2 อาทิตย์ต่อมา
บริษัท อัสดา อินทีเรีย
“นี่เป็นข้อมูลส่วนตัวของพนักงานที่จะมาสัมภาษณ์กับคุณอัศวินพรุ่งนี้นะคะ..”
เลขาส่วนตัวของเขายื่นแฟ้มเอกสารข้อมูลของพนักงาน 3 คนที่เขาต้องเป็นคนสัมภาษณ์เองพรุ่งนี้กับตัว เพราะพวกเธอต้องเข้ามาเป็นเลขาส่วนตัวให้กับพ่อของเขาที่เป็นผู้บริหารใหญ่ คนที่จะเข้ามาเป็นเลขาส่วนตัวของพ่อเขาได้ ต้องเก่งและก็ฉลาดแล้วก็ต้องทนรับแรงกดดันได้ดี
เขาเปิดแฟ้มของทั้ง 3 คนดูแล้วอ่านประวัติของทุกคนอย่างระเอียด แต่ต้องไปสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบมาจากเมืองนอกในระดับปริญญาโทแต่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานที่ไหนเลยสักที่ แต่ทำไมถึงผ่านด่านการสัมภาษณ์จากฝ่ายบุคคลมาได้ ทั้งที่เขาย้ำแล้วว่าขอคนที่มีประสบการณ์ทางด้านเลขาในระดับผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น
“คุณอรครับตามคุณนพเข้ามาหาผมที..”
( ค่ะ..คุณอัศวิน..)
เขาให้เลขาหน้าห้องตามนพดนัยหัวหน้าฝ่ายบุคคลเข้ามาหาที่ห้องทำงาน เพราะต้องการจะถามถึงเรื่องผู้หญิงคนที่เขาต้องสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้
“คุณอัศวินเรียกผมหรอครับ..”
“ใช่..”
“คุณอัศวินมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ..?”
“เรื่องเลขาของคุณพ่อที่ผมต้องสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ ผมเคยแจ้งคุณไปแล้วใช่ไหมว่าผมต้องการคนที่มีประสบการณ์ด้านเลขาของผู้บริหารระดับสูงโดยตรง..คนไม่มีประสบการณ์ผมไม่เอา..”
“แต่ทุกคนที่ผมคัดมาแล้วก็มีประสบการณ์ทุกคนนะครับ..”
“งั้นคุณเอานี่ไปดู..”
เขาโยนแฟ้มของผู้หญิงคนหนึ่งให้กับนพดนัยตรงหน้า นพดนัยเปิดดูก็อึ้งๆไป
“เรียนจบโทมาจากเมืองนอก ไม่เคยทำงานที่ไหนเลยสักที่นอกจากเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเท่านั้น นี่หรอที่คุณบอกว่าคัดมาแล้ว..”
“เอ่อ..ผมขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าเธอติดมาได้ยังไง..”
“เสียเวลาจริงๆ แทนที่ผมจะได้สัมภาษณ์เลขาให้คุณพ่อ 3 คนเพื่อเป็นตัวเลือก แล้วถ้า 2 คนที่ผมสัมภาษณ์พรุ่งนี้เธอไม่ผ่านละ ผมไม่ต้องมานั่งสัมภาษณ์อีกหลายๆคนหรอ..?”
“....”
นพดนัยหน้าเสียขึ้นมาทันที เพราะเขารู้ดีว่าอัศวินซีเรียสมากกับเรื่องนี้ เพราะไม่มีใครมาช่วยดูงานให้พ่อของเขาได้ในตอนนี้ จนต้องมาขอยืมเลขาเขาไปช่วยก่อนจนทำให้งานที่อยู่ในมือของเขาโหลดไป
“ไปโทรบอกเธอว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมา แล้วก็หาคนใหม่มาสัมภาษณ์แทนเธอด้วย..”
“ครับคุณอัศวิน..”
นพดนัยรีบออกจากห้องทำงานของเขาไปทันทีเพื่อไปจัดการตามที่เขาบอก
...
วันรุ่งขึ้น
บริษัทอัสดา อินทีเรีย
“พี่นพน้องผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมกลับอะ จะเข้าไปสัมภาษณ์ให้ได้เลย เอาไงดีอะพี่..?”
น้อยหน่าน้องในฝ่ายบุคคลอีกคนหนึ่งเวิ่งเข้ามาหานพดนัยด้วยใบหน้าร้อนใจ
“พี่ให้แกโทรไปบอกน้องเขาแล้วนี่ว่าไม่ต้องมาอะ..”
“น้อยโทรไปแล้วพี่แต่เขาไม่ยอมอะ เขาถามเหตุผลว่าทำไมต้องไม่ให้เขามาสัมภาษณ์ ในเมื่อเขาก็ผ่านด่านทดสอบมาทุกอย่างแล้ว ข้อสอบภาษาอังกฤษก็ได้เต็ม จิตวิทยาก็ได้เต็ม แล้วแบบนี้เราจะเอาอะไรไปอ้างกับเขาละพี่..”
“เดี๋ยวฉันไปคุยเอง..”
นพดนัยตัดสินใจเดินออกไปคุยกับเธอเอง เพราะถ้าปล่อยไว้แบนี้เธอไม่ยอมกลับไปง่ายๆแน่
“คุณญาดานะครับ.?”
“ค่ะ..”
เธอเห็นหน้าของนพดนัยก็ยิ้มทักทายเขาด้วยสายตาอ่อยๆ จริงๆแล้วที่เขาปล่อยให้เธอผ่านด่านไปได้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความสวยของเธอ แค่ได้นั่งมองใบหน้าที่ดูสวยงามของเธอ ก็หลงเคลิ้มจนทำให้เขามองข้ามถึงเรื่องสำคัญที่อัศวินย้ำกับเขาเอาไว้
“พี่คะ..ทำไมญาถึงไม่ไเ่เข้าไปสัมภาษณ์ละคะ..?”
“เอ่อ..คือ..”
ญาดาส่งสายตายั่วยวนไปให้เขาจนเขาคล้อยตาม แต่พอตั้งสติได้ก็รีบพูดกับเธอให้เข้าใจ
“คือ..เจ้านายของพี่เขาอยากได้คนมีประสบการณ์นะครับ น้องเลยไม่ผ่านพี่ต้องขอโทษจริงๆนะครับ..พี่ช่วยน้องไม่ได้จริงๆ..”
“แต่ญาทำข้อสอบได้คะแนนเต็มหมอทุกข้อเลยนะคะ แล้วพี่เองก็ให้ญาผ่านแล้วด้วย..พี่ช่วยคุยกับหัวหน้าพี่ทีนะคะ ญาอยากทำงานที่นี่จริงๆ..นะคะ..”
เธอเดินเข้าไปเกาะแขนเขาไว้แล้วส่งสายตาออดอ้อนไปให้เขา
“น้องลองไปสมัครงานที่อื่นดูเถอะนะ พี่ช่วยน้องไม่ได้จริงๆ..”
“ไม่ค่ะ..ญาจะทำงานที่นี่ ถ้าพี่ไม่ยอมให้ญาเข้าไปสัมภาษณ์งานกับเจ้านายของพี่ ญาจะไม่กลับเด็ดขาด..”
“น้องครับ อย่าทำให้พี่หนักใจเลย..”
“พี่นั่นแหละ..มาให้ความหวังญาแล้วก็มาทิ้งกันกลางทางแบบนี้ ยังไงญาก็ไม่กลับ..”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พี่นพ..คุณอัศวินตามให้พี่เข้าไปพบ..”
“สัมภาษณ์คนที่ 2 เสร็จแล้วหรอ..?”
“ใช่..”
ญาดาได้ยินที่น้องในทีมของเขาเปิดประตูเข้ามาบอกก็หูผึ่งขึ้นมาทันที
“พี่ต้องไปแล้ว..น้องกลับไปเถอะนะเอาไว้ถ้ามีตำแหน่งอื่นๆที่เปิดรับพี่เป็นคนสัมภาษณ์เอง พี่จะรีบโทรไปบอกนะ..”
นพดนัยพูดจบก็เดินออกไปจากห้องตรงไปที่ห้องสัมภาษณ์ที่อัศวินรออยู่ทันที
“เฮ้ย..! น้อง..”
ญาดาวิ่งออกมาจากห้องแล้วตรงไปที่ห้องที่อัศวินนั่งรออยู่ เธอวิ่งตัดหน้านพดนัยเปิดประตูเข้าไปทันที
“เธอเป็นใคร..?”
“สวัสดีค่ะฉันญาดา ค่ะ
...
ขอเปลี่ยนเนื้อเรื่องนิดหน่อยนะคะ
มันลืมพล็อตเดิมนะคะ อิอิ