"พระพักตร์ของฝ่าบาทผ่องใสขึ้นนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ก็เพราะของฝากของเจ้าไงคาร์ดัล”
กษัตริย์ฮัสซันทรงพระสรวลขึ้นพลางปรายตาไปยังหญิงสาวชาวเอเชียในชุดนางพยาบาลสีขาวสะอาดตา คาร์ดัลยิ้มขึ้นที่มุมปาก เมื่อมองไปที่ ‘ของฝาก’ ที่ตนนำมาจากเมืองไทย
อารยาไม่เข้าใจภาษาบาฮาเนีย แม้เธอจะพยายามเรียนรู้คำง่ายๆ แต่ถ้าได้ยินประโยคยาวๆ ก็จับใจความไม่ได้เสียที แต่เชื่อว่าสายตาผู้สูงวัยและสูงศักดิ์ที่มองมายังเธอกำลังพูดคุยเรื่องของเธอยู่ ตั้งแต่เธอได้ตราสัญลักษณ์ประจำราชวงค์ฯ ก็ดูว่าคนอื่นจะแสดงกิริยา ‘เกรงอกเกรงใจ’ เธอมากเป็นพิเศษ แต่เธอก็ยังไม่เคยใช้ตรานี่ออกไปไหนเสียที
หญิงสาวได้จึงแต่แต่ทำตัวเป็นอากาศธาตที่่หวังว่าจะไม่มีใครสนใจ
“ปัญหาพวกแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกเป็นอย่างไรบ้าง” คราวนี้น้ำเสียงของ กษัตริย์ฮัสซัน เข้มและจริงจังขึ้นกว่าเมื่อครู่นั้น
“ฝ่าบาททรงมีองค์รัชทายาทที่ปรีชาสามารถ” คาร์ดัลยอมรับจากหัวใจ “ท่านราเฟย์พยายามปรับเปลี่ยนการปกครองโดยทรงใช้สันติวิธีซึ่งก็มีบางส่วนที่ยอมเข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาลแต่บางส่วนก็ยัง...”
“เราหวังว่าจะไม่มีการนองเลือดเกิดขึ้น” กษัตริย์ฮัสซันเอนพระวรกายพิงหมอนใบใหญ่ “ที่ผ่านมามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราทำผิดพลาดไว้ เราก็หวังว่าเจ้าลูกชายหัวดื้อจะไม่เป็นเช่นที่เราเคยทำพลาดมา”
คราวนี้เป็นคาร์ดัลที่หัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจคนสูงศักดิ์กว่า “เห็นจะยากพระเจ้าข้า ท่านราเฟย์ถอดแบบของท่านมามิผิดเพี้ยน สมกับที่เป็นหน่อเนื้อกษัตริย์แห่งบาฮาเนีย”
“เรามิเห็นเป็นเรื่องดี” ทรงโบกพระหัตถ์ไปมาอย่างรำคาญ แต่ก็ต้องยอมรับว่าลูกชายคนนี้ช่างเดินตามรอยพระบาทของพระองค์ในวัยหนุ่มจริงๆ “อายุอานามก็สามสิบสองยังไม่ยอมอภิเษก ร่อนไปเร่มาเป็นพวกเพลย์บอย”
“เช่นเดียวกับพระองค์ไงพระเจ้าข้า” คาร์ดัลอดนึกถึงพระโอรสและธิดานับสิบที่เกิดจากกษัตริย์ฮัสซันไม่ได้ แต่มีเพียงไม่กี่พระองค์ที่ทรงไว้พระทัย
“เจ้านี่มันช่างตอกช่างย้ำเราเสียจริง รีบเอาหน้าเจ้าไปไกลหูไกลตาเราเถอะ เราจะได้พักผ่อนเสียที” กษัตริย์ฮัสซันทรงไล่คาร์ดัลที่เป็นที่ปรึกษาและเป็นพระสหายของพระองค์
คาร์ดัลลุกขึ้นถวายการคำนับและเดินออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่อารยาได้พักผ่อนพอดี เมื่อเดินออกมาข้างนอกจึงรู้ว่าคาร์ดัลรอเธออยู่
“นั่งคุยด้วยกันหน่อยได้มั๊ย”
“ได้ค่ะ” อารยายิ้มกว้าง เธอไม่ค่อยพูดคุยกับใครนัก แม้กระทั่งกับหมอยามาทเองก็เถอะ
หญิงสาวเดินตามร่างของคาร์ดัลมาที่ห้องรับรอง นางกำนัลนำน้ำชามาเสิร์ฟพร้อมของว่าง ครู่หนึ่งหมอยามาทก็เข้ามาสมทบด้วย
“พระอาการของพระองค์ เป็นไปได้มั๊ยที่จะรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด” คาร์ดัลเอ่ยปากถามเมื่อไม่มีคนอื่นแล้วในห้อง
“มีความเป็นไปได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องใช้เวลา ดิฉันต้องนวดกดจุดตามแบบแผนที่เรียนมา ดิฉันต้องถูกพระวรกายของพระองค์”
จะให้พูดยังไงดีละ ที่ผ่านมาเธอนวดแค่ขากับฝ่าเท้านี่นะ แล้วในประเทศที่ผู้ชายเป็นใหญ่จะให้ผู้หญิงไปแตะต้องตัวมันก็ไม่เหมาะนัก
“เรื่องนั้นเราเข้าใจดี เราคุยกับพระองค์แล้วท่านก็เข้าใจ ที่ผ่านมาเธอทำให้พระองค์มีพระอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คิดว่าเรามาถูกทางแล้วใช่มั๊ยหมอยามาท”
“ครับท่านลุง ฝ่าบาทก็พระชันษาสูงการผ่าตัดจะอันตรายเกินไป เท่าที่ผมเคยศึกษามาการรักษาแผนโบราณจากซีกโลกตะวันออกสามารถรักษาได้เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าการผ่าตัดเป็นปีแต่ผลที่ออกมาก็คุ้มค่ากว่า”
‘ใช่ซิ! เธอถูกว่าจ้างตั้งสองปีจะต้องกังวลเรื่องเวลาไปทำไม’
อารยาแอบค่อนว่าในใจ ซึ่งรายละเอียดการรักษานี้เธอก็เขียนรายงานให้พวกเขาทราบไปแล้ว ติดอยู่ที่ว่าเธอจะขึ้นไปนวดบนพระวรกายได้ยังไงก็เท่านั้น และอีกอย่าง ถึงเธอจะภูมิใจที่ได้ใส่ชุดพยาบาทนี่แต่มันก็ทำให้เธอทำงานได้ลำบาก ตอนอยู่เมืองไทยเธอก็ยังสวมกางเกงไปทำงานเลยด้วยซ้ำ ก็เธอเป็นนักกายภาพบำบัดนี่นะ ขืนใส่กระโปรงไปทำงานกระโปรงก็ขาดหมดพอดี เดี๋ยวจะกลายเป็น ‘ให้ท่า’ เหมือนกับที่ใครบางคนเข้าใจผิดมาแล้ว
“อ้อ! ลืมไป รับนี่ไป” คาร์ดัลยืนซองสีขาวส่งให้อารยา
“อะไรคะ” หญิงรับมาอย่างงุนงง แต่พอเปิดดูก็เป็นเงินจำนวนหนึ่ง
“ตั้งแต่มานี่เธอไม่มีเงินติดตัวเลยไม่ใช่รึ เผื่อต้องการซื้อของใช้อะไรส่วนตัว หรือซื้อของฝากส่งกลับไปให้คนที่เมืองไทย”
“แต่ว่าเงินว่าจ้างของดิฉันก็เบิกมาเป็นค่ารักษาของแม่บุญธรรมหมดแล้ว” เธอเอ่ยเสียงแผ่ว อดคิดถึงคนที่เมืองไทยไม่ได้ “อยู่ในวังดิฉันไม่ต้องใช้เงินหรอกค่ะ”
คาร์ดัลยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยเขาก็ดูคนไม่ผิดจริงๆ “เก็บไว้เถอะ ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กน้อยจะซื้ออะไรก็ได้ที่อยากได้”
“คงจะได้ไปช้อปปิ้งที่ไหนหรอกนะ”
คราวนี้หมอยามาทหัวเราะออกมาอย่างรู้ทัน พยาบาลสาวคนขยันไม่เคยออกไปไหนไกลเกินกว่าห้องพักของพยาบาลกับห้องบรรทมของฝ่าบาท
“ขนาดในวังยังหลงทาง คงไม่ต้องพูดถึงนอกวัง”
อารยาแอบค้อนเข้าให้ เรื่องเธอหลงทางในวังนี่กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับหมอยามาทไปเสียนี่ ก็หลังจากที่เธอหลงทางไปเจอองค์รัชทายาทปากร้ายแล้ว ตั้งแต่นั้นเธอต้องให้หมอยามาทเขียนแผนที่คราวๆเพื่อกันหลงทางเลยทีเดียว เพียงแต่เรื่องที่เธอเจอองค์รัชทายาทนั่นไม่ได้บอกใคร ไม่บอกจะดีกว่า เธอยังอยากทำงานให้ครบตามสัญญา หรือถ้าจะต้องถูกส่งกลับก็ขอให้กลับทั้งที่มีลมหายใจและร่างกายครบสามสิบสองเถอะ!
“เป็นอย่างนั้นเองเรอะ” คาร์ดัลพยักหน้ารับรู้ “พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอ ถ้าอย่างนั้นให้กีวอนพาไปเที่ยวในเมืองก็แล้วกัน จำกีวอนได้ใช่ไหม คนที่เคยไปรับเธอที่สนามบิน”
“จำได้ค่ะ” อารยายิ้มกว้าง แค่คิดว่าจะได้ออกไปเที่ยวบ้างก็อดดีใจไม่ได้
คาร์ดัลยิ้มอ่อนโยน “เอาละ วันนี้ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็คุยกับหมอยามาทหรือฉันก็ได้นะ”
“ค่ะ”
อารยายกมือไหว้ลาแล้วเดินออกมาจากห้องรับรอง เมื่อปิดประตูห้องแล้วเธอก็อดหยิบซองใส่เงินออกมานับดูไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าเงินของบาฮาเนียในซองนี้เทียบเป็นเงินไทยเท่าได้เท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ เธอจะไปซื้อหนังสือมาตุนไว้อ่านจะไม่ไปง้อคนปากร้ายอย่างองค์รัชทายาทราเฟย์เด็ดขาด!
หญิงสาวเก็บซองใส่เงินในกระเป๋ากระโปรงแล้วเดินตรงไปทำงานของเธอ โดยไม่รู้ว่ามีร่างสูงใหญ่แอบยืนฟังพวกเขาทั้งสามอยู่หน้า พอรู้ว่าจะมีคนออกมาก็หลบไปยืนอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่กระนั้นสายตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวแห่งทะเลทรายก็มองเห็นเธอนับเงินในซองสีขาวด้วยแววตาเป็นประกาย!
ผู้หญิงเห็นแก่เงิน!