“อื้อ…” เฌอปรางค์ที่สลบไปเนิ่นนานค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมาท่ามกลางอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศและไออุ่นของผ้าห่มที่กำลังคลุมร่างกายเอาไว้
เปลือกตาที่แนบสนิทเปิดออกก่อนจะปรากฏนัยน์ตาสีน้ำตาลหวานละมุน หญิงสาวมองสถานที่ไม่คุ้นเคยพร้อมกับเริ่มตั้งคำถามว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก่อนจะประคองร่างกายแสนอ่อนแรงขึ้นมานั่งพร้อมมองไปรอบๆ ห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่อีกครั้ง ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำ แม้จะยังสว่างอยู่หากแต่แสงแดดกลับถูกปกคลุมไว้โดยผ้าม่านสีดำ
“ที่ไหนเนี่ย…” เธอพึมพำคนเดียว ก่อนจะดึงผ้าห่มออกจากร่างกายแล้วเหวี่ยงขาทั้งสองลงจากเตียงนอนของใครไม่รู้ สองเท้าตวัดตรงไปยังประตู ไม่ทันที่มือจะเอื้อมไปบิดลูกบิดประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกโดยบางคน
แกร๊ก
เธอสะดุ้งด้วยความตกใจตามสัญชาตญาณ ดวงตาช้อนขึ้นมองเจ้าของการกระทำดังกล่าว แม้เป็นลีคัสแต่ก็อดหวาดระแวงไม่ได้ แววตาที่เขามองเธอแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง นอกจากจะว่างเปล่าแล้วยังดูดุดัน สมองสั่งการให้เธอถอยออกห่างจากลีคัสอัตโนมัติ
ทำไมเขาดูน่ากลัวขนาดนี้ ไม่พูดไม่จา แค่ใช้สายตามองเฉยๆ ก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวจนไม่อยากคุยด้วย
“ฟื้นแล้วเหรอ?”
“ค่ะ…” เธอตอบเสียงแผ่ว ก่อนหน้านี้ลีคัสยืนอยู่หน้าประตูห้องนอน ตอนนี้เขาเริ่มตวัดสองเท้าก้าวเข้ามาหาเธอที่อยู่ไกลเพียงไม่กี่เมตร นั่นทำให้เธอต้องถอยออกห่างจากเขาอีกครั้ง
บอกว่านี่ไม่ใช่ลีคัสเธอก็เชื่อ
“เธอหมดสติ ฉันเลยพาเธอมาเพนท์เฮาส์ของฉัน”
“ระ…เหรอคะ” น้ำเสียงเธอเริ่มสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด “คุณจะทำอะไรคะ”
“กลัวเหรอ?” เขาถามเฌอปรางค์ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ รู้สึกว่าที่ผ่านมาเขาใจดีกับเธอมามากพอสมควรแล้ว แผนการที่วางไว้ว่าจะทำให้เฌอปรางค์ตกหลุมรักถูกลบออกจากความคิด เขาไม่ควรเสียเวลากับแผนบ้าๆ นั่นเพราะไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จตอนไหน
ก่อนหน้านี้เขาเล่นๆ แต่หลังจากนี้…เขาเอาจริง!
พรึ่บ!
ปึก!
“โอ้ย!!” เธอกำลังเลี่ยงหลบลีคัสไปอีกทาง แต่กลับถูกเขากระชากแขนแล้วจับกระแทกใส่ผนังห้องนอนเต็มแรงอย่างไม่มีคำว่าเบามือ นี่เขาเป็นอะไรของเขา ก่อนหน้านี้ยังดีๆ กับเธออยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เธอมองเขาด้วยท่าทางหวาดกลัวปนเจ็บจากการกระทำของเขาเมื่อครู่
เขากระตุกยิ้มเมื่อเห็นเนื้อตัวเฌอปรางค์สั่นเทาเพราะหวาดกลัว นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ ยิ่งเห็นคนของศัตรูกลัวตัวเองมากเท่าไร มันยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนได้รับชัยชนะในการแก้แค้นครั้งนี้
“คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไงคุณลีคัส!” เธอถามเขาเสียงแข็งทั้งที่ข้างในเต็มไปด้วยความกลัว เขาใช่ผู้ชายคนเดียวกันที่เธอเพิ่งสัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้หรือเปล่า ใบหน้าเป็นมิตรดูใจดีหายไปไหนหมดแล้ว ทำไมลีคัสคนนี้ถึงดูน่ากลัว ดุดันราวกับปีศาจอย่างไรอย่างนั้น
“นี่ยังไม่เริ่มเลยนะ…กลัวกันแล้วเหรอ?”
รอยยิ้มน่ากลัวบนใบหน้าหล่อเหลาทำเอาเฌอปรางค์เสียวสันหลังวาบ
นี่สินะคือธาตุแท้ของลีคัส
“คะ…คุณเป็นใครกันแน่”
“กลัวถึงขั้นลืมไปแล้วเหรอว่่าฉันเป็นใคร” สรรพนามที่เคยใช้เรียกแทนตัวเองเปลี่ยนไปเช่นเดียวกับโทนเสียงที่เคยใช้พูดคุยด้วย “คงกลัวมากสินะ หึหึ…”
“คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอถามในสิ่งที่ต้องการจะรู้ เสียงหัวเราะในลำคอเมื่อกี้และรอยยิ้มน่ากลัว มันทำให้เธอกลัวผู้ชายคนนี้มากขึ้นหลายเท่า
บอกว่าไม่ใช่ลีคัสก็เชื่อ…
“อยากรู้เหรอ? หึ…ถ้าอยากรู้เดี๋ยวจะทำให้รู้!”
“โอ้ย! จะ…เจ็บนะ!!” เธอพยายามแกะมือลีคัสที่บีบรัดแขนแน่นแล้วออกแรงดึงกระชากให้เธอเดินตามไปยังมุมหนึ่งของห้อง เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มหนึ่งที่ถูกซ่อนเอาไว้ ไม่นานนักผนังห้องก็เคลื่อนตัวเปิดออก
มันคือห้องหลังกำแพงนั่นเอง…
ลีคัสไม่พูดไม่จา กระชากร่างบางให้เดินตามเข้าไปข้างในห้องลับของตัวเอง ภายในห้องถูกปกคลุมด้วยไฟสลัวสีแดง หญิงสาวมองบรรยากาศรอบห้องนี้ด้วยความกลัว ที่นี่ไม่เหมือนห้องทั่วไปเพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์อยู่เต็มไปหมด หัวใจดวงน้อยไหววูบกับบรรยากาศภายในห้องแดง
“นั่นไงคือสิ่งที่ฉันต้องการ” เขาจับตัวเฌอปรางค์มายืนต่อหน้าโดยใช้แขนรัดคอเธอเอาไว้พร้อมกับชี้นิ้วไปยังรูปของฌอนที่ถูกมีดปักบริเวณกลางอกบนรูปภาพเอาไว้
“พี่ฌอน…” เธอเอ่ยชื่อพี่ชายเบาๆ เริ่มงุนงงแล้วว่าพี่ชายตัวเองเกี่ยวข้องอะไรกับลีคัส แรงบีบรัดจากแขนแกร่งที่กดลงมาลำคอทำให้เธอหายเริ่มใจติดขัด “อึก ปะ…ปล่อยนะ!”
ลีคัสไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอเข้าใจ ธาตุแท้ของเขาคือปีศาจดีๆ นี่เอง! เสียแรงที่เธอเคยชื่นชม
เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการลีคัสสุดฤทธิ์ ก่อนจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายใช้แขนศอกกระดุ้งเข้าท้องลีคัสจนเขาเผลอคลายแขนออกจากลำคอ
ตุ้บ!
“แค่กๆ” เธอไม่รอให้โอกาสหายไป รีบวิ่งไปยังประตูห้องลับของลีคัสเพื่อเปิดออก แต่ทว่ากลับไม่เป็นผลเพราะมันต้องใช้ลายนิ้วมือลีคัสในการเปิด “บ้าจริง!”
“เปิดยังไงก็เปิดไม่ออกหรอก เพราะมันต้องใช้ลายนิ้วมือของฉันเปิด”
“คุณต้องการอะไรกันแน่คุณลีคัส! คุณทำแบบนี้ทำไม!” เธอหันไปถามเขาอย่างไม่เข้าใจ
“สิ่งที่ฉันต้องการก็อยู่บนกระดานแผ่นนั้นไง”
“แล้วพี่ชายของฉันเกี่ยวอะไร?”
“มันไม่เคยเล่าความเลวของมันให้เธอฟังบ้างเหรอ? หรือตลอดเวลาที่อยู่กับเธอมันสร้างภาพว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีทั้งที่จริงๆ แล้ว…มันไม่ใช่”
“พูดอะไรของคุณ! เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะกลับ!”
“พูดง่ายดีนิ” เขาแสยะยิ้ม ก่อนหันไปคว้าแซ่ที่วางเอาไว้บนโต๊ะมาแล้วใช้ไล่มองจากนั้นช้อนสายตาขึ้นมองเฌอปรางค์ที่ยืนสั่นอยู่ตรงประตู
เพียะ!
เฮือกก! เธอสะดุ้งอัตโมัติเมื่อลีคัสฟาดแซ่ในมือใส่อากาศจนเกิดเสียง เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ลีคัสเริ่มตวัดสองเท้าตรงเข้ามาหาเธอพร้อมแซ่ในมือ
ตอนนี้เธอจนมุมไม่สามารถหนีไปไหนได้ มองซ้ายและขวาเพื่อหาอะไรไว้ป้องกันตัวจากลีคัสคนบ้า ใช่ ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากบ้า นี่มันปีศาจร้ายในคราบเทพบุตรชัดๆ!
“ยะ…อย่าเข้ามานะ” เธอเหลือบไปเห็นแจกันที่วางอยู่ ไม่รอช้ารีบคว้าสิ่งนั้นมาแล้วโยนใส่ลีคัสโดยไม่รู้ว่าถูกเขาหรือเปล่า
เคร้ง!
“หึ…” เขามองเศษแจกันตรงพื้นแล้วยิ้มมุมปาก ดีที่หลบทันไม่อย่างนั้นคงโดนแจกันกระแทกใส่ไปแล้ว “เธอกล้ามากนะที่ทำแบบนี้”
“อึก! ฉันก็แค่ป้องกันตัวมันผิดตรงไหน” เธอพยายามแกะมือลีคัสที่กำลังบีบรัดลำคอเอาไว้แน่นอยู่ออก
“ดี! ฉันชอบ เห็นเธอต่อต้านฉันแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้ฉันอยากเอาชนะเธอมากขึ้นเท่านั้น”
“คุณมันบ้าไปแล้วรึไง ก่อนหน้านี้คุณยังดีกับฉันอยู่เลย”
“ฉันไม่เคยดีกับเธอ ทุกอย่างมันคือแผนตั้งแต่เริ่มต้น”
ลีคัสกดแรงเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเห็นเฌอปรางค์เจ็บปวดมากเท่าไรเขายิ่งรู้สึกชอบใจมากเท่านั้น หญิงสาวรวบรวมแรงทั้งหมดแล้วยกเท้าถีบหน้าท้องแกร่งของลีคัสจนร่างเขาถอยเซออก
ผัวะ!!
เธอพุ่งไปหยิบเศษแจกันแล้วแทงใส่หัวไหล่ลีคัสจนเลือดออก ทว่าเขากลับไม่ร้องแสดงถึงความเจ็บปวดออกมา กลับกัน เขาหัวเราะออกมาราวกับคนโรคจิต ลีคัสค่อยๆ หันกลับมาหาเธอด้วยรอยยิ้มน่ากลัว
“ตอนแรกก็กะจะใจดีด้วยสักหน่อย แต่ดูแล้วเหมือนเธอจะชอบความรุนแรงมากกว่า ดี! ฉันเองก็ชอบความรุนแรงเหมือนกัน!”
หมับ!
“กรี๊ดดดด!!!” เฌอปรางค์กรีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อโดนลีคัสจับทึ้งเส้นผมแล้วกระชากไปยังเตียงนอน
ตุ้บ!!
มาเฟียหนุ่มผลักคนตัวเล็กลงแล้วหยิบกุญแจมาล็อกข้อมือเล็กข้างหนึ่งติดไว้กับหัวเตียง
“โอ้ย!! คุณจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ!!” เฌอปรางค์โวยวายใส่ลีคัส พยายามดิ้นให้ตัวเองหลุดจากกุญแจมือที่ลีคัสใช้ล็อกเอาไว้ แววตาคู่สวยสั่นระริกด้วยความกลัว จะหนีก็หนีไม่ได้ จะต่อสู้ก็ไม่สามารถทำได้เพราะถูกลีคัสใช้กุญแจมือล็อกเอาไว้ติดกับหัวเตียงนอน “คุณมันบ้า! โรคจิต!”
“อยากด่าอะไรก็ด่ามาเลย มันไม่ทำให้ฉันสะทกสะท้านหรอก” เขาเปิดลิ้นชักหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุยาชนิดหนึ่งเอาไว้ออกมา สายตาพลันไปมองเฌอปรางค์แล้วฉีกยิ้ม
“คะ…คิดจะทำอะไร! ยะ…อย่าเข้ามานะ!” เธอมองลีคัสที่เดินถือเข็มฉีดยาตรงเข้ามาหา ใจอยากหนีไปจากตรงนี้ หากแต่ถูกกุญแจมือของลีคัสพันธนาการอยู่ ทำให้หนีไปไหนไม่ได้ เดาว่าที่เธอหมดสติไปก็คงเป็นฝีมือลีคัสเช่นเดียวกัน
หมับ
“กรี๊ดดด!! ปล่อยนะ! ฉันเจ็บ!!”
ลีคัสไม่สนใจในสิ่งที่เฌอปรางค์พูด เขาล็อกเธอไว้แน่นแล้วฉีดยากล่อมประสาทเข้าสู่ร่างกายหญิงสาวจนหมด และยอมปล่อยเธอเป็นอิสระ
“ไม่ต้องกลัว สิ่งนี้มันจะช่วยทำให้เธอผ่อนคลาย”
“กะ…แกฉีดอะไรให้ฉัน!”
“ก็แค่ยากล่อมประสาท”
“ไอ้โรคจิต!” เธอเค้นเสียงเพื่อด่าลีคัสอย่างยากลำบาก ทันทีที่ยากล่อมประสาทถูกฉีดเข้ามา ร่างกายของเธอตอบสนองต่อสิ่งนั้นอย่างรวดเร็วจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
“หึ…” เขากระตุกยิ้ม ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นที่ตั้งอยู่ออกหยิบขวดเหล้าออกมาแล้วยกกระดกดื่มทั้งขวด สายตามองไปยังเฌอปรางค์ที่กำลังต่อสู้กับฤทธิ์ยากล่อมประสาทอยู่ด้วยความสะใจ จากนั้นปรายสายตาไปยังกล้องวงจรปิดในห้องแล้วแสยะยิ้ม
ถ้าฌอนรู้ว่าน้องสาวที่มันรักกำลังถูกศัตรูทำแบบเดียวกันกับที่มันเคยทำไว้กับญาดา…อยากรู้จริงๆ ว่ามันจะสติแตกมากแค่ไหน
รอวันที่จะเห็นมันสติแตกไม่ได้แล้วสิ…