ตอนที่ 7 ตอบคำถาม

1801 Words
ณดลนิ่งไป หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ฟางข้าวพูด นั่นสินะ เขาบ้าหรือเปล่า เขาเป็นอะไร ทำไมต้องโมโห ทำไมต้องลากเธอมา เพื่อแค่บอกให้เธอไปเลิกกับแฟน เขาทำไปทำไม แล้วเขามีสิทธิ์อะไรไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอกัน ณดลชะงักไปกับความคิดของตัวเอง “ขอโทษ” ณดลพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าทิ้งศีรษะลงไปพิงกับโซฟา ฟางข้าวชะงักไปหลังจากที่ได้ยินคำที่ณดลเอ่ยออกมา เธอถอนหายใจโล่งอกที่ณดลสงบลง “เป็นอะไร ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ทำแบบนี้” ฟางข้าวถามณดลอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้เลย “เปล่า ช่างเถอะ ทานอะไรก่อนมั้ย หรือจะกลับบ้านเลย” “กลับบ้านเลยแล้วกัน” “อืม เดี๋ยวเราไปส่ง ขอเวลา 10 นาที” ฟางข้าวไม่ได้ตอบอะไรณดล เธอนั่งเงียบๆ ปล่อยให้ณดลจมอยู่กับความคิดตัวเอง โดยที่เธอก็ไม่คิดจะบอกอะไร ณดลเงียบไปประมาณ 10 นาที ก่อนจะลืมตาขึ้นมา และลุกขึ้นเตรียมจะไปส่งฟางข้าว แต่อาจจะเป็นเพราะเมื่อสักครู่เขาโมโหมากเกินไป และเขาก็เงยหน้าพิงพนักโซฟานาน ทันทีที่ร่างสูงลุกขึ้น เขาหน้ามืดกำลังจะล้มลง ดีที่ฟางข้าวมองตามเขาหลังจากเขาลุกขึ้น เธอจึงรับร่างของเขาเอาไว้ได้ทัน ร่างของเขาจึงยังไม่ทันล้มลงไปที่พื้น แต่ล้มลงไปที่หน้าตักของหญิงสาวแทน ฟางข้าวที่เอื้อมแขนไปดึงร่างของณดลที่กำลังล้มลง ดึงเข้ามาหาตัวเอง และคงเป็นเพราะณดลสูงกว่าเธอมาก ทำให้เธอรับน้ำหนักเขาไม่ไหว ตัวเธอเองล้มลงไปนั่งพับเพียบที่พื้นโดยที่วงแขนยังโอบรับร่างสูงไว้อยู่ หลังของหญิงสาวกระแทกกับขอบโซฟาอย่างแรง ถึงขอบโซฟาจะนุ่มค่อนข้างมาก แต่การที่ล้มลงกระแทก โดยที่มีน้ำหนักของเธอกับของณดลรวมกัน มันก็ทำให้เธอเจ็บไม่น้อย ฟางข้าวเขย่าตัวณดล เพื่อเรียกสติเขา ตอนนี้เธอเริ่มจะรับน้ำหนักเขาไม่ไหว เธอรู้สึกว่าหลังของเธอน่าจะช้ำแน่ๆ มันเริ่มรู้สึกปวดระบมขึ้นมากเลยทีเดียว และตอนนี้เธออยู่ในท่าที่กำลังนั่งพับเพียบ หลังพิงโซฟา และมีตัวณดลนอนหงายอยู่ในอ้อมแขนของเธอ สักพักเลยทีเดียวกว่าที่ณดลจะหายหน้ามืด และสามารถลุกขึ้นมานั่งได้อีกครั้ง ฟางข้าวมองร่างสูงด้วยสายตาเป็นห่วง ก่อนจะพยุงให้เขาลุกขึ้นนั่งบนโซฟา “มีผ้าขนหนูผืนเล็กๆไหม” ณดลพยักหน้าแล้วชี้ไปที่ห้องนอนเขา ก่อนจะหลับตานิ่งไป ฟางข้าวลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องนอนของณดล มองซ้ายมองขวา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว เธอเดาว่าน่าจะอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเขาตู้ใดตู้หนึ่ง เธอเปิดดูไปเรื่อยๆ จนเจอผ้าขนหนูผืนเล็กตามที่เธอต้องการ จึงเดินเข้าไปในห้องน้ำและเปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้าราดลงบนผ้า บิดหมาดๆ ก่อนจะเดินออกมาหาณดลที่เริ่มรู้สึกดีขึ้น เขานั่งกะพริบตาถี่ๆ เหมือนพยายามเรียกสติของตัวเอง ฟางข้าวนั่งลงข้างๆเขา เช็ดหน้าเช็ดคอให้เขาด้วยความเป็นห่วง “ดีขึ้นมั้ย” “อืม” “พักผ่อนน้อยเหรอ” หญิงสาวถามณดล ที่ตอนนี้กำลังจ้องมองใบหน้าของเธออยู่ “ใช่ หลังเลิกเรียนไปเฝ้าผับทุกวัน กว่าจะกลับก็ผับปิด ไม่มีเรียนก็เข้าบริษัท” เขาตอบเธอเสียงเหนื่อยๆ “เพราะเหตุนี้ล่ะมั้ง นายถึงได้อารมณ์แปรปรวน” ฟางข้าวเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้พูดกับณดล เขาชะงักไปเล็กน้อย “คงอย่างนั้นมั้ง” เขาไม่ได้ปฏิเสธอะไร และปล่อยให้เธอดูแลเขาเงียบๆ ฟางข้าวเช็ดหน้าเช็ดคอให้เขาสักพัก และบังคับให้เขานอนพักก่อน เธอไม่ได้รีบอะไรเพราะถึงเธอกลับไปบ้าน เธอก็อยู่คนเดียวอยู่แล้ว ช่วงนี้เธออาจจะมีวัชระมาอยู่เป็นเพื่อนเธอก็จริง แต่การดำเนินชีวิตตามปกติของเธอ เธอไม่มีใครรออยู่ที่บ้านอยู่แล้ว หลังณดลหลับไป ฟางข้าวเดินสำรวจห้องต่างๆ ระหว่างรอเขาตื่น ห้องครัวที่สะอาดและเป็นระเบียบ ในตู้เย็นที่แช่อาหารไว้ไม่มากนัก แต่สิ่งมึนเมากลับมากจนเกือบเต็มพื้นที่ทั้งหมดของตู้เย็น ห้องทำงานที่เต็มไปด้วยตู้หนังสือ ที่หนังสือและแฟ้มเอกสารอยู่เต็มทุกชั้น โต๊ะทำงานทรงแอลตัวใหญ่ ที่บนโต๊ะมีแฟ้มเอกสารเรียงอยู่ ถ้าเธอไม่มาเห็นกับตา เธอคงไม่เชื่อ ว่าตอนนี้ตัวเขารับผิดชอบอะไรมากมาย ในขณะที่ตัวเธอเองยังมีคนไปรับไปส่งมหาวิทยาลัยอยู่เลย ฟางข้าวเดินออกมานั่งที่โซฟาตัวข้างๆ เขา หลังจากสำรวจห้องทำงานของเขา เธอมองเขาสักพักก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป หลังจากแน่ใจแล้วว่าหญิงสาวที่อยู่กับเขาในขณะนี้ ได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ณดลก็ลืมตาขึ้นมามองร่างบาง เขายกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก พลางคิดอะไรบางอย่าง สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด อาการที่เขาเป็นในช่วงนี้ คำตอบที่เขากำลังหา คำตอบของคำถามที่มารดาเคยถามเขา เขาว่าเขาควรจะหาคำตอบให้มารดาเสียที ฟางข้าวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา หลังจากผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ดวงตากลมโตมองออกไปด้านนอก ตอนนี้ท้องฟ้าข้างนอกมืดลงเรียบร้อยแล้ว พลันเธอก็นึกขึ้นได้ ว่าตัวเธอยังไม่ได้บอกใครเลย เธอหายไปแบบนี้ ทั้งพี่เฟรมและคนอื่นที่บ้านคงจะเป็นห่วงเธอมากทีเดียว ฟางข้าวเด้งขึ้นมานั่งตัวตรง ก่อนจะมองข้างๆ ที่ตอนนี้ณดลไม่อยู่แล้ว เธอมองไปรอบๆ จึงเห็นว่าณดลยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกระเบียง “ดล” ร่างบางลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูระเบียงก่อนจะออกไปยืนข้างๆร่างสูง สายตามองตรงออกไปข้างนอก สายลมและวิวทิวทัศน์ตรงหน้า ทำให้เธอผ่อนคลายลงได้มากทีเลียว “อ้าว ตื่นแล้วเหรอ” ณดลเห็นฟางข้าวออกมา เขารีบดับบุหรี่แล้วโยนทิ้งในที่เขี่ยบุหรี่ข้างๆตัว ก่อนจะหันมาคุยกับเธอ “อือ ไปส่งฉันหน่อยสิ ที่บ้านคงเป็นห่วงกันแย่แล้วน่ะ” หลังณดลพยักหน้ารับ ฟางข้าวจึงหมุนตัวเปิดประตูระเบียงและกลับเข้าไปด้านใน มือบางหยิบกระเป๋ามาสะพายขึ้นบ่ารอ ณดลเดินตามฟางข้าวเข้าไป ก่อนจะก้าวยาวๆไปหยิบกุญแจรถ และพยักหน้าให้หญิงสาว ฟางข้าวเดินตามเขาไปที่ลิฟต์ พอดีกับที่ประตูลิฟต์เปิด จึงพากันเข้าไปในลิฟต์ ณดลทำท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรกับหญิงสาว แต่แล้วเขาก็เงียบไป จนลงมาถึงที่จอดรถ เขาขึ้นนั่งที่คนขับ มองเธอขึ้นรถเขาเงียบๆ และขับรถออกไป “ข้าวยังไม่กลับมาเหรอครับ” วัชระถามหัวหน้าแม่บ้าน หลังจากที่เขากลับมาแล้วไม่พบฟางข้าว ทั้งที่ปกติเวลานี้ หญิงสาวน่าจะกำลังทานมื้อเย็นอยู่ “ยังค่ะ ตาอำนวยโทรไปก็ไม่มีคนรับค่ะ” วัชระขมวดคิ้วหลังจากได้ยินคำตอบ ฟางข้าวหายไปไหนปกติเธอไม่เคยหายไปโดยไม่บอกกล่าว “งั้นเดี๋ยวผมลองติดต่อหาข้าวดูละกันครับ” วัชระหยิบโทรศัพท์ กำลังจะกดโทรออกหาฟางข้าว ก็พอดีกับที่ณดลขับมาส่งฟางข้าวที่หน้าตึกพอดี “ข้าวไปไหนมา ทำไมไม่มีใครติดต่อได้เลย” วัชระถามฟางข้าวทันทีที่เธอเดินเข้ามาในบ้าน “ข้าวไปทำธุระกับเพื่อนนิดหน่อยค่ะ แต่พอดีลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ในรถเพื่อนค่ะ” ฟางข้าวบอกก่อนจะยิ้มบางๆ ให้กับวัชระ “ทีหลังอย่าขาดการติดต่อไปแบบนี้นะ คนในบ้านจะเป็นห่วง” “รับทราบค่ะ ไปทานมื้อเย็นกันเถอะค่ะ ข้าวหิวแล้ว” ฟางข้าวเฉไฉไปคลองแขนวัชระ แล้วดึงเขาเข้าห้องทานอาหารไป หลังจากที่ฟางข้าวลงจากรถ ณดลเลือกที่จะขับรถกลับบ้าน เขาคิดว่าเขามีบางอย่างต้องคุยกับมารดา เขาหวังว่ามารดาจะช่วยเขาได้ “แม่…” ณดลจอดรถเสร็จรีบเดินเข้าไปภายในบ้านก่อนจะเรียกมารดาเสียงดัง “อะไร…!!” ภัทราที่กำลังพักผ่อน นั่งดูโทรทัศน์กับสามี สะดุ้งตกใจหันไปตอบบุตรชายที่เสียงดังไม่แพ้กัน “คราวก่อนที่กลับมาบ้าน แม่ถามอะไรผม” “ถามอะไร อ๋อ ก็ถามว่าแกชอบหนูฟางข้าวเหรอ ทำไม…หาคำตอบได้แล้วเหรอ” ภัทราตอบบุตรชายงงๆ ก่อนที่จะเริ่มเข้าใจสิ่งที่บุตรชายกำลังสื่อ “ใช่ หาคำตอบได้แล้ว” ณดลมองมารดา แววตาจริงจัง เดินตรงไปนั่งที่โซฟาตัวข้างๆ มารดา โดยมีบิดากับมารดากำลังจ้องเขาอยู่ “ไหนล่ะคำตอบ” มารดาถามเขา สีหน้าท่านเหมือนกับคนที่รู้คำตอบอยู่แล้ว บิดาของเขาเองก็มองเขาเงียบๆ เหมือนท่านได้คุยกัน และรู้อยู่แล้ว ในสิ่งที่เขากำลังจะบอก “ผมชอบฟางข้าว” ณดลตอบมารดาน้ำเสียงและแววตาจริงจัง “ก็แค่นั้นแหละ” ภัทรายักไหล่ใส่บุตรชาย ก่อนจะหันไปดูโทรทัศน์กับสามีต่อ “หมายความว่ายังไงครับ” ณดลถามอย่างไม่เข้าใจ “ก็หมายความว่า ฉันมองแกออกตั้งแต่คราวก่อนที่แกพาหนูฟางข้าวไปที่บริษัทแล้วไง” ณดลสีหน้าตกใจหลังจากฟังคำตอบของมารดา หมายความว่าเขา ชอบฟางข้าวมานานแล้วงั้นเหรอ “ไปๆ ฉันจะพักผ่อน แกไปหาคำตอบกับตัวเองให้ได้ก่อน ในสิ่งที่แกกำลังถามตัวเองอยู่ ค่อยมาคุยกับฉัน” ณดลมองมารดาที่กำลังโบกมือไล่เขาราวกับท่านรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินออกจากห้องนั่งเล่น และตรงขึ้นห้องส่วนตัวไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD