ตอนที่ 1

1168 Words
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นที่ตรอกซอยแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ หญิงสาวร่างบางเงยหน้าขึ้นมองทันทีหลังจากเก็บของที่นำมาวางขายและกำลังจะเดินกลับไปยังรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าของเธอโดยมีน้องชายเดินตามต้อยๆ ด้วยหน้าบอกบุญไม่รับ “ไปกันเถอะ พี่แพร” เด็กหนุ่มเอ่ยปากชวนพี่สาวคนสวยให้รีบกลับบ้านเมื่อเห็นพี่สาวเอาแต่ชะเง้อมองดูคนที่ยืนร้องขอความช่วยเหลือ พ่อหนุ่มน้อยก็อยากจะช่วยแต่ไม่รู้ว่าคนที่ร้องขอความช่วยเหลือนั่นจะมารยาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ข่าวก็มีให้เห็นออกบ่อยที่ทำเป็นร้องขอความช่วยเหลือแต่ที่ไหนได้คนไปช่วยนี่สิจะถูกปล้น แถมป่านนี้แม่คงชะเง้อคอรอจนเมื่อยแล้วแน่ๆ เมื่อลูกสาว ลูกชายป่านนี้ยังไปไม่ถึงบ้าน “คนร้องขอความช่วยเหลือจะไม่ดูดำดูดีได้ไงล่ะ พร้อม” พี่สาวคนสวยหันมาเอ็ดน้องชายที่มักเป็นคนขี้ขลาดอยู่เสมอๆ แพรนภัส อธิพัฒน์สกุล สาวร่างบางวัยยี่สิบสามปี ส่ายหน้าอย่างระอากับความไม่เอาไหนของน้องชาย แล้วเธอกับแม่จะหวังพึ่งอะไรได้ไหมหากมีโจรขโมยบุกรุกเข้าไปในบ้าน ไอ้เรื่องสู้คนนี้ให้ตายเถอะ น้องชายของเธอขอวิ่งหนีเป็นคนแรกตลอด “โห! พี่แพร ก็พร้อมกลัวนี่” เสียงของพร้อมพัฒน์ผู้เป็นน้องชายโอดครวญ ก้มมองนาฬิการาคาถูกบนข้อมือแล้วทำหน้าเซ็ง นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ง่วงมากด้วย “จะกลัวอะไรนักหนา เราเป็นผู้ชายนะพร้อม ถ้างั้นพร้อมกับกลับไปก่อนเลย เดี๋ยวพี่จะจัดการไอ้โจรนี่ซะก่อน อีกอย่างห่างจากซอยบ้านเช่าของเราแค่นี้เอง พี่เดินกลับเองได้” แพรนภัสบอกน้องชายจบก็เดินเลี่ยงออกไปอีกซอยที่ได้ยินคนร้องขอความช่วยเหลือ เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนเคว้งอยู่ใกล้กับถนนใหญ่แต่กลับไม่มีใครสนใจจะช่วยเลยสักคน “ช่วยด้วยค่ะ! มีคนกระชากกระเป๋าฉัน” หญิงสาวรูปร่างดีที่ทำเอาแพรนภัสมองตะลึงอยู่ชั่วครู่ เพราะเหมือนเคยเห็นหน้าตามปกหนังสือแต่ไม่มั่นใจเพราะไม่เคยเจอดารานางแบบตัวจริงสักครั้ง ก่อนจะตื่นจากภวังค์แล้วรีบถามหาคนที่กระชากกระเป๋าของสาวสวยไป ก่อนที่แพรนภัสจะรีบวิ่งไปตามทางที่พี่สาวคนสวยบอก จนมาเหนื่อยหอบอยู่ใกล้กับถนนฝั่งตรงข้าม สาวร่างบางนึกโมโหไม่น้อยที่ตรอกซอกซอยมันเยอะเกินไป “จอดรถ กาคิม ใกล้ๆ ผู้หญิงคนนั้น” เสียงทุ้มห้าวของผู้เป็นนายเอ่ยบอกคนสนิทด้วยภาษาไทยแปร่งๆ ไปเล็กน้อย ขณะที่เจ้าของเสียงพูดกำลังนั่งมองทัศนียภาพยามค่ำคืนของสองข้างทางอย่างเพลิดเพลิน เพราะนานๆ ทีจะได้เดินทางมาเมืองไทย แต่กลับรู้สึกสะดุดตากลับร่างเล็กๆ ที่ถูกวิ่งไล่ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าใจของเขาที่เต้นแรงแบบไม่รู้สาเหตุ ทำไมเป็นแบบนี้ หรือจะเป็นลางสังหรณ์? ไม่กี่นาทีรถคันหรูก็จอดเทียบริมฟุตปาธตามคำสั่ง ห่างจาก หญิงสาวหุ่นนางแบบเพียงเล็กน้อย กาคิมหันมองหญิงสาวหุ่นดีที่ยืนทำท่าตกอกตกใจแล้วปรายตามองผู้ที่ออกคำสั่งให้หยุดรถด้วยความสงสัย ชายหนุ่มร่างสูงสมาร์ตผู้ที่กาคิมกำลังมองด้วยความสงสัย เหลียวมองหญิงสาวผ่านกระจกแล้วหันไปตามสายตาที่สาวสวยมอง เขาเห็นหญิงสาวร่างเล็กกำลังวิ่งหนีชายร่างอ้วนแบบไม่คิดชีวิต ซึ่งภาพนั้นแหละที่ทำให้ใจเขามันกระตุกและเขาก็ต้องหาสาเหตุให้ได้ ส่วนแพรนภัสหลังจากเธอไปแย่งกระเป๋าคืนมาได้ซึ่งถือเป็นโชคดีของเธอที่พอมีศิลปะป้องกันตัวอยู่บ้างจึงทำให้ล้มโจรอ้วนได้ แต่ไม่คิดว่ามันจะลุกขึ้นมาวิ่งไล่จะเอากระเป๋าคืนแบบนี้ ‘ตายแน่ ไอ้แพร จะรอดไหมวันนี้ ขอพระเอกมาช่วยสักคนเถอะ สาธุๆ’ แพรนภัสได้แต่ภาวนาขอให้พ่อเทพบุตรผุดออกมาจากโลกนิยายมาช่วยเธอบ้างเถอะ เพราะพลเมืองดีอย่างเธอวิ่งจนเหนื่อยหอบแล้วแต่ไอ้โจรบ้าก็ไม่หยุดตามเธอเสียที “นังบ้า! เอากระเป๋าคืนมา ถ้าไม่อยากตาย” โจรร่างอ้วนตะโกนสั่งพร้อมชักมีดออกมาขู่ แต่แพรนภัสไม่สนใจอะไรกับคำขู่นั่น ออกแรงวิ่งเข้าไปตามตรอกซอกซอยพร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่ก็ก้าวออกจากรถคันหรู วิ่งไปยังร่างบางที่หายเข้าไปมุมมืดที่เขาเฝ้าสังเกตดูเธออยู่ ‘ตัวแค่นี้ริจะเป็นโจร เดี๋ยวเจอดีแน่’ ชายหนุ่มคาดโทษร่างบางพร้อมกับอยากค้นหาว่า เพราะเหตุใดร่างเล็กๆ นั้นถึงได้ทำให้ใจเขาเต้นแรงเช่นนี้ แล้วรีบออกวิ่งตามไปโดยไม่ฟังคำคัดค้านของกาคิมเลยสักนิด แถมยังสั่งให้คนร้องห้ามอยู่ดูแลคุณผู้หญิงให้ดี ด้านกาคิมก็อยากจะบ้าตาย ชีวิตเจ้านายของเขาสำคัญยิ่งกว่าจะต้องมาดูแลผู้หญิงที่ไม่รู้จักเลยสักนิด แล้วเปิดประตูออกไปยืนมองเจ้านายหนุ่มแต่ก็ไม่วิ่งตามไปเพราะคำสั่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะจำใจหันไปสนใจหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ‘เซ็กซี่ไม่เบาเหมือนกันนี่’ คิดแล้วก็ยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก “ขอโทษครับ ไม่ทราบคุณมายืนทำอะไรอยู่ที่นี่คนเดียว” กาคิมเอ่ยถามเสียงห้วนเพราะไม่พอใจที่หญิงสาวเป็นต้นเหตุให้เจ้านายของเขาต้องลำบากวิ่งไปจับไอ้พวกโจรกระจอกนั่น ด้านคนที่ถูกโจรฉกกระเป๋าก็หันมองคนถาม ปากสวยบิดเบ้เล็กน้อย ไม่พอใจน้ำเสียงอีกฝ่าย แล้วมองอย่างสำรวจผู้ชายตรงหน้าตั้งหัวจรดเท้าพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น ซึ่งแค่ได้เห็นนางแบบสาวก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบหน้าทันที ถึงจะหน้าตาดูดีก็เถอะ แล้วทำเฉยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย กาคิมเผลอเป่าปากอย่างสกัดกลั้นอารมณ์โมโห “คุณผู้หญิง ผมถามว่าคุณมาทำอะไรอยู่ที่นี่ หรือหูหนวก ถึงไม่ได้ยิน” กาคิมถามกลับด้วยเสียงกรุ่นโกรธ “มันเรื่องของฉัน!” แอลล่าโต้กลับเสียงสะบัด โมโหไม่น้อยที่ผู้ชายคนนี้บังอาจพูดจากระโชกโฮกฮากแล้วยังมาใส่ความเธออีก ไม่รู้หรือไงว่าเธอนะนางแบบอันดับหนึ่งของเมืองไทยเชียวนะ จะให้หูหนวกได้ไง อีตาขี้เก๊ก! แล้วตาบอดหรือไงถึงไม่รู้จักเธอ ไปมุดอยู่นรกขุมไหนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD