ตอนที่ 5
“ยายสารเลว!” ด่าด้วยความรังเกียจความคิดต่ำๆ ของคนตรงหน้า แค่ไม่ได้ดังใจถึงกับเอาเธอไปขายบำเรอความใคร่ให้ใครก็ไม่รู้ ไม่ได้อยากแช่งชักหักกระดูกนะ แต่ขอให้เวรกรรมตามทันในเร็วๆ วันแล้วกัน
“รีบไปเอาตัวมันมาได้แล้ว” ไอรินหันไปสั่งกับคนที่มาด้วยเสียงเข้ม
‘อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย!’ ไม่ต้องรอให้ได้ยินคำสั่งซ้ำสอง วิฬาร์รีบหันหลัง เตรียมตัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ทว่า... หัวใจดวงน้อยถึงกับเต้นวูบหายๆ เหมือนกับนั่งบนรถไฟเหาะที่วิ่งขึ้นที่สูงสลับพุ่งลิ่วลงมากระแทกกับสายน้ำเย็นๆ
ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกอีกแล้ว วิฬาร์กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง มือเท้าเย็นจัดราวกับว่ายืนอยู่ในลำธารน้ำแข็ง หน้าซีดเผือดยิ่งกว่ากระดาษ เมื่อเห็นเจ้าสองคนที่เธอคิดว่าหนีพ้นแล้วยืนจังก้า ตาลุกโชน หน้าแดงเลื่อมราวกับคนเมาเหล้าอยู่เบื้องหน้าไม่ไกล
‘เอาไงดีล่ะแกยัยวิฬาร์ หน้าก็...เอื๊อก หลังก็...เอื๊อก...’
“หมดทางหนีแล้วละหนูแมวเหมียว” ไอรินเอ่ยเสียงหวานนุ่มเคลือบน้ำตาลโตนด “ฉันว่าหนูน่าจะทำตัวดีๆ ไม่สร้างปัญหาด้วยการวิ่งหนีเหมือนเมื่อกี้อีก ซึ่งคราวนี้ฉันไม่รับรองนะว่าหนูจะอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีริ้วรอยขีดข่วนหรือเปล่า” ขู่นิ่มๆ เดินนวยนาดมาหาวิฬาร์ด้วยมาดนางพญา
“ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมให้คุณกับไอ้พวกบ้านี่จับเอาตัวไปต้มยำทำแกงหรอกนะ” ตอบกลับเสียงเข้ม ทั้งที่กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว
“ใคร้...ใครบอกว่าฉันจะพาหนูไปต้มยำทำแกงเล่าหนูแมวเหมียว” ไอรินตอบกลับเสียงสูงลิ่วอย่างรื่นเริง แย้มยิ้มพรายจนหน้าบานเป็นกระด้ง
“ฉันแค่ส่งหนูไปพบกับความสุขเท่านั้นเอง เสี่ยเขาจะเลี้ยงดูหนูเป็นอย่างดีเลยนะ เสียแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือหนูไม่ได้เป็นคุณนายใหญ่” เสียดายอยู่เหมือนกัน การได้เป็นคุณนายใหญ่ คือจดทะเบียนสมรส จะมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติอันมากมายมหาศาลที่เกิดอีกสิบชาติก็ยังมีกินมีใช้ไม่หมด
“แต่หนูก็ไม่ต้องเสียใจนะ เสี่ยก็ให้การรับรองฐานะเท่าเทียมกับคุณนายใหญ่ มีเงินเดือนให้ทุกเดือน มีคนคอยรับใช้ อย่างนี้หนูว่าไม่ดีอีกหรือไงจ๊ะ”
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยคุณไอริน ‘อยากเรียกว่ายายเกลือทะเลนะ เพราะชื่อไอรินมีความหมายว่าเกลือ’ คุณเองที่อยากได้ข้าวของพวกนั้น ถึงกับกล้าทำเรื่องชั่วๆ หลอกพาฉันไปสังเวยไอ้เสี่ยเฒ่าตัณหากลับ” สวนกลับเสียงลอดไรฟัน ว่าแล้วเชียว นังอสรพิษ ในสมองมีแต่ความคิดต่ำๆ ชั่วๆ ตกนรกคนเดียวไม่พอ ยังจะพ่วงคนอื่นเขาลงไปด้วย เมื่อไหร่พวกชอบขายเนื้อขายหนังแบบนี้จะถูกแผ่นดินสูบเอาไปเสียทีนะ แผ่นดินจะได้สูงขึ้น
“คุณก็เอาตัวคุณนั่นแหละเข้าแลก อย่ามายุ่งกับฉัน” วิฬาร์ขบกัดฟันจนมีเสียงดังกรอดๆ ดวงตาลุกวาวด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธเกรี้ยว สาวเท้าถอยไปด้านหลังทีละน้อย เมื่อยักษ์ใหญ่ทั้งสามคนเริ่มเดินมาหาอย่างกับหมาขี้เรื้อนจ้องอาหารอันโอชะ
“ถอยไปนะโว้ย ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย” ข่มกลั้นความกลัวขู่ออกไปเสียงเขียว ชี้มือชี้ไม้มั่วไปหมด ในดวงตาเลิ่กลั่กแฝงไว้ด้วยความตื่นตระหนกตกใจกลัว
“ไม่เอาน่าหนูแมวเหมียว จะเล่นตัวไปทำไม เสี่ยบุญชัยเขาไม่ได้เป็นคนแก่อย่างที่หนูว่าสักหน่อย แค่เกือบจะสี่สิบเท่านั้น เอ๊ะ...หรือว่าสี่สิบกว่าฉันก็ไม่แน่ใจนะ” ไหล่กว้างเลิกขึ้น เธอเองน่ะไม่รู้อายุจริงและที่มาของเสี่ยบุญชัยเลยสักนิด ได้แต่เรียกขานตามคนอื่นๆ จนติดปาก ทั้งที่ความจริงแล้วหน้าตาของบุญชัยไม่ได้กระเดียดมีเชื้อสายไปทางจีนแม้แต่น้อย
“แต่หนูอาจจะชอบและต้องขอบใจฉันก็ได้ เสี่ยนะหน้าตาหล่อเหลายิ่งกว่าพระเอกหนัง หุ่นก็บึกบึนสมชายชาตรี งามสง่าอย่างกับเจ้าชาย ไม่ได้อ้วนพุงพลุ้ยอย่างที่หนูคิดนะ ไม่แน่แค่หนูเห็นหน้าเสี่ย หนูจะตกหลุมรักโดยไม่ทันจะรู้ตัวก็ได้” บอกเสียงหวาน ท่าทางเคลิบเคลิ้มราวกับตกอยู่ในความฝัน
ขนาดเธอเห็นผู้ชายเป็นเพียงแค่ถุงเงินถุงทอง จะขุดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ได้เห็นหน้าเสี่ยบุญชัยครั้งแรก หัวใจเต้นตึกตักๆ รัวอย่างกับกลองเพล แอบเก็บไปนอนฝันอยู่หลายคืน คิดแล้วก็อยากย้อนวัยกลับไปเป็นสาวน้อยวัยแรกรุ่น ที่ไม่เคยมีภมรตัวใดชอนไชมาก่อน จะได้ทอดสะพานขอเป็นหนึ่งนางในชีวิตเขาตลอดไป
แต่...บุญชัยไม่ต้องการเธอน่ะซิ เพียงได้เห็นรูปยายเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ นัยน์ตาก็เป็นประกายวาววับ เกือบจะยื่นข้อเสนอให้เธอ แต่ก็สงวนท่าทีเอาไว้ ค่อยๆ พาตัวเข้ามาใกล้ชิดจนเธอพลาดเอง ยอมรับข้าวของที่อีกฝ่ายอ่อยล่อ จนถูกบังคับให้ต้องส่งวิฬาร์ไปบำเรอความสุข
เรียวปากนุ่มเคลือบสีแดงสดยกขึ้นเล็กน้อย ไฟในดวงตาเรืองรอง ผู้ชายมักมากเปื้อนคาวโลกีย์นะ พอได้เจอกับสาวน้อยไม่ประสาก็ย่อมจะหลงใหลเป็นธรรมดา ดีไม่ดี วิฬาร์อาจทำให้เสี่ยบุญชัยหลงจนโงหัวไม่ขึ้นก็เป็นไปได้
ไม่! ...เพียงแค่คิดว่าวิฬาร์จะอยู่ดีมีสุขในบ้านหลังใหญ่ มีคนคอยรองมือรองเท้า มีเงินทองให้จับจ่ายใช้สอยไม่ขาดมือ ไอรินก็ทนไม่ได้ กายอวบอัดสั่นเทิ้มด้วยความอิจฉาริษยา เธอไม่ยอมให้มีวันนั้น ไม่ยอมให้นังลูกเลี้ยงตัวแสบนี้มีความสุขตลอดชีวิต เธอจะคอยเป็นมารผลาญพร่าความสุขของวิฬาร์ไปจนกว่าอีกฝ่ายจนทนไม่ไหว
“คิดสั้น คิดโง่ๆ อย่างที่คุณเคยทำมาใช่ไหม ยอมเอาตัวเข้าแลกกับความสบาย เชิญคุณทำไปคนเดียวเถอะ อย่ามาเอาฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ฉันไม่อยากเป็นอีหนูของใคร” กวาดสายตามองไล่ทั่วร่างไอริน ต้องยอมรับว่าอดีตแม่เลี้ยงของเธอถึงจะล่วงเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว ทว่ารูปร่างหน้าผมยังพอดูได้นะ
“ถ้าดีจริง ทำไมคุณไม่เสนอตัวเองล่ะ หน้าตาคุณ ไปดึงเก็บเอาไอ้รอยตีนกา แล้วหาพวกเครื่องสำอางดีๆ โปะอีกหน่อย ก็ยังพอควงไปวัดไปวาได้อยู่นะคุณไอริน”
“เอ๊ะ...ยายเด็กบ้านี่พูดไม่รู้เรื่อง” ไอรินชักสีหน้าบึ้งตึง กัดฟันกรอดๆ ไม่ชอบให้ใครเน้นย้ำเรื่องหน้าตาและอายุ “พวกแกน่ะรีบเอาตัวมันไปให้พ้นๆ หน้าฉันเลย เด็กบ้าอะไร เขาหาสิ่งดีๆ ให้กลับทำยังกับถูกพาไปเชือด อ้อ...อย่าลืมเงินฉันด้วยล่ะ” ใช้เสร็จก็ไม่ลืมจะทวงโบนัสก้อนโตให้เธอนำไปใช้ต่อทุนได้อีกหลายวันเชียวละ แค่คิดก็มันมือจนตัวสั่นแล้ว อยากไปเร็วๆ
“กล้า...ก็เข้ามาซิ ฉันจะร้องให้คนช่วย จะบอกว่าพวกแกเป็นพวกจับผู้หญิงไปขาย อยากรู้นักว่าจะทนมือทนตีนชาวบ้านเขาได้ไหม”
“เหรอ...น้องสาว แล้วคิดว่าจะได้ร้องหรือไง พี่ว่านะ ยอมให้พี่เอาตัวไปดีๆ จะดีกว่าไหม จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” หนึ่งในสามคนซึ่งยืนฟังหนึ่งสาวแก่กับสาวน้อยหน้าใสทุ่มเถียงกันจนเกือบจะทนรอไม่ไหวแล้วเอ่ยพูดขึ้น
หน้าตาสวยใสน่ารักแบบนี้เอง นายถึงได้ถูกใจ จนยอมล่อหลอกไอรินด้วยการทุ่มส่งข้าวของราคาแพงไปให้ เสียดายว่าแสบไปหน่อย กว่านายจะปราบพยศได้ ผิวเนื้อใสๆ คงจะช้ำไปเยอะเชียวแหละ ไม่ได้จะชม เห็นมาหลายรายแล้วละ แรกๆ ตอนไม่พบนายก็ดื้อรั้น ร้องแสบแก้วหูพวกเขา ไม่...ไม่ อยู่นั่นแหละ แต่เจอหน้านาย เจอคารมลูกอ้อน ลูกล่อ ลูกชนของนายเข้า ไม่กี่วันก็ตัวอ่อนระทวย แทบจะเชื่องเป็นหมา แล้วก็ช่างออดอ้อนเหมือนแมวเหมียวดังชื่อละ เสียงหรือก็ใสฟังแล้วเพลินดี เห็นแล้วบอกตรงๆ อิจฉานายจริงๆ ผู้หญิงแต่ละคนของนายสวยโคตรๆ