5

3255 Words
มารียานั่งรอจนอีกฝ่ายคุยสายเสร็จ จากนั้นก็รีบเอ่ยถามเรื่องที่คุยกันค้างไว้เมื่อชั่วโมงก่อน “แกบอกจะเล่าเรื่องของอลิซกับพี่ป้องให้ฟัง” “รียา ตอนนี้อลิซไม่ใช่เพื่อนแกแล้วนะ” จอห์นที่กำลังพิมพ์ตอบไลน์สาวๆ หันมาบอกด้วยสีหน้าจริงจัง “ทะ...ทำไม” มารียาถามเสียงสั่น รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกกับคำตอบของอีกฝ่าย “อ้าว! ก็อลิซกำลังจะเปลี่ยนมาเป็นพี่สะใภ้ของแกยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ” จอห์นบอกก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างชอบใจ “เรื่องนี้ฉันรู้นานแล้วว่าพี่ป้องคิดยังไงกับอลิซ แต่ฉันไม่แน่ใจว่า อลิซจะรักพี่ป้องหรือเปล่าเท่านั้น” มารียาบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด กลัวว่าเพื่อนรักจะเกลียดพี่ชาย แล้วพลาดมาเกลียดตัวเองเข้าอีกคน “ข้าวสารเป็นข้าวสุกไปแล้ว ไม่รักตอนนี้วันนี้ เดี๋ยวอีกหน่อยก็รักเองแหละ พี่ชายแกหล่อจะตาย” จอห์นก้มลงพิมพ์ตอบแชตต่ออยางขำๆ “พี่ป้องเลิกกับยายมิ้งอะไรนั่นหรือยังก็ไม่รู้ ฉันกลัวว่าจะมีปัญหากันทีหลัง สงสารอลิซนะสิ” มารียาบอกพลางก้มลงดูที่หน้าจอมือถือของพ่อปลาไหล ก็เห็นข้อความออดอ้อนหยอกล้อเด้งขึ้นมาไม่ขาดสาย จอห์นที่กำลังอ่านข้อความไปยิ้มไป แต่พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เจอกับสายตาเอือมระอาของเพื่อนเข้า จึงรีบกดปิดมือถืออย่างรวดเร็ว “คนเราต่อให้จะเสเพลนอกลู่นอกทางยังไง แต่เวลาเจอคนที่ใช่ก็หยุดได้เหมือนกันโว้ย” “แล้วแกทำไมยังไม่หยุดคะคุณจอห์น” มารียาถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง “ถามได้…ก็มันยังไม่ใช่น่ะสิ” “แล้วแบบไหนล่ะถึงจะใช่” “เฮ้อ... เอาไว้เจอแล้วฉันจะบอกแกคนแรกนะ” “มันจะมีวันนั้นด้วยเหรอ แกเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า” “มีสิโว้ย!” “จ้ะ! หวังว่าฉันคงไม่ได้ไปร่วมงานแต่งแกตอนอายุเจ็ดสิบหรอกนะ คิกๆๆ” มารียาหัวเราะอย่างขำๆ “หึ! เอาที่สบายใจ อ้อ แล้วแกกับอลิซจะไปเริ่มงานที่ไคเลอร์เมื่อไหร่” จอห์นส่ายหน้าอย่างเพลียๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “วันจัทร์ที่จะถึง” มารียาบอกก่อนจะล้วงมือถือขึ้นมาพิมพ์ไลน์บอกอลิชาว่าตนอยู่ที่ห้องจอห์น “งั้นก็อีกสองวัน” “ใช่” “แกโอเคใช่ไหม เรื่องไอ้ธัน” “ก็โอเคนะ” มารียาบอกอย่างไม่ใส่ใจราวกับว่าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ “รู้อะไรไหม ฉันคิดว่าแกจะร้องไห้มากกว่านี้ซะอีก” จอห์นเอ่ยพร้อมกับสังเกตอาการ ‘มันน่าจะดราม่ากว่านี้ไหมวะ?’ “ฉันเป็นคนที่รักใครรักจริง แต่ถ้าโดนนอกใจขึ้นมาเมื่อไหร่ ฉันจะหันหลังให้คนคนนั้นทันที” มารียาบอกขณะที่ภายในใจเอาแต่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่หยุด ‘บ้าจริง ทำไมเราถึงเอาแต่คิดถึงผู้ชายคนนั้นนะ’ “เยี่ยม ฉันอยากเห็นหน้าไอ้ธันวันที่แกบอกเลิกมันจัง” จอห์นบอกด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง “ก็ไปด้วยกันสิ” มารียาเอ่ยชวน “จริงนะ” จอมเสือก เอ๊ย! จอมเผือกตัวพ่อถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “จริง ฉันไม่อยากบอกพี่ป้องตอนนี้ อยากไปบอกเลิกก่อน แล้วค่อยมาบอกให้ผู้ใหญ่รับรู้” มารียาถอนหายใจยาว พยายามดึงสติของตัวเองให้กลับมาที่เรื่องของธันวา “แกเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากรียา” จอห์นยกนิ้วให้อย่างชื่นชมในความเด็ดขาดของเพื่อนสาว “เคยได้ยินไหม ว่าโลกนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับคนที่อ่อนแอ” มารียาหันไปถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้านิ่งๆ “ฮ่าๆๆ แต่ตอนนี้แกนั่งอยู่นะ” จอห์นเอ่ยท้วงด้วยสีหน้าขบขัน “เฮ้อ...กะจะเล่นมุกสักหน่อย” มารียากลอกตาอย่างรู้สึกเซ็งๆ ที่ถูกคนรู้ทันดักทาง “ฮ่าๆๆ เราย้ายไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวกันเถอะ อีกเดี๋ยวแม่บ้านคงจะมาแล้ว” จอห์นเอ่ยชวนพลางหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วลุกเดินนำออกไป มารียาลุกตามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พลางคิดไปถึงเพื่อนสาวและพี่ชายที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ตกลงกันได้หรือยัง ขณะเดียวกันภาพของคนที่นอนหลับไม่รู้สึกตัวบนเตียงของโรงแรม ที่เธอเพิ่งจะออกมาเมื่อสามชั่วโมงก่อน ก็แทรกขึ้นมาแทบจะทุกสองนาที   The Rofwell Condo... เวลา 19:19 นาที คอนโดหรูของแดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ ออกแบบเป็นพิเศษให้ชั้นบนสุดมีเพียงห้องเดียว เพื่อสนองความต้องการของมิตรสหายเก่าแก่อย่างอีเดน ที่ยอมจ่ายหนักเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว อีเดนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อหาการ์ดที่ให้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่หน้าคอนโดวี “ครับเสี่ย” “เจอเธอหรือยัง?” ชายหนุ่มถามขึ้นอย่างร้อนใจ “เอ่อ...ยังไม่เห็นเธอออกมาเลยครับท่าน” ปลายสายรายงาน “แน่ใจนะ!” เขาถามย้ำด้วยน้ำเสียงตึงๆ “แน่ใจครับท่าน” ปลายสายตอบเสียงหนักแน่น “งั้นก็จับตาดูเธอต่อไป” อีเดนบอกก่อนจะตัดสายทิ้งด้วยสีหน้าหงุดหงิด จากนั้นก็เดินไปหยิบกุญแจรถสปอร์ตคู่ใจ แล้วตรงไปที่ลิฟต์อย่างรีบเร่ง เพราะเลยเวลานัดทานอาหารเย็นที่บ้านกับครอบครัวมาค่อนข้างพอสมควร   Kyler Villa…  ทันทีที่ขับรถเข้ามาจอดที่ด้านหน้าคฤหาสน์อีเดนก็เห็นคนสนิทยืนทำหน้าตื่นๆ รออยู่ “มีอะไร?” อีเดนถามพลางมองหน้าคนสนิทอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรที่นี่ “เอ่อ...ผมขอโทษครับเสี่ย คือว่า...” ธนินพยายามจะบอกสาเหตุ แต่ทว่ากลับถูกอีธาน...ประมุขใหญ่ของไคเลอร์ขัดขึ้นซะก่อน! “อีเดน เข้าไปคุยกับพ่อข้างใน” อีธานบอกพร้อมกับชี้ไปที่ห้องทำงาน “ครับ” อีเดนรู้สึกคล้ายกำลังจะมีพายุลูกใหญ่พัดเข้าถล่มในอีก    ไม่กี่วินาทีข้างหน้า “นายใหญ่เข้าประชุมทั้งวันเลยครับ” ธนินรีบรายงาน “พระเจ้า!” อีเดนที่กำลังจะเดินเข้าด้านในถึงกับหยุดชะงักไปทันใด “ผมบอกว่าเสี่ยไม่สบายครับ” ธนินกระซิบบอกเสียงเบา เพราะวันนี้ทั้งวันโดนคนของอีธานจับตามองอยู่ตลอดเวลา จนไม่มีเวลาแอบไปโทรบอกผู้เป็นนายให้รู้ตัว “ขอบใจมากธนิน นายไปพักเถอะ” อีเดนยกมือขึ้นตบที่บ่าของคนสนิทเบาๆ ก่อนจะเดินตามบิดาเข้าไปด้านในด้วยสีหน้าตึงๆ   ที่ห้องทำงาน... “ธนินบอกว่าลูกไม่สบาย?” อีธานเอ่ยถามทันทีที่เห็นบุตรชายคนโตเดินเข้ามาในห้อง “ครับ” อีเดนตอบพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “เป็นเพราะดื่มเยอะเกินไป หรือว่ามั่วกับสาวจนลุกไม่ขึ้น” อีธานถามพลางจ้องมองดวงตาสีเข้มของบุตรชายนิ่ง “เอ่อ...” อีเดนอึกอักอย่างไปไม่ถูก เมื่อโดนคำถามจี้ใจดำเข้า “ขอแบบตรงๆ” อีธานยกยิ้มมุมปากขึ้นนิดอย่างรู้ทัน “ก็...ครับ” อีเดนจำใจรับสารภาพตามตรง “ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” อีธานถามต่อ “สามสิบเจ็ดครับ” อีเดนถอนหายใจยาว รู้ดีว่าบิดากำลังจะสื่อถึงอะไร “อีกสามปีก็จะสี่สิบแล้วนะ นี่ลูกยังคิดไม่ได้อีกเหรออีเดน ว่าผู้นำที่ดีควรทำตัวยังไง” อีธานต่อว่าอย่างอดไม่ได้ “ผมขอโทษครับแด๊ด” อีเดนบอกอย่างรู้สึกผิด “มันเกิดอะไรขึ้น ลูกถึงได้ออกจากโรงแรมมาซะสายโด่ง แถมยัง  โดดประชุมสำคัญของปีแบบไม่สนใจอีก” “ผมไม่รู้จะบอกหรืออธิบายยังไงให้แด๊ดเข้าใจ แต่ผมสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกครับ” “จำเอาไว้อย่างหนึ่งนะอีเดน ต่อให้เราจะร่ำรวยขนาดไหน แต่ถ้าไม่มีความรับผิดชอบและเอาแต่เที่ยวสนุกแบบไม่มีขอบเขต พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาลูกก็อาจจะกลายเป็นยาจกได้” อีธานเอ่ยเตือน “ครับ” อีเดนขานรับเสียงเบา “แล้วลูกให้การ์ดไปทำอะไรที่หน้าคอนโดของเซน” อีธานยิงคำถามเด็ดที่รู้มาเมื่อชั่วโมงก่อน “เอ่อ...มีเรื่องนิดหน่อยครับ ผมจัดการได้” อีเดนเริ่มเหงื่อซึมออกมาจากตัวนิดๆ กับแต่ละคำถามของบิดา “เรื่องอะไร เรื่องผู้หญิงหรือเปล่า?” “เอ่อ...คือว่า...” อีเดนเริ่มจะนั่งไม่ติดขึ้นมาอีกครั้ง “อีเดน!” อีธานเรียกบุตรชายเสียงเข้ม หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายมีอาการแปลกไปจากเดิม คล้ายกับคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ครับ...เรื่องผู้หญิง” อีเดนกัดฟันสารภาพอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ทำไมต้องตามเธอ เธอขโมยอะไรของลูกไปงั้นเหรอ” อีธานถามอย่างสงสัย “ไม่ใช่ครับ” อีเดนรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “งั้นคงติดใจเธอสินะ” อีธานถามต่อด้วยน้ำเสียงประชด “ไม่เชิง เอ๊ย! ไม่ใช่ครับ คือว่าผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอก็แค่นั้น” อีเดนรีบออกตัว “ต้องให้พ่อช่วยไหม” อีธานถามด้วยสีหน้าขบขัน “ไม่ครับ ไม่ต้อง ผมจัดการได้” อีเดนกลอกตาอย่างเซ็งๆ กับน้ำเสียงค่อนขอดของบิดา “โอเค งั้นก็ไปทานข้าวกัน แม่ของลูกกำลังรออยู่” “ครับ” อีเดนบอกก่อนจะลุกเดินตามบิดาออกไปที่ห้องอาหาร เพื่อทานข้าวกับมารดาและน้องชายอีกสองคนที่นัดกันเอาไว้เมื่อคืน   เวลา 20 : 02 นาที  Orianna Condo… อลิชาที่เพิ่งรู้สึกตื่นแอบเงี่ยหูฟังก็ได้ยินเสียงของปริณฮัมเพลงเบาๆ ในห้องน้ำ เธอหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมลวกๆ แล้วเปิดดูมือถือก็เห็นข้อความของมารียาขึ้นมานับสิบๆ ข้อความ เธอกวาดสายตาอ่านคร่าวๆ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ที่ห้องของจอห์น เธอจึงรีบหยิบเสื้อผ้าที่ตกลงอยู่ข้างเตียงขึ้นมาสวมลวก จากนั้นก็วิ่งตรงดิ่งไปที่ประตูห้อง เพื่อจะขึ้นไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท ให้พาพี่ชายจอมโหดของอีกฝ่ายกลับบ้าน   ห้านาทีต่อมา... หลังจากที่ปริณอาบน้ำเสร็จก็ใส่เสื้อคลุมสีชมพูของสาวเจ้า เดินออกจากห้องน้ำมาด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขแต่ทว่าเขากลับพบเพียงความว่างเปล่าบนเตียงที่เมื่อสิบห้านาทีก่อน ยังมีสาวเจ้านอนหลับอยู่ “อลิซ! อลิซ!” ปริณตะโกนเรียกขณะเดินออกไปดูรอบๆ บริเวณของห้องด้วยสีหน้าตื่นๆ “บ้าจริง สงสัยหนีขึ้นไปห้องจอห์นแน่ๆ” ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบตามหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเมียทางพฤตินัยไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง   ชั้นบนสุด... (ห้องจอห์น) ปิงป่องๆ “ใครมาวะ” จอห์นที่กำลังตักข้าวต้มขึ้นชิมรสชาติหันมาถามเพื่อนสาวอย่างรู้สึกมึนงง “เด็กแกมาหรือเปล่า?” คนที่เพิ่งจะฟื้นจากไข้เอ่ยหยอกยิ้มๆ “บ้า! ฉันไม่เคยพาใครมาที่นี่” จอห์นบอกพลางถอดผ้ากันเปื้อนออก “งั้นก็รีบๆ ไปดูสิ เผื่อเป็นอลิซ” มารียารีบเดินเข้าไปคนข้าวต้มทรงเครื่องให้อีกฝ่ายอย่างรู้งาน “เอาต้นหอมกับขึ้นฉ่ายใส่ แล้วแกปิดเตาได้เลย” จอห์นบอกก่อนจะเดินออกไปดูที่ประตูหน้าด้านนอก   ทันทีที่เปิดประตูออก จอห์นก็ต้องตกใจที่เห็นอลิชายืนหน้าซีดอยู่หน้าห้อง “กว่าจะเสด็จมาเปิดได้นะ” สาวเจ้าต่อว่าด้วยดวงตาแดงก่ำ “พระเจ้า! นี่แกหนีพี่ป้องมาสินะ” จอห์นมองเพื่อนสาวที่มีสภาพเหมือนคนโดนรุมโทรมมาอย่างอึ้งๆ “เอ่อ!” อลิชาตอบด้วยสีหน้าตึงๆ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในอย่างไม่สนใจ “รียาอยู่ในครัว” จอห์นบอกก่อนจะรีบเดินนำไป คนที่กำลังปิดเตาเตรียมจะเดินออกไปดูว่าใครมาหาเพื่อนชายแต่พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเพื่อนสาวเดินน้ำตาคลอเข้ามาหา “รียา แกช่วยพาพี่ป้องกลับบ้านไปก่อนได้ไหม ฮึก…” อลิชาบอกทั้งน้ำตา เพราะเมื่อหลายชั่วโมงก่อนปริณขู่ว่าถ้าหากเธอไม่ยอมให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่เรื่องแต่งงาน เขาจะเก็บเสื้อผ้ามาอยู่กับเธอที่คอนโด แล้วจะโทรเรียกพ่อของเธอให้มาหาที่ห้อง “อลิซ...” มารียาวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนสาวที่ยืนร้องไห้จนตัวสั่นอย่างรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ “ฮึก...ฉันไม่อยากคุยพี่ป้องตอนนี้ ได้โปรดรียา ฮือๆๆ พาพี่ป้องกลับไปที” อลิชาปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไว้ไม่อยู่ จอห์นกำลังจะเข้าไปหาเพื่อนทั้งสอง แต่ทว่าก็ตกใจที่เห็นพันเอกปริณใส่เสื้อคลุมสีชมพู เดินหน้าตึงตรงเข้ามาหา “พะ... ป้อง” จอห์นเอ่ยเรียกเสียงสั่นทำเอาสองสาวที่กำลังกอดกันดราม่าหันขวับไปมองที่ประตูทันทีทันใด “หนีพี่มาทำไม!” ปริณถามเสียงดังพร้อมกับเข้าไปดึงร่างบางมายืนแนบตัวอย่างโมโห “พี่ป้องปล่อยอลิซเดี๋ยวนี้นะ” มารียาตาโตเมื่อเห็นเสื้อคลุมที่ปิดบังเนื้อตัวที่ใหญ่ยักษ์ของพี่ชายแทบจะไม่มิดอย่างอึ้งๆ ‘ใส่ไปได้ ไม่อายบ้างหรือไงนะ’ “พี่บอกให้เรากลับบ้านไปก่อนไม่ใช่เหรอ” ปริณต่อว่าน้องสาวที่ยังยอมไม่กลับบ้านกลับช่อง “ก็เป็นห่วงอลิซน่ะสิ ปล่อยเพื่อนของรียาเลยนะ” มารียาบอกพร้อมกับเข้าไปดึงแขนเพื่อนสาว “พี่ยังเคลียร์กับอลิซไม่จบ” ปริณบอกพร้อมกับปัดมือของน้องสาวออกอย่างหงุดหงิด “จอห์นช่วยฉันด้วย ฮึก” อลิซหันไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เอาแต่ยืนอ้าปากค้างอยู่ใกล้ๆ “อะ...เอ่อ...” จอห์นทำหน้าเหวอทันใด เมื่อเพื่อนสาวหาเรื่องตายมาให้ตน “นายอยากมีปัญหากับพี่งั้นเหรอจอห์น” ปริณหันมาถามพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาเอาเรื่อง “เอ่อ...ไม่ครับ ผมไม่อยากมีปัญหาครับ” จอห์นรีบออกตัว ‘ไอ้จอห์น! ไอ้เพื่อนเลว’ อลิชาตัดพ้อหลังถูกเพื่อนรักปฏิเสธความช่วยเหลือราวกับคนไม่รู้จักกันมาก่อน “พี่ป้องกลับไปเถอะ หนูขอร้องละ ฮือๆๆๆ” อลิชาหันไปดราม่าใส่คนใจร้ายที่กอดเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “พี่จะให้พ่อกับแม่ไปสู่ขอ จะจัดงานแต่งให้สมเกียรติ แล้วเราเป็นบ้าอะไรถึงได้ปฏิเสธพี่จะเป็นจะตายขนาดนี้ฮะ พี่มีตรงไหนที่ทำให้เราอับอายงั้นเหรออลิซ” ปริณระเบิดเสียงถามอย่างโมโห เมื่อกล่อมแล้วกล่อมอีกสาวเจ้าก็ไม่ยอมตกลงใดๆ “ค่อยๆ คุยกันสิพี่ป้อง ทำไมต้องเสียงดังใส่อลิซด้วย” มารียาบอกอย่างทนไม่ไหว “ก็เพื่อนเรามันพูดไม่รู้เรื่องน่ะสิ” ปริณตอกกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “พี่ป้อง!” มารียาตะโกนเรียกชื่อพี่ชายอย่างไม่อยากจะเชื่อ “หนูต้องการเวลา หนูไม่อยากเห็นหน้าพี่ป้อง ไม่อยากได้ยินเสียง ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ได้โปรด...กลับไปซะ หนูขอร้อง ฮือๆๆ” อลิชาสะอื้นไห้จนตัวสั่น เมื่อทำยังไง พูดยังไง ปริณก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนนี้ “เอ่อ...ผมว่าให้เวลาอลิซสักหน่อยดีไหมครับพี่ป้อง” จอห์นกัดฟันเผือกเรื่องของสามีภรรยา “ใช่ พี่ป้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับบ้านพร้อมกันเลย” มารียารีบสมทบตาม เมื่อเห็นพี่ชายชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง “ก็ได้! พี่ให้เวลาเราสามวัน ถ้าครบสามวันแล้วยังเคลียร์กันไม่ได้พี่จะเปลี่ยนไปเคลียร์กับพ่อของเราแทน!” ปริณบอกจบก็ปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ จากนั้นก็เดินออกนอกห้องไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง “อลิซ ฉันขอโทษที่พี่ป้อง...” มารียาเอ่ยขึ้นหลังจากที่พี่ชายออกไปแล้ว “แกไม่ต้องขอโทษหรอก ฮึก...เมื่อคืนกลับยังไง” อลิชาบอกก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “เอ่อ...นั่งแท็กซี่กลับ แล้วแกกับพี่ป้อง...” “ถามไอ้จอห์นสิ ฮือๆๆ” อลิชาโบ้ยไปให้เพื่อนตัวดี ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ทำให้เธอเสียตัว “อ้าว ซวยเลยกู” จอห์นหน้าตึงขึ้นมาทันใด เมื่อถูกเพื่อนสาวโยนความดีความชอบมาให้ “จอห์น!” มารียาหันไปมองหน้าอย่างต้องการคำตอบ “ก็พี่ป้องบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับอลิซ ก่อนที่แกจะตามมาฉันก็เลยพาพี่ป้องไปส่งที่หน้าห้องของอลิซ” จอห์นบอกด้วยสีหน้ามึนๆ งงๆ ไม่เข้าใจว่าตนเองทำอะไรผิด “ฮือๆ แล้วมันก็ทิ้งฉันเอาไว้กับพี่ป้องสองคน ไอ้เพื่อนเลว!” อลิชาต่อว่าทั้งน้ำตานองหน้า “เฮ้! อลิซ กะ...แกจะมาโทษฉันได้ยังไงล่ะ พี่ป้องยศใหญ่ขนาดนั้นใครจะอยากมีปัญหาวะ” จอห์นออกตัว “แล้วฉันใช่เพื่อนแกไหม?” อลิชามองอีกฝ่ายด้วยสายตาตัดพ้อ “ชะ...ใช่สิ แต่แหม แกก็ดูสถานการณ์ด้วยดีไหม ฉันจะไปรู้มาก่อนได้ยังไงว่าพี่ป้องจะใจร้อนรวบหัวรวบหางแกเร็วขนาดนี้” จอห์นกลอกตาอย่างเพลียๆ กับความคิดของเพื่อนสาว “อลิซ! ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะให้พี่ป้องไปสู่ขอแกให้เร็วที่สุด” มารียาให้สัญญาพร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ “ไม่นะรียา! ฉันไม่...” อลิชาส่ายหน้าปฏิเสธ “แกไม่ต้องห่วงเรื่องผู้หญิงคนก่อนๆ ของพี่ป้องนะ เดี๋ยวฉันจัดการให้” มารียาให้คำมั่น “ฉันไม่...” “แกจะไม่อะไรเยอะๆ ล่ะอลิซ” จอห์นหันไปดุคนที่ทำท่าจะปฏิเสธ ก่อนจะหันไปบอกกับมารียา “จัดการตามที่แกบอกนั่นแหละรียา” “กับผู้หญิงคนอื่นฉันไม่รู้ แต่กับแกพี่ป้องต้องรับผิดชอบ” มารียาย้ำด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ใช่” จอห์นสมทบตามอย่างเห็นด้วย “ฮือๆๆๆ พวกแกไม่มีใครฟังฉันเลย ฮือๆๆ” อลิชาร้องไห้หนักกว่าเดิมที่แม้แต่เพื่อนรักทั้งสองคนก็ยังไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเธอ “รียาแกรีบตามพี่ป้องไปเถอะ เดี๋ยวอลิซฉันจัดการเอง” จอห์น บอกก่อนจะเข้าไปลูบหลังให้คนที่กำลังร้องไห้ “อลิซฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมาหาแกแต่เช้าเลย” มารียาหันไปมองที่ประตูห้อง กลัวว่าพี่ชายจะเดินกลับเข้ามาอีก “ฉันจะดูแลอลิซเอง ไม่ต้องห่วง” จอห์นบอกพร้อมกับพยักหน้าให้อีกฝ่ายคลายกังวล “ฉันไปละนะอลิซ” มารียาบอกอีกครั้ง ก่อนจะตัดใจเดินออกไป เพราะต้องการเคลียร์กับพี่ชายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสาว และเรื่องผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อีกฝ่ายเลี้ยงเอาไว้สนองความต้องการ ว่าตกลงจะจัดการยังไง  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD