SENIORS31:อ่อยรุ่นพี่

2606 Words
SENIORS 31 ***************************** วันต่อมา เมื่อคืนนี้ฉันกับพี่อาร์นั่งคุยกันจนถึงเที่ยงคืนก่อนที่เขาจะกลับ เขาเล่าเรื่องของตัวเองให้ฉันฟังหลายเลยทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องเพื่อนของเขา เขาบอกว่าน้อยคนมากเลยนะที่จะรู้เรื่องส่วนตัวของเขาเพราะเขาไม่เคยเล่าให้ใครฟังนอกจากคนที่สนิทด้วยเท่านั้น ก็ไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีหรือเปล่าที่เขามาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฉันฟังแบบนี้ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้จักเขามากขึ้นกว่าเดิม เขาเองก็ถามเรื่องส่วนตัวของฉันเหมือนกันนะแต่ฉันก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องพูดให้คนอื่นรับรู้เรื่องของตัวเอง หลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้วฉันก็เดินลงมาชั้นล่างก็เห็นพี่อาร์นั่งอยู่ที่ล็อบบี้แล้ว วันนี้ฉันมีเรียนบ่ายแต่ต้องไปซ้อมบทพูดรายงานหน้าห้องกับเพื่อนก่อน แล้วนี่เขาก็ยังมารับฉันอีก เมื่อคืนฉันก็บอกแล้วนะว่าฉันไปเองได้เขาไม่ต้องลำบากมารับ แล้วรู้ป่ะว่าพูดอะไรกลับมา เขาบอกว่าการที่ได้อยู่กับฉันมันคือความสุขของเขาไม่ได้ลำบากอะไรเลย ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือเปล่าแต่มันก็ทำให้ฉันเริ่มมองเขาในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้้รู้เขามากขึ้นไง ทีแรกฉันก็ไม่ชอบหรอกนะที่พี่อาร์มาจีบฉันแล้วตื๊อฉันอยากเอาฉันเป็นเมียเขาให้ได้อ่ะ แต่ตอนนี้ฉันเองก็เริ่มชินแล้วล่ะเลยไม่ได้คิดอะไรแล้ว เพราะถ้าฉันไม่คิดอะไรมันก็คงไม่มีอะไรนั่นแหละ “ไม่เบื่อบ้างเหรอคะที่คอยมารับมาส่งแบบนี้บ่อยๆ ?” ฉันเดินเข้าไปหาพี่อาร์ที่นั่งยิ้มให้ฉัน เขาส่ายหน้าบอกว่าตัวเองไม่เหนื่อยที่ทำแบบนี้และเต็มใจที่จะทำมากด้วย ปกติแล้วถ้าจะต้องมาตื่นแต่เช้าคอยไปรับไปส่งแบบนี้ก็คงจะทำได้ไม่นาน วันสองวันก็เลิกไปแล้ว แต่พี่อาร์กลับไม่บ่นสักคำและก็ทำเป็นประจำจนเหมือนว่าการที่มารับฉันแต่เช้าแบบนี้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันเขาไปแล้ว เขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะตั้งแต่วันแรกที่เขาบอกว่าจะจีบฉันน่ะ จนมาถึงตอนนี้เขาก็ยังเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลายเหมือนเดิมเลย ที่จริงเขาก็ดีมาตั้งนานแล้วแต่เขาก็บอกฉันว่าเขามักจะแสดงด้านดีให้คนอื่นได้เห็นเลยไม่มีใครว่าร้ายให้เขาไง แต่ด้านร้ายเขาก็มีมันอยู่ที่ว่าเขาจะเลือกใช้กับใครเท่านั้นเอง “แล้วคิดว่าพี่เหนื่อยป่ะที่ทำแบบนี้ทุกวัน?” “ไม่รู้สิคะ เหมยถึงได้ถามพี่อาร์ไงว่าไม่เหนื่อยบ้างเหรอที่ต้องตื่นเช้ามารับเหมยแบบนี้” “อะไรที่ทำแล้วได้อยู่กับเหมยพี่เต็มใจที่จะทำค่ะ” ลงทุนขนาดนั้นเชียว ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะเดินไปที่รถด้วยกันและก็เห็นพี่มิหวาเดินมาหาเราพอดี นี่ถึงกลับต้องมาหาพี่อาร์ถึงที่หอฉันเลยเหรอ ผู้หญิงอะไรตื๊อเก่งชะมัดเลย ฉันว่าพี่อาร์ตื๊อเก่งแล้วนะแต่เธอตื๊อเก่งยิ่งกว่าพี่อาร์อีก ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เลยรู้ว่าเขาไม่ได้อยากให้พี่มิหวามาเท่าไหร่แต่เธอมาเอง ก็ถ้าไม่อยากให้เธอตามแล้วทำไมไม่บอกไปตรงๆ เลยล่ะจะมารักษาน้ำใจกันทำไม เหมือนฉันที่ไม่อยากให้พี่อาร์มาตามฉันก็บอกเขาไปตรงๆ แต่เขาหน้ามึนไงเลยตามไม่เลิกสักที “วันนี้เรามีเรียนด้วยกันเราก็เลยมาหาอาร์เพราะอาจารย์บอกว่าวันนี้จะมีงานกลุ่ม” ไม่ต้องมาถึงที่ขนาดนี้ก็ได้มั้ง มีอะไรไปคุยกันที่มหาลัยไม่ได้หรือไง และที่เธอมาหาพี่อาร์ถึงที่นี่ได้ไม่บอกก็รู้ว่าแอบตามมา มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เธอจะมาเห็นพี่อาร์อยู่ที่นี่กับฉัน เฮ้อ อย่าบอกนะว่าฉันจะต้องนั่งรถไปกับคนที่ไม่ชอบหน้าฉันอ่ะ น่าเบื่อมากเลย “อาร์คงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย?” “ครับ” จากที่ยิ้มอยู่นั้นพี่อาร์ก็หุบยิ้มเพราะทำอะไรไม่ได้ในเมื่อพี่มิหวาจะขึ้นรถไปกับเราด้วย เอาจริงๆ นะถ้าฉันเป็นพี่อาร์หรือเป็นผู้ชายฉันก็ไม่ชอบให้ผู้หญิงมาตามขนาดนี้ ตามอย่างกับเป็นเงาตามตัวเลยก็ว่าได้ เธอหันหน้ามามองหน้าฉันแล้วทำตาขวางใส่ทั้งที่ฉันก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เธอ ฉันไม่ได้ขอร้องให้พี่อาร์มารับแต่เขามารับฉันเอง และอีกอย่างนะพี่อาร์ไม่ได้เป็นของเธอด้วยเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำหน้ายักษ์ใส่คนอื่นด้วยซ้ำ พี่อาร์เดินไปขึ้นรถเพื่อที่จะสตารท์รถไว้รอและฉันก็ไม่รอที่จะให้เธอได้เดินขึ้นรถไปก่อนเลยเลือกที่จะเดินไปขึ้นรถตัดหน้าเธอ และที่ที่ฉันนั่งก็คือฝั่งข้างคนขับ เห็นฉันไม่พูดอย่าคิดว่าฉันกลัวหรือไม่กล้าทำอะไรนะ ฉันก็แค่ไม่อยากมีเรื่องเท่านั้นเอง แต่ในเมื่อยิ่งฉันทำเป็นเฉยและไม่สนใจเธอก็มองหน้าฉันด้วยสีหน้าหาเรื่องและพูดจาหาเรื่องอีกเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ซึ่งฉันไม่ชอบและไม่ยอมให้ใครมาข่มแบบนี้ด้วย พี่อาร์หันหน้ามามองฉันแล้วยิ้มให้เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันจะไม่พูดอะไรแล้วเดินไปนั่งด้านหลัง ที่จริงฉันก็จะทำอย่างนั้นอยู่หรอก แต่พอเห็นพี่มิหวามองหน้าเหมือนอยากมีเรื่องกับฉันมากฉันก็เลยจัดให้ซะเลย ก็เอาให้รู้กันไปเลยสิว่าฉันจะแพ้คนอย่างเธอ “พี่อาร์นี่น่ารักจังเลยนะคะมารับเหมยแต่เช้าเลย” พี่มิหวากำลังจะชวนพี่อาร์คุยแต่ฉันก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนและประโยคเมื่อกี้ฉันก็ตั้งใจพูดใส่เธอด้วย เพราะเห็นเธอชอบพูดใส่ฉันบ่อยๆ พี่อาร์หันหน้ามายิ้มให้ฉันแล้วเอื้อมมือมาโยกหัวฉันเบาๆ อย่างเอ็นดู ฉันยิ้มตอบให้เขาเหมือนกัน “งั้นเย็นนี้ให้เหมยเลี้ยงข้าวตอบแทนนะคะพี่อาร์ เหมยสะดวกใจที่จะเลี้ยงพี่อาร์แค่คนเดียวด้วยนะ” “พูดจริงหรือพูดเล่นคะ?” พี่อาร์หันมาถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะพูดอะไรแบบนี้กับเขา ก็ที่พูดเพราะพี่มิหวานั่งมาด้วยหรอก ฉันตวัดหางตาไปมองคนที่นั่งด้านหลังก็เห็นเธอทำหน้าไม่พอใจจ้องหน้าฉันแต่ใครจะสนล่ะในเมื่อเธอตั้งใจอยากมีเรื่องกับฉันเอง ฉันแสยะยิ้มมุมปากเพื่อให้เธอเห็นว่าฉันไม่ได้กลัวอะไรเธอเลยสักนิดและพร้อมที่จะฟาดกลับได้ตลอดเวลา เธอทำเป็นเฉยไม่พูดประชดประชันหรือทำหน้าหาเรื่องฉันแล้วล่ะก็ฉันก็คงไม่ทำแบบนี้หรอก “พี่อาร์อยู่กับเหมยประจำเหมยเคยพูดเล่นเหรอคะ” พี่อาร์หันมายิ้มให้ฉันและฉันก็ยิ้มให้เขากลับไปเหมือนกัน บอกก่อนเลยว่าอย่าให้ฉันร้ายเพราะถ้าฉันได้ร้ายกับใครฉันก็ร้ายมาก ระหว่างทางที่เรานั่งรถมาด้วยกันพี่มิหวาก็ไม่ได้พูดอะไรกับพี่อาร์เลยเพราะฉันไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดและพี่อาร์เองก็ไม่ได้หันไปพูดกับเธอด้วย เธอก็เลยเป็นเหมือนอากาศธาตุที่ไม่มีตัวตนในรถ พอมาถึงมหาลัยพี่มิหวาก็ควงแขนพี่อาร์ต่อหน้าฉันทันทีเหมือนเก็บกดมาตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว คิดว่าฉันรู้สึกอะไรเหรอบอกเลยว่าไม่ ต่อให้เธอจะจูบพี่อาร์ต่อหน้าฉัน ฉันก็เฉยมาก “เย็นนี้เจอกันนะคะพี่อาร์ แล้วเหมยจะรอค่ะ” “ที่จริงพี่ก็อยากขึ้นไปกินที่ห้องเรานะ เราสะดวกหรือเปล่า?” “ขนาดนั้นเชียว เหมยกลัวว่าจะไม่ได้กินข้าวแต่จะกินอย่างอื่นแทนสิคะ” ฉันทำสายตายั่วใส่พี่อาร์และปรายตาไปมองพี่มิหวาที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์ นี่เป็นครั้งแรกของฉันที่พูดอะไรน่าอายแบบนี้ออกไป พี่อาร์เองก็หัวเราะชอบใจที่ฉันยั่วเขา เขาเองก็คงไม่เคยเห็นฉันยั่วมาก่อนก็ได้ ก็แหงสินี่ครั้งแรกเลยและพี่อาร์ก็เป็นผู้ชายคนแรกด้วยที่ฉันอ่อยเขาแบบนี้ “อย่างอื่นพี่ก็ไม่เกี่ยง โดยเฉพาะน้องเหมยของพี่อาร์” พี่อาร์ยิ้มยั่วฉัน เขากำลังจะเดินเข้ามากอดแต่ก็ทำไม่ได้เพราะพี่มิหวากอดแขนเอาไว้อยู่ ทำให้พี่อาร์ที่ยิ้มอยู่นั้นหุบยิ้มแล้วถอนหายใจออกมาแต่เขาก็ยังพูดหยอดคำหวานกับฉันต่อหน้าคนอื่น และคนอื่นที่ว่าก็คือพี่มิหวาเองแหละ “เหมยไปเรียนแล้วดีกว่า ไว้เจอกันนะคะพี่อาร์ของน้องเหมย” “อ่อยเก่งเชียว” “แล้วชอบหรือเปล่าล่ะคะ?” “ไม่รู้ไงว่าโคตรชอบเลยค่ะ” พี่อาร์แทบไม่สนใจเลยว่าพี่มิหวาที่กำลังควงแขนเขาอยู่เพราะเขามองแต่หน้าฉัน และพูดคำหวานใส่ฉันตลอดเลยและฉันเองก็อยากอ่อยเขาต่อหน้าเธอบ้างก็เลยหยอดคำหวานกลับไป และคำพูดทั้งหมดนั้นมันก็ไม่ใช่ตัวฉันเลยจริงๆ นะ ฉันยิ้มให้พี่อาร์ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่ใต้ตึกคณะ พอมาถึงก็เห็นหวานกับเพื่อนๆ อีกสองสามคนนั่งพูดคุยกันอยู่และก็มีแขกไม่ได้รับเชิญอย่างพี่แทนมานั่งอยู่ด้วย จะหวงอะไรขนาดนั้น นี่หวานมาเรียนนะไม่ได้ไปร้านเหล้าถึงจะต้องมาคุมถึงที่แบบนี้ “รอนานหรือเปล่า?” ฉันเดินเข้าไปหาเพื่อนและขอโทษที่มาช้าเพราะรถมันติดมาก แต่เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรเพราะส่วนมากแล้วฉันจะมาเร็วทุกครั้ง แต่ก็คงจะไม่ใช่กับพี่แทนที่ชอบหาเรื่องฉันตลอดเวลา เขาจ้องหน้าฉันไม่ยอมละสายตาไปไหนเหมือนว่าชาติที่แล้วฉันไปฆ่าเขาตายแล้วเขาผูกใจเจ็บมาจนถึงชาตินี้ “ไม่รู้ไงว่าเพื่อนรอ นิสัยแย่ใช้ไม่ได้” หวานตีแขนพี่แทนเพื่อให้เขาหยุดพูด ฉันไม่ได้ถือสาคำพูดคนแบบนี้หรอกนะ เพราะถ้าฉันเก็บเอาคำพูดของคนไม่ดีมาใส่หัวฉันคงเป็นบ้าไปนานแล้ว แต่พอหวานห้ามพี่แทนก็ยิ่งพูดใส่ฉันไม่เลิก นี่ฉันก็งงนะว่าเพื่อนตัวเองไปคบกับคนปากหมาได้ยังไงแถมนิสัยยังชั่วอีก คือเขาตั้งใจจะหาเรื่องฉันแค่คนเดียวด้วย เข้าใจแหละว่าเขาไม่พอใจที่เมื่อก่อนฉันบอกให้หวานเลิกกับเขาแล้วไปคบกับพี่อาร์แทน ก็เขาทำตัวแบบนี้อ่ะใครจะอยากให้เพื่อนตัวเองไปคบกับคนไม่ดี “เอาเปรียบเพื่อนแบบนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว” “พี่แทนหวานขอ เหมยเพื่อนหวานนะคะ” “พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่อยากบอกว่าอย่าทำให้เมียพี่รอนานพี่ไม่ชอบ” “หวานก็เพิ่งมาหรือเปล่า พี่แทนไปรอที่อื่นก่อนได้มั้ยคะหวานคุยงานแป๊บเดียว” “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวน้องเหมยจะบอกให้หวานเลิกกับพี่ มาช้าแล้วทำหน้ากวนตีนนะน้องเหมย” “ขอโทษนะคะ อย่าเสือก” พอฉันพูดแบบนี้พี่แทนก็ลุกพรวดขึ้นมาทันทีแต่ก็ถูกหวานห้ามเอาไว้ ทีตัวเองด่าคนอื่นละไม่เห็นเป็นอะไรแต่พอถูกด่ากลับบ้างแค่นี้ถึงกลับรับไม่ได้ ความเลวของผู้ชายคนนี้มีเยอะมากแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องกลัวนี่ คนเราถ้ามัวแต่กลัวคนอื่นก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วมั้ง “แล้วที่บอกว่าเหมยเอาเปรียบคนอื่น ถามจริงเหมยไปเอาเปรียบคนอื่นบนหัวพี่เหรอ?” “...” “จะไปไหนก็ไปเลยไปเราจะทำงานกัน” พี่แทนมองหน้าฉันคาดโทษเอาไว้ที่ฉันหักหน้าเขาต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ เขาน่ะไม่ชอบให้ใครมาว่าให้ ยิ่งต่อว่าเขาต่อหน้าคนอื่นแบบนี้เขายิ่งไม่ยอม แต่ก็พอรู้อยู่หรอกว่าเขาไม่กล้าทำอะไรฉันเพราะเขารู้ว่าหวานไม่มีเพื่อนที่ไหนคบด้วยแล้วถ้าไม่มีฉันหวานก็จะอยู่คนเดียว “ระวังตัวไว้เหอะแม่งจะให้คนมารุมโทรม” “ไม่แปลกค่ะ เพราะพี่มันสารเลวอยู่แล้ว นี่ถ้าเหมยด่าพี่ว่าเหี้ยเหมยก็สงสารเหี้ยเหมือนกันที่ไม่ได้ทำอะไรผิด” “เหมยอย่าเพิ่งพูดหาเรื่องพี่แทนตอนนี้ได้มั้ยอ่ะเดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก” “อ้าว แล้วแฟนแกอ่ะมาพูดใส่ฉันก่อนทำไม ใครจะยอม” หวานถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะบอกให้พี่แทนกลับไปก่อนถ้าเรียนเสร็จแล้วเธอจะโทรหา พี่แทนมองหน้าฉันแล้วแสยะยิ้มุมปากก่อนจะยอมเดินออกไปแต่โดยดี เฮ้อ นี่มันเป็นวันอะไรของฉันเนี่ยทำไมต้องเจอเรื่องน่าปวดหัวแต่เช้าหลายเรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้ หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งทำงานกันไปเรื่อยๆ พอทำงานเสร็จฉันกับหวานก็มาหาอะไรกินที่โรงอาหารคณะ ฉันซื้อข้าวราดแกงมานั่งกินก่อนหวานเพราะหวานไปสั่งก๋วยเตี๋ยวเลยต้องรอคิว ฉันมองออกไปนอกโรงอาหารก็เห็นพี่อาร์กำลังยืนถ่ายรูปกับรุ่นน้องคณะอื่นที่เดินมาพอดี เห็นอย่างนั้นฉันก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ที่มีคนมาขอถ่ายรูปกับเขาเป็นเพราะเขาเป็นนักเขียนชื่อดังไง และนิยายของเขาก็ติดอันดับขายดีด้วยนะ เขาไม่ได้มากับพี่มิหวาคิดว่าน่าจะแยกกันแล้วและเขาก็เดินมาคนเดียวด้วย เขาเดินเข้ามาในโรงอาหารเหมือนจะมาซื้อข้าวกิน เขาไม่ได้เห็นฉันหรอกเพราะคนค่อนข้างเยอะ แต่พอเห็นเขาแบบนี้มันก็ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD