ไม่เป็นไรข้ามาแล้ว

1289 Words
ห้องเครื่อง ศรีไพรเดินสำรวจทั่วบริเวณตื่นตาตื่นใจกับ ห้องครัวที่ใหญ่โตเหมือนห้องครัวในโรงแรมขนาดใหญ่ มีวัตถุดิบทั้งสดและแห้งเครื่องเทศใหม่เก่าแขวนเรียงรายขาหมูแห้งแขนไว้ที่ราวด้านข้างหน้าต่าง หมูเส้นหมูแผ่นไข่ปลา แขวนเรียงรายสุดอลังการ หลายคนกำลังสารวนกับการทำเครื่องเสวยสำหรับคนในวังหลวง ที่มีนับพันชีวิต พ่อครัวแม่ครัว เรียกแบบนี้ก็ไม่ผิดเพราะแต่ละคนสวมวิญญาณนักปรุงที่ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารราวกับว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่อมัน ศรีไพรอมยิ้มเหมือนเหมือนตัวศรีไพรเลยที่ทำงานจนตาย เอหรือว่าดื่มจนตาย “อู๊ยยยยดูสิของกำนัลที่ฝ่าบาทประทานมาล้วนมีแต่ของดีๆ” เฟยฟางยิ้มบางๆ “แจกจ่ายกันไปในหมู่พวกเราดีไหมท่านลุง เราทุกคนล้วนเหนื่อยล้ามาหลายวันกว่าฝ่าบาทจะยอมเสวย” “หากเจ้าไม่ถือสาว่านี่ของที่ฝ่าบาทประทานมาให้เจ้า เช่นนั้นก็แจกๆๆๆ แจกจ่ายกันไปให้ทั่ว” เฟยฟางยิ้ม ยืนคอยแจกจ่ายและรับการคารวะจากขันทีและนางในห้องเครื่อง “เฮอะของพวกนี้ล้วนเป็นความดีความชอบของเข่อชิง เจ้าจัดแจงราวกับว่า” ป้าตื้อเบ้ปากอยากจะพูดมากกว่านั้นแต่ลุงซุนกลับมองมาด้วยสายตาตำหนิ “ยายแก่หุบปากแกเสียถ้าไม่มีเฟยฟางข้าเกรงว่าหัวจะหลุดจากบ่า” “ตาแก่กคิดได้อย่างไรกันนางก็แค่ไปช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่แกกลัวจนคิดไปไกลว่าฝ่าบาทจะลงทัณฑ์” ลุงซุน ถอนหายใจ “ใครจะรู้พระทัยของฝ่าบาทได้เล่าแต่ถึงเวลานั้นข้ายอมรับว่ากลัวจริงๆ ถ้าไม่มีนางมาช่วยไว้ทัน เพราะนั่นคือกระเพาะสุกร” “ไม่มีใครสั่งประหารคนที่ทำให้ตัวเองกินทั้งๆ ที่หิวมาหลายวันเพียงเพราะ….. เอากระเพาะสุกรไปปรุงอาหารหรอก หามันคือกระเพาะสุกรใช่ไหม” ป้าตื้อทำสีหน้าตื่นตกใจ เมื่อตระหนักได้ว่ามันคือกระเพาะสุกรสิ่งต้องห้าม ลุงซุนพยักหน้า “กระเพาะสุกรแต่นางกลับปรุงมันออกมาเสียดิบดีแล้วยังหั่นบั้งเสียสวยงาม ฝ่าบาทจึงมีบัญชาให้ถอดกระเพาะสุกรออกจากอาหารน่ารังเกียจเสีย” ลุงซุนพูดอย่างโล่งอก “แต่ต้องยอมรับว่าเข่อชิงนางมีพรสวรรค์เครื่องเสวยที่นางปรุงใครกันคิดได้เช่นนาง” “เฟยฟางนางแก้ต่างราวกับเป็นเข่อชิง พูดในสิ่งที่ข้าคิดไว้และข้าไม่กล้าพูดแต่นางกลับกล้าที่จะเอ่ยมันออกมาต่อหน้าฝ่าบาท” “เรื่องนี้พวกเราทุกคนล้วนรู้ดี ไม่จำเป็นต้องพูดก็คิดเหมือนกันวัตถุดิบในห้องเครื่องมีสิ่งไหนบ้างที่ไม่ได้ลองนำไปปรุงเครื่องเสวยให้กับฝ่าบาท ยกเว้นกระเพาะสุกรนั่น เช่นนั้นจึงถือว่าเข่อชิงมีความชอบ” “แต่เฟยฟางก็แก้ต่างให้ข้า ยายแก่ข้าอยากให้เจ้าได้เห็นตอนที่นางเข้าไป แล้วฝ่าบาทเห็นใบหน้างดงามอ้่อนหวานของนาง ฝ่าบาทอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแล้วยังไม่กล้าที่จะกล่าวโทษด้วยความเป็นฮ่องเต้เป็นโอรสสวรรค์จะต้องยโสในเรื่องที่ฮ่องเต้คนอื่นยโสแต่ด้วยท่าทีของเฟยฟางนางทำให้ฝ่าบาทเปลี่ยนไป”ป้าตื้อเบ้ปาก “ใช่ซี้เข่อชิงของข้านางไม่ได้มีกิริยาอ่อนหวานเพราะนางเป็นนางในห้องเครื่องวันๆ ล้างจานหั่นผัก ก่อไฟ” “ก็จริงของแก ท่าทางของนางหากเข้าเฝ้าฝ่าบาทเกรงว่าจะต้องถูกตัดหัวตั้งแต่ยังไม่ได้พูดด้วยซ้ำไป เอาเป็นว่าต่อแต่นี้นี่คือความลับของห้องเครื่องของเราเข่อชิงปรุง เฟยฟางยกไปถวาย ทุกอย่างจึงลงตัว และห้ามใครพูดออกไปโดยเฉพาะแก…ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงไม่มีใครรอดสักคนเพราะเราทุกคนที่นี่ต่างรู้ว่าเข่อชิงปรุง ทางที่ดีควรปิดเรื่องนี้ไม่ให้ฝ่าบาทรู้ ” ป้าตื้อถอนหายใจ “เพราะนางเฟยฟางนางไม่น่าเข้าไป” ลุงซุนขมวดคิ้ว “เจ้าอย่าได้กล่าวโทษนางในตอนนั้นใครก็ได้ที่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ข้าจึงขอบคุณ เจ้าอยากเป็นหม้ายหรือไร” ป้าตื้อส่ายหน้าไปมา “แล้วเข่อชิงเล่าจะบอกนางว่าอย่างไร”ลุงซุนยิ้มมุมปาก หยิบทองออกมาจากอกเสื้อสองก้อน “เอาสิ่งนี้มอบให้นางแล้วก็ไปเลือกเอาของกำนัลจากฝ่าบาทที่เฟยฟางสักชิ้นสวยๆ แล้วบอกนางว่าฝ่าบาท ..เย็นนี้ฝ่าบาทต้องการเสวยเครื่องเสวยที่มีรสจัดเหมือนมื้อกลางวัน” ป้าตื้อถอนหายใจสงสารศรีไพรจับใจ แต่ตัดมาที่ศรีไพร “ฮ่าาาา อี้เอ่อร์ที่เจ้าพูดมาจริงหรือเฟยฟางนางพูดแทนข้าจนฮ่องเต้มอบของกำนัลเหล่านี้มาหรือ” เลือกหยิบสายสร้อยที่ทำจากหินสี แม้จะสวยแต่ราคาจะเท่าไหร่กัน “จริงๆ พี่เข่อชิงข้าเจ็บใจแทนพี่เหนื่อยแทบตาย แต่นางกลับได้ความดีความชอบไป” “ใครสน ข้าไม่ได้อยากไปหมอบคลานต่อหน้าฮ่องเต้อะไรนั่นเสียหน่อย ข้าแค่อยากจะช่วยพวกเจ้ากับวิกฤติครั้งนี้” “จริงๆ นะพี่เข่อชิง ในตอนนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่พอมาตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือพี่ที่ต้องปรุงเครื่องเสวยให้กับฝ่าบาทตลอดไป พวกเขาก็ควรจะเอาใจท่านหน่อย แล้วข้าไม่อยากให้พี่เรียกฝ่าบาทว่าฮ่องเต้ควรเรียกว่าฝ่าบาท” ศรีไพรยิ้ม “ไอ้น้องนี่มันใช้ได้แฮะ ก็ได้ก็ได้ไม่ต้องเอาใจหรอกที่นี่สบายกว่าที่ข้าจากมา อย่างน้อยก็แค่ปรุงอาหารแล้วก็ได้พัก” หันไปเจอเข้ากับสายตาตำหนิของป้าตื้อ “แอบมาสุมหัวทำอะไรกันอีก” “ป้าเราเพิ่งจะมานั่งอี้เอ่อร์เพิ่งจะไปรับของแจกจากเฟยฟางมาเลยนำมาแบ่งกับพี่เข่อชิง”อี้เอ่อร์แก้ตัว ป้าตื้อถอนหายใจ “ข้าไม่ได้ว่าอะไร เจ้ากินอะไรหรือยังเล่าเข่อชิง เอ้านี้ ลุงซุนฝากมาให้เจ้า” น้ำเสียงอ่อนลงวางก้อนทองลงบนโต๊ะกับปิ่นปักผมอีกอัน “สวยจัง แล้วนี่ทองจริงหรือเปล่า”ศรีไพรเอ่ยปากชมปิ่นอันนั่น หยิบทองมากัดไปงั้นๆ ก็จำเขามาว่าต้องกัด อี้เอ่อร์มีสีหน้าว่าเสียวฟัน “ของจริง มีอะไรที่ปลอมได้อีกในวังหลวงแห่งนี้ เป็นของกำนัลที่เจ้าปรุงเครื่องเสวยถูกพระทัยฝ่าบาท” ศรีไพรยิ้มกว้างโยนทองในมือกะน้ำหนัก “ดีจังปรุงอาหารครั้งหนึ่งได้เท่านี้ก็เอาแล้ว ปิ่นปักผมอันนี้สวยจังฝ่าบาทประทานมาเลยหรือ” ป้าตื้อยิ้มเศร้าๆ เมื่อเห็นท่าทีดีอกดีใจของเข่อชิง ตั้งแต่เล็กจนโตเข่อชิงที่มีนิสัยมุทะลุแต่ฉลาดกว่าคนอื่นนางชอบหาทางเอาตัวรอดจนป้าตื้อต้องดุด่านาง มีครั้งนี้กระมังที่ป้าตื้ออดสงสารนางเสียไม่ได้นางช่างทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนได้ดีจริงๆ หากเป็นคนอื่นคงโวยวายไปแล้ว แต่นางกลับพอใจในของเล็กน้อย “มันเป็นของเจ้า ข้าดีใจที่เจ้าชอบมัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD