แต่ริกะไม่เห็นด้วย ตำแหน่งในบริษัทยังไงก็ต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน ไม่งั้นหากคนอื่นรู้ก็อาจตำหนิเธอได้
"คงไม่เหมาะมั้งคะ คนอื่นอาจจะ...."
"ผมจะไล่ออก..."
ริกะตกใจ เขาเพิ่งมาวันแรก เธอยังไม่ได้ทำอะไรผิดเขาจะมาไล่เธอออกได้ยังไง เธอปากสั่นถามเขาออกไป
"เอ่อ ไม่ทราบว่าฉันทำอะไรไม่ถูกใจเจ้านายหรือเปล่าคะ ถึงจะไล่ฉันออก"
ฮาชิเงยหน้ามองเธอ นอกจากหน้าหล่อ ๆ ชวนให้มองไม่รู้เบื่อแล้ว ฮาชิยังคลายกระดุมเสื้อเชิตลงสองเม็ดดึงเน็คไทลงมาเพื่อผ่อนคลายอย่างเป็นกันเอง เผยให้เห็นไหปลาร้าเซ็กซี่เหมือนของฮาจิไม่มีผิดทำให้เธอลอบกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้ง
"ไม่ใช่ เข้าใจผิดแล้ว ผมหมายถึงถ้ามีใครนินทาคุณ ผมจะไล่คนนั้นออกซะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวนะ เรียกผมว่าฮาชิคุงเถอะ ผมสะดวกแบบนี้"
ริกะกะพริบตาปริบ ๆ ยังไม่ค่อยเข้าใจเจ้านายที่ใจดีขนาดนี้ แต่เธอก็ต้องเอาใจและยอมรับคำสั่งเขาแต่โดยดี
"ค่ะฮาชิคุง ฉันจะเรียกเจ้านายว่าฮาชิคุงค่ะ เจ้านายจะได้ไม่ต้องไล่ใครออก"
ริกะคิดว่าเขาพูดเล่นเธอจึงแอบขำเล็กน้อย ในขณะที่ฮาชิพูดจริง
"ดีมาก ผมชอบแบบนี้ ผมถามอีกคำถามหนึ่งและจะขอความช่วยเหลือเล็กน้อย ไม่รู้จะรบกวนริกะจังหรือเปล่า"
ริกะเลิกคิ้วเรียว
"อะไรคะ"
"ริกะชอบไปคาเฟ่ใช่หรือเปล่า ยังชอบกินขนมหวานมาก ๆ ด้วย ผมคิดว่าแถวนี้ไม่มีร้านคาเฟ่น่านั่งเลย เลยคิดจะเปิดร้านคาเฟ่หน่อย ริกะพอจะช่วยออกความคิดเห็นได้หรือเปล่า"
ริกะทั้งงงทั้งสงสัยว่าฮาชิรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง ทั้งเรื่องคาเฟ่ที่เธอชอบ ทั้งเรื่องขนม ยังจะให้เธอช่วยแต่งร้านอีก
"ผมเคยได้ยินฮาจิพูดน่ะ ผมรู้ว่าริกะกับฮาจิเคยเป็นแฟนกันมาก่อน"
เขาไม่รอให้เธอถาม รีบพูดออกมาก่อน ส่วนริกะเองก็ไม่ได้แปลกใจ พวกเขาเป็นพี่น้องกัน การเล่าเรื่องแฟนให้กันฟังก็เป็นเรื่องปกติ ถึงจะสงสัยว่าทำไมเขาไม่เรียกใช้ผู้เชี่ยวชาญแต่เธอก็มั่นใจในฝีมือของตัวเองอยู่มาก จึงอยากลองดู
ถ้าเขาไม่ชอบเขาก็แค่เปลี่ยนที่ปรึกษาเพราะฉะนั้นก็หมายความว่าความคิดเห็นของเธออาจจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ได้ ไม่ได้ทำให้ใครเสียผลประโยชน์ ริกะจึงตัดสินใจช่วยเขาอย่างกระตือรือร้นทันที
"อ้อค่ะ ได้ค่ะ ถ้าฮาชิคุงไว้ใจฉันจะช่วยออกแบบค่ะ"
"ผมขอบคุณมากนะ อยากให้ริกะช่วยออกแบบในแบบที่ตัวเองชอบเลย ไม่ต้องเกรงใจผมค่อนข้างไว้ใจริกะจัง"
ริกะแอบคิดในใจอย่างเข้าข้างตัวเอง ว่าคงไม่ใช่ว่าเขาคิดจะทำร้านคาเฟ่เพราะเธอหรอกนะ แต่เมื่อคิดแบบนั้นแล้วริกะก็อดหัวเราะในใจไม่ได้
บ้าแล้ว คนเพิ่งรู้จักกันใครจะทุ่มทุนสร้างร้านคาเฟ่ที่ลงทุนมหาศาลเพื่อเธอกันล่ะ
ฮาชิพูดต่อ
"ดี แบบแปลนกำลังร่างเดี๋ยววันหลังจะให้คนเอามาให้ริกะดู ยังไงก็รบกวนด้วยนะ ถ้าคิดว่าเป็นการเสียเวลาจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้อย่างงามเลย"
ริกะรีบโบกมือห้าม
"ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องเงินไม่เป็นไรค่ะ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ค่ะ พูดปุ๊บก็จะได้ดูเลย ความจริงก็อดตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย"
ฮาชิพูดขึ้น
"ถ้าเงินไม่เอา งั้นจะตอบแทนเป็นอย่างอื่นนะ ริกะห้ามปฏิเสธล่ะ"
ริกะคิดว่าอาจจะเป็นการเลี้ยงข้าวสักมื้อ เธอจึงพยักหน้า
"ยินดีค่ะ ขอแค่ไม่ต้องคิดมากเรื่องเงินกับฉันนะคะ ฮาชิคุงสบายใจได้ริกะจะทำเต็มที่เลยค่ะ"
ฮาชิยิ้มหล่อเหลา "ใจดีจริง ๆ ด้วย แบบนี้ยิ่งชอบใหญ่เลย"
ริกะไม่ได้คิดมากกับคำพูดของเขา เธอกำลังตื่นเต้นกับร้านคาเฟ่ที่เขาบอก เธอชอบร้านคาเฟ่จนฝันว่าอยากจะมีร้านเป็นของตัวเอง แต่ด้วยเงินลงทุนที่สูงและในย่านนี้ก็หาที่เช่าร้านลำบาก ริกะจึงถอดใจ
ถึงร้านนี้จะไม่ใช่ของเธอแต่เธอก็มีส่วนร่วม ต้องขอบคุณเจ้านายคนใหม่ที่ให้โอกาส ริกะจึงคิดทำอย่างเต็มที่
ฮาชิคุงเห็นใบหน้าดีใจของริกะก็แอบลอบยิ้ม หลังจากนั้นฮาชิก็ก้มลงดูเอกสารต่อ ความจริงเพราะเขารู้เรื่องของบริษัทดีเขาจึงไม่จำเป็นต้องศึกษาอะไรมาก แต่ก็ตั้งใจดูจนกระทั่งจบทุกรายงานที่ริกะทำไว้ให้
นั่นเพราะกลิ่นตัวหอม ๆ และเสียงหวานใสของเธอที่ก้องอยู่ข้างหู ทำให้เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้ ริกะคนนี้ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเหมือนถูกแรงดึงดูดมหาศาล
เมื่อเลิกงานเป็นธรรมเนียมที่ต้องเลี้ยงส่งเจ้านายเก่า และต้องเลี้ยงต้อนรับเจ้านายใหม่ ริกะโทรหาเคนและบอกเขาว่าคืนนี้มีงานเลี้ยงอาจกลับดึก แต่ถ้ามันดึกมากและเธอเมาก็คิดอยากให้เขามารับแต่เคนตัดบทเธอเสียก่อน
"ถ้าเมาก็นอนบ้านเพื่อนนะ ผมไม่ว่าหรอกเข้าใจริกะดี"
"ค่ะ"
ริกะจำใจพูดคำนี้ รู้ดีว่าเคนคงไปอยู่ห้องข้าง ๆ เป็นแน่ ถึงจะโกรธแต่เธอก็มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากกว่า คืนนี้การดูแลเจ้านายคนใหม่และยังมีเจ้านายคนเก่าอีก ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของเธอ
ฮาชิลุกขึ้นจากเก้าอี้ ริกะก้มลงเก็บเอกสาร เข้าโน้มลงมาหาเธอใจสั่นระรัวเมื่อฮาชิปัดจมูกผ่านใบหูของเธอ เขาเหมือนฮาจิเกินไปจนเธอแยกแยะแทบไม่ออกแล้ว
"ใส่น้ำหอมกลิ่นอะไร หอมมาก หรือว่าเป็นกลิ่นตัวของริกะอยู่แล้ว"
เขาถามเสียงเบา
ริกะไม่คิดว่าเขาจะถามแบบนี้ เธอจึงกระแอมเล็กน้อย บอกชื่อน้ำหอมที่ตัวเองใช้ให้เขาฟัง ฮาชิพยักหน้าเข้าใจแล้วก้มลงมาใกล้ริมฝีปากของเธอ
"หอมมาก ผมชอบนะใส่กลิ่นนี้มาทุกวันนะอย่าเปลี่ยน"
"ค่ะ"
ริกะย่อมไม่มีข้อโต้แย้ง ถ้าเธอเปลี่ยนน้ำหอมแล้วเขาไม่ชอบขึ้นมาเธอที่ทำงานกับเขาอาจจะแย่ เขาบอกอะไรเธอถึงต้องเชื่อฟังอย่างดี
ในงานเลี้ยงคืนนี้ ริกะกินเหล้าไปมาก ฮาชิเอะอะก็ยกเหล้าให้เธอดื่ม เขานั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ ทุกครั้งที่จะพูดก็มักจะก้มตัวลงมาหาเธอ สัมผัสเธอเป็นระยะ จับตรงนั้นตรงนี้กระทั่งลูบขาของเธอ
หากเป็นคนอื่นริกะคงทนไม่ไหวหรอก แต่นี่เขาคือฮาชิฝาแฝดของฮาจิผู้ชายคนที่เธอพอใจ ดูยังไงก็เหมือนกันยังกับแกะ และสัมผัสของเขาก็อ่อนโยนไม่แพ้กัน
พอเมามากหน่อยริกะก็เริ่มแยกไม่ออกแล้วว่านี่คือใคร
กระทั่งสุดท้ายเธอก็คิดว่าเขาคือฮาจิ
โชคดีที่ริกะไม่ใช่คนชอบพูดมาก เธอเมาแล้วเธอก็เอาแต่นั่งนิ่ง ปกติถ้าเธอเมาก็จะหื่นมากอยู่แล้ว ตอนนี้จึงได้แต่สงบสติอารมณ์ไม่จับเจ้านายคนใหม่มาจูบแล้วเอาเขาต่อหน้าทุกคน
ดูเหมือนว่าเจ้านายคนใหม่จะไม่รู้สินะว่าเธอหื่นขนาดไหนเมื่อเขาเอาแต่แอบสัมผัสเธอตรงนั้นตรงนี้แทบจะตลอดเวลา
"อย่าสิคะ อื้อ"
ริกะดึงมือเขาออกทั้งที่ใจนั้นพอใจกับสัมผัสของเขาเป็นอย่างมาก แต่ฮาชิกลับดื้อรั้นเขายังลูบเธอต่อ ลูบจนริกะอ่อนระทวยและไม่สามารถปัดมือของเขาออกได้อีก
"อย่าค่ะ อย่าล้วงสิคะ อื้อ เจ้านายคะ ฮาชิคุง อ๊า ฮาชิคุง"
เธอทั้งครางทั้งห้ามเสียงหวานเหมือนเชิญชวนมากกว่า ฮาชิคุงได้ใจอยากสัมผัสเธอมากกว่านี้