ความสัมพันธ์ของสามีภรรยานับวันยิ่งห่างเหิน สามปีแล้วที่ซูเม่ยนั้นไม่ยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัว ในวันนี้เพื่อนร่วมงานของตงเหมาชักชวนเขามาดื่มหลังเลิกงาน
ก่อนจะแนะนำเขาให้ได้รู้จักกับหญิงสาวแรกแย้มผู้หนึ่ง ซึ่งมีอาชีพขายเรือนร่าง เธอเหนียมอายเมื่อสบสายตาของชายหนุ่มที่หล่อเหลาหมดจดอย่างตงเหมา
“สักหน่อยไหมสหาย อาเม่ยคงไม่สนใจหรอก”
เพราะรู้ว่าภรรยาของอีกฝ่ายกำลังคบหาชายอื่นอย่างเปิดเผย ทำให้ทุกคนรอบตัวตงเหมานั้นอยากยุยงให้เขาเขี่ยซูเม่ยทิ้งและเริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที
แต่ไม่ว่าหญิงสาวผู้นั้นจะทำสิ่งใด ตงเหมาก็ได้แต่นิ่งเฉยจนหลายคนอดไม่ได้ที่จะตราหน้าว่าเขาเป็นเพียงคนโง่เง่า
ตงเหมาลังเลใจ เขาอยากสัมผัสรสชาติของการนอกใจดูบ้าง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วเขากลับเลือกที่จะปฏิเสธไป ชายหนุ่มไม่ชื่นชอบการประพฤติผิด ฉะนั้นแล้วต่อให้จุดประสงค์เป็นเช่นไรก็ไม่สมควรอยู่ดี
เขาเกลียดสิ่งที่ซูเม่ยทำและเขาไม่คิดที่จะเดินตามรอยเท้าเธอ
“เหตุใดถึงไม่ลองสักครั้ง”
สหายสนิทเอ่ยถามด้วยความสงสัย หากเป็นเขาโดนภรรยาย่ำยีศักดิ์ศรีขนาดนี้คงต้องตายกันไปข้าง แต่ตงเหมากลับยังใจเย็นจนน่ารำคาญ
“อย่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันกลัวอาเม่ยเสียใจ”
เพราะรู้ดีว่าสหายกำลังคิดอะไรอยู่ตงเหมาจึงรีบเอ่ยดักคอ ที่เขาไม่ยอมนอนกับหญิงสาวผู้นั้นก็เพราะต้องการเก็บเงินก้อนนี้ไว้ซื้อปีกไก่เหล้าแดงให้ลูกชายต่างหาก เขาไม่อาจจ่ายเงินให้หญิงสาวผู้นั้นไปแล้วต้องผิดสัจจะกับตงหมิง
“แล้วเหตุผลใด”
“ไว้มีลูก นายจะเข้าใจอาไค”
ตงหมิงคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เป็นสิ่งล้ำค่าที่สวรรค์มอบให้ ชายหนุ่มเดินไปตามทางก่อนแวะที่ภัตตาคารใหญ่
พนักงานเห็นว่าตงหมิงนั้นเนื้อตัวสกปรกจึงขอให้เขายืนรอหน้าร้าน ชายหนุ่มเก็บกลืนความอดสูเอาไว้ในใจ ก่อนจะยื่นเงินให้อีกฝ่ายและรับปีกไก่เหล้าแดงมา
ตงเหมามาถึงบ้านก่อนจะพบว่าตงหมิงนั้นกำลังนั่งรอเขาอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มรีบตรงเข้าไปหาลูกชายที่รีบวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางดีใจ
“เหตุใดมานั่งอยู่ที่นี่”
เด็กชายก้มหน้าลง เขามองเข้าไปในบ้านแต่ไม่พูดอะไร ตงเหมามองตามสายตาของลูกชายเข้าไปด้านในก่อนพบว่ามีใครบางคนอยู่ในบ้านของเขา
ชายหนุ่มหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ที่ผ่านมาซูเม่ยจะทำสิ่งใดเขาไม่สนใจ แต่ถึงขั้นพาชู้รักเข้ามาในบ้านเห็นทีคงยอมไม่ได้
ตงเหมาผลักประตูบ้านเข้าไปก่อนจะเห็นหญิงสาวกำลังหมุนตัวไปมาต่อหน้าชู้รักของเธอ
ชายหนุ่มนามว่าซุนเหอไม่ได้สนใจสองพ่อลูกนักเพราะสายตานั้นจับจ้องแต่เรือนร่างของผู้หญิงตรงหน้า
“ออกไปให้หมด!”
ซูเม่ยถลึงตา เธอพยายามลากตงเหมาออกไปคุยข้างนอกแต่เขากลับสะบัดมือเธอออกอย่างรังเกียจทั้งยังผลักไหล่เธอไปให้พ้นทาง และตรงเข้าไปเผชิญหน้ากับซุนเหอที่เริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีเมื่อเห็นว่าตงเหมานั้นอาจลงมือทำร้ายเขาได้ทุกเมื่อ
“ออกไปจากบ้านฉัน!”
แม้แต่ตงหมิงก็ยังสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่เกรี้ยวกราดของผู้เป็นพ่อตวาดขึ้นมา ซุนเหอมีท่าทางไม่พอใจที่ซูเม่ยนั้นจัดการคนของเธอไม่ได้ เขาคว้าสูทและเดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวมองตามด้วยสายตาอาวรณ์
“พี่ทำบ้าอะไร! เขาเป็นแขกคนสำคัญนะ!”
หญิงสาวตวาดทั้งยังทึ้งเสื้อสามีจนยับยู่ ตงเหมาสะบัดเธอออกก่อนจะปัดที่เสื้ออย่างแรงคล้ายกับต้องการปัดสิ่งสกปรกให้พ้นตัว
ซูเม่ยหน้าชา ความโกรธฉายชัดบนใบหน้าสวย เธอเหลือบไปเห็นถุงจากภัตตาคารดังจึงพยายามยื้อแย่งจนถุงนั้นตกลงไปบนพื้น
ตงเหมาสูดลมหายใจลึกพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะไม่ทำร้ายหญิงสาว แต่เมื่อเธอถลาเข้าไปหมายจะใช้เท้าเหยียบอาหารของลูกชาย เขาจึงตัดสินใจกระชากแขนเธอและเหวี่ยงออกจากบ้าน ทั้งยังปิดประตูเต็มแรง
ซูเม่ยทั้งเจ็บทั้งอายเพราะยามนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนนั้นกำลังเดินทางกลับบ้าน ผู้คนมากมายจึงทันเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นและพากันป้องปากนินทา สายตาเหยียดหยามจากทุกสารทิศทิ่มแทงหญิงสาวจนเธอนั้นทนไม่ไหวต้องรีบลุกเดินจากไป
โชคดีที่ซุนเหอนั้นยังรอเธออยู่ที่สวนสาธารณะ ซูเม่ยเปิดประตูรถก่อนก้าวเข้าไปด้านใน เธออยากจะกรีดร้องแต่ไม่อาจทำได้อย่างใจต้องการเพราะต่อหน้าซุนเหอแล้วเธอต้องรักษาภาพลักษณ์เป็นอย่างมากจนน่าอึดอัด!
“พี่ชายเธอเขาดูหวงเธอเกินไป ฉันไม่ชอบใจเลย”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นขณะที่รถนั้นกำลังแล่นไปตามท้องถนน เขาไม่พอใจเป็นอย่างมากที่พี่ชายของเธอไล่เขาอย่างกับหมูอย่างกับหมา เขาเป็นถึงเศรษฐีแต่กลับถูกยาจกตวาดไล่ส่ง ให้ตายเถิด! เสียศักดิ์ศรีเป็นที่สุด
ซูเม่ยเห็นชู้รักไม่สบอารมณ์จึงพยายามเอาใจเขาด้วยการบีบนวดแขนเพื่อคลายความเมื่อย แต่ชายหนุ่มกลับสะบัดออกพร้อมแสดงท่าทางรำคาญ
เขาเบื่อหน่ายของเล่นชิ้นนี้เต็มทน เสียเงินไปไม่รู้เท่าไหร่แม้แต่เรือนร่างภายใต้เสื้อผ้าก็ยังไม่เคยได้เชยชม หากเป็นผู้หญิงคนอื่นป่านนี้คงขึ้นเตียงกับเขาไม่น้อยกว่าสองรอบแล้ว
แต่ซูเม่ยผู้นี้นอกจากกอดจูบแล้วก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้เขาได้เชยชมเสียที
เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดหญิงสาวต้องประวิงเวลามากมายถึงเพียงนี้ หรือเพราะสิ่งที่เขาปรนเปรอให้นั้นยังไม่มากพอ
“ทำไมล่ะคุณซุนเหอ คุณชอบให้ฉันบีบนวดนี่คะ”
หญิงสาวไม่เข้าใจว่าเหตุใดซุนเหอต้องปฏิเสธเธอ ในใจซูเม่ยรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เธอกลัวว่าหากซุนเหอหมดความสนใจในตัวเธอแล้วเขาจะไม่ใยดีเธออีกต่อไป เช่นนั้นความฝันที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลซุนก็คงดับสูญไปด้วย
เธออุตส่าห์ไว้ตัวเพื่อให้เขานั้นเห็นคุณค่าและไม่ตราหน้าว่าเธอใจง่ายเหมือนผู้หญิงที่ผ่านๆ มาของเขา แต่ทว่านับวันเขากลับยิ่งเบื่อหน่ายเธออย่างเห็นได้ชัด
“ฉันก็แค่หงุดหงิด”
“คุณหงุดเพราะอยู่กับฉันงั้นเหรอคะ”
ชายหนุ่มไม่ตอบนั่นเท่ากับเขายอมรับว่าเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์ หญิงสาวหงุดหงิดขึ้นมา เธอเปิดประตูรถก้าวลงไปก่อนจะเดินไปตามทางและเข้าร้านขายของชำที่ตั้งอยู่ริมทาง…
“พ่อครับ พ่อไม่กินเหรอครับ”
เด็กชายตัวน้อยแม้จะเพิ่งเผชิญหน้ากับพายุอารมณ์ของพ่อและแม่ แต่เมื่อได้ลิ้มรสอาหารโปรดเขาก็ลืมเลือนทุกสิ่งไปอย่างง่ายดาย ต่างจากผู้เป็นพ่อที่กินอะไรไม่ลง เขานั่งมองลูกชายที่มีความสุขกับอาหารจานโปรดก่อนจะยกมือวางลงบนศีรษะเด็กชาย
“กินเถอะลูก พ่อไม่หิว”
ทั้งที่ท้องของเขาแสบร้อนไปหมดแต่ตงเหมากลับกินอะไรไม่ลง เขาใจคอไม่รู้คล้ายกับว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น สายตาเศร้าหมองของผู้เป็นพ่อทอดองไปยังลูกชายผู้น่าสงสาร ตงหมิงงมีแม่ก็เหมือนไม่มี ไม่เคยได้รับความรักความเอาใจใส่
แม่ดีๆ ที่ไหนจะไล่ลูกออกมาอยู่นอกบ้าน ในขณะที่ตัวเองพลอดรักกับชายชู้
น่าละอายใจนัก ชาตินี้ซูเม่ยคงไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว
“พ่อครับพ่อไล่แม่ไปแล้ว แม่จะไปอยู่ไหนครับ”
เด็กชายเอ่ยถามด้วยท่าทางใสซื่อ ความคิดของเขาไม่ได้ซับซ้อน เหตุการณ์เมื่อครู่นั้นเด็กชายมองว่าพ่อโกรธจนไล่แม่ออกจากบ้านไป และสิ่งที่เขาคิดต่อจากนั้นคือแม่จะไปอยู่ที่ใด
เขาเป็นห่วงแม่และต้องการให้พ่อนั้นไปตามแม่กลับมา
“อย่าห่วงเลยอาหมิง เดี๋ยวแม่ก็กลับมา”
เขาเอ่ยบอกลูกชายก่อนจะพาอีกฝ่ายไปอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมเข้านอน แต่ขณะนั้นเองเสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นหน้าบ้าน สองพ่อลูกสบตากันก่อนรีบเปิดประตูออกไป ชายผู้หนึ่งปั่นจักรยานมาจอดเทียบหน้าประตูบ้านตงเหมาด้วยท่าทางร้อนรน ก่อนเอ่ยแจ้งข่าวร้ายกับอีกฝ่าย
“อาเหมา อาเม่ยถูกรถชน!”
ตงเหมาไม่รอช้ารีบรวบลูกชายขึ้นก่อนจะวิ่งมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ซูเม่ยถูกส่งตัวไปรักษา สองพ่อลูกหน้าซีดเซียว ตงหมิงร้องไห้ตลอดเวลาโดยมีผู้เป็นพ่อคอยกอดเอาไว้
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ซูเม่ยนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่ม้านั่งริมถนน เธอดื่มหนักจนคนที่ผ่านไปผ่านมาถึงกลับเหลียวหลังมองกับสภาพที่ดูเละเทะของหญิงสาว ซุนเหอขับรถออกไปไกลมากแล้วและไม่คิดย้อนกลับมารับอีกฝ่าย ทิ้งซูเม่ยให้เดินอยู่ริมถนนตามลำพัง
หยิงสาวเมามายร้องเพลงเสียงดัง เธอเดินโซซัดโซเซเข้าไปในตรอกก่อนจะเดินทะลุออกมายังถนนที่มีรถสัญจรไปมา หญิงสาวไม่ทันสังเกตว่ารถยนต์คันใหญ่กำลังพุ่งตรงมาทางเธอ ซูเม่ยก้าวข้ามถนนอย่างช้าๆ แม้แต่เสียงแตรรถเธอก็ไม่ได้ยิน
เสียงหวีดร้องดังขึ้นรอบด้าน เมื่อร่างของซูเม่ยตกลงกระแทกพื้น เลือดไหลทะลักออกมาทางปากก่อนที่ผู้คนจะรีบกรูเข้าไปช่วยเหลือเธอ ทุกคนในเมืองนี้ต่างรู้จักหญิงสาวดี หนึ่งในพลเมืองดีจึงได้อาสาไปแจ้งข่าวที่บ้าของตงเหมา
ซูเม่ยถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน ในยุคที่เครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ยังมีไม่มากนัก ทำให้การผ่าตัดเต็มไปด้วยความยากลำบาก ในร่างกายบอบช้ำเป็นอย่างมาก เลือดคั่งหลายจุด ทำให้หมอและพยาบาลถึงกับส่ายศีรษะยามที่สบตากัน
อีกด้านของโลกคู่ขนานซิงเหมยกำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรถแล้วจริงๆ เธอยกลังกระดาษบรรจุขนมขึ้นมาก่อนจะก้าวข้ามถนน แต่แล้วแสงไฟจากรถยนต์ก็สาดส่องมาที่หญิงสาวก่อนที่ร่างของเธอจะกระเด็นไปไกลกว่าห้าเมตร เลือดไหลนองเต็มพื้นถนน ถุงขนมกระจัดกระจายเต็มพื้น บางห่อนั้นกระเด็นเปื้อนเลือด
เพียงสักพักเสียงรถพยาบาลก็ดังขึ้นก่อนที่ผู้คนจะพากันมามุงดูหญิงสาวที่นอนจมกองเลือดสิ้นลมหายใจอย่างน่าเวทนา
ร่างที่บอบช้ำถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลเพื่อยื้อชีวิต แต่ทว่าทุกอย่างนั้นมีระยะเวลาที่เหมาะสมเสมอ บางทีนี่อาจไม่ใช่จุดจบที่แท้จริงก็เป็นได้