ตอนที่ 5 ตัวช่วยที่หนึ่ง
"เอาล่ะครับวันนี้พอแค่ก่อน ส่วนใบงานก็ทำเท่าที่ทำได้ จะผิดจะถูกไม่ว่ากัน ผมแค่อยากจะรู้ว่าทุกคนมีความรู้ในสาขาวิชามากน้อยแค่ไหน คะแนนในใบงานครั้งนี้จะไม่มีผลต่อคะแนนเก็บ ขอแค่ส่งกันทุกคนก็พอแล้วครับ แต่ถ้าใครไม่ส่งผมกาหัวไว้เลยนะ เพราะถือว่าไม่ให้ความร่วมมือกัน"
"โห่!!.."
ทันทีที่อาจารย์พงศ์ฉัตรพูดจบเสียงเพื่อน ๆ ในคลาสก็โห่ร้องกันขึ้นมา เชื่อเถอะไอ้พวกที่โห่เนี่ยมันไม่ได้ทำแน่ ๆ แต่ไม่ใช่สำหรับฉัน เพราะวิชาของว่าที่แฟนฉัน ฉันก็ต้องตั้งใจทำอยู่แล้วไหมล่ะ ฉันยกมือขึ้นมาเท้าคางและเอียงหน้าฟังว่าที่แฟนอย่างตั้งใจ เอาจริง ๆ บุคลิกพี่ฉัตรอ่ะไม่เหมือนวันที่ฉันเจอเขาในวันแรกเลย วันนั้นดูเฟรนลี่มาก แต่ตอนนี้ดูดุ ๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่แปลกหรอกพี่ฉัตรเป็นอาจารย์นี่น่าเนอะ
"เอ้าหยุด ๆ พอแล้ว ๆ โอเค!..ตามที่ผมพูดไปแล้ว เดี๋ยวรวบรวมไปส่งที่ห้องพักครูได้เลยนะครับ ผมพักห้องเก่าของอาจารย์กิ่งกาญนั่นแหละ ไหนขออาสาสมัครรวบรวมใบงานของเพื่อน ๆ หน่อย หรือว่าพงศ์ธาวิน..."
"หนูค่ะ!!...หนูรับอาสาเองค่ะ..อาจารย์"
ฉันรีบยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉันอาสาเองหน้าที่นี้วิกกี้พร้อมทำเองค่ะ ฉันยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับมือที่ชูขึ้นอย่างไม่ยอมเอาลง ยัยน้ำอิงรีบกระตุกแขนฉันใหญ่เลย ไม่เพียงแค่น้ำอิงนะ เพื่อน ๆ ในห้องก็หันมามองหน้าฉันเป็นตาเดียวกันเลยล่ะ ก็แน่ล่ะมันก็คงจะแปลกใจที่อยู่ ๆ ฉันก็รีบยกมืออาสาทำเอง แทบจะไม่รอให้อาจารย์พูดจบเลยด้วยซ้ำ ปกติฉันเป็นคนอย่างนี้ซะที่ไหนล่ะ
"โอเคครับรบกวนนักศึกษาด้วยละกัน ยังไงก็ส่งกับเพื่อนคนนั้นนะครับ เลิกคลาสได้"
อาจารย์ฉัตรหันมามองหน้าฉัน แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร หรือว่าจะจำฉันไม่ได้กันนะ แต่ไม่เป็นเดี๋ยวฉันจะทบทวนให้เองเมื่อมีโอกาส เมื่ออาจารย์สั่งเลิกคลาสฉันก็ลุกขึ้นไปเก็บใบงานที่เพื่อน ๆ อย่างมีความสุข เป็นงานที่ฉันอยากทำเป็นอย่างมาก
"เป็นบ้าเหรอเหรอมึง อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นอาสาเก็บใบงานให้อาจารย์ ดูเป็นคนขยันนะยะ" ฉันหันหน้าไปมองใบหน้าสวยน้อยกว่าฉัน..ของยัยน้ำอิง ก่อนจะยักคิ้วให้มันอย่างอารมณ์ดี
"ไม่เป็นบ้า แต่เป็นคนดี มึงคิดดูดิเมื่อกี้ที่อาจารย์พูดไม่เห็นมีคนอาสาเลย การที่กูอาสาขึ้นมามันไม่ดีหรือยังไง หรือพวกมึงจะเอาไปส่งเองล่ะ" ฉันยักไหล่ก่อนจะเดินไปเก็บใบงานจนกระทั่งถึงโต๊ะของธาวิน ว่าที่น้องแฟนของฉันเองแหละ อิอิ
ก่อนจะเก็บผ่านมาก็ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้นางก่อนสักที ธาวินมันขมวดคิ้วใส่พร้อมกับยกมือขึ้นลูบแขนตัวเอง แต่ช่างมันใครสนกันล่ะ
เมื่อเก็บทุกอย่างเสร็จ ฉันก็ให้ยัยน้ำอิงไปที่แคนทีนก่อนกับพวกไอ้ธาวินก่อนเลย ส่วนฉันก็ขอตัวไปทำหน้าที่แฟนที่ดีก่อนนะ ฉันเดินหอบใบงานทั้งหมดไปที่ห้องพักอาจารย์กิ่งกาญเก่านั่นแหละ ปกติไม่เคยเหยียบมาหรอกหากไม่จำเป็นนะ ก่อนเข้าไปฉันก็ไม่ลืมที่จะเปิดกระเป๋าหยิบแป้งพัฟ และเติมปากก่อนเล็กน้อย เอาล่ะเลิศมากแม่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เชิญครับ"
ฉันยิ้มออกมาเมื่อคนในห้องอนุญาตแล้วเช่นนี้ จะช้าอยู่ทำไมเปิดประตูเข้าไปเลยสิคะ
"ขออนุญาตค่ะอาจารย์ หนูเอาใบงานมาส่งค่ะ"
"ครับ เอามาวางไว้บนโต๊ะได้เลยขอบคุณมากครับนักศึกษา"
ฉันพยักหน้าและยิ้มกว้างออกมา พี่ฉัตรบอกเสร็จก็ก้มหน้าลงไปทำงานในเอกสารของเขาต่อโดยที่ไม่ได้สนใจฉันเลย ฉันก็ยืนแอ่นไปแอ่นมาอยู่นี่แหละ
"มีอะไรหรือเปล่าครับ" สงสัยพี่ฉัตรคงเห็นว่าฉันไม่ไปไหนล่ะมั้งเขาจึงเงยหน้าขึ้นมาถาม พี่ฉัตรเอานิ้วดันแว่นตาขึ้น โคตรกร้าวใจเลยให้ตายเถอะ
"เปล่าค่ะ พี่ฉัตรจำวิกกี้ได้ไหมคะ วันนั้นที่ฝนตกวิกกี้ล้มแล้วพี่ฉัตรมาช่วยอ่ะค่ะ" ฉันรีบถามออกไป เป็นถึงครูบาอาจารย์ไม่น่าจะขี้ลืมนะ
"จำได้ครับนักศึกษา ข้อเท้าหายดีแล้วใช่ไหมครับ" นั่นไงจำได้จริง ๆ ด้วย ฉันงี้ยิ้มแก้มจะแตกเลยล่ะ
"หายดีแล้วค่ะ หลังจากนั้นวิกกี้ไม่เจอพี่ฉัตรอีกเลย เหมือนห้องพี่ฉัตรจะไม่เปิดไฟเลย ไม่อยู่ห้องเหรอคะ" พี่ฉัตรเงยหน้าขึ้นมามองฉันอีกครั้ง คิ้วหนาขมวดขึ้น ไม่ใช่คิดว่าฉันเป็นพวกถ้ำมองไปแล้วหรอกนะ
"ครับ ผมกลับบ้านน่ะ มีอะไรอีกหรือเปล่าครับ เที่ยงแล้วผมว่านักศึกษารีบไปพักเถอะ เดี๋ยวทานข้าวไม่ทันนะ" เนี่ยมีความเป็นห่วงเป็นใย เหมาะจะเป็นสามีฉันอย่างหาคนอื่นเทียบไม่ได้
"แล้วพี่ฉัตรไม่ไปทานเหรอคะ ไปทานด้วยกันไหมคะ วิกกี้ติดเลี้ยงข้าวพี่ฉัตรเอาไว้ด้วยนี่" อยู่ ๆ เขาก็ถอนหายใจออกมา แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอก ฉันก็ยังคงยิ้มหวานไปให้อยู่ดีแหละ
"คุณว่ามันเหมาะสมไหมล่ะ และนักศึกษาครับคุณควรเรียกผมว่าอาจารย์ฉัตรนะครับ และเรื่องเลี้ยงข้าวผมว่าผมบอกไปแล้วนะ ว่าไม่เป็นอะไร ผมช่วยเพราะเห็นว่าคุณกำลังลำบาก อย่าคิดมากเลยครับ หากไม่มีอะไรแล้วผมขอทำงานต่อนะ" น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเล่นเอาฉันชะงักยิ้มค้างเลย
"เอ่อ..คะ..ค่ะ..อย่าลืมทานข้าวนะคะ" ฉันแทบจะล้มทั้งยืนเลย เป็นการด่าอย่างมีมารยาทมาก ฉันได้แต่ยิ้มเหย ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้และเดินออกมา
"ครับ"
เฮ้อ..ให้ตายเถอะ ฉันว่างานนี้จะไม่หมูอย่างที่คิดซะแล้วสิ ดูพี่ฉัตรจะไม่ค่อยสนฉันสักเท่าไรเลยแฮะ หรือว่าฉันยังเอ๊กซ์ไม่พอ หรือพี่ฉัตรจะไม่ชอบผู้หญิงสไตล์ฉัน เอาไงดีนะเฮ้อให้ตายเถอะ อุตส่าห์ใกล้ชิดกันขนาดนี้แล้ว ฉันเดินหน้านิ่วคิ้วขมวด มาตลอดทางจนถึงแคนทีน ยัยน้ำอิงตบเก้าอี้ว่างที่อยู่ข้างเธอฉันจึงเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลง น้ำอิงมันซื้อข้าวกับน้ำไว้รอฉันแล้วล่ะ น่ารักไหมล่ะเพื่อนฉัน
"เป็นห่าไรวิถึงได้หน้าเหมือนหมาหงอยแบบนี้" ฉันหันไปถลึงตาใส่ยัยเพื่อนบ้าทันทีที่นางเรียกชื่อสุดเชยของฉัน
"วิกกี้ย่ะ"
"เออ ๆ วิกกี้..คนห่าไรชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้กับไม่ชอบ" แน่ะยังจะบ่นไม่เลิก ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เหมือนมันง่ายไปไหน ฉันชื่อวิลาสินี แต่หม่อมแม่กับตั้งชื่อเล่นว่าหนูวิเนี่ยนะ ตอนเด็ก ๆ มันก็น่ารักหรอกหนูวิ ๆ เนี่ย แต่ตอนนี่ฉันโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วนะ จะมาหนูวิอะไรก่อน
"นั่นนะสิวิกกี้เป็นอะไรบอกวินได้นะ" ฉันหันหน้าไปหาธาวินก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเหมือนเจอขุมสมบัติชิ้นใหญ่ แน่นอนว่าธาวินมันงงอยู่แล้วล่ะ ก็ดูหน้ามันสิคิ้วจะชนกันอยู่แล้ว จะว่าไปธาวินมันก็หน้าคล้าย ๆ พี่ฉัตรอยู่นะ แน่นอนว่าพี่ฉัตรหล่อกว่า
"ธาวินเพื่ือนรัก ฉันมีเรื่องให้แกช่วยนะ"
ฉันแสยะยิ้มร้ายออกมาก่อนจะหัวเราในลำคอ ตัวช่วยที่หนึ่งมาแล้ว
"อะ..อะไรเหรอ"