หลังจากช่วงเวลามื้อเช้าอันแสนวุ่นวายของคนทั้งคันรถผ่านพ้นไป การเดินทางก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ตลอดทั้งทางมีการแจกน้ำ ขนมกินเล่น ยกข้าวของ ดูแลคนที่เมารถหรือไม่สบาย และยังอีกหลายๆ หน้าที่ที่เขาเห็นพวกเด็กสตาฟต้องคอยทำ แต่ไม่ว่าช่ออัญชันจะหยิบจับสิ่งใดก็ต้องมีคนนั้น คนนี้ถลาเข้ามาช่วยไม่ได้ขาด เห็นแล้วขวางหูขวางตาสิ้นดี ถ้ามาแล้วเป็นภาระให้คนอื่นต้องคอยประคบประหงม ก็สู้นอนอยู่บ้านไปซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว “อาจารย์พันเป็นอะไรอีกคะ หรือยังเมารถอยู่” นี่มันน่ารำคาญซะยิ่งกว่าชั่วโมงแรกที่ได้นั่งรถข้างๆ อาจารย์หนุ่มสุดหล่อเหลา ผู้เคยมาดเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วของคณะ ที่บัดนี้เหมือนตาแก่เลือดจะไปลมจะมาไม่ดูเวล่ำเวลาซะมากกว่า ไหนจะขยับตัวทุกสองวินาที ทำเสียงฮึดฮัดทั้งถอนใจแรงๆ ทั้งครางหนักๆ อยู่ในลำคอ หนักเข้าก็เอากำปั้นทุบพนักเบาะหน้าดังปึก ซะทีนึงเพื่อเขย่าประสาทเธอเล่น “เปล่า” “เปล่าก็นั่งดีๆ หน่อยส