9 คนเลือดเย็น

1949 Words
ปัง ซ่า ร่างเล็กยืนให้สายน้ำตกกระทบใส่ตัวเอง สองมือเสยผมเปียกปอนไปข้างหลัง แม้ฝันร้ายของเมื่อคืนจะจบลงไปแล้ว หากแต่รอยช้ำและรอยรักจากเหตุการณ์เมื่อคืนยังติดอยู่บนร่างกาย น้ำตาไหลทะลักออกมาจากดวงตาคู่สวยกลมกลืนไปกับสายน้ำเย็นฉ่ำ “ฮึก…” เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดออกมา เฌอปรางค์ยืนร้องไห้จนตัวสั่นโยน รู้สึกสมเพชตัวเองมากไม่น้อย พอหวนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็ยิ่งทำให้เธอรังเกียจตัวเอง มือเล็กถูตัวแรงๆ หมายให้รอยที่ลีคัสทำไว้หายไป แต่ยิ่งถูแรงเท่าไรยิ่งแดงเถือกมากเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นคนที่เธออุตส่าห์ชื่นชมและหลงคิดว่าเป็นคนดี และที่สำคัญ มีครั้งหนึ่งเธอเคยเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้ลีคัส พอเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วมันทำให้เธอเสียดายความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นมากไม่น้อย แต่ยังดีที่ยังไม่ได้หลวมตัวไปชอบหรือว่ารัก ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงกว่าเฌอปรางค์จะเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพไม่สู้ดี เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวเดินไปดูว่าใครโทรมา ฌอน… เธออ่านชื่อของเบอร์บนหน้าจอโทรศัพท์แล้วไม่อยากรับสาย ตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้าใคร และอีกอย่างถ้าหากว่าเรื่องที่ลีคัสพูดเป็นเรื่องจริง เธอจะพี่ชายตัวเองเป็นยังไงต่อไปอันนี้เธอไม่รู้เลย… “คะพี่ฌอน” เธอตัดสินใจคว้าโทรศัพท์มาแล้วรับสายพี่ชาย (เมื่อคืนพี่โทรหาปรางค์ตั้งหลายสาย ทำไมถึงไม่รับสายพี่?) “ขอโทษทีค่ะ เมื่อคืนปรางค์ไม่ค่อยสบาย หลับตั้งแต่หัวค่ำเลย” เธอโกหกพี่ชาย โดยที่มืออีกข้างก็กำเสื้อคลุมสีขาวไว้แน่นด้วยความกังวลว่าพี่ชายจะรู้เรื่องเมื่อคืน และอีกอย่างก็กลัวว่าลีคัสจะเล่นตุกติก ส่งคลิปวิดีโอให้พี่ชายของเธอดู ตอนนี้เริ่มไม่เป็นตัวเอง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำอัตโนมัติ (แน่ใจนะ?) “แน่ใจสิคะ ว่าแต่พี่ฌอนมีอะไรรึเปล่าถึงโทรหาปรางค์หลายสายขนาดนั้น” (ปรางค์นั่นแหละส่งรูปอะไรมาให้พี่ดูเมื่อวาน พี่ถามก็ไม่ยอมตอบ เลยต้องโทรหา) “สะ…ส่งรูปอะไรเหรอคะ?” น้ำเสียงเริ่มสั่น ใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเมื่อพี่ชายพูดแบบนั้น ไม่รู้เลยว่าส่งรูปอะไรไป เพราะเมื่อวานเหตุการณ์ที่จำได้ล่าสุดคือนั่งสัมภาษณ์ลีคัส หลังจากนั้นเขาชวนไปทานอาหารด้วยกัน และภาพก็ตัดไปมาโผล่ที่บ้านลีคัส (รูปที่ปรางค์ส่งให้พี่ทางไลน์ไง จำไม่ได้เหรอ? แล้วเมื่อเช้าก็เพิ่งส่งมา พี่เลยงงว่าทำไมมีเวลาส่งรูปมาให้พี่แต่ไม่มีรับสายพี่) เธอทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นระริกไปหมดก่อนจะขาอ่อนทรุดฮวบนั่งลงเตียง เมื่อวานและเมื่อเช้าเธอไม่ได้ส่งรูปอะไรให้พี่ชาย ถ้าเธอไม่ได้ส่ง…ฝีมือลีคัสอย่างนั้นเหรอ? เขาใช้โทรศัพท์เธอส่งรูปให้พี่ชายของเธอแน่ๆ เป็นใครไม่ได้นอกจากเขา (มีแฟนแล้วไม่บอกพี่เลยนะ) “คะ? มีแฟน?” (ก็ใช่น่ะสิ มีแฟนแต่ไม่ยอมบอกพี่ แถมยังส่งรูปปริศนามาให้พีี่อยากรู้ว่าแฟนปรางค์เป็นใคร เดี๋ยวนี้มีอะไรปิดบังนะ) “พี่ฌอนแค่นี้ก่อนนะ แบตโทรศัพท์จะหมดแล้ว เดี๋ยวปรางค์โทรกลับไปนะ” (โอเค) เธอวางสายจากพี่ชายแล้วกดเข้าไอคอนไลน์เพื่อดูว่าตัวเองส่งรูปอะไร รูปภาพที่ถูกส่งคือรูปภาพอาหารที่ถ่ายติดผู้ชายแต่เห็นเพียงอกเท่านั้น อารมณ์เหมือนกำลังนั่งทานอาหารกับใครสักคนอยู่ ส่วนอีกรูปเป็นผู้ชายหากแต่ถูกปิดใบหน้าด้วยสติกเกอร์ แน่นอนเธอรู้ว่าผู้ชายในรูปคือลีคัส เขาตั้งใจถ่ายรูปตัวเองและปิดใบหน้าเพื่อส่งให้พี่ชายเธอ แต่ประเด็นมันอยู่ที่…เขารู้จักรหัสผ่านหน้าจอโทรศัพท์เธอได้ยังไง แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่ลีคัสไม่ได้ส่งอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนให้พี่ชายเธอ ตอนแรกที่พี่ชายบอกว่าตนส่งรูปให้ ตอนนั้นเธอตกใจและช็อคทำอะไรไม่ถูก เพราะในหัวคิดว่าเป็นรูปที่เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืน แต่พอรู้ว่าไม่ใช่ก็รู้สึกโล่งอก ครืด ครืด เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เบอร์แปลกไม่มีชื่อกำกับทำให้เธอเกิดความลังเลว่าควรรับดีไหม แต่สุดท้ายก็ยอมรับสายซึ่งปกติเธอจะไม่ชอบรับสายของเบอร์คนแปลกหน้าเท่าไร (ชอบของขวัญที่ฉันส่งให้พี่ชายเธอไหม?) น้ำเสียงคุ้นเคยดังออกมาจากโทรศัพท์ รู้ทันทีว่าคือใคร มือเล็กกำเข้าหากันแน่นเพื่อระบายความโกรธ “คุณเป็นคนส่งรูปภาพพวกนั้นให้พี่ชายฉันไหม?” (เธอยังไม่ตอบคำถามของฉันเลยนะว่าไอ้ฌอนมันชอบรึเปล่า ถ้ามันไม่ชอบ…ฉันจะได้คลิปเมื่อคืนให้มันดู เผื่อมันจะชอบ) “สารเลว! รู้ตัวไหมว่าคุณมันเลวมากแค่ไหน” (หึ บอกแล้วไง ว่าฉันก็เลวพอๆ กับพี่ชายเธอนั่นแหละ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเฌอปรางค์ เธอต้องชดใช้ในสิ่งที่พี่ชายเธอทำไว้! จนกว่าฉันจะพอใจ) “….” (เย็นนี้มาเจอฉันที่คาสิโน ฉันมีอะไรจะให้เธอทำ” “แล้วถ้าฉันไม่ไปล่ะ?” (คิดดีๆ ก่อนพูด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน) ริมฝีปากหยักได้รูปแสยะยิ้มน่ากลัว ก่อนที่สายจะถูกตัดลงไปโดยไม่รอให้เฌอปรางค์พูดอะไร เธอเข้าใจในสิ่งที่ลีคัสพูด ถ้าหากเธอไม่ไปหาเขาตามที่เขาต้องการ เขาจะส่งคลิปวิดีโอเมื่อคืนให้พี่ชายของเธอ เพราะมีสิ่งเดียวที่ลีคัสสามารถนำมาข่มขู่เธอได้ ถึงแม้จะไม่อยากไปแต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะตอนนี้เธอไม่ต่างอะไรจากลูกไก่ในกำมือของลีคัส L-Casinoclub ”เชิญ นายรออยู่ข้างใน” ชายชุดดำเปิดประตูให้เฌอปรางค์เข้าไปหาลีคัสซึ่งรออยู่ในห้องสี่เหลี่ยม หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในห้องนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ภายในห้องมีชายชุดดำห้าคนและมีลีคัสนั่งอยู่โซฟาสีดำโดยในมือถือแก้วเครื่องดื่ม กลางห้องมีผู้ชายคนหนึ่งถูกมัดติดกับเก้าอี้ มีถุงสีดำคลุมหัวเอาไว้ เฌอปรางค์เดินเข้าไปหาลีคัสช้าๆ บรรยากาศภายในห้องทำให้เธอรู้สึกวังเวงและหวาดกลัว มิหนำซ้ำยังมีสายตาชายชุดดำจ้องเขม็งทุกการก้าวเดิน “เรียกฉันมามีเรื่องอะไร” เธอถามลีคัส “ไปดึงผ้าที่คลุมหัวมันอยู่ออกให้ทีซิ” “ทำไมต้องเป็นฉัน” “ฉันสั่งอะไรก็ทำอย่างนั้น” ลีคัสยื่นคำขาด เฌอปรางค์เดินตรงไปหาชายคนนั้น มือเล็กเอื้อมไปดึงผ้าสีดำที่ใช้คลุมหัวออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็กลั้นใจทำเพราะคือคำสั่งของลีคัส พรึ่บ “กรี๊ดด!!” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจทันทีที่ดึงผ้าคลุมสีดำออกจากชายคนนี้ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะและเลือด เธอยกมือที่กำลังสั่นระริกขึ้นมาปิดปากตัวเอง ก่อนจะหันไปมองลีคัสที่นั่งยิ้มพอใจ “กำลังตัั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ายังไงอยู่เหรอ?” เอ่ยถามเฌอปรางค์ด้วยรอยยิ้มแสยะ จากนั้นยกเหล้าในแก้วขึ้นดื่มหนึ่งอึก “คุณจับเขามาทำไม” “ไม่ได้จับ แต่มันขายความลับให้ศัตรู ซึ่งถือว่าผิดกฎของที่นี่ การลงโทษลูกน้องที่ทรยศถือเป็นเรื่องปกติ” “….” “อยากรู้ไหมว่าหลังจากนี้สิ่งที่มันจะได้รับต่อไปคืออะไร” “คืออะไร” ลีคัสลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาหาเฌอปรางค์ หันไปส่งสัญญาณบางอย่างกับลูกน้อง ไม่นานนักลูกน้องก็ถือถังน้ำมาสองถังแล้วสาดใส่ชายที่โดนมัดติดเก้าอี้จนฟื้นขึ้นมา ซ่า ซ่า! “คุณจะทำอะไรเขา” เธอหันไปถามลีคัสอย่างไม่เข้าใจ ลีคัสหยิบปืนที่เหน็บไว้ข้างหลังออกมา มือหนาลูบไล้สันปืน เฌอปรางค์มองวัตถุอันตรายอย่างอึ้งๆ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ แค่เขาชักปืนออกมาก็พอทำให้เดาออกแล้วว่าชะตากรรมจากต่อนี้ของชายตรงหน้าจะเป็นอย่างไร “ฉันให้สิทธิ์ยิงมันเป็นของเธอ…” “มะ…ไม่” เธอปฏิเสธเสียงสั่น “เลือกเอา ระหว่างเธอยิงมัน กับลูกน้องฉันยิงเธอ เธอจะเลือกอะไร” พายุชักปืนออกมาจ่อศีรษะเฌอปรางค์หลังจากคำพูดของเจ้านายสิ้นสุดลง หญิงสาวยืนสั่นระริกด้วยความกลัว สถานการณ์ตอนนี้คือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าเธอไม่ทำลูกน้องลีคัสก็คงระเบิดสมองเธอทิ้ง แต่ถ้าเธอทำผู้ชายคนนี้ก็ต้องตาย และมันจะกลายเป็นตราบาปติดตัวเธอไปตลอดชีวิต “ฉันทำไม่ได้!” “งั้นฉันทำเอง” ปัง! ลีคัสจับมือเฌอปรางค์แล้วทำการลั่นไกใส่ชายคนนั้นจนแน่นิ่งลงไป หญิงสาวช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สายตามองปืนในมือที่เพิ่งลั่นไกฆ่าคน แม้ลีคัสเป็นคนลั่นไกปืน หากแต่เธอก็มีส่วนทำให้ชายคนนี้ต้องตาย “ไอ้ฌอนไม่เคยสอนเธอให้ทำอะไรแบบนี้เลยเหรอ? เป็นพี่ชายที่แย่มากเลยจริงๆ” “มีอีกหลายวิธีที่จะใช้ลงโทษเขา ทำไมคุณถึงเลือกที่จะฆ่าเขา” “มันสมควรตาย คนที่ขายความลับให้ศัตรูหรือว่าทรยศฉัน ไม่มีใครได้มีโอกาสหายใจต่อบนโลกใบนี้” “คุณเลือดเย็น…” “หึ” ลีคัสไม่พูดอะไรแค่ยิ้มมุมปาก ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป แต่ทว่ากลับต้องชะงักสองเท้าเมื่อเฌอปรางค์พูดบางอย่างขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นคนอย่างคุณก็ไม่ควรได้หายใจต่อบนโลกนี้เหมือนกัน!” มาเฟียหนุ่มหมุนตัวกลับไปหาเฌอปรางค์ ภาพกระบอกปืนเล็งมาเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาได้ไม่ยาก ถือว่าเธอกล้าหาญมากที่หันปลายกระบอกมาใส่เขาทั้งที่ในห้องนี้เต็มไปด้วยลูกน้องของเขา ก็ยังกล้าเสี่ยงทำเรื่องโง่เขลา “ยิงสิ” “อย่ามาท้าฉันนะ!” “ถ้าเธอกล้า…ก็ยิงฉันเลยสิ” เขารู้ว่าเฌอเธอไม่กล้า เฌอปรางค์ไม่ได้เข้มแข็งและเด็ดขาดมากพอ จึงทำให้เขารู้ว่าเธอไม่กล้าลั่นไก ลีคัสเดินเข้าใกล้ปลายกระบอกปืน ยิ่งใกล้เฌอปรางค์มากเท่าไรยิ่งมองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ริมฝีปากหยักแสยะยิ้ม “ลืมบอกไปเลยว่าปืนกระบอกนี้ฉันใส่กระสุนไว้แค่นัดเดียว ถ้าเธออยากยิงฉันจริงๆ ก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ผิดหวัง” ยอมรับเลยว่าลีคัสเป็นคนฉลาด เธอควรเอะใจตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าทำไมเขาถึงยอมไว้ใจให้ปืนกับเธอ แท้จริงแล้วเขาใส่กระสุนเพียงหนึ่งนัดเท่านั้น ลีคัสเป็นคนรู้ทันคนอื่น ต่อให้เขาใส่กระสุนมากกว่าหนึ่ง เธอก็ไม่กล้าลั่นไกอยู่ดี เพราะเธอไม่ได้เลือดเย็นอย่างเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD