คืนนี้อารยะหงุดหงิดเป็นพิเศษ โสภิดาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวไว้รอเขา
อารยะเข้ามาช้ากว่าเมื่อวาน เขาเดินตรงมาที่โสภิดาที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ โสภิดาลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นว่าเขาเข้ามา
อารยะยื่นมือไปดึงโทรศัพท์เธอออกมาดูว่าเธอกำลังคุยกับใครหรือดูอะไรอยู่ก็พบว่าเธอกำลังแชทคุยกับกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เขาก็เลยยื่นโทรศัพท์คืนเธอไป
โสภิดาวางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะข้างเตียง แล้วลุกขึ้นยืน อารยะเริ่มถอดเสื้อผ้าพาดไว้ที่ปลายเตียงเหมือนเมื่อวานอย่างใจเย็น โสภิดาหันหลังให้เขา เธอไม่รู้ว่าควรถอดเองหรือต้องรอให้เขาถอดให้
สักพักอารยะก็เดินเข้ามาข้างหลังแล้วเอามือถลกชายชุดนอนขึ้นมา จูบซอกคอจากด้านหลังแล้วดึงชายชุดนอนให้สูงขึ้นมาเหนือเอว ดันเธอไปชิดขอบผนังแล้วสอดใส่แท่งนั้นเข้าไปโดยที่ไม่ได้มีการเล้าโลมใดๆ ก่อน
โสภิดากัดฟันแน่น มันไม่ได้เจ็บมากมายแต่มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก อารยะจูบที่คอด้านหลังและจูบที่ไหล่ของเธอ ดันสะโพกเข้าออกช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นจนเธอมีอารมณ์ร่วมด้วยในที่สุด
เขาให้เธอโก้งโค้งแยกขา มือยันผนังห้อง จับสะโพกเธอให้แน่นแล้วกระแทกอย่างดุดันจนในที่สุดปลดปล่อยออกมาตามๆ กัน ดึงเธอให้ยืดตัวตรงกอดประครองเธอไว้ แต่ยังไม่แยกตัวออกจากเธอ
เขารอสักพักแล้วจึงถอนตัวออกมา น้ำขาวขุ่นไหลย้อนลงมาตามขาของโสภิดา เธอรีบเข้าไปในห้องน้ำ พอกลับออกมาอารยะก็กลับห้องไปแล้ว เธอทิ้งตัวนอนลง ร้องไห้สงสารตัวเองที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้
***************************
อารยะกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองหลังจากปลดปล่อยกับโสภิดาไปแล้ว เขาหงุดหงิดที่เธอไม่เอาใจเขาแถมยังกล้าออกความเห็นขัดคำสั่งเขาบนโต๊ะอาหาร เลยไม่ได้ร่วมรักกับเธอแบบที่นุ่มนวลกว่าเมื่อนี้
นุสรายังไม่นอน เธอนั่งอ่านหนังสือรอเขาอยู่ พออารยะเข้ามาเธอก็ยิ้มให้อย่างดีใจ เธอรู้ว่าเขาจะต้องกลับมานอนกับเธอเสมอ
“วันนี้อ่านหนังสือดึกอีกแล้ว อ้อมต้องพักผ่อนให้มากๆ สิ” อารยะบอกเธอด้วยความเป็นห่วง
“อ้อมรอพี่ใหญ่กลับมานอนกอดไงคะ”
“ยังไงพี่ก็ต้องกลับมา นอนกอดคนอื่นไม่มีความสุขเท่านอนกอดอ้อมหรอกนะ” อารยะบอกภรรยาด้วยความนุ่มนวล
พวกเขาคบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน ก่อนที่จะแต่งงานกันมาย่างเข้าปีที่ห้าแล้ว ความรักของอารยะที่มีต่อเธอก็ไม่เคยน้อยลงเลย
นุสรามีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกและตัดมดลูกทิ้งตั้งแต่ก่อนแต่งงาน เธอยังกลัวด้วยซ้ำว่าอารยะจะทิ้งเธอ แต่เขาก็ไม่ทิ้งเธอ เขารักเธอและแต่งงานกับเธอในที่สุด
อารยะเดินไปสวมกอดเธอไว้ แล้วบรรจงจูบอย่างแผ่วเบา
“ยังไม่พออีกเหรอคะ” นุสราดันอกเขาออก แล้วถามเขา
“ยังไม่พอกับอ้อม” อารยะบอกแล้วจูบริมฝีปากนิ่มอย่างแผ่วเบาด้วยความทะนุถนอม ก่อนจะอุ้มเธอไปวางที่เตียงแล้วจูบแลกลิ้นกันอย่างนุ่มนวล เขาค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าเธอออกอย่างใจเย็นแล้วค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าตัวเองออก ทั้งสองร่างโผเข้าหากันด้วยความใคร่
อารยะขยับสะโพกเข้าออกด้วยความสุข ถึงเธอจะไม่มีมดลูกแต่เขาก็ยังสามารถร่วมรักกับเธอได้ตามปกติ เพราะเขารักเธอ ถึงความสุขจะแตกต่างจากที่ทำกับโสภิดามาก แต่อารยะก็ไม่สนใจ เขารักและสงสารนุสรา และไม่อยากทำให้เธอเสียใจเพราะเขา เขาแสร้งครางออกมาอย่างมีความสุขจนนุสราอดยิ้มไม่ได้ที่ทำให้เขามีความสุข
เมื่อบทรักสิ้นสุดทั้งคู่นอนกอดก่ายกันอย่างมีความสุข นุสราหลับไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เธอมีความสุขทุกครั้งที่อารยะมีสัมพันธ์กับเธอ เพราะทำให้เธอรู้ว่าเธอยังมีค่าและมีความหมายสำหรับเขา
***************************
หลังทานอาหารเช้าเสร็จ โสภิดาก็ออกไปที่มหาวิทยาลัยที่เป็นสาขาย่อยเพื่อฟังการบรรยายที่นานๆ จะมีอาจารย์เข้ามา โดยปกติเธอจะนัดอ่านหนังสือกับเพื่อนๆ ในห้องเรียน และเปิดวีดีทัศน์เพื่อเรียนผ่านสื่อที่ทางมหาวิทยาลัยมอบให้เป็นกลุ่ม เพราะจะได้สามารถปรึกษากันได้ ถ้าศึกษาเองที่บ้านก็เกรงว่าจะไม่เข้าใจ เพราะบัญชีเป็นอะไรที่เรียนยากมาก
พอเสร็จจากการเรียน เธอก็ให้คนขับรถพาไปที่ตลาดเพื่อซื้อของกลับไปให้พ่อแม่เธอไว้กินไว้ใช้ ไอรดาโอนเงินก้อนแรกล่วงหน้าให้เธอไว้ใช้จ่ายตั้งแต่วันแรกแล้ว เห็นเธอดูแบบนั้นแต่ที่จริงโสภิดารู้ว่าไอรดาเป็นคนดีและใจดีมากๆ
เมื่อเยี่ยมพ่อแม่เสร็จ โสภิดาก็รีบพาหวานกลับ เพราะกลัวว่ายิ่งอยู่นานหวานอาจจะหลุดปากพูดเรื่องที่เธอเป็นเมียของอารยะให้พ่อแม่ฟังได้ เธอไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจ และไม่อยากให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าเธออยากรวยทางลัดจนต้องยอมไปเป็นเมียเก็บของอารยะ
โสภิดาเพิ่งรู้วันนี้ว่าคนที่ได้ฉายาว่ามาเฟียขาวจะหมายถึงอารยะ และชื่อเสียงด้านผู้หญิงของเขาก็ลือไปผิดๆ ว่าเจ้าชู้ เปิดบ้านเป็นฮาเร็ม แต่เธอรู้ว่าไม่ใช่ เขารักนุสราคนเดียว ส่วนคนอื่นนั้นแค่คนที่จะมาผลิตทายาทให้เขาเท่านั้น
“ถ้าคุณใหญ่อยากได้ลูกมากขนาดนั้น ทำไมไม่มีเมียสักเจ็ดคนเลยละพี่หวาน คนละวันไปเลย” โสภิดาบอก
“คนเดียวก็เกรงใจคุณอ้อมจะแย่อยู่แล้วมั้ง คุณใหญ่เลยต้องมีทีละคน อีกอย่างพี่ว่าเรื่องทายาทอาจจะเป็นเหตุผลหลักก็จริง แต่จริงๆ แล้วคุณใหญ่ท่านก็อยากมีเมียอีกคนอยู่แล้วล่ะ เพียงแต่ยกเรื่องทายาทมาอ้าง” หวานกระซิบบอกโสภิดาไม่ให้คนขับรถได้ยิน
“ทำไมล่ะจ๊ะพี่”
“ก็ทำกับคนไม่มีมดลูกจะไปรู้สึกอะไรล่ะ คุณใหญ่เธอก็คงอยากปลดปล่อยกับคนอื่นบ้างแหละ” หวานพูดตามความเห็นของตัวเอง ที่เธอคิดว่าใช่
“แต่ทายาทก็สำคัญ เรียกว่าการนอนกับคนอื่นเป็นกำไรของคุณใหญ่มากกว่า” หวานพูดต่อเสียงเบา
โสภิดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ รู้แล้วว่าทำไมนุสราถึงมีลูกไม่ได้ ทั้งๆ ที่รวยขนาดนี้จะทำกิฟต์หมดไปกี่ล้านขนหน้าแข้งก็คงไม่ร่วง
พวกเธอกลับมาทันตอนบ่ายสามที่พิมพ์กำลังให้เด็กรับใช้ออกไปเสิร์ฟของว่างให้บรรดาเจ้านายทั้งหลาย โสภิดาสังเกตว่าของว่างยามบ่ายเป็นขนมปังหน้าหมูที่เธอหมักไว้ก็ถามด้วยความสงสัย
“ป้าพิมพ์ไม่ได้เสิร์ฟตอนสายเหรอคะ” โสภิดาถาม เพราะหวานเคยบอกว่าอาหารว่างยามบ่ายส่วนมากจะเป็นผลไม้มากกว่า
“รอบเช้าเสิร์ฟไปแล้วค่ะ พวกคุณๆ ชมว่าอร่อยมากและขอให้ทำอีกตอนบ่าย” พิมพ์บอกแล้วยกนิ้วให้โสภิดา โสภิดายิ้มหน้าบานเธอดีใจที่มีคนชอบ
“คุณอ้อมบอกว่ารสชาติเหมือนที่เธอเคยกินอยู่ร้านอาหารดังๆ เลยนะคะ” เด็กรับใช้ที่กลับเข้ามา บอกกับเธอ
โสภิดาดีใจที่นุสราชอบ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ทำอะไรให้เธอมีความสุขบ้างเพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจออกไปสักเล็กน้อยก็ยังดี
***************************
สามสัปดาห์ผ่านไป โสภิดาเริ่มจะคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้แล้ว ตอนนี้เธอทำหน้าที่ช่วยงานในครัวเป็นหลัก เธอรู้ว่าไม่ควรออกความเห็นหรือขัดใจอารยะ และรู้ว่าเขาชอบให้เธอมายืนรอรับเขา
เพราะมีครั้งหนึ่งที่วันนั้นโสภิดาออกมายืนรอไอรดาแต่อารยะเข้าใจว่ามายืนรอรับเขา เขายื่นสูทให้เธอเอาไปเก็บและคืนนั้นเขานุ่มนวลกับเธอมาก
เป็นอย่างนี้อยู่สองถึงสามครั้ง โสภิดาจึงจับทางได้ว่าอารยะชอบให้เธอเอาใจ เขาจะอารมณ์ดี ไม่ใช่เพราะเขาชอบเธอ แต่เป็นเพราะเขาไม่ชอบให้คนขัดใจเขาและชอบให้คนเอาใจเขามากกว่า โสภิดาจึงเอาใจเขาเพื่อไม่ให้เขาอารมณ์ไม่ดีแล้วทำรุนแรงกับเธอ
นุสราเริ่มจะใจไม่ดี เมื่อเห็นว่าหลังๆ มาโสภิดาเริ่มเอาใจอารยะและเขาเองก็กลับเข้าห้องช้ากว่าเดิม บางทีเขาเข้ามาตอนนุสราหลับไปแล้วด้วยซ้ำ
อารยะไม่ได้เข้าหาโสภิดาทุกคืน เขาจะนอนกับเธอสองถึงสามคืนเว้นหนึ่งคืน ทำแบบนี้ประจำ
คืนนี้อารยะมาหาโสภิดา พอเขาเข้ามาเธอก็ส่งยิ้มให้เขา โสภิดารู้ว่าหน้าที่ของเธอคือตั้งท้องให้เขาเท่านั้น แต่ความใกล้ชิดและความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมันก็อดทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวกับเขาไม่ได้
“คุณใหญ่ให้ส้มนวดให้ไหมคะวันนี้” โสภิดาบอกอย่างเอาใจ ที่อารยะกลับห้องช้าเพราะโสภิดาชอบเสนอตัวนวดให้เขาอยู่ประจำ
อารยะพยักหน้า เขาให้เธอนวดก่อนจะมีอะไรกัน เพราะถ้านวดหลังจากที่มีสัมพันธ์กันเสร็จ เขากลัวว่าเขาจะสบายตัวจนเคลิ้มหลับไปแล้วไม่ได้กลับไปนอนที่ห้องกับนุสรา
“วันนี้นวดอย่างเดียวนะคะคุณใหญ่ พอดีว่าประจำเดือนของส้มเพิ่งมา” โสภิดาบอกเขา
“ประจำเดือนเหรอ” อารยะพูดขึ้นมาอย่างเสียดาย ไม่รู้ว่าเพราะเธอไม่ท้อง หรือว่าเพราะจะไม่ได้นอนกับเธอกันแน่
“ส้มขอโทษนะคะ ส้มเพิ่งรู้ตอนอาบน้ำ” โสภิดาบอก อารยะถอนหายใจนั่งให้เธอนวดไหล่ให้แบบนั้นสักพักก่อนจะลุกขึ้น
“อีกห้าวันค่อยเจอกันนะคะ” โสภิดากอดเข้าจากด้านหลัง แล้วบอกอย่างนุ่มนวล ลุ้นว่าเขาจะอารมณ์เสียใส่เธอหรือไม่
อารยะยิ้มมุมปากเล็กน้อยที่เธอกอดเขาแบบนี้
“อ้อนแบบนี้จะเอาอะไร” อารยะถาม
“ไม่เอาอะไรค่ะ ส้มแค่อยากให้คุณใหญ่ไม่โกรธ” เธอบอกเขาอย่างเอาใจ
“ฉันมีโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ไม่ใช้แล้ว เดี๋ยวจะเอามาให้ ของเธอเก่ามากแล้ว” อารยะบอกแล้วหันหน้ามาหาเธอ
“ขอบคุณนะคะ” โสภิดาบอกแล้วเขย่งเท้าหอมแก้มเขาอย่างเอาใจ
อารยะยิ้มให้เธอ โสภิดาแทบจะละลายด้วยรอยยิ้มนั้น แต่ก็ต้องหักห้ามใจ เพราะรู้ว่าสักวันต้องไปจากที่นี่
“น่ารักแบบนี้ให้ได้ตลอดแล้วกัน” อารยะบอกแล้วโน้มหน้าจะหอมแก้มเธอ ก่อนจะนึกได้ว่าเขาไม่ควรทำแบบนี้
เขาชะงักนิดหนึ่งแล้วเดินออกจากห้องของโสภิดาไป เริ่มกลัวใจของตัวเองว่าจะมีใจให้เธอเข้า แล้วจะทำให้นุสราต้องเสียใจ
***************************