1
ชั้นบนสุดของบริษัท Kyler Corporation Group
เวลา 20 : 27 น. ร่างสูงภูมิฐาน ดูสง่าและแข็งแกร่งราวกับแม่ทัพผู้นำศึกออกรบ ยืนเหม่อมองออกไปดูทิวทัศน์ด้านนอกผ่านกระจกใสๆ กับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว และแสงไฟนับล้านๆ ดวงจากตึกราบ้านช่องที่กำลังสาดส่องความสว่างไสวไปทั่วทั้งเมืองหลวง
ก่อนจะนึกไปถึงคำพูดของมารดาที่โทรมาต่อว่าเมื่อหลายชั่วโมงก่อน เรื่องที่เขาออกไปเที่ยวที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง แล้วคนสนิทเข้ามากระซิบบอกว่า... นางแบบดังที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เสนอตัวอยากจะขึ้นเตียงด้วยเขาจึงสั่งเปิดห้องที่โรงแรม
สุดท้ายพอเสร็จกิจกรรมคลายเครียด เขาก็ทิ้งนางแบบดังให้นอนรวยรินต่อที่ห้อง พร้อมกับเช็คเงินสดที่เซ็นทิ้งเอาไว้ให้ เหมือนเช่นทุกๆ ครั้ง
จากนั้นก็ตรงดิ่งกลับคอนโดโดยมีบอดี้การ์ดขับรถตามประกบดูแลความปลอดภัย
แต่พอตื่นเช้าขึ้นมา กลับมีภาพของเขากับนางแบบคนที่คั่วเมื่อคืน เดินเข้าห้องพักในโรงแรมอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ทำให้มารดาของเขาที่ทราบข่าว ถึงกับเดือดและโทรมาเหวี่ยงใส่ จนเขาต้องอ้างว่ามีประชุมด่วน แล้วรีบกดวางสายไป
ก๊อกๆ
“เข้ามา!” อีเดนเอ่ยก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา
“เสี่ยครับ คุณเซร่าขอนัดทานข้าวด้วย เสี่ยจะ...” ธนินมือขวาคนสนิทที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยและยังคอยจัดคิวสาวๆ ให้ขึ้นเตียงกับผู้เป็นนายเอ่ยถาม หลังจากที่นางแบบดังโทรมาขอนัด
“ไม่! วันนี้ฉันแค่อยากนั่งดื่มชิลล์ๆ ก่อนกลับคอนโดเท่านั้น” อีเดนหยิบสูทที่วางพาดบนโต๊ะทำงานขึ้นมาสวมด้วยสีหน้าเซ็งๆ
เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้าหา หรือวิ่งตาม เพราะมันจะทำให้เขารู้สึกว่าพวกเธอกำลังอยากจะขยับความสัมพันธ์ จากคู่ขามาเป็นคนพิเศษ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“โอเคครับ” ธนินตอบก่อนจะโทรสั่งงานบอดี้การ์ดที่สแตนด์บายรออยู่ด้านหน้าของบริษัทให้เตรียมตัว จากนั้นก็เดินเข้าไปถือกระเป๋าทำงานให้ ผู้เป็นนาย แล้วเดินตามอีกฝ่ายออกไปที่ลิฟต์
สี่สิบนาทีต่อมา... ไนต์คลับชั้นใต้ดินของโรงแรม ร็อฟเวลล์
เรือนร่างบอบบางในชุดเดรสเข้ารูปสีขาวมุก ที่โค้งและเว้าจน...เรียกสายตาของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ให้หันมามองตามๆ กันเป็นแถว
เสียงเพลงและเสียงดนตรีที่ดังกึกก้อง ทำให้หัวใจของมารียาเต้นแรงขึ้นมาทันทีทันใด เมื่อเหยียบย่างกายเข้ามาในไนต์คลับหรูแห่งนี้เธอพยายามกวดตามองหาเพื่อนสาวที่นัดกันมาเลี้ยงฉลอง หลังจากที่สอบเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของบริษัท kyler Corporation Group ได้พร้อมกัน
“รียา! รียา! ทางนี้” อลิซ หรือ อลิชา วิภากรณ์ ลุกขึ้นโบกมือเรียกเพื่อนรักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ฉันกลับดึกไม่ได้นะ” มารียารีบบอก ก่อนจะหันไปมองรอบๆไนต์คลับอย่างรู้สึกตื่นเต้น
“รู้จ้า สักห้าทุ่มค่อยกลับ เดี๋ยวฉันจะนั่งแท็กซี่พาไปส่งให้ถึงมือคุณแม่ของเธอเลยรับรอง!” อลิชาเอ่ยแซวด้วยสีหน้าขบขัน เมื่อเห็นท่าทางกระวนกระวายใจของเพื่อน
“เอ่อ...ฉันไม่ได้บอกแม่กับพี่ป้องว่าออกมาเที่ยวข้างนอกกับแก” มารียาสารภาพ เพราะวันนี้พี่ชายของเธอติดภารกิจอยู่ที่เชียงใหม่ และมารดาของเธอก็ไปงานเลี้ยงรุ่นกับบิดาที่หัวหิน กว่าจะกลับมาก็คงจะเป็นตอนเย็นของอีกวัน เธอจึงไม่จำเป็นต้องเอ่ยขออนุญาตจากใคร เพราะมีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะได้ออกไปเที่ยวไหนมาไหนตอนกลางคืน โดยไร้ซึ่งเงาของพี่ชาย ถึงแม้ว่าเธอเองจะอายุ 23 ปี และมีคู่หมั้นแล้วก็ตาม แต่ทางบ้าน ก็ยังคงความเข้มงวดอยู่เช่นเดิม
“อะไรนะ! นี่หางานให้กันหรือยังไง เธอก็รู้ว่าพี่ชายเธอน่ะดุยังกับหม...” คนที่กำลังยิ้มๆ อยู่ หุบแทบไม่ทันหลังจากที่รู้ว่าเพื่อนสาวแอบหนีออกมาเที่ยว
“ฉันบอกนมอิ่มว่าจะนอนกับแกที่คอนโด แล้วก็ให้เงินปิดปากลุงชัยตอนขับรถมาส่งที่นี่น่ะ” มารียาส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อน ที่ต่างคนก็ต่างไม่ได้เอารถมา เพราะกลัวว่าถ้าเมาแล้วขับไปเจอด่านเข้า ก็จะพากันซวยหนักเข้าไปอีก
“แม่เจ้า! แล้วนี่พี่ธันจะตามมาด้วยหรือเปล่า” อลิชาหวังให้อีกฝ่ายเป็นไม้กันปริณ ที่เจอหน้าเธอทีไรก็จ้องจะกัดอยู่ตลอด
“พี่ธันเขาไปดูงานที่พัทยาน่ะ ฉันไม่ได้บอกเขาเหมือนกัน” มารียาบอกเสียงเบา รู้ดีว่าเพื่อนกำลังหวั่นใจเรื่องอะไร
“ได้ยินแบบนี้ฉันชักรู้สึกอยากจะเช็กบิล แล้วพาแกไปซื้อเบียร์ที่ 7-11 กลับไปนั่งดื่มฉลองที่คอนโดยังไงไม่รู้!” อลิชาบอกด้วยสีหน้าหดหู่
“อย่าคิดมากสิ! เรามาใช้เวลาที่มีให้คุ้มกันดีกว่าอลิซ” มารียาเอ่ยด้วยน้ำเสียงซุกซน ราวกับเด็กสาวอายุ 16-17 ที่แอบหนีมาเที่ยวสถานบันเทิงเป็นครั้งแรก
“ก็ได้ๆ” อลิชาบอกพร้อมกับยกแก้วแชมเปญส่งให้เพื่อน
“แด่การเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังเรียนจบ” มารียารับแก้วมาแล้วชูขึ้น
“แด่ชีวิตใหม่!”อลิชายกแก้วขึ้นชน แล้วจิบแชมเปญราคาแพงเบาๆ ก่อนจะหันไปมองโต๊ะที่อยู่รอบๆ ซึ่งมีทั้งดาราและนางแบบดังนั่งอยู่ในไนต์คลับด้วยราวสี่ห้าโต๊ะ
สิบนาทีต่อมา (โซนวีไอพี)
“สวัสดีครับท่าน วันนี้รับอะไรดีครับ” พนักงานเสิร์ฟเอ่ยถามลูกค้าประจำทิปหนักอย่างเอาใจ
“อกเป็ดอบซอสไวน์แดง สลัดตับห่าน แล้วก็สเต๊กเนื้อวากิว!” ธนินสั่งอาหารให้ผู้เป็นนาย
อีเดนพยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงและสั่งเครื่องดื่ม “ขอไวน์แดง Cabernet Sauvignon ของฝรั่งเศษ ปี 1945”
“Chateau Mouton Rothschild 1945 ใช่ไหมครับ” พนักงานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เพราะทั้งร้านมีอยู่แค่สองขวด แถมยังอยู่ในตู้โชว์ที่ต้องให้ผู้จัดการของร้านเปิดและนำออกมาให้
“ใช่!” อีเดนพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันไปมองที่โซนด้านล่าง ก็เห็นสาวๆ กำลังจับจ้องมาที่ตนเหมือนเช่นทุกครั้ง
“รอสักครู่นะครับท่าน” พนักงานเสิร์ฟบอกพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ เพราะค่าคอมของไวน์ยี่ห้อแพงหูดับนี้ มากกว่าเงินเดือนของตนรวมกันสองเดือนซะอีก
“พ่อกับแม่ฉันจะลงเครื่องตอนตีสอง นายจัดคนไปรอรับที่สนามบินด้วยล่ะ” อีเดนบอกอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าบิดากับมารดากำลังนั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับประเทศไทย หลังจากไปเที่ยวที่อิตาลีเมื่ออาทิตย์ก่อน
“ได้ครับ ว่าแต่วันนี้เสี่ยจะเปิดห้องที่โรงแรมรึเปล่าครับ” ธนินเอ่ยถามอีกครั้ง เพราะเห็นว่าคืนนี้มีดารานางแบบมากันเพียบ เผื่อผู้เป็นนายมีอารมณ์อยากจะฟาดสาวคลายเครียดก่อนกลับ
“ไม่! พรุ่งนี้มีประชุมเช้า” อีเดนบอกก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความถามน้องชายทั้งสองในไลน์กลุ่ม
อีเดน : พวกนายอยู่ไหน?
อีวาน : ผมอยู่คอนโด
เซน : ผมเพิ่งกลับมาถึงบ้าน เสี่ยมีอะไรหรือเปล่า (เซนและอีวานเอ่ยเรียกพี่ชายตามคนอื่นๆ ว่าเสี่ยจนติดปาก)
อีเดน : ไม่มี! แค่จะบอกว่าพ่อกับแม่กำลังเดินทางกลับไทย
อีวาน : งั้นพรุ่งนี้ทานข้าวเย็นที่บ้านกันไหมครับ?
เซน : สักทุ่มหนึ่งเป็นไงครับ!
อีเดน : ได้!
อีวาน : เมื่อตอนกลางวันแม่โทรมาบ่นใหญ่เลยนางแบบนั่น
เซน : ฮ่าๆๆ เด็ดไหมครับ
อีเดน : พระเจ้า! อย่าให้พูด
อีวาน : โชคดีที่ผมไม่เล่นด้วย ฮ่าๆๆ
เซน : ผมขอตัวก่อนนะครับ พรุ่งนี้เจอกัน
อีวาน : พรุ่งนี้เจอกัน
อีเดน : โอเค!
อีเดนปิดมือถือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองพนักงานที่ถือไวน์เดินตามหลังผู้จัดการเข้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะ
“สวัสดีครับเสี่ย! คุณธนิน” วสันเอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับคุณวสัน นี่มาเปิดไวน์ให้ผมหรือครับ” อีเดนเอ่ยหยอกอีกฝ่าย เพราะหลายต่อหลายครั้งที่ตนเปิดห้องที่โรงแรมนอนกับดารานางแบบ วสันจะเป็นคนเคลียร์ทางเข้าออกและช่วยปิดข่าวไม่ให้เล็ดลอดออกไปสู่สายตาของคนภายนอก
“แหม! เสี่ยใหญ่อย่างคุณอีเดนมาเที่ยวทั้งที ผมต้องบริการเป็นพิเศษสิครับ” วสันเอ่ยพลางหันไปยิ้มให้ธนิน
“ครับ! แล้วช่วงนี้แดเนียลลงมาที่กรุงเทพฯ บ้างไหม” อีเดนเอ่ยถามหาเพื่อนสนิทที่หลังจากแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว อีกฝ่ายก็มาใช้ชีวิตอยู่ประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่
“ช่วงนี้ท่านคุมงานก่อสร้างรีสอร์ทอยู่ในไร่ที่เชียงใหม่ครับ แต่เดี๋ยวถ้าหากว่าท่านมากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ผมจะเรียนให้ทราบว่าคุณอีเดนถามหา”
“บอกว่าผมนัดดื่มดีกว่าครับ!” อีเดนบอกยิ้มๆ
“ได้ครับ!” วสันตอบพร้อมกับรินไวน์ราคาแพงลงในแก้วเบอร์กันดีนิดหนึ่ง ก่อนจะส่งให้กับอีเดน (เป็นธรรมเนียมของการสั่งไวน์ที่จะต้องรินให้กับผู้ที่สั่งไวน์ขวดนั้นๆ ได้ลิ้มรสชาติก่อนจะรินต่อลงในแก้วเดิม หรือแก้วของคนอื่นๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย)
“อืม... โอเค!” อีเดนพยักหน้าเบาๆ อย่างถูกใจกับรสชาติของไวน์ ที่หมักบ่มมานานหลายสิบปี ‘รสชาติสมราคาจริงๆ’
วสันยิ้มก่อนจะรินไวน์ลงในแก้วที่อีเดนส่งให้ และแก้วของธนิน ก่อนจะถอยออก ให้พนักงานเสิร์ฟนำอาหารเข้ามาวางที่โต๊ะ จากนั้นก็ปล่อยให้ลูกค้าวีไอพีดื่มด่ำกับอาหารและรสชาติของไวน์ต่อ
สิบนาทีต่อมาที่โซนด้านล่าง...
“เซร่า คุณอีเดนมา!” มะนาวรีบบอกเพื่อนสาวที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำให้หันไปมองที่โซนวีไอพี
เซร่านางแบบสาวลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ยืนนิ่งอย่างรู้สึกหงุดหงิด เพราะหลายชั่วโมงก่อนเธอติดต่อไปขอดินเนอร์กับเสี่ยใหญ่คนดัง กลับถูกปฏิเสธบอกไม่ว่าง แต่ดันมาเจออีกฝ่ายนั่งดื่มอยู่ที่คลับด้วยสีหน้าชื่นมื่น
“อ๊ะ! นั่นคุณอีเดนกำลังจะไปห้องน้ำแน่ะ รีบเดินไปดักเลย” มะนาวบอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เซร่าพยักหน้าก่อนจะรีบเดินตรงไปหาอีกฝ่าย ที่มัวแต่เดินก้มหน้า ดูจอมือถือ ‘อ๊ะ! หรือว่าจะนัดคนอื่นเอาไว้ หึ! วันก่อนเธอโทรไปขอนัดก็บอกไม่ว่าง วันนี้ก็บอกไม่ว่าง แต่เมื่อเช้ากลับขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์กับนางแบบที่เป็นคู่อริของเธอ น่าเจ็บใจชะมัด!’
“สะ... เสี่ยคะ” คนที่กำลังจะเอ่ยเรียกถึงกับชะงักไปทันใด เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะชนเข้ากับสาวร่างบางคนหนึ่ง
“ว้าย!” มารียากำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับถูกใครบางคนชนเข้าอย่างจัง ทำให้เธอเสียหลักและล้มลงจนหน้าแทบจะโขกกับพื้น
“พระเจ้า! คุณเป็นอะไรไหม?” อีเดนปล่อยมือถือแล้วรีบคว้าเอวบางเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว
“อะ... อะ... อีกนิดเดียว” มารียาเอ่ยเสียงสั่น ขณะจ้องมองพื้นที่ใบหน้าของเธอเกือบจะได้สัมผัสอย่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ
“ผมขอโทษ” อีเดนบอกคนที่กำลังช็อกเสียงอ่อน ก่อนจะพลิกเรือนร่างบอบบางให้หันมาเผชิญหน้ากับตน ‘เอวเล็กชะมัดเลย’
“คุณควรเดินดูทาง ไม่ใช่เอาแต่กดมือถือ” มารียาต่อว่าก่อนจะก้มลงเก็บมือถือที่ตกอยู่ใกล้ๆ ส่งคืนให้กับอีกฝ่าย
“พระเจ้า! คุณไปอยู่ไหนมา” อีเดนเอ่ยเสียงเบาหวิว พร้อมกับจ้องมองใบหน้างามนิ่งราวกับคนที่ถูกมนตร์สะกด
“เสี่ยครับ! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ธนินเข้ามาถามอย่างร้อนใจ
“นี่มือถือของคุณ!” มารียายัดมือถือใส่มือของคนตัวโตด้วยสีหน้าตึงๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจ้องมองส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอ
อีเดนจับมือบางแล้วดึงคนที่กำลังจะเดินหนี ให้เข้ามาแนบชิดหน้าอก ทำเอาธนินและคนรอบๆ ที่จ้องมองเสี่ยใหญ่กับสาวสวยอยู่ แทบจะไม่กะพริบตา
“ปล่อย!” มารียาบอกคนหน้ามึนอย่างไม่พอใจ
“คุณชื่ออะไร?” อีเดนไม่ฟังเธอแต่ถามคำถาม ขณะสำรวจใบหน้าที่งดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์อย่างเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะบอกตัวเองในใจอย่างมุ่งมั่น ‘ยัยนี่ต้องเป็นของเรา!’
“รียา เกิดอะไรขึ้น” อลิชาเห็นผู้ชายตัวโตกำลังยื้อเพื่อนสาวเอาไว้ จึงรีบเดินเข้ามาถาม
อีเดนหันไปมองสาวที่เดินเข้ามา ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ แล้วเอ่ยเรียกชื่อของสาวตรงหน้าตามอีกฝ่าย “รียา...ผมขอโทษครับ”
“ค่ะ ทีนี้ปล่อยมือของฉันได้หรือยังคะ?” มารียาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ที่จนถึงตอนนี้คนหน้ามึนก็ยังจับมือของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
“ผมชื่ออีเดน เผื่อว่าคุณ...อยากจะรู้” เสี่ยใหญ่แนะนำตัวก่อนจะปล่อยมือบางอย่างรู้สึกเสียดาย
มารียามองหน้าของอีกฝ่ายนิ่งราวกับคนถือดี ก่อนจะหันไปคว้าแขนของเพื่อนให้ออกเดินตามไปที่ห้องน้ำอย่างไม่สนใจ
อีเดนมองตามผู้หญิงคนแรกที่เมินความหล่อของตนจนลับตาก่อนจะหันไปกระซิบบอกคนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “ฉันอยากได้ผู้หญิงคนนี้”
“เอ่อ... ผมว่า...” ธนินหน้าตึงขึ้นมาทันใด เพราะปกติเคยติดต่อแค่ผู้หญิงที่มาเสนอตัวให้ แต่กับหญิงสาวเมื่อครู่นั้นเธอไม่แม้แต่จะชายตามองเจ้านายของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่สนว่านายจะใช้วิธีไหน แต่คืนนี้ยัยนั่นต้องอยู่บนเตียงฉันโอเค้!” อีเดนบอกเสร็จก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำ ทิ้งให้คนสนิทมองตามอย่างตัดพ้อ
“ท่านนะท่าน! ไอ้ที่ยืนรอเสนอตัวจนขาสั่นก็ไม่อยากได้ ดันมาอยากได้คนที่ไม่แลตัวเองซะงั้น เฮ้อ...” ธนินส่ายหน้าเพลียๆ ไม่รู้ว่าจะหาวิธีไหนให้อีกฝ่ายสนใจผู้เป็นนาย
เซร่าที่เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่กัดปากเบาๆ อย่างรู้สึกเจ็บใจที่พลาดโอกาสได้พูดคุยกับเสี่ยใหญ่คนดัง เธอกลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะ รอจังหวะให้อีเดนเดินกลับมา แล้วเธอจะเข้าไปหาเขาใหม่อีกครั้ง
ที่ห้องน้ำหญิง...
“ผู้ชายคนเมื่อกี้ใครเหรอรียา” อลิชาถามทันทีที่เพื่อนสาวทำธุระเสร็จ
“ก็ไอ้คนหน้ามึนที่มัวแต่กดมือถือไม่ดูทางน่ะสิ!” มารียาบอกอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินไปล้างมือที่หน้ากระจกบานใหญ่
“เขาหล่อนะ หุ่นก็เพอร์เฟกต์สุดๆ พี่ธันของแกยังเทียบไม่ติดเลย” อลิชาหยอกคนหน้าบึ้งยิ้มๆ
“ฉันไม่สน” มารียายืนหมุนไปมาหน้ากระจกเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของชุดที่ใส่
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
อลิชาล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมาดู ก็เห็นเบอร์โทรของพี่ชายเพื่อนจึงรีบบอกด้วยสีหน้าตื่นๆ “พี่ป้องโทรมา!”
“ไม่จริง!”
“จริง! ฉะ...ฉันบอกว่าแกมานอนเป็นเพื่อนฉันดีไหม” อลิชาคิดหาข้ออ้าง
“ตามนั้นเลย” มารียาบอกด้วยสีหน้าตื่นๆ
“งั้นฉันไปรับสายที่ข้างนอกนะ แกไปรอที่โต๊ะ” อลิชาบอก
“โอเค ขอบใจมากอลิซ” มารียาเอ่ยรับก่อนจะแยกย้ายกันออกจากห้องน้ำ
สามนาทีต่อมา... ขณะที่มารียาเดินออกจากห้องน้ำและผ่านโต๊ะหนึ่งที่เป็นมุมนั่งแบบส่วนตัว ปลายหางตาของเธอ เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งเข้าจึงหยุดเดิน แล้วหันกลับไปมองช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอกเสียให้ได้
“คืนนี้ฉันจะกวนจนคุณไม่ได้หลับได้นอนเลย คอยดู” หญิงสาวบอกพร้อมกับซบหน้าลงที่ซอกคอของชายหนุ่ม
“ให้จริง! ผมคิดถึงคุณมาก พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็ตรงดิ่งมานี่เลยรู้ไหม?” เขาบอกก่อนจูบสาวเจ้าอย่างไม่แคร์สายตาของคนที่อยู่รอบๆ
มารียายืนนิ่งราวกับคนถูกน้ำที่เย็นเฉียบสาดเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง น้ำเสียงที่คุ้นหูนั้นบอกเธอว่า...ชายหนุ่มที่นั่งหันหลังให้และกำลังกอดรัดกับสาวหุ่นอวบอิ่มนั้นคือ ธันวา คู่หมั้นของเธอที่เพิ่งจะโทรคุยวิดีโอคอลกันเมื่อสองชั่วโมงก่อน
เธอจ้องมองเสื้อเชีตสีฟ้าอ่อนที่เขายังไม่ได้เปลี่ยน พลันน้ำอุ่นๆ ก็ไหลเอ่อออกมาจากดวงตาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอรีบเดินกลับไปที่โต๊ะ แล้วล้วงเงินให้พนักงานที่ยืนอยู่เพื่อจ่ายค่าเครื่องดื่ม
จากนั้นก็รีบคว้ากระเป๋าแล้วเดินแกมวิ่งตรงไปที่ประตูทางออก เพราะไม่อาจจะเผชิญหน้ากับความจริงเมื่อครู่ได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ธันวาทำให้เธอรู้สึกว่าโชคดีที่ได้รักและรู้จักกับผู้ชายที่แสนจะเพอร์เฟกต์ เขาให้เกียรติและทะนุถนอมเธอราวกับของมีค่า เธอเห็นแต่ด้านที่ดีๆ ของเขา จนกระทั่งอยู่ๆ ก็ได้มาเห็นอีกด้านหนึ่งที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าคนที่เธอกำลังจะฝากชีวิตเอาไว้ทั้งชีวิต จะโกหกและสารเลวได้ขนาดนี้!