ทว่าเสียงกระแอมกลับดังขึ้น แพรนภัสจึงเงยหน้ามองเจ้าของเสียงแล้วออกแรงผลักร่างสูงใหญ่ออกห่าง แต่ชายหนุ่มกลับฉวยโอกาสกระชากกระเป๋าไปจากมือเธอ แพรนภัสอึ้ง มองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจเหมือนตัวเองกำลังตกสวรรค์อย่างไรไม่รู้
“เอามานี่” คนหล่อออกคำสั่งด้วยภาษาไทยแปร่งๆ กับหัวขโมยสาวที่กำลังมองเขาตาปริบๆ
‘อ๋อ...พูดไทยได้นะอีตาบ้า ก็ดีจะได้ด่าให้เข้าหูเสียหน่อย’
“นี่คุณ! เอามานะ นั่นมันกระเป๋าของฉันนะ ทำไมทำแบบนี้ล่ะ” แพรนภัสร้องสั่งแล้วยื้อฉุดกระชากกระเป๋าของพี่คนสวยเอาไว้ ต่างคนต่างก็แย่งกันไปมา
“เธอนั่นแหละที่ควรเอากระเป๋านั่นมา” หนุ่มหล่อโต้กลับเสียงห้วน ออกแรงกระชากกระเป๋ามาจนได้ ส่วนคนฟังก็อารมณ์พุ่งปรี๊ดหลังได้ยินเสียงห้าวห้วนนั้น ลมแทบจับให้ได้เพราะเสียดายความหล่อเหลาของเขา
“คุณนี่ทุเรศที่สุดเลย แต่งตัวก็ดี แต่ไม่น่าเป็นโจร” แพรนภัสพูดขึ้นลอยๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มเปิดกระเป๋าถือของพี่คนสวยราวกับเป็นเจ้าของก็ขนาดเธอยังไม่กล้าละลาบละล้างเปิดดูเลย ผู้ชายคนนี้เป็นโจรชัดๆ
“แน่ใจนะว่านี่มันเป็นกระเป๋าของเธอ ดูนี่ซะก่อน สาวน้อย” เจ้าของเสียงทุ้ม ยื่นกระเป๋าสตางค์แล้วเปิดออกให้คนที่ถูกเรียกว่าสาวน้อยได้ดู เพราะหน้าตาคนที่บอกว่าเป็นเจ้าของกระเป๋ากับรูปถ่ายในบัตรประจำตัวต่างกันราวกับฟ้าดิน
“ไม่รู้ล่ะ ฉันเป็นคนได้มันมาก่อนคุณ ฉะนั้นคุณต้องเอามาให้ฉัน” แพรนภัสยังเถียงเสียงขุ่น สองมือน้อยเท้าเอวอย่างเอาเรื่อง เธอรึอุตส่าห์เสี่ยงตายวิ่งไปแย่งมาจากไอ้โจรอ้วนแต่กลับมาถูกผู้ชายหน้าตาดีแต่งดีมาแย่งแบบหน้าด้านๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายความหล่อเหลา เธอขอถอนความคิดเมื่อครู่ออกให้หมด ไม่ชงไม่ชมมันแล้วคนหล่อนิสัยไม่ดี
“เธอนี่ เป็นขโมยปากแข็งสุดๆ เลยนะสาวน้อย” สิ้นคำกล่าวหาจากเสียงห้วนกระด้าง แพรนภัสอ้าปากค้าง อารมณ์เดือดปุดขึ้นเป็นไอร้อนๆ พร้อมจะระเบิดใส่คนตรงหน้า ผู้ชายคนนี้นอกจากหน้าจะนิ่งเหมือนถูกปูนฉาบไว้แล้วยังปากร้ายชอบปรักปรำคนอื่นอีกต่างหาก หนำซ้ำปากได้รูปของเขาก็บิดเบ้อย่างดูถูกเธอ แพรนภัสอยากบ้าตายเพราะคนหล่อแต่นิสัยเลว สองมือของหญิงสาวกำแน่น ดวงตาหวานจับจ้องชายหนุ่มตาโตจนแทบถลน ‘ฮึ่ม ว่าเธอเป็นโจรได้ไง ทั้งที่เธอเป็นพลเมืองดีต่างหาก อีตาบ้า’
“คุณน่ะสิเป็นโจร แถมยังเป็นพวกโจรหน้าด้าน ไร้ยางอายอีกด้วย มาแย่งกระเป๋าของฉัน เอาคืนมานะ ฉันต้องรีบกลับบ้าน” แพรนภัสข่มอารมณ์ที่อยากตะบันหน้าหล่อๆ เอาไว้ เพราะในตอนนี้เธอเริ่มหวาดกลัวผู้ชายคนนี้ขึ้นมา เขาตัวใหญ่กว่าเธอหลายเท่านัก แถมยังหมดแรงจะสู้แล้วด้วย ก็วิ่งหนีโจรอ้วนมาจนเหนื่อย โธ่เอ๊ย นึกว่าจะมีคนมาช่วยที่ไหนได้กลับมาเจอโจรอีกคน
“ผมเนี่ยนะเป็นโจร” ชายหนุ่มครางถามแทบไม่เชื่อหู เอานิ้วมาชี้กลางอกตัวเอง
‘แม่โจรหน้าหวานคนนี้ไม่รู้จริงหรือ ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ให้ตายเถอะ ไม่รู้จักมหาเศรษฐีแห่งเกาะโบราโบร่าหรือไง’ วิลเลียมส่ายหัวไปมากับความนึกคิดของตน แล้วแต่งตัวดูดีแบบเขานี่น่ะหรือเป็นจอมโจร ต่อให้คิดอีกกี่พันครั้งก็อยากจะหัวเราะให้โลกแตก แล้วนี่มันวันซวยอะไร อุตส่าห์กลับมาเมืองไทยเพื่อเยี่ยมเยือนครอบครัวของมารดาแต่กลับต้องมาถูกกล่าวหาด้วยถ้อยคำที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลกัลลาส ก่อนหันมายิ้มเยาะให้กับตัวเองอีกครั้ง
“ใช่! แล้วก็เอากระเป๋าคืนมาเพราะฉันเป็นคนไปแย่งมันมาและฉันก็รีบด้วย” แพรนภัสบอกเสียงดัง แล้วกระโจนเข้าไปแย่งกระเป๋าจากมือใหญ่ แต่เขากลับยกมันขึ้นสูง ทำให้แพรนภัสไม่สามารถเอื้อมถึง นึกโกรธตัวเองที่เกิดมาเตี้ยก็คราวนี่
“ไอ้โจรบ้า! ฉันบอกให้เอามาไง” แพรนภัสตะโกนบอกเสียงห้วนด้วยความโมโห หญิงสาวสูงไม่ถึงไหล่ของเขาเลยด้วยซ้ำจึงได้แต่กระโดดเหยงๆ ไปมา
“ขอโทษผมเดี๋ยวนี้!” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม ผู้หญิงคนนี้บังอาจนักที่มาต่อว่ามหาเศรษฐีอย่างเขาเป็นโจร ส่วนแพนภัสพอได้ฟังคำสั่งก็หยุดกระโดดแล้วทำตาโต ชี้นิ้วมาที่อกตนเองด้วยความไม่เข้าใจ
“เร็ว! ไม่งั้นเธอโดนดีแน่” วิลเลียมย้ำเสียงเกือบจะห้วน
“ไม่! ฉันไม่ผิด คุณนั่นแหละเอากระเป๋าคืนมา อยากได้นักก็ไปหาเอาเอง” ร่างบางสวนกลับเสียงแข็ง ขยับถอยห่างอย่างระแวดระวัง
“ขอโทษผม” ชายหนุ่มเน้นย้ำทีละคำอย่างช้าๆ และชัดๆ ด้วยใบหน้าเอาเรื่องแต่คนฟังอย่างแพรนภัสก็ส่ายหน้าดิก เธอผิดอะไร ทำไมต้องขอโทษไอ้โจรแต่งตัวดูดีนี่ด้วยล่ะ อย่าฝันไปหน่อยเลย
“นี่เธอ!” เขาจ้องเธอเขม็ง ความอดทนชักเริ่มหมด
“ฉันทำอะไรผิดไม่ทราบถึงต้องขอโทษโจร อย่างคุณ!” แพรนภัสถอยห่างอีกพอสมควร แล้วลอยหน้าลอยตาถาม ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มเม้มแน่น แล้วตั้งหน้าตั้งตาจ้องอีกฝ่ายแบบไม่ให้คลาดสายตา หากผู้ชายคนนี้จะทำอะไร เธอต้องวิ่งให้เร็วที่สุดนั่นคือสิ่งที่มีอยู่หัวสมองของแพรนภัสหลังจากได้เห็นหน้าโกรธขึงของคนหล่อนิสัยเลว
“ก็ที่เธอ บังอาจมาว่าคนอย่างฉันเป็นโจรไงล่ะ สาวน้อย” เจ้าของร่างสูงใหญ่บอกเสียงเข้มขึ้นมากกว่าเดิม ตาคมหรี่มองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและคิดหาวิธีลงโทษสาวน้อยปากดีคนนี้เสียบ้าง หล่อ รวย ล้นฟ้าอย่างเขานี่น่ะหรือเป็นโจร
“ก็แล้วคุณไม่ใช่โจรตรงไหน ในเมื่อคุณมาแย่งกระเป๋าไปจากฉัน” แพรนภัสโต้กลับเสียงห้วนไม่แพ้กัน และยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวอย่างแน่วแน่ อย่ามาคิดฝันว่าคนอย่างแพรนภัสจะยอมรับผิด