เพียงแค่นิดเดียว ก็มีเสียงเหี้ยมเกรียมเตือนออกมาทันทีเช่นกัน "ข้าขอเตือนว่าไม่ขยับตัวจะดีกว่า เจ้าจะได้เจ็บตัวน้อยกว่าน่ะ"
ฉับ!
แรงกดดาบแค่เพียงครั้งเดียวแบบไม่เคยพลาดของซามูร์ ทำให้มือที่ยังคงทำท่าถือปืนยาวไว้จนมั่นเหมาะดีแล้วนั้น กลับกลายเป็นส่วนช่วงหัวที่ได้กระดอนหลุดออกจากบ่าไปก่อน แบบที่เจ้าตัวยังไม่ทันจะได้ลั่นไกเป็นครั้งที่สามออกมาได้เลยด้วยซ้ำ
ดวงตาคมกวาดมองหาโจรคนที่สามได้หายตัวไป แต่เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่สักที่ ใบหน้าที่ถูกหยาดเลือดกระเซ็นใส่จนเลอะเทอะไปหมด เปลี่ยนเป็นถมึงทึงฉายแววตาวาวโรจน์โกรธออกมาทันที
โจรชั่วลำตัวหนาที่กำลังสนุกสนานกับการทรมานเหยื่อเล่น ฝ่ามือใหญ่จิกกำขยุ้มเส้นผมบนหัวของน้ำค้างที่ออกแรงทั้งถีบทั้งต่อยออกไปใส่โจรชั่วตัวใหญ่ข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
ทว่ากลับไม่ได้ช่วยทำให้มันเจ็บปวดหรือมีรอยแผลให้ระคายผิวได้เลยสักนิด มีแต่จะยิ่งทำให้น้ำค้างหมดเรี่ยวแรงเร็วยิ่งกว่าเดิมเสียมากกว่า
ใบหน้าเปื้อนโคลนดำฉีกยิ้มกว้าง จนเห็นซี่ฟันขาว ชวนดูสยองดีไม่หยอก มันได้เหวี่ยงตัวน้ำค้างลงพื้นให้กลิ้งคลุกฝุ่นตลบไปหมด ร่างกายเปรอะเปื้อนที่เอาแต่พยายามคลานหนีเอาชีวิตรอด
ทั้งที่เสียงหัวเราะ ชิ ชิ ชิ อันน่าขนลุกดังไล่ตามหลังมาติดๆ เสมือนกับกำลังเล่นเกมไล่ล่ากันอยู่
เสียงหัวเราะอันน่าสะอิดสะเอียนของมัน ทำเอาคนฟังรู้สึกหลอนสติไปหมด สิ่งนี้ยิ่งทำให้น้ำค้างเกิดอาการขวัญเสียขึ้นมาทันที
ภาพทับซ้อนตอนที่ถูกจับตัวไป แล้วยังได้เห็นสภาพของเออฟานที่โดนกระทำย้ำยีมาก่อน มันกำลังหลากกลับเข้าภายมาในหัวอีกครั้ง ทำให้หยาดน้ำตาใสรื้นขึ้นมาเต็มกระบอกตาด้วยความหวาดกลัวโดยอัตโนมัติ
ในท้ายที่สุด ข้อเท้าเล็กโดนคว้าจับเอาไว้ได้ แล้วยังถูกบีบลากให้ถลาเข้าไปประชิดตัวไอ้โจรร่างใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
ใบหน้าที่ยังคงแสยะยิ้มค้างไว้ราวกับคนโรคจิตขึ้นคร่อมทับบนร่างที่กำลังตื่นตระหนก แต่ทว่าน้ำค้างก็ยังคงพยายามดีดดิ้นขัดขืนจนสุดใจ
"ไอ้โจรเหี้x ไอ้ชั่ว ไอ้ระยำ!"
ดวงตาพร่ามัวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตายังพยายามปัดป้องตนเอง ยิ่งตอนที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสองครั้งติดมันยิ่งน้ำค้างถึงกับสะดุ้งแล้วคิดดีไม่ได้เลยว่าซามูร์จะเป็นอย่างไรบ้าง
ชิ ชิ ชิ
"ค่าหัวมึงนี่แพงนักเชียวละ แบบนี้กูรวยแน่" เมื่อโจรใจทราบโน้มใบหน้าที่น้ำค้างแสนจะหวาดกลัวลงไปพูดใกล้ๆ ใบหู
จนน้ำค้างต้องรีบเบือนหน้าหนี คนกลัวจนเผลอหลุดสะอื้นฮักออกมาให้โจรชั่วหัวเราะชอบใจเข้าไปใหญ่ ทำให้มันก้มลงไปสูดดมซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย จนทำเอาน้ำค้างเบิกตากว้าง ตัวสั่นเทิ้ม น้ำตาไหลไม่หยุด เมื่อรู้ว่าต่อจากนี้จะต้องโดนอะไร
อึก
“ซามูร์..ฮึก”
"ซามูร์!!!!!!!"
เสียงแหบแห้งตะเบ็งสุดเสียงร้องเรียกชื่อคนที่น้ำค้างคิด่า ยังไงซามูร์ก็ต้องเข้ามาช่วยเหลือตนได้ทันแน่นอน
"อึก..ฮื้อ.. ซา..อึก"
ริมฝีปากสั่นเทาถูกฝ่ามือใหญ่อุดปากให้เงียบเสียงเอาไว้ทันทีเช่นกัน ส่วนมืออีกข้างของไอ้โจรชั่ว มันก็ฟาดเต็มแรงลงบนพวงแก้มขาว จนขึ้นเป็นรอยแดงตามนิ้วมือทันที
ก่อนหน้านี้ตอนที่น้ำค้างแอบส่องซามูร์ต่อสู้กับพวกโจรอยู่ไกลๆ ทำเอาน้ำค้างที่หวาดกลัวซามูร์จะสู้ไม่ได้ จนต้องคอยลอบมองถึงกับทรุดตัวก้นจ้ำเบ้าลงพื้นราวกับไร้เรี่ยวแรงหมดลงไปพร้อมกับสติ
มือบางยกขึ้นมาบดบังปิดใบหน้าอันเหลือเชื่อกับในสิ่งที่ได้สบเห็น จะเรียกว่ากลัวซามูร์ไหม ก็น่าจะใช่ เพราะตอนนี้น้ำค้างสั่นเทิ้มไปทั่วสรรพางค์เลย
กว่าจะตั้งสติได้ พอได้เงยหน้าขึ้นมาอีกที ก็ถูกไอ้โจรชั่วไซซ์ยักษ์มายืนจังก้าแสยะยิ้มใส่รอกันอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นน้ำค้างจึงรีบกระเสือกกระสนพยายามที่จะหาทางวิ่งหนีให้ได้ ทว่าก็ดันถูกต่อยสกัดเรี่ยวแรงเข้าที่ท้องอย่างแรง จนทำให้ทรุดฮวบได้อย่างง่ายดายเลย
"น้ำค้าง!"
ใบหน้าตึงเครียด กวาดสายตามองไปทั่วพื้นที่บริเวณป่าแห่งนี้ พลางป้องปากสับขาออกวิ่งหน้าตั้งตามหาเจ้าของชื่อไปทั่ว
เมื่อได้ลองเข้าใกล้ตรงบริเวณที่เกิดเสียงหวีดร้องดังขึ้นแล้ว ทว่าตอนนี้กลับนิ่งสงบ เสียงขาดหายไปแล้ว นั่นยิ่งทำให้ซามูร์ร้อนรนใจยิ่งขึ้น สองขาจึงเร่งตามหาตัวของน้ำค้างให้เจอก่อนที่จะสายไป
ดวงตาคมสบได้เห็นแล้วว่าไอ้โจรชั่วนั่น มันกำลังจะทำอะไรกับน้ำค้าง บริเวณกลางลานหลังต้นสนต้นนั้นอยู่แน่นอน ซามูร์รู้สึกปวดหนึบตรงหน้าอกข้างซ้ายทันที
ทั้งที่ใจอยากจะพรวดพราดออกไปด่ากราดใส่มันให้รู้แล้วรู้รอด แต่กลับทำเช่นนั้นไม่ได้ หากแต่กลัวว่าน้ำค้างจะมีอันตรายจากปลายดาบที่มันถืออยู่ในมือ
ดวงตาแข็งกร้าวที่ได้เห็นใบหน้าแดงก่ำนองไปด้วยน้ำตา ดูไร้เรี่ยวแรงของร่างเล็กตรงหน้า ยิ่งทำให้ซามูร์เลือดขึ้นหน้ามาแบบฉับพลัน
ฝ่ามือใหญ่กำกระชับดาบแน่น พลางค่อยๆ เดินย่องเข้าไปด้านหลังไอ้โจรใจทรามอย่างใจเย็น
ฉลั๊ว!!
หยาดโลหิตสาดกระเซ็นไปถูกตัวคนที่จำต้องนอนอยู่ใต้ร่างไอ้โจรชั่วทันที
น้ำค้างผู้ที่กำลังสติกระเจิงหวาดกลัวไปหมด จนต้องมีอาการวิตกจริต ดวงตาเบิกออกกว้างจนม่านตาขยายใหญ่ราวกับกำลังช็อกกับสิ่งที่เห็นตำตา
ซามูร์ถีบร่างไร้หัวของไอ้โจรใจทรามให้ออกห่างจากตัวน้ำค้างโดยทันควัน
มือใหญ่รีบเช็ดดาบคู่ใจที่ติดคราบของเหลวสีแดงลงบนผ้านุ่งของร่างโจร ที่ถูกเด็ดหัวออกไปจากตัวได้อย่างเงียบเฉียบในเพียงดาบเดียวเท่านั้น
ก่อนจะสอดปลายดาบคมเก็บเข้าฟักที่แนบอยู่กับลำตัวตามเดิม แล้วซามูร์เดินจึงยอบกายนั่งลงเคียงข้างคนที่นอนตัวสั่นขวัญผวาจนต้องนอนขดตัวดูน่าสงสาร
"น้ำค้าง.." ซามูร์เอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ทว่าเจ้าของชื่อกลับไม่แม้แต่จะยอมเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เรียกชื่อกันเลยสักนิด จนฝ่ามือใหญ่ต้องฉวยข้อมือเล็กที่ยังคงสั่นเทาขึ้นมากอบกุมเอาไว้แทน
ซามูร์หวังเพียงแค่คนตรงหน้าจะสามารถสงบใจกันได้ แต่คงจะต้องนั่งเฝ้าน้ำค้างอยู่แบบนี้สักพักใหญ่เลย
"เจ้ากลัวข้าแล้วสินะ"
แววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนยอมเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เปล่งเสียงพูด หากได้ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าคนพูดก็เกิดความวิตกกังวลเช่นกัน
ม่านน้ำตาที่บดบังวิสัยทัศน์เริ่มเอ่อล้นขึ้นมาถึงขอบตา ก่อนจะไหลรินออกมาแบบไม่หยุดหย่อน ซามูร์ที่มองกันอยู่จึงได้ดึงตัวคนขี้กลัวระคนขี้แยเข้ามาตระกองกอดราวกับกำลังปลอบประโลมกันเอาไว้ไม่ให้แตกสลาย
"ถ้าตอนนั้น..ข้าส่งเจ้าให้ไปกับอาร์ล เจ้าอาจจะดีกว่าที่เป็นแบบตอนนี้รึเปล่า เจ้าจะได้ไม่ต้องมาพบเจอกับอะไรที่โหดร้ายแบบนี้"
แววตาสั่นไหวของซามูร์จ้องไปยังร่างเล็กที่ยังสะอึกสะอื้นอยู่ตรงหน้าอกของตน ริมฝีปากหนาได้เอ่ยในสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาแบบคนกังวลใจไปหมด
น้ำเสียงสั่นเครือที่ราวกับว่ากำลังตำหนิตัวเองอยู่ จึงทำให้คนใจเสียยอมช้อนใบหน้าขึ้นมาจ้องมองสายตาที่จ้องมองอยู่ก่อนหน้าเช่นกัน
น้ำค้างให้คำตอบโดยการส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา ก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ราวกับว่าตนก็สับสนไปหมดแล้วเช่นกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองรู้สึกอย่างไร
ทั้งเรื่องที่ไม่ได้กลับบ้านอย่างที่คาดหวังตั้งใจ ทั้งต้องมาเจอเรื่องชวนช็อก แบบที่ต้องมาได้เห็นคนหัวขาดไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ด้วย
และที่สำคัญ คนที่เด็ดหัวกำจัดพวกโจรชั่วช้า ที่พวกมันเอาแต่ตามไล่ล่า เพื่อตามฆ่าพวกตนอยู่ คนคนนั้นก็คือซามูร์คนนี้อีกต่างหาก
ภาพเก่าๆ ที่มันชวนหลอกหลอนตีเข้ามาในหัวไม่หยุดหย่อน ราวกับหนังสยองขวัญเรื่องเก่าที่เคยลืมเลือนมาได้หลายเดือนแล้ว กลับต้องมาทำให้จดจำได้อีก
มันเลยทำให้น้ำค้างเกิดความสับสนและหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้งจนได้ น้ำค้างไม่ชินกับชีวิตที่ต้องต่อสู้ภายในป่าแห่งนี้เสียที
แถมคนที่น้ำค้างคิดว่าเป็นคนที่คอยปกป้องตนเองได้เสมอนั้น หากเมื่อยามที่อยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกปลอดภัย สบายใจได้เสมอมา
แต่ทว่าในทางกลับกัน ซามูร์คนนี้นั้นกลับเป็นผู้ที่มีใจโหดเหี้ยม กล้าที่จะเด็ดหัวพวกโจรด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ซึ่งราวกับปีศาจเลือดเย็นที่ไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่ากำลังพรากลมหายใจจากผู้อื่นไปได้อย่างง่ายดาย
เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้..ก็คือคนคนเดียวกันนั่นเอง..