อลิชาผ่านขั้นตอนการเก็บไข่ไปแล้ว หญิงสาวอดทนกับทุกสิ่งเพื่อบิดาของเธอ เงินงวดแรกจากการรับจ้างอุ้มบุญทำให้ท่านได้รับการรักษาและไม่นานก็จะหายดี อลิชาหวังว่าทุกอย่างจะไม่มีความผิดพลาด
หลังจากเก็บไข่แล้ว ก็ใช้เวลาในการรอผสมจนถึงขั้นตอนการนำกลับมาฝังไว้ในมดลูกของเธอ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยดี หญิงสาวได้รับการยืนยันว่าตั้งครรภ์อย่างสมบูรณ์
ทนายเอริกมารับทราบขั้นตอนทุกอย่าง แล้วรายงานให้เจ้านายของเขาทราบเป็นระยะ เมื่อเวลาผ่านไปร่วมสี่เดือน ก็เกิดปัญหาขึ้น
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไรหมอ มีขั้นตอนอะไรผิดพลาด”
ทนายเอริกมองดูภาพอัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์ของอลิชา ก่อนจะโวยวายกับแพทย์ผู้ดูแล
“แพทย์ผู้ดำเนินการ คัดเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุดไว้สองตัว แต่ผิดพลาดในขั้นตอนการใส่กลับเข้าไป เมื่อแพทย์ได้นำตัวอ่อนตัวที่สองใส่ไปทีหลัง เพราะคิดว่าตัวอ่อนตัวแรกไม่สมบูรณ์และคงหลุดไปเอง ตอนนี้เด็กเกาะมดลูกแล้วทั้งคู่และกำลังเติบโต”
แพทย์ผู้ดูแลโครงการนี้ อธิบายถึงข้อผิดพลาด
“เจ้านายของผมต้องการเด็กผู้ชายเท่านั้น แต่ถ้าออกมาเป็นแฝดก็คงจะดี”
ทนายเอริกกำลังคิดว่า จะบอกริคคาโด้ให้รับรู้ ว่าเจ้านายของเขาจะได้ลูกทีเดียวถึงสองคน แต่แพทย์กลับทำให้เขากลุ้มขึ้นมาอีก เมื่อบอกว่า
“เด็กคนที่สองเป็นเพศหญิงครับ ต้องขออภัยกับความผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ”
“เด็กผู้หญิง... เด็กผู้หญิงหรือหมอ เจ้านายผมต้องการเด็กผู้ชายนะครับ”
ทนายเอริกเริ่มโวยวายอีก ร่ำๆ อยากฟ้องโรงพยาบาลขึ้นมา เขาอุตส่าห์เลือกโรงพยาบาลแห่งนี้จากประวัติการอุ้มบุญที่สำเร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดปัญหานี้ขึ้น
“ทารกในครรภ์คุณอลิชา เป็นเพศชายหนึ่งคนเพศหญิงหนึ่งคน วางใจได้ว่าเจ้านายของคุณได้ลูกชายแน่นอน”
แพทย์หยิบรูปถ่ายอัลตร้าซาวด์มาชี้ให้ดูเด็กในท้อง บอกว่าคนไหนหญิงคนไหนชาย
“เจ้านายผมต้องการเด็กผู้ชายเท่านั้น”
ทนายเอริกย้ำอีกรอบ ในหัวปวดตุบๆ ไปหมด คิดหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
“ถ้าเช่นนั้น เด็กอีกคนจะต้องถูกทำลาย”
แพทย์บอกวิธีแก้ปัญหา ที่ทำเอาคนฟังปวดหัวหนักกว่าเดิม
“ทำแท้งเหรอหมอ แล้วจะมีผลกระทบอะไรไหม”
“ก็มีบ้างครับ อาจจะกระทบกระเทือนต่อเด็กในครรภ์อีกคน แล้วแม่ของเด็กอาจจะมีอาการแทรกซ้อนได้ ยังไม่เคยเกิดกรณีที่ต้องนำเด็กอีกคนออกมาก่อน เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
คำอธิบายนั้น ทำให้ทนายเอริกคิดหนัก ริคคาโด้ให้เขาตัดสินใจทั้งหมด เขาจะกล้าสั่งฆ่าลูกอีกคนของเจ้านายได้ลงหรือ แต่จะให้เกิดออกมาก็เป็นปัญหา เจ้านายเขาต้องการทายาทเพศชายไม่ได้บอกว่า หากมีลูกสาวจะเป็นยังไง แล้วแม่อุ้มบุญอย่างอลิชาล่ะ จะยอมให้ทำลายลูกของเธอหรือ
“หมอแจ้งเรื่องนี้ให้คุณอลิชาทราบหรือยัง”
“ผมได้แจ้งให้เธอทราบแล้ว ท่าทางเธอมีความกังวลใจไม่น้อยครับ หากเราจะกำจัดเด็กอีกคน อาจจะกระทบกับสุขภาพจิตของคนเป็นแม่ได้”
แน่นอนสิ ใครจะบ้าทำลายลูกในท้องตัวเองลง ถึงจะเป็นการรับจ้างท้อง แต่ก็คงผูกพันกับเด็กในท้องไม่น้อย
“ขอผมไปคิดก่อน แล้วจะมาบอกว่าจะทำยังไงต่อไป”
ทนายเอริกเดินออกจากห้องด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เขาเดินมายังห้องพักของอลิชา เปิดประตูเข้ามาก็พบว่าหญิงสาวกำลังนั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้ริมระเบียงห้อง
“คุณทนาย”
อลิชาได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันมามอง เธอกำลังกลุ้มใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ลูกน้อยอีกคนในท้องเกิดจากความผิดพลาด ทนายเอริกจะให้ทำยังไงกับเด็ก
“ตามสบายครับ ผมแวะมาเยี่ยม”
ทนายเอริกพยายามบังคับให้ตัวเองยิ้ม เขาเดินมานั่งเก้าอี้ตัวว่างตรงกันข้าม มองหญิงสาวอย่างสำรวจ การตั้งครรภ์ทำให้อลิชาดูอวบอิ่มขึ้น ใบหน้างามเปล่งปลั่งน่ามองไม่น้อย ท้องที่เริ่มนูนของเธอแสดงอาการของคนที่กำลังจะเป็นมารดาอย่างชัดเจน เขาแต่งงานและมีลูกแล้วสองคน เคยเห็นภรรยาตัวเองตั้งครรภ์มาสองหน รู้ดีว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวน บางคนหนักถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งมันไม่ส่งผลดีต่อเด็กในท้องเลย
“คุณทนายค่ะ ฉันไม่อยากทำลายเด็ก แกเป็นลูกของฉันนะคะ ฉันฆ่าแกไม่ได้”
อลิชาพูดออกมาตรงๆ หญิงสาวไม่เสียเวลาอ้อมโลก เธอคิดแล้วคิดอีกจนปวดหัว ก็ทำใจไม่ได้ที่จะทำลายเด็ก มันไม่ใช่ความผิดของแกที่เกิดมาเป็นผู้หญิง
“ผมเข้าใจคุณ แต่ตามสัญญาระบุว่า นายจ้างของคุณต้องการทารกเพศชายเท่านั้น” ทนายเอริกถอนหายใจแรงๆ หนักใจไม่น้อย
“ฉันทราบค่ะ เด็กคนหนึ่งเป็นผู้ชาย แต่เด็กอีกคนเป็นผู้หญิงซึ่งเจ้านายคุณไม่ต้องการ ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าต้องทำลายเด็กทิ้งนี่คะ”
อลิชาเอามือกุมท้องของเธอไว้อย่างหวงแหน สัญชาติญาณความเป็นแม่ทำให้เธอปกป้องลูกน้อยในครรภ์
“ฉันขอเด็กคนนี้นะคะ ขอให้แกได้เกิดมา ฉันจะดูแลแกเอง ฉันสัญญาว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ใครรู้”
อลิชามองหน้าทนายเอริกด้วยสายตาอ้อนวอน แม้พ่อของแกจะไม่ต้องการ แต่เธอในฐานะแม่จะขอดูแลแกเอง
“ถ้าคุณคิดว่าสามารถดูแลแกได้ ผมคงต้องยอม ผมจะนำเด็กผู้ชายไปมอบให้เจ้านายของผม ส่วนเด็กผู้หญิงให้คุณเลี้ยงไว้เอง เรื่องนี้จะเป็นความลับตลอดไป”
ทนายเอริกตัดสินใจทำอะไรที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำ เขาไม่อยากทำลายชีวิตน้อยๆ ที่ยังไม่ลืมตาดูโลก ความลับเรื่องนี้ต้องถูกปกปิดเอาไว้ตลอดกาล
เมื่อครบกำหนด อลิชาถูกนำตัวเข้าห้องคลอดเด็กแฝดตัวโตมากจึงต้องทำการผ่าคลอด หลังจากนั้นเด็กผู้ชายก็ถูกนำตัวแยกไปดูแลโดยพยาบาลที่เตรียมไว้ ส่วนเด็กผู้หญิงอยู่ในความดูแลของแม่อุ้มบุญ
“ลูกจ๋า... แม้ลูกจะไม่ได้เกิดจากความรัก แต่แม่สัญญาว่าแม่จะรักและดูแลหนูให้ดีที่สุด โรซี่ลูกรักของแม่” อลิชาบอกลูกน้อยของเธอ
ทนายเอริกมอบเช็คค่าจ้างงวดสุดท้ายให้หญิงสาว เขาเพิ่มจำนวนเงินมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาจะมอบให้เป็นของขวัญลูกสาวของเจ้านาย อย่างน้อยเด็กจะมีต้นทุนชีวิตที่ดีในอนาคต
“เงินที่ผมมอบให้ คือค่าดูแลคุณหนู คุณจะได้ไม่ลำบากและดูแลคุณหนูได้อย่างสบายใจ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณทนาย ฉันอยากพบลูกชายของฉันเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ”
อลิชารับค่าจ้างมาเก็บไว้ แล้วเอ่ยขอร้องทนายเอริก เพื่อจะได้พบหน้าลูกชายของเธอสักครั้ง
ทนายเอริกให้พยาบาลนำตัวเด็กชายมาพบกับมารดา เขาให้หญิงสาวให้นมแกเป็นมื้อแรกและมื้อสุดท้าย ก่อนจะนำตัวเด็กชายทายาทตระกูลมาร์เซียอาโน่ ไปมอบให้ผู้เป็นพ่อของแก
“ขอให้คุณโชคดีครับ คุณอลิชา โปรดวางใจว่าคุณชายน้อยจะได้รับการดูแลอย่างดี และผมหวังว่าคุณหนูตัวน้อยจะเติบโตอย่างแข็งแรง”
“เป็นเด็กดีนะลูก แม่ขอให้ลูกเติบโตแข็งแรง ชาตินี้เราคงไม่ได้พบกันอีก แม่สัญญาว่าแม่จะมีลูกอยู่ในใจแม่ตลอดไป”
หญิงสาวบอกลูกชายตัวน้อยเสียงเจือสะอื้น หัวใจวูบโหวงไปหมด เมื่อต้องพรากจากลูกน้อยไปตลอดกาล ริมฝีปากแตะลงบนศีรษะเล็กนั้นอย่างสุดรัก ขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาหลังรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ อาลัยอาวรณ์เลือดในอกของตนอย่างที่สุด แต่เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวแก เธอเป็นแค่แม่อุ้มบุญเท่านั้น สิ่งที่ทำได้คือจดจำแกไว้ในหัวใจ
“ฝากลูกของฉันด้วยนะคะคุณทนาย”
อลิชาตัดใจส่งเด็กคืน พยาบาลผู้ดูแลมารับเด็กไปใส่รถเข็นไว้ ก่อนจะเข็นออกไปจากห้อง
“นี่เป็นนามบัตรของผม หากมีอะไรให้ผมรับใช้ ติดต่อมาได้เลยนะครับ ผมขอตัวก่อน”
ทนายเอริกส่งนามบัตรให้หญิงสาว ก่อนจะขอตัวเอ่ยลา เพื่อนำคุณชายน้อยไปส่งให้พ่อของแก เขาหวังว่าความลับที่ปกปิดไว้ จะตายไปพร้อมกับตัวเขา เจ้านายของเขาจะไม่มีวันรู้ว่า มีลูกสาวที่เกิดจากแม่อุ้มบุญอยู่อีกคนบนโลกใบนี้