ตอนที่1/2
อีกด้านของแถวชานเมือง
ขวัญพิชชา หญิงสาววัยยี่สิบ เธอกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่สองที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชีวิตของเธอก็ไม่ได้เลิศหรูอะไร เธอก็แค่ลูกสาวข้าราชการธรรมดาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีความสุขกับครอบครัวที่แสนอบอุ่นนี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนครอบครัวของเธอจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตเพราะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในตอนที่กำลังเดินทางมาหาเธอกับพี่สาวอย่างขวัญฤทัย
ก่อนหน้านี้สองพี่น้องอยู่ในตัวเมืองเพราะต้องมาเรียนแถวนี้ เมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นวันเกิดของเธอ แต่เพราะว่าติดสอบในเช้าของอีกวันจึงไม่ได้กลับไปที่บ้าน พ่อแม่ของเธอจึงเลือกเดินทางมาหาเธอแทน ไม่คิดว่านั่นจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อแม่ของเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา
“ทำอะไรอยู่พิช?” เสียงของขวัญฤทัยเอ่ยถามน้องสาวที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เธอรู้ว่าน้องสาวของเธอกำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากจบเรื่องพ่อแม่ขวัญพิชชาก็เอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เธอก็พยายามปลอบใจน้องว่าเรื่องนี้ไม่มีใครผิด ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่รู้ว่าช่วยได้มากแค่ไหน เธออดเป็นห่วงคนเป็นน้องไม่ได้เลย ที่เอาแต่ทำหน้าเศร้าแบบนี้
“พี่ฤทัย พิชไม่ได้ทำอะไรคะ แค่คิดไปเรื่อย”
“เฮ้อ โทษตัวเองอีกแล้วใช่ไหม”
“ฮึกฮือ เพราะพิชเอง ถ้าหากพ่อแม่ไม่มาวันเกิดพิชก็คงไม่เป็นแบบนี้” หญิงสาวสะอื้นไห้ออกมา เธอไม่อาจทำใจในเรื่องนี้ได้เลย ไม่ว่ายังไงก็ทำไม่ได้
พอเห็นท่าทางของน้องสาวอย่างนั้น ขวัญฤทัยก็ดึงร่างของน้องสาวเข้ามากอดเอาไว้แน่น เธอเองก็เสียใจกับการจากไปของพ่อแม่เหมือนกัน แต่นี่มันไม่ใช่ความผิดของน้องเธอ ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เธอไม่ต้องการให้ขวัญพิชชาเอาแต่โทษตัวเองแบบนี้
“ไม่ต้องโทษตัวเองได้ไหม เธอไม่ผิด พ่อแม่ก็คงไม่โทษเธอเหมือนกันไม่ต้องร้องไห้แล้วนะพิช”
ขวัญพิชชากอดร่างของพี่สาวแน่น เธออายุห่างจากขวัญฤทัยเกือบหกปีเห็นจะได้ ที่ผ่านมาขวัญฤทัยเป็นพี่สาวที่ดีเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไรพี่สาวคนนี้ก็คอยอยู่ข้างๆ ปลอบใจเธอในทุกเรื่อง นับตั้งแต่เล็กจนโตขวัญพิชชารักและนับถือพี่สาวคนนี้ไม่ต่างจากแม่อีกคนนึงของเธอเลย
“ฟังพี่นะ พ่อกับแม่ไปสบายแล้ว ถ้าพิชมานั่งร้องไห้แบบนี้พวกท่านจะสงบได้ยังไงกัน ไม่ต้องร้องไห้นะ”หญิงสาวพยักหน้าหงิกๆ แต่ก็ยังไม่หยุดร้องไห้ ทำให้ขวัญฤทัยรู้สึกขำออกมาเล็กน้อยในท่าทางของน้องสาวเธอ
ขวัญพิชชาเป็นคนสดใสร่าเริง เธอเปรียบเสมือนความสุขของทุกคนในบ้าน มาวันนี้น้องสาวเธอกลายเป็นคนเจ้าน้ำตาเสียแล้ว เอาแต่ร้องไห้ตั้งแต่วันที่รับรู้ข่าวร้าย เธอรู้เป็นใครก็ต้องเสียใจ เธอเองก็เสียใจ แต่การที่จะมานั่งจมทุกข์แบบนี้ไปตลอดก็ไม่ใช่ ทุกคนยังมีหน้าที่ของตัวเอง เธอยังต้องทำงาน ส่วนขวัญพิชชายังต้องเรียนให้จบ ในตอนนี้ไม่มีพ่อแม่แล้ว ขวัญฤทัยจึงต้องคิดไตร่ตรองทุกอย่างให้เป็นอย่างดี ครอบครัวเธอไม่ได้ร่ำรวย เงินประกันชีวิตของพ่อแม่หักลบกลบหนี้ก็เหลือไม่เท่าไหร่
มีที่มีบ้านอยู่ผืนเดียวก็คือที่นี่ ซึ่งมันก็ไม่ได้กว้างขวางอะไร เธอเองก็ไม่คิดขายแต่ก็ไม่คิดมาอยู่ในตอนนี้เหมือนกัน เธอต้องกลับไปอยู่คอนโดที่เช่าเอาไว้ก่อนหน้ากับขวัญพิชชา เอาไว้ น้องสาวเธอเรียนจบค่อยว่ากันใหม่ ในตอนนี้ก็ใช้ชีวิตเป็นไปอย่างนี้ก่อน
ขวัญฤทัยเป็นพนักงานบริษัทตำแหน่งเล็กๆ เงินเดือนสองหมื่นกว่าบาท ไม่ได้มากมายอะไร เธอมีรถมือสองที่พ่อซื้อให้เอาไว้ขับไปทำงานหรือไปไหนมาไหน แต่ส่วนใหญ่เธอจะนั่งรถไฟฟ้าแทน เพราะประหยัดค่าน้ำมัน อีกอย่างคอนโดที่อยู่ก็ไม่ได้ไกลจากที่ทำงานมากนัก ถ้าขับรถไปเองรถติดอีกเสียเวลามากกว่าเดิม เพราะงั้นรถเธอจึงไม่ค่อยใช้ นานๆ ถึงจะขับที ในตอนนี้อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด ไหนจะมีค่าใช้จ่ายของขวัญพิชชาอีก ซึ่งแน่นอนหลังจากนี้เธอต้องเป็นคนดูแลทุกอย่างให้กับน้องสาว ขวัญฤทัยไม่เคยคิดว่านี่คือภาระ เธอไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยสักครั้ง สำหรับเธอขวัญพิชชาคือครอบครัว คือน้องสาวที่เธอรักมากที่สุด