ตอนที่ 2

1442 Words
ตอนที่ 2 “เร็วๆ ซิโว้ยไอ้พวกบ้า อย่าให้มันหนีไปได้นะ เสี่ยไม่พอใจขึ้นมา จะมาโทษฉันไม่ได้นะ” ไอรินแผดเสียงด่าว่าอย่างไม่สบอารมณ์ในการทำงานของลูกน้องเสี่ยใหญ่วัยกลางคน ดีแต่ตัวใหญ่แต่ไม่มีสมอง ขนาดจับวิฬาร์ได้แล้วยังปล่อยให้หลุดมือไปได้ ว่าคนอื่นทั้งที่ตัวเองนั้นก็พยายามมาหลายครั้งที่จะหลอกลูกเลี้ยงสาวไปให้เสี่ยตัณหากลับ ทว่าไม่เคยสำเร็จสักครั้ง เห็นวิฬาร์หน้าตาใสๆ ราวกับเด็กประถม แก่นเซี้ยวทะลึ่งทะเล้นไปตามเรื่องตามวัย ไม่ค่อยจะสนใจใครหรือว่าอะไร ถ้าไม่เกี่ยวเนื่องกับตัวเองหรือจวนตัว แต่จริงๆ แล้วฉลาดเป็นกรด ไวอย่างกับปรอทและรู้ทันไปเสียทุกเรื่อง จนเธออดรนทนไม่ไหว เคยคิดถึงขึ้นจะย่องเข้าไปในห้องนอน ใช้หมอนปิดจมูกกดให้หายใจไม่ออก ตายๆ ไปเสียจะได้หมดเรื่องหมดราวเสียที แต่ก็ทำไม่ได้ ด้วยพินัยกรรมที่ไอ้แก่บิดาวิฬาร์ทำไว้นั้นป้องกันภัยไว้ให้ลูกสาวระดับหนึ่ง เธอเลยต้องกัดฟันอดทนอยู่ร่วมบ้านด้วยความจงเกลียดจงชัง ยิ่งโตขึ้นหน้าตาวิฬาร์ก็ยิ่งเปลี่ยนแปลงจากที่เคยหน้าดำขี้มูกราขี้ตากรัง เหม็นเน่าเพราะไม่ชอบอาบน้ำ กลายเป็นเด็กสาววัยรุ่น ผิวพรรณก็ผุดผ่องใสขึ้นจนเห็นเส้นเลือดฝาด หน้าตาสวยใสสะดุดตาผู้ชาย หลายคนเมียง ๆ มอง ๆ พูดจาคล้ายจะทาบทาม “ขอตัวหนูแมวเหมียวให้ผม...ให้อั๊วได้ไหมอาไอริน ต้องการเงินเท่าไหร่บอกมา อั๊วชอบ อีน่ารักดี” เสี่ยตัณหากลับนัยน์ตาวาวระยับเมื่อได้เห็นรูปของวิฬาร์ในกระเป๋าที่เธอวางล่อไว้ “แต่เสี่ยมีเมียแล้วนะคะ เจ๊ใหญ่เมียเสี่ยก็ขึ้นชื่อเรื่องความหึงหวงด้วย ฉันกลัวว่าถ้าเจ๊ใหญ่รู้เข้า จะไม่พอใจนะสิคะ” ไอรินแกล้งตอบกลับอย่างมีจริต ทั้งที่ในใจกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อหนึ่งในปลาตัวโตที่หมายตาไว้ฮุบเหยื่อ แต่ไม่...การยอมรับง่ายๆ ไม่ใช่คนอย่างเธอ ถ้าจะกำจัดยายลูกเลี้ยงตัวแสบไปจากบ้าน เธอจะต้องได้คุ้มเกินคุ้ม... “นี่ฉันก็ได้ข่าวว่าเจ๊ใหญ่ตามไปราวีตบตีกับแม่บ้านเล็กบ้านน้อยของเสี่ย จนกระเจิดกระเจิงหน้าบวมไปหลายคนแล้วนะคะ เป็นอย่างนี้แล้วจะให้ฉันกล้าให้หนูแมวเหมียวไปอยู่กับเสี่ยได้ยังไงกันละคะ” ไอรินเอ่ยเสียงหวานใส ออกอาการประมาณว่าอยากจะให้วิฬาร์ไปอยู่ด้วยแต่ขณะเดียวกันก็กังวลจนไม่อยากจะให้ไป แม้กระทั่งใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เธอมองเสี่ยที่ไม่ใช่แค่เงินหนาอย่างเดียว หากรูปร่างหน้าตายังจัดว่ายังดูดี รวมไปถึงหุ่นที่ไม่ได้อวบอ้วนพุงพลุ้ยอย่างกับเสี่ยคนอื่นๆ เลยทำให้เธอยังอิดออดใจที่จะส่งแมวเหมียวตัวงามไปสังเวย “ฉันรักหนูแมวเหมียวนะคะ ฉันคงไม่กล้าทำร้ายลูกสาวสุดที่รัก ด้วยการส่งไปเจอกับเรื่องร้ายๆ แบบนั้นหรอกค่ะ ยายหนูแมวเหมียวแกยังเด็กเกินไปที่จะต้องไปสู้รบตบมือกับคนของเสี่ย” ไอรินพูดเสียงเศร้า ปั้นแต่งสีหน้าเศร้าหมองนองน้ำตา เริ่มต้นพร่ำรำพันพร้อมกับน้ำตาถึงความยากลำบากในการเลี้ยงดูเด็กน้อยที่ไม่ให้ความเคารพนับถือแล้วยังจะกลั่นแกล้งต่างๆ นานาอีก ทว่าเธอก็ไม่สนใจยังคงทำหน้าที่แม่เลี้ยงที่ดี “ฉันขอบคุณเสี่ยมากนะคะที่เอ็นดูหนูแมวเหมียว ทว่าฉันอยากให้หนูแมวเหมียวได้คนรักที่ดี...ไม่ใช่ไปเป็นเมียเล็กเมียน้อยของใคร ที่ต้องถูกบ้านใหญ่ตามราวีไม่เว้นแต่ละวัน” หญิงสาวยกมือขึ้นซับน้ำตาที่เอ่อไหลอย่างมีจริตจะก้าน “ไม่ใช่นะอาไอริน อั๊วไม่ได้คิดอย่างนั้น ลื้อก็รู้ว่าอั๊วมีเมียได้หลายคน อั๊วจะหาบ้านหลังใหญ่ๆ ให้อี หาคนมาคอยดูแลไม่ให้อาบ้านใหญ่มารังควาน แล้วอั๊วจะให้อาเหมียวเป็นเมียออกหน้าออกตาได้รับการยกย่องด้วย เงินทองไม่ต้องห่วง อั๊วจะเปิดบัญชีให้ทั้งลื้อและอาแมวเหมียว แถมการ์ดไม่จำกัดวงเงิน” สาวรุ่นวัยแรกแย้มน่าหม่ำ ใหม่สดยังไม่เคยต้องมือใครมาก่อนอย่างนี้ เขายอมทุ่มเพื่อให้ได้ตัวมา “แต่...” ไอรินยังทำอิดออด แต่นัยน์ตานะเบิกโพลงด้วยความอยากได้ เสี่ยใหญ่ยกมือทาบบนมือไอริน เขานะชอบหมดขอให้เป็นผู้หญิง ผิวเนียนนุ่มมืออย่างไอรินก็อยากได้อยู่หรอก แต่เผอิญเห็นหน้าลูกเลี้ยงอีกฝ่ายเสียก่อน คนทางโน้นน่าสนใจกว่าสาวอวบผ่านมือชายมาแล้ว “แล้วอั๊วจะพาลื้อกับอาแมวเหมียวไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมพ็อกเก็ตมันนี่อีกก้อนใหญ่ ลื้อ...ยกอาแมวเหมียวให้อั๊วนะอาไอริน” ส่งสายตาหวานๆ ไล้ปลายนิ้วบนหลังมือนุ่มเบาๆ “คิดให้ดีนะไอริน ลื้อก็รู้ว่าอั๊วเป็นคนยังไง” เอ่ยยิ้มๆ นัยน์ตาวาววับ ก็ถ้าไม่แน่จริงไม่อยู่มาถึงป่านนี้หรอก “ขอเวลาฉันคิดหน่อยนะคะเสี่ย ฉันจะลองสอบถามหนูแมวเหมียวดูก่อน ฉันไม่อยากบังคับใจเด็ก กลัวจะถูกคนอื่นต่อว่า เป็นแม่เลี้ยงใจร้าย” ไอรีนตอบกลับพลางวางมือทาบบนมือใหญ่ ส่งยิ้มหวานๆ นัยน์ตาพร่างพราวระยับอย่างมีเสน่ห์ “สัญญาว่าจะให้คำตอบอย่างเร็วที่สุดเลยค่ะเสี่ย” “หวังว่าจะเป็นคำตอบที่อั๊วพอใจนะไอริน” เสี่ยตัณหากลับเน้นน้ำเสียงหนัก อย่างคนที่ไม่ชอบความผิดหวัง “อืม...อั๊วก็ลืมถามไป วันนี้ลื้อมาซื้อเพชรรึ แล้วลื้อเลือกได้หรือยังล่ะ ชอบชิ้นไหนเป็นพิเศษบ้าง ไม่ต้องเกรงใจนะ เดี๋ยวอั๊วจ่ายเงินให้เอง คิดเสียว่าลูกเขยซื้อให้กับว่าที่แม่ยายแล้วกันนะ” “อุ๊ย!! เสี่ยละก็ ใจดีกับฉันจังเลย งานนี้ฉันจะต้องเกลี้ยกล่อมหนูแมวเหมียวให้รับรักเสี่ยให้ได้เลยละค่ะ” ไอรินตอบกลับอย่างมีจริต นัยน์ตาวามวาวด้วยความอยากได้ จนลืมคิดไปว่าคนเราเมื่อหว่านพืชก็ต้องหวังผล ยิ่งสำหรับคนบางคนเมื่อผลไม่เป็นไปอย่างต้องการ สิ่งตอบแทนจะต้องสูงเป็นหลายเท่า แม้จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อต้องวิ่งเป็นระยะทางยาวและไม่มีทีท่าว่าจะได้หยุดพัก ร่างกายประท้วงว่าเหนื่อยจนแทบจะสูดลมหายใจเข้าปอดไม่ไหว ขาล้าจนแทบจะยกไม่ขึ้นแล้ว แต่เมื่อเหลียวมองกลับไปด้านหลัง ยักษ์ใหญ่สองคนยังคงวิ่งไล่ตามอย่างไม่ลดละ ตอนนี้ก็กวดไล่ตามมาจนเกือบจะคว้าตัวเธอได้ในไม่กี่ก้าว ทำให้ต้องวิ่ง...ต่อไป สองข้างทาง แม้จะมีผู้คนเยอะแยะมากมายเดินขวักไขว่สวนกันไปมา แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ไม่ได้ขออะไรมากมาย แค่เพียงร้องเรียกตำรวจให้เท่านั้น เพราะถ้าทำเช่นนั้นได้ สองคนที่วิ่งไล่ตามมาก็จะต้องหยุดและรีบสลายตัวไป แต่...นี่ไม่เลย ไม่มีใครสักคนจะให้ความช่วยเหลือเธอได้ การวิ่งหนีสูบเอาพละกำลังออกจากกายไปจนหมด แม้กระทั่งสมองก็รู้สึกว่าจะทำงานช้าไปชั่วครู่ จนไม่รู้ว่าจะหาทางออกให้กับเหตุการณ์บ้าๆ นี้อย่างไรดี หนทางข้างหน้าจึงเป็นการเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ถ้าต้องรับศึกสองด้าน...สำหรับอดีตแม่เลี้ยงที่ยังต้องอยู่ร่วมบ้านกัน เพราะคำสั่งเสียของบิดา เธอจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของไอรินจนกว่าอายุจะครบยี่สิบปี ไม่รู้พ่อคิดอะไร เห็นอยู่ชัดๆ แม่เลี้ยงแสนสวยแต่เปลือกกับลูกเลี้ยงอย่างเธอไม่ถูกกัน แม้ไม่ได้ตบตีลงไม้ลงมือกัน แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะรักใคร่สมานฉันท์กันสักหน่อย ยังจะทำพินัยกรรมให้อยู่ร่วมบ้านกันอีก หลายครั้งหลายคราวเธอต้องอดทนกับพฤติกรรมปากไม่มีหูรูดของไอรินที่คอยแขวะกัด แต่ยิ่งทำหูทวนลมมากเท่าไหร่ แม่เลี้ยงอสรพิษก็ยิ่งกระทำการหนักมือขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD